ปีใหม่... กับกาแฟแก้วเดิม ที่ความหมายไม่เหมือนเดิม
สวัสดีครับ ผมคงเป็นคนนึงในหลายๆคนที่เสพกระทู้ในพันทิพมามากจนอยากจะเขียนด้วยตัวเองสักครั้ง และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่ได้เขียนสักที ทริปปีใหม่ของผมคงไม่ต่างจากหลายๆคนที่อยากจะขึ้นเหนือ ไปสัมผัสกับความหนาวเย็น ซึ่งผมเองก็เช่นกัน ทริปปีใหม่ของผม เราขึ้นไปเชียงใหม่และเชียงราย แต่จุดประสงค์ของผมอาจจะแตกต่างออกไปสักหน่อยครับ
อ่านจากชื่อกระทู้ของผมแล้ว หลายๆท่านคงจะพอเดาได้แล้วว่าผมน่าจะเป็นคนนึงที่ชอบดื่มกาแฟ ใช่แล้วครับ ชอบมากจนถึงขั้นหลงใหลเลยทีเดียว ผมเริ่มต้นเข้าสู่โลกกาแฟด้วย "กาแฟดริป" ซึ่งเป็นเรื่องที่โชคดีมากๆที่ผมมีคนใกล้ตัวที่เรียกได้ว่า “บ้ากาแฟ” จริงๆ ใครที่เคยไปร้าน Gallery กาแฟดริป คงจะได้คุ้นหน้าคุ้นตากันบ้างนะครับ ดูเหมือนโลกของกาแฟจะอยู่ใกล้แค่เอื้อมสำหรับผม แต่เปล่าเลย มันมีเรื่องราวมากมายให้ต้องเรียนรู้อย่างไม่รู้จบ ผมเลยอยากจะมาแชร์ประสบการณ์ในทริปกาแฟครั้งนี้ของผม เผื่อจะมี "คนบ้ากาแฟ” เพิ่มขึ้น^^
เช้าวันที่ 30 ธันวาคม 2557
ณ เชียงใหม่ ทุกคนที่ร่วมในทริปนี้จะมารวมตัวกันที่ "ร้าน อาข่า อ่ามา" สาขา1 ซึ่งเป็นร้านของหัวหน้าทัวร์ในทริปนี้นั่นก็คือ "ลี อายุ จือปา" ผู้ที่พัฒนาบ้านเกิดของตัวเองที่ปลูกกาแฟให้กลายเป็นกาแฟชั้นนำ อย่างกาแฟบ้านแม่จันใต้ และแน่นนอนว่าทริปนี้เราจะไปเยี่ยมบ้านของลีกัน
เริ่มต้นเช้าวันนี้ด้วย มัฟฟินเนื้อแน่นๆ กับกาแฟร้อนๆ
พี่ปิ หนึ่งในแกนนำของทริป เล่นกีต้าร์ขับกล่อมเพิ่มรสชาดให้กับกาแฟได้ดีทีเดียว
เราเคลื่อนพลกันโดยขึ้นรถสองแถวเหลืองนะไม่ใช่แดง (ฮา) จุดแวะพักของเราอยู่ที่ ริมธารบ้านเมี่ยง ร้านกาแฟ ที่ทำทุกกระบวนการต่างๆจนกระทั่งกลายมาเป็นกาแฟแก้วที่อยู่ตรงหน้า พบปะพูดคุยกับพี่วัล คนบ้ากาแฟเจ้าของอาณาจักรริมธารบ้านเมี่ยง
บรรยากาศภายในรถ
พี่วัล ผู้ใหญ่ใจดีของพวกเรา
ก่อนออกเดินทางกันต่อ ขอเติมพลังอีกซักชอตล่ะกัน
รถสองแถวออกเดินทางต่อ ไปหยุดอีกทีที่วัดแม่ตั๋ม จ. เชียงราย จากจุดนี้ เราต้องเปลี่ยนรถเพื่อขึ้นไปยังหมู่บ้านแม่จันใต้ ต้องอาศัยรถขับเคลื่อนสี่ล้อและคนขับที่มีความชำนาญเส้นทาง... บ้านของลีใกล้เข้ามาเรื่อยๆแล้ว
ขนย้ายสัมภาระ เปลี่ยนรถกันก่อน
วิวระหว่างทางสวยมากครับ
ใกล้เข้ามาแล้ว!!!
ถึงแล้ว!!! บ้านแม่จันใต้
สิ่งแรกพอถึงหมู่บ้าน คือการบอกเล่าเรื่องราวของที่นี่ จากนั้นจึงจัดกลุ่มนอน เนื่องจากว่าที่นี้ไม่มีโรงแรม ไม่มีโฮสเทล มีแต่โฮมสเตย์แบบที่ต้องพักกับเจ้าของบ้าน วัฒนธรรมแรกที่ต้องเรียนรู้ก็คือการนอนแยกระหว่างหญิงและชาย เพราะที่นี้การที่หญิงและชายจะอยู่บ้านเดียวกันได้คือการสมรสแล้วเท่านั้นใครที่หวังอยากจะขึ้นมาสวีทกันในที่ที่อากาศเย็นๆ...เลิกคิดได้เลยครับ
พูดถึงบ้านแม่จันใต้ แทบทุกบ้านที่นี่ปลูกกาแฟเป็นหลัก เลยได้เห็นแคร่ตากเมล็ดกาแฟอยู่ตามลานบ้านแทบทุกหลัง หมู่บ้านแห่งนี้ใช้พลังงานจากแผงโซล่าเซลส์ และใช้เท่าที่จำเป็น แต่ที่เจ๋งที่สุดของที่นี่ คงจะเป็นธรรมชาติและความน่ารักของผู้คนครับ(แทรกภาพบรรยากาศ)
พี่ลี เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับหมู่บ้านแห่งนี้
พวกเราฟังกันอย่างสนุกสนานกับเรื่องเล่าติดตลกของพี่ลี
แผงโซล่าเซลส์
ทุกบ้านที่นี่ มีลานตากกาแฟ
เด็กๆที่นี่อารมณ์ดี เติบโตแบบธรรมชาติ
Gen ใหม่ของหมู่บ้าน
หลังจากจัดที่นอนกันเรียบร้อยแล้ว กิจกรรมแรกของที่นี่ ผมให้ทายกันขำๆว่าจะเป็นอะไร? แน่นอนครับว่ามันคือการชงกาแฟ ต่างคนต่างจิบกาแฟไปพลาง ถ่ายรูปไปพลาง... กาแฟแก้วแรกที่นี่ ทั้งหอม หวาน อร่อยเป็นพิเศษครับ รวมถึงแสงสุดท้ายของวันบนนี้ช่วยเติมเต็มแก้วกาแฟได้ดีเลยทีเดียวครับ
ผมชักจะไม่มั่นใจว่าสรุปทริปนี้ทริปกาแฟ หรือทริปช่างภาพกันแน่^^"
จบวันแบบอิ่มเอมมากๆครับ
ส่วนอาหารมื้อแรกของเราที่บ้านแม่จันใต้เป็นผัดผัก กับแกงจืดฟักทอง เป็นอาหารง่ายๆ แต่ทีเด็ดที่ทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันถึงความอร่อยของมันคือ "น้ำพริกถั่ว" ที่ไม่ว่าจะกินกับอะไรมันก็ช่างอร่อย หลังจากทานข้าว เราก็ชงกาแฟแจกจ่าย ชง กิน ชง กิน ... จนการกินกาแฟกลายเป็นเรื่องปกติของทริปนี้เลย แม้ในตอนเย็นย่ำค่ำมืดมีแสงจันทร์ก็ยังชงกินคุยกันไปไม่หยุด
ชาวบ้านแม่จันใต้ดูแลเราเป็นอย่างดี มื้อนี้อร่อยมาก
ผิงไฟล้อมวงคุยกัน แลกเปลี่ยนทัศนกาแฟ
แสงจันทร์วันนี้สว่างมาก จนไม่ต้องพึ่งแสงจากหลอดไฟเลยทีเดียว
แก้ไขขนาดรูปให้แล้วนะครับ^^
ปีใหม่... กับกาแฟแก้วเดิม ที่ความหมายไม่เหมือนเดิม (รูปเยอะฮะ^^)
สวัสดีครับ ผมคงเป็นคนนึงในหลายๆคนที่เสพกระทู้ในพันทิพมามากจนอยากจะเขียนด้วยตัวเองสักครั้ง และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่ได้เขียนสักที ทริปปีใหม่ของผมคงไม่ต่างจากหลายๆคนที่อยากจะขึ้นเหนือ ไปสัมผัสกับความหนาวเย็น ซึ่งผมเองก็เช่นกัน ทริปปีใหม่ของผม เราขึ้นไปเชียงใหม่และเชียงราย แต่จุดประสงค์ของผมอาจจะแตกต่างออกไปสักหน่อยครับ
อ่านจากชื่อกระทู้ของผมแล้ว หลายๆท่านคงจะพอเดาได้แล้วว่าผมน่าจะเป็นคนนึงที่ชอบดื่มกาแฟ ใช่แล้วครับ ชอบมากจนถึงขั้นหลงใหลเลยทีเดียว ผมเริ่มต้นเข้าสู่โลกกาแฟด้วย "กาแฟดริป" ซึ่งเป็นเรื่องที่โชคดีมากๆที่ผมมีคนใกล้ตัวที่เรียกได้ว่า “บ้ากาแฟ” จริงๆ ใครที่เคยไปร้าน Gallery กาแฟดริป คงจะได้คุ้นหน้าคุ้นตากันบ้างนะครับ ดูเหมือนโลกของกาแฟจะอยู่ใกล้แค่เอื้อมสำหรับผม แต่เปล่าเลย มันมีเรื่องราวมากมายให้ต้องเรียนรู้อย่างไม่รู้จบ ผมเลยอยากจะมาแชร์ประสบการณ์ในทริปกาแฟครั้งนี้ของผม เผื่อจะมี "คนบ้ากาแฟ” เพิ่มขึ้น^^
เช้าวันที่ 30 ธันวาคม 2557
ณ เชียงใหม่ ทุกคนที่ร่วมในทริปนี้จะมารวมตัวกันที่ "ร้าน อาข่า อ่ามา" สาขา1 ซึ่งเป็นร้านของหัวหน้าทัวร์ในทริปนี้นั่นก็คือ "ลี อายุ จือปา" ผู้ที่พัฒนาบ้านเกิดของตัวเองที่ปลูกกาแฟให้กลายเป็นกาแฟชั้นนำ อย่างกาแฟบ้านแม่จันใต้ และแน่นนอนว่าทริปนี้เราจะไปเยี่ยมบ้านของลีกัน
เราเคลื่อนพลกันโดยขึ้นรถสองแถวเหลืองนะไม่ใช่แดง (ฮา) จุดแวะพักของเราอยู่ที่ ริมธารบ้านเมี่ยง ร้านกาแฟ ที่ทำทุกกระบวนการต่างๆจนกระทั่งกลายมาเป็นกาแฟแก้วที่อยู่ตรงหน้า พบปะพูดคุยกับพี่วัล คนบ้ากาแฟเจ้าของอาณาจักรริมธารบ้านเมี่ยง
รถสองแถวออกเดินทางต่อ ไปหยุดอีกทีที่วัดแม่ตั๋ม จ. เชียงราย จากจุดนี้ เราต้องเปลี่ยนรถเพื่อขึ้นไปยังหมู่บ้านแม่จันใต้ ต้องอาศัยรถขับเคลื่อนสี่ล้อและคนขับที่มีความชำนาญเส้นทาง... บ้านของลีใกล้เข้ามาเรื่อยๆแล้ว
สิ่งแรกพอถึงหมู่บ้าน คือการบอกเล่าเรื่องราวของที่นี่ จากนั้นจึงจัดกลุ่มนอน เนื่องจากว่าที่นี้ไม่มีโรงแรม ไม่มีโฮสเทล มีแต่โฮมสเตย์แบบที่ต้องพักกับเจ้าของบ้าน วัฒนธรรมแรกที่ต้องเรียนรู้ก็คือการนอนแยกระหว่างหญิงและชาย เพราะที่นี้การที่หญิงและชายจะอยู่บ้านเดียวกันได้คือการสมรสแล้วเท่านั้นใครที่หวังอยากจะขึ้นมาสวีทกันในที่ที่อากาศเย็นๆ...เลิกคิดได้เลยครับ
พูดถึงบ้านแม่จันใต้ แทบทุกบ้านที่นี่ปลูกกาแฟเป็นหลัก เลยได้เห็นแคร่ตากเมล็ดกาแฟอยู่ตามลานบ้านแทบทุกหลัง หมู่บ้านแห่งนี้ใช้พลังงานจากแผงโซล่าเซลส์ และใช้เท่าที่จำเป็น แต่ที่เจ๋งที่สุดของที่นี่ คงจะเป็นธรรมชาติและความน่ารักของผู้คนครับ(แทรกภาพบรรยากาศ)
หลังจากจัดที่นอนกันเรียบร้อยแล้ว กิจกรรมแรกของที่นี่ ผมให้ทายกันขำๆว่าจะเป็นอะไร? แน่นอนครับว่ามันคือการชงกาแฟ ต่างคนต่างจิบกาแฟไปพลาง ถ่ายรูปไปพลาง... กาแฟแก้วแรกที่นี่ ทั้งหอม หวาน อร่อยเป็นพิเศษครับ รวมถึงแสงสุดท้ายของวันบนนี้ช่วยเติมเต็มแก้วกาแฟได้ดีเลยทีเดียวครับ
ส่วนอาหารมื้อแรกของเราที่บ้านแม่จันใต้เป็นผัดผัก กับแกงจืดฟักทอง เป็นอาหารง่ายๆ แต่ทีเด็ดที่ทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันถึงความอร่อยของมันคือ "น้ำพริกถั่ว" ที่ไม่ว่าจะกินกับอะไรมันก็ช่างอร่อย หลังจากทานข้าว เราก็ชงกาแฟแจกจ่าย ชง กิน ชง กิน ... จนการกินกาแฟกลายเป็นเรื่องปกติของทริปนี้เลย แม้ในตอนเย็นย่ำค่ำมืดมีแสงจันทร์ก็ยังชงกินคุยกันไปไม่หยุด
แก้ไขขนาดรูปให้แล้วนะครับ^^