สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 19
ปัญหา เศรษฐกิจ ที่สเกลใหญ่ ระดับประเทศ.. คุณมองตรงจุดไหน??
ถ้ามองกลุ่มในประเทศกรุงเทพ... ผลมันไม่ได้ส่ง ออกมาในทันที..
วิกฤติปี 40 ถึงวันนี้..กว่าเราจะ ฟื้นและค่อยๆ สะสม.ความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจมา..ทุกธุรกิจใช้เวลา กว่า 20 ปี จนถึงวันนี้..คุณคิดว่า ปัญหา เศรษฐกิจที่มีเวลาแค่ สองสามปี..จะทำลาย.สิ่งที่เค้าสะสมมายี่สิบปีได้ในทันที หรือครับ??? เพียงแต่ถ้าการไม่มีการแก้ไขหรือแก้ไขไม่ตรงจุด ปล่อยให้มันซึมหรือ ทรุดตัวลงไปเรื่อย..ต้องใช้เวลาครับ..ไม่ต้องรีบร้อน.. มันถึงแน่ๆ.. แต่อยู่ที่ว่า สายป่านในแต่ละบริษัท จะทนอยู่ยาวนานได้สักแค่ไหน..
แต่การมองปัญหา เศรษฐกิจ ให้มองจาก ภาพรวมของประเทศ..ไม่ใช่มองที่ รอบตัวหรือ มองในห้างสรรพสินค้า หรู ๆ..
มนุษย์เงินเดือน ข้าราชการ..ผลกระทบทางเศรษฐกิจ ช้ากว่าครับ..ยิ่งบริษัท ใหญ่ๆ ฐานเงินเดือนสูงๆ .ยิ่งกระทบช้า..เพราะ..บริษัท ต่างๆ มีสายป่านที่ยาวกว่า... แล้วผมถามนิดนึง..คนกลุ่มนี้..เนี่ยะ..เป็น กี่เปอร์เซ็นต์ ของประเทศนี้.....ประเทศจะไม่รุ้สึกอะไรเลย..หรือจะบอกว่า ไม่ได้รับผลกระทบเลย ก็ได้..ถ้า ประเทศไทย คือ กรุงเทพ !!(แม้บางส่วนในกรุงเทพ จะรุ้สึกแล้วก็ตาม)
แต่ในความเป็นจริง..ขนาดในหัวเมือง ใหญ่ๆ แบบ เชียงใหม่ สุราษฏร์ ชลบุรี ขอนแก่น ผมว่า น่าจะต้องเริ่มรุ้สึก ถึงปัญหาเศรษฐกิจบ้างแล้ว ยิ่งไม่ต้องนับรวมถึง จังหวัด ที่มี เกษตรกร และฐานธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการใช้แรงงาน และเกษตรกรรม.. อันนี้ได้รับผล ชัดเจน แน่นอน..ซึ่งบังเอิญ จังหวัดเหล่านี้มีคนมากกว่ากรุงเทพ..
บางท่านบอกว่า ไม่รุ้จักปรับตัว...คือธุรกิจ มันมีการแข่งขันกันมานานแล้วไม่ใช่เพิ่งมาแข่งขัน.. แต่การขายสินค้า.ในตลาด มันมีกลุ่มลูกค้า ของมันอยู่..คือคนที่เป็นฐานราก ของประเทศ..เค้าก็ซื้อสินค้า ในตลาดที่เค้าอยู่อาศัย นี่หล่ะครับ.. เค้าไม่ไป ซื้อ ใน เอ็มควอเทียร์..หรือเอ็มโพเรี่ยมหรอก.
เกรดของลูกค้า ที่ใช้สินค้าตามระดับ รายได้ มัน มีของมันอยู่... ถ้าเงินเค้า คล่องมือ..การจับจ่ายใช้สอย มันก็มาก.. แต่ถ้าเงินฝืดเคืองอำนาจในการจับจ่ายก็น้อยลงเป้นเรื่องธรรมดา...เศรษฐกิจดีของคนชั้นล่าง คือ มีเงินมีรายได้เข้ามา สม่ำเสมอ.มีโอที ในการทำงาน มีเบี้ยเลี้ยงพิเศษ.ไม่วิตกกังวลว่าเดือนถัดๆ ไปจะโดนปรับออก ไล่ออก ทำให้ไม่มีรายได้ เข้ามา.. เงินเดือน หมื่นนึง เก้าพัน.มีโอที เป็นหมื่นกว่าบาท..เงินเหล่านี้เฉลี่ย วันละ สามสี่ร้อยบาท..ไม่สามารถทำให้เค้าปรับระดับการใช้จ่ายไป จับจ่ายตามห้างใหญ่ๆ ใช้แบรนด์เนมได้.. เค้าก็ซื้อสินค้าในตลาดนัด ของเค้านั้นแหล่ะครับ.
ปัจจุบัน ธุรกิจ คุณอยู่ใน กลุ่มไหน..??
ส่งออก..เริ่มประสพปัญหา ในหลายๆด้าน.จากการพยายามตั้งกำแพง หรือ เคร่งครัดในกฏเกณท์ ที่ตั้งขึ้น ..จากระบบการปกครองของเรา (เค้าไม่พูดตรงๆ หรอกนะครับ เหมือนที่เราไม่ยอมรับตรงๆ ว่า การปกครองของเราไม่เหมือนเดิม แต่ยังอ้างชื่อมาใช้อยู่) เราอาจจะไม่ง้อ ไม่สนใจได้..ถ้าประเทศเราไม่พึ่งพารายได้จากการส่งออกกว่า 70 % แถมประเทศคู่ค้าที่เราได้ดุลย์การค้า..บังเอิญ อยู่ในค่ายเสรีนิยม..เลยพยายามบังคับใช้กฏเกณท์ที่เข้มงวดกับเรา แทบทุกเรื่อง.. ไม่ว่าจะประมง ธุรกิจการบิน.. หรือ การส่งออก หลายๆ อย่าง..
ส่วนภายในประเทศ..ความไม่เชื่อมั่น ของนักลงทุน..(ในบางประเทศ มีกฏเกณท์ ห้ามลงทุนเพิ่มเติม ในประเทศที่มีการรัฐประหาร) การค้า ที่มีอยู่ ยังคงเดิม ขายกันปรกติ.แต่พยายามสร้างกำแพงในการค้า..และ การดีล ในธุรกิจใหม่ๆ การลงทุนใหม่ๆ โอกาสน้อยลง..หรือถ้าได้ ก็จะเป็น ดีล ทีเสียเปรียบมากกว่าได้เปรียบทางการค้า.. และเมื่อการลงทุน น้อยลง การจ้างงานก็น้อยลง.ผลกระทบจากถูกปลดจากงานก็มากขึ้น.. ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคภายในประเทศ..ก็ต่ำลง..
การเกษตร..คนส่วนมากของประเทศนี้ประกอบอาชีพเกษตรกรรม.. สินค้าเกษตรราคาตกต่ำ แทบทุกตัวที่เป้นตัวหลัก ของประเทศ..ก็ทำให้กำลังซื้อในกลุ่มฐานรากต่ำลง..ซึ่งนั้นส่งผลกระทบโดยตรงกับตลาดนัดที่ว่า นี่หล่ะครับ.. ลูกหลาน ชาวบ้านต่างจังหวัด ที่ทำการเกษตร ก็เป็นกลุ่มลูกค้า หลักๆ ของตลาด เหล่านี้ (ผมหมายถึงตลาดนัดรวมๆ แบบต่างจังหวัด ด้วย ไม่ได้หมายความถึง ตลาดนัดในกรุงเทพเพียงอย่างเดียว)
ทุกๆ ส่วนมัน มีผลเกี่ยวเนื่องกัน...
ตอนนี้ กลุ่มบน ที่มีเงิน.. ต่อให้เศรษฐกิจ พังไป คนมีเงิน ก็ยังคงมีเงิน ไม่ได้ เดือดร้อน อะไร จนกว่า ปัญหาทางธุรกิจที่เกิด จะกระทบจนเงินหมดนั้นแหล่ะครับ..ถึงจะเริ่มมีปัญหา..
คนมี เป็นร้อย เป็นพันล้าน..ถ้าไม่มีหนี้สิน..เศรษฐกิจ ไม่ดี อาจจะกำไรจากธุรกิจ น้อยลง.แต่ก็ไม่ได้ทำให้จนลง ครับ..ยังคงมีอำนาจการจับจ่าย ปรกติอยู่ที่อารมณ์ในการจ่าย จะมีแค่ไหน..
ปีที่ผ่านมา..ยอดนำเข้าเพชรพลอย..นาฬิกา แบรนด์หรุ มากขึ้นกว่าเดิม เป็นแสนล้านนะครับ..
มันบ่งบอก ถึงความห่างของรายได้ แต่ละชนชั้น มันห่างกัน ไปเรื่อยๆ ๆ
ทุกตัวมันสัมพันธ์กัน.
ถ้ามองกลุ่มในประเทศกรุงเทพ... ผลมันไม่ได้ส่ง ออกมาในทันที..
วิกฤติปี 40 ถึงวันนี้..กว่าเราจะ ฟื้นและค่อยๆ สะสม.ความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจมา..ทุกธุรกิจใช้เวลา กว่า 20 ปี จนถึงวันนี้..คุณคิดว่า ปัญหา เศรษฐกิจที่มีเวลาแค่ สองสามปี..จะทำลาย.สิ่งที่เค้าสะสมมายี่สิบปีได้ในทันที หรือครับ??? เพียงแต่ถ้าการไม่มีการแก้ไขหรือแก้ไขไม่ตรงจุด ปล่อยให้มันซึมหรือ ทรุดตัวลงไปเรื่อย..ต้องใช้เวลาครับ..ไม่ต้องรีบร้อน.. มันถึงแน่ๆ.. แต่อยู่ที่ว่า สายป่านในแต่ละบริษัท จะทนอยู่ยาวนานได้สักแค่ไหน..
แต่การมองปัญหา เศรษฐกิจ ให้มองจาก ภาพรวมของประเทศ..ไม่ใช่มองที่ รอบตัวหรือ มองในห้างสรรพสินค้า หรู ๆ..
มนุษย์เงินเดือน ข้าราชการ..ผลกระทบทางเศรษฐกิจ ช้ากว่าครับ..ยิ่งบริษัท ใหญ่ๆ ฐานเงินเดือนสูงๆ .ยิ่งกระทบช้า..เพราะ..บริษัท ต่างๆ มีสายป่านที่ยาวกว่า... แล้วผมถามนิดนึง..คนกลุ่มนี้..เนี่ยะ..เป็น กี่เปอร์เซ็นต์ ของประเทศนี้.....ประเทศจะไม่รุ้สึกอะไรเลย..หรือจะบอกว่า ไม่ได้รับผลกระทบเลย ก็ได้..ถ้า ประเทศไทย คือ กรุงเทพ !!(แม้บางส่วนในกรุงเทพ จะรุ้สึกแล้วก็ตาม)
แต่ในความเป็นจริง..ขนาดในหัวเมือง ใหญ่ๆ แบบ เชียงใหม่ สุราษฏร์ ชลบุรี ขอนแก่น ผมว่า น่าจะต้องเริ่มรุ้สึก ถึงปัญหาเศรษฐกิจบ้างแล้ว ยิ่งไม่ต้องนับรวมถึง จังหวัด ที่มี เกษตรกร และฐานธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการใช้แรงงาน และเกษตรกรรม.. อันนี้ได้รับผล ชัดเจน แน่นอน..ซึ่งบังเอิญ จังหวัดเหล่านี้มีคนมากกว่ากรุงเทพ..
บางท่านบอกว่า ไม่รุ้จักปรับตัว...คือธุรกิจ มันมีการแข่งขันกันมานานแล้วไม่ใช่เพิ่งมาแข่งขัน.. แต่การขายสินค้า.ในตลาด มันมีกลุ่มลูกค้า ของมันอยู่..คือคนที่เป็นฐานราก ของประเทศ..เค้าก็ซื้อสินค้า ในตลาดที่เค้าอยู่อาศัย นี่หล่ะครับ.. เค้าไม่ไป ซื้อ ใน เอ็มควอเทียร์..หรือเอ็มโพเรี่ยมหรอก.
เกรดของลูกค้า ที่ใช้สินค้าตามระดับ รายได้ มัน มีของมันอยู่... ถ้าเงินเค้า คล่องมือ..การจับจ่ายใช้สอย มันก็มาก.. แต่ถ้าเงินฝืดเคืองอำนาจในการจับจ่ายก็น้อยลงเป้นเรื่องธรรมดา...เศรษฐกิจดีของคนชั้นล่าง คือ มีเงินมีรายได้เข้ามา สม่ำเสมอ.มีโอที ในการทำงาน มีเบี้ยเลี้ยงพิเศษ.ไม่วิตกกังวลว่าเดือนถัดๆ ไปจะโดนปรับออก ไล่ออก ทำให้ไม่มีรายได้ เข้ามา.. เงินเดือน หมื่นนึง เก้าพัน.มีโอที เป็นหมื่นกว่าบาท..เงินเหล่านี้เฉลี่ย วันละ สามสี่ร้อยบาท..ไม่สามารถทำให้เค้าปรับระดับการใช้จ่ายไป จับจ่ายตามห้างใหญ่ๆ ใช้แบรนด์เนมได้.. เค้าก็ซื้อสินค้าในตลาดนัด ของเค้านั้นแหล่ะครับ.
ปัจจุบัน ธุรกิจ คุณอยู่ใน กลุ่มไหน..??
ส่งออก..เริ่มประสพปัญหา ในหลายๆด้าน.จากการพยายามตั้งกำแพง หรือ เคร่งครัดในกฏเกณท์ ที่ตั้งขึ้น ..จากระบบการปกครองของเรา (เค้าไม่พูดตรงๆ หรอกนะครับ เหมือนที่เราไม่ยอมรับตรงๆ ว่า การปกครองของเราไม่เหมือนเดิม แต่ยังอ้างชื่อมาใช้อยู่) เราอาจจะไม่ง้อ ไม่สนใจได้..ถ้าประเทศเราไม่พึ่งพารายได้จากการส่งออกกว่า 70 % แถมประเทศคู่ค้าที่เราได้ดุลย์การค้า..บังเอิญ อยู่ในค่ายเสรีนิยม..เลยพยายามบังคับใช้กฏเกณท์ที่เข้มงวดกับเรา แทบทุกเรื่อง.. ไม่ว่าจะประมง ธุรกิจการบิน.. หรือ การส่งออก หลายๆ อย่าง..
ส่วนภายในประเทศ..ความไม่เชื่อมั่น ของนักลงทุน..(ในบางประเทศ มีกฏเกณท์ ห้ามลงทุนเพิ่มเติม ในประเทศที่มีการรัฐประหาร) การค้า ที่มีอยู่ ยังคงเดิม ขายกันปรกติ.แต่พยายามสร้างกำแพงในการค้า..และ การดีล ในธุรกิจใหม่ๆ การลงทุนใหม่ๆ โอกาสน้อยลง..หรือถ้าได้ ก็จะเป็น ดีล ทีเสียเปรียบมากกว่าได้เปรียบทางการค้า.. และเมื่อการลงทุน น้อยลง การจ้างงานก็น้อยลง.ผลกระทบจากถูกปลดจากงานก็มากขึ้น.. ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคภายในประเทศ..ก็ต่ำลง..
การเกษตร..คนส่วนมากของประเทศนี้ประกอบอาชีพเกษตรกรรม.. สินค้าเกษตรราคาตกต่ำ แทบทุกตัวที่เป้นตัวหลัก ของประเทศ..ก็ทำให้กำลังซื้อในกลุ่มฐานรากต่ำลง..ซึ่งนั้นส่งผลกระทบโดยตรงกับตลาดนัดที่ว่า นี่หล่ะครับ.. ลูกหลาน ชาวบ้านต่างจังหวัด ที่ทำการเกษตร ก็เป็นกลุ่มลูกค้า หลักๆ ของตลาด เหล่านี้ (ผมหมายถึงตลาดนัดรวมๆ แบบต่างจังหวัด ด้วย ไม่ได้หมายความถึง ตลาดนัดในกรุงเทพเพียงอย่างเดียว)
ทุกๆ ส่วนมัน มีผลเกี่ยวเนื่องกัน...
ตอนนี้ กลุ่มบน ที่มีเงิน.. ต่อให้เศรษฐกิจ พังไป คนมีเงิน ก็ยังคงมีเงิน ไม่ได้ เดือดร้อน อะไร จนกว่า ปัญหาทางธุรกิจที่เกิด จะกระทบจนเงินหมดนั้นแหล่ะครับ..ถึงจะเริ่มมีปัญหา..
คนมี เป็นร้อย เป็นพันล้าน..ถ้าไม่มีหนี้สิน..เศรษฐกิจ ไม่ดี อาจจะกำไรจากธุรกิจ น้อยลง.แต่ก็ไม่ได้ทำให้จนลง ครับ..ยังคงมีอำนาจการจับจ่าย ปรกติอยู่ที่อารมณ์ในการจ่าย จะมีแค่ไหน..
ปีที่ผ่านมา..ยอดนำเข้าเพชรพลอย..นาฬิกา แบรนด์หรุ มากขึ้นกว่าเดิม เป็นแสนล้านนะครับ..
มันบ่งบอก ถึงความห่างของรายได้ แต่ละชนชั้น มันห่างกัน ไปเรื่อยๆ ๆ
ทุกตัวมันสัมพันธ์กัน.
ความคิดเห็นที่ 42
คุณอยากได้คำตอบจากชนชั้นกลางถึงสูงที่มีเวลาว่างนั่งเล่นเนทแล้วมโนเอาเองจากการมโนเหมือนคุณหรอ
พูดไปก็เปล่าประโยชน์เพราะจากที่อ่านๆความเห็นของคนเหล่านี้ ผมอยากจะพูดว่า
จขกท และ พวกที่ดีแต่โทษคนอื่นมีแต่อคติในจิตใจ ลองลาออกจากงานประจำที่เป็นลูกจ้างแล้วไปอยู่ ตจว ที่ไม่ใช่ กทม และปริมณฑล แล้วไปหาอะไรทำดูสักปีสองปีนับจากนี้นะครับ ให้ดีไปเหนือกะอีสานเลยครับ อยากเห็นเร็วไปจังหวัดที่ไม่ใช่หัวเมืองใหญ่ก่อน โดยที่ให้รัฐบาลทหารที่คุณชื่นชอบนั่นแหละอยู่ต่อประเทศจะได้สงบๆไม่มีคนชั่วคนโกงสิ่งเลวๆผิดกฎหมายทุกอย่าง แล้วคุณก็จะได้รับประสบการณ์จริง สัมผัสพวกรากหญ้า ชนชั้นต่ำ และจะได้เข้าใจพวกเค้าอย่างแท้จริง ไม่ใช่นั่งดัดจริตเห็นทุ่งหญ้าวันเดอร์แลนด์จาก theory จะได้เห็นแบบ practical ไปเลย ว่าแต่จะกล้าทำรึป่าวแค่นั้น เดี๋ยวก็อ้างนู่นอ้างนี่อีก ดีแต่ปาก น่าเบื่อ
ลองทำดูซิ จะได้ไม่ต้องมาถามจากคนที่ไม่ใช่กลุ่ม้ป้าหมายเรา เหมือนแทนที่จะถามพ่อค้าแม่ค้าขายเสื้อผ้าตามตลาดนัด ดันไปถามด็อกเตอร์ที่ทั้งชีวิตเรียนนอก ไม่เคยแดรกของข่งถนน ไม่เคยออก ตจว กันดารๆ วันๆแดรกแต่หูฉลาม แดรกแต่เหลา แดรกแต่บุฟเฟ่ รร แล้วก็มาพูดถึงปัญหาคนจน ทัเงช้วิต
ไม่เคยจนไม่เคยสัมผัสไม่เคยแม้แต่จะคิดย่างก้าวเข้าไปในชีวิตพวกเค้ จะให้เค้าตอบแบบเข้าใจคนจนหรอ
บางทีร้อยคนมาอธิบายไปก็เปล่าประโยชน์น่ะ ลองสัมผัสจริงเองดูซิจะได้เข้าใจ อ่าน คคห บางคนในนี้ไป พูดไปก็เท่านั้น เพราะชั้นเป็นคนดีอยู่ วันๆในใจมีแต่เรื่องการเมือง คิดแต่ว่าเพราะไอ้เหลี่ยมเลวอิปูโง่ ทำประเทศชิบหานย
บางทีลองแยกแยะเศรษฐกิจกะการเมืองออกแล้วลองแหกตาดูความเป็นจริงบ้างนะ ไม่ใช่ดีแต่โทษคนอื่น
เห็นไม่ว่าจะรัฐบาลเพื่อไทย หรือ ปชป ทั้งคู่จะเลวจะโกงยังไงมันก็ยังบริหารได้ดีไม่พังชิหายขนาดนี้ และไม่เคยโทษรัฐบาลก่อนตัว ก็มุ่งแก้มุ่งบริหารไป จะโกงไม่โกงมันคนละเรื่องนะ แต่มันบริหารออกมาแล้วไปรอดทั้งนั้น มีแต่รัฐบาลทหารนี่แหละ โทษนั่นโทษนี่เคยโทษตัวเองบ้างมั๊ย ฝีมือมีมั๊ย ยอมรับบ้างเถอะ ถ้ารักมากจนหูหนวกตาบอดก็ไปแหกตรูดทหารดมเถอะเผื่อขรี้เค้าจะหอม
อะไรดีไม่ดีก็ว่าไปตามเนื้อผ้าเถอะ เอาอคติในใจออกแล้วมองตามความเป็นจริงซะบ้าง เบื่อพวกชนชั้นกลางที่ดัดจริตแอ้บดีที่สุดเลย รู้ดีทุกอย่างเข้าใจทุกอย่างแต่ไม่เคยสัมผัสประสบการณ์จริงด้วยตัวเองเลยวันๆดีแต่นั่งจิบกาแฟสโลว์ไลฟ์ใฝ่หาแต่สังคมอุดมคติยูโทเปียอยู่มั่ง
ชั้นดีคนนั้นเลวแล้วก็นั่งพิมพ์จากวินโดว์เถื่อนพอวันหยุดสุดสัปดาห์ออกไปเธคแดรกเหล้าสูบบุหรี่อบายมุกทั้งนั้นแต่เรียกร้องให้กล่าวถึงประเทศไทยในสิ่งดีห่วงใยสังคมบอกเหล้าบุหรี่ไม่ดี แดรกเหล้าเสร็จขับรถกลับบ้านเองโดยที่นั่งสมน้ำหน้าพวกเมาแล้วขับกลับบ้านแล้วโดนตำรวจจับเข้าคุกทันทีตามกฎหมายใหม่ บลาๆ
พูดไปก็เปล่าประโยชน์เพราะจากที่อ่านๆความเห็นของคนเหล่านี้ ผมอยากจะพูดว่า
จขกท และ พวกที่ดีแต่โทษคนอื่นมีแต่อคติในจิตใจ ลองลาออกจากงานประจำที่เป็นลูกจ้างแล้วไปอยู่ ตจว ที่ไม่ใช่ กทม และปริมณฑล แล้วไปหาอะไรทำดูสักปีสองปีนับจากนี้นะครับ ให้ดีไปเหนือกะอีสานเลยครับ อยากเห็นเร็วไปจังหวัดที่ไม่ใช่หัวเมืองใหญ่ก่อน โดยที่ให้รัฐบาลทหารที่คุณชื่นชอบนั่นแหละอยู่ต่อประเทศจะได้สงบๆไม่มีคนชั่วคนโกงสิ่งเลวๆผิดกฎหมายทุกอย่าง แล้วคุณก็จะได้รับประสบการณ์จริง สัมผัสพวกรากหญ้า ชนชั้นต่ำ และจะได้เข้าใจพวกเค้าอย่างแท้จริง ไม่ใช่นั่งดัดจริตเห็นทุ่งหญ้าวันเดอร์แลนด์จาก theory จะได้เห็นแบบ practical ไปเลย ว่าแต่จะกล้าทำรึป่าวแค่นั้น เดี๋ยวก็อ้างนู่นอ้างนี่อีก ดีแต่ปาก น่าเบื่อ
ลองทำดูซิ จะได้ไม่ต้องมาถามจากคนที่ไม่ใช่กลุ่ม้ป้าหมายเรา เหมือนแทนที่จะถามพ่อค้าแม่ค้าขายเสื้อผ้าตามตลาดนัด ดันไปถามด็อกเตอร์ที่ทั้งชีวิตเรียนนอก ไม่เคยแดรกของข่งถนน ไม่เคยออก ตจว กันดารๆ วันๆแดรกแต่หูฉลาม แดรกแต่เหลา แดรกแต่บุฟเฟ่ รร แล้วก็มาพูดถึงปัญหาคนจน ทัเงช้วิต

บางทีร้อยคนมาอธิบายไปก็เปล่าประโยชน์น่ะ ลองสัมผัสจริงเองดูซิจะได้เข้าใจ อ่าน คคห บางคนในนี้ไป พูดไปก็เท่านั้น เพราะชั้นเป็นคนดีอยู่ วันๆในใจมีแต่เรื่องการเมือง คิดแต่ว่าเพราะไอ้เหลี่ยมเลวอิปูโง่ ทำประเทศชิบหานย
บางทีลองแยกแยะเศรษฐกิจกะการเมืองออกแล้วลองแหกตาดูความเป็นจริงบ้างนะ ไม่ใช่ดีแต่โทษคนอื่น
เห็นไม่ว่าจะรัฐบาลเพื่อไทย หรือ ปชป ทั้งคู่จะเลวจะโกงยังไงมันก็ยังบริหารได้ดีไม่พังชิหายขนาดนี้ และไม่เคยโทษรัฐบาลก่อนตัว ก็มุ่งแก้มุ่งบริหารไป จะโกงไม่โกงมันคนละเรื่องนะ แต่มันบริหารออกมาแล้วไปรอดทั้งนั้น มีแต่รัฐบาลทหารนี่แหละ โทษนั่นโทษนี่เคยโทษตัวเองบ้างมั๊ย ฝีมือมีมั๊ย ยอมรับบ้างเถอะ ถ้ารักมากจนหูหนวกตาบอดก็ไปแหกตรูดทหารดมเถอะเผื่อขรี้เค้าจะหอม
อะไรดีไม่ดีก็ว่าไปตามเนื้อผ้าเถอะ เอาอคติในใจออกแล้วมองตามความเป็นจริงซะบ้าง เบื่อพวกชนชั้นกลางที่ดัดจริตแอ้บดีที่สุดเลย รู้ดีทุกอย่างเข้าใจทุกอย่างแต่ไม่เคยสัมผัสประสบการณ์จริงด้วยตัวเองเลยวันๆดีแต่นั่งจิบกาแฟสโลว์ไลฟ์ใฝ่หาแต่สังคมอุดมคติยูโทเปียอยู่มั่ง
ชั้นดีคนนั้นเลวแล้วก็นั่งพิมพ์จากวินโดว์เถื่อนพอวันหยุดสุดสัปดาห์ออกไปเธคแดรกเหล้าสูบบุหรี่อบายมุกทั้งนั้นแต่เรียกร้องให้กล่าวถึงประเทศไทยในสิ่งดีห่วงใยสังคมบอกเหล้าบุหรี่ไม่ดี แดรกเหล้าเสร็จขับรถกลับบ้านเองโดยที่นั่งสมน้ำหน้าพวกเมาแล้วขับกลับบ้านแล้วโดนตำรวจจับเข้าคุกทันทีตามกฎหมายใหม่ บลาๆ
ความคิดเห็นที่ 8
ทั้ง 2 อย่างครับ
จขกท.จะเห็นเลยว่าท่ามกลางเสียงบ่นแย่ๆๆในพันทิป แต่ร้านหรูคนแน่นคิวแน่น
แปลว่าเศรษฐกิจไม่ได้ตก แต่มันฝืด
เกิดเพราะคนชนชั้นนึงไม่มีเงินจับจ่ายเนื่องจากหนี้บาน (ผลจากการยุให้คนก่อหนี้ท่วมหัวเมื่อหลายปีก่อน)
ส่วนคนมีเงินก็ไม่ใช้เงินซื้อของตลาดกลางถึงล่าง เพราะของแพงแต่ไม่ได้คุณภาพ (เกิดจากขึ้นราคาพรวดพราด แต่คุณภาพไม่ตามราคาตั้งแต่หลายปีก่อน)
คนมีเงินจึงจะซื้อของระดับบนแทน เพราะเขามีเงิน
จขกท.จะเห็นเลยว่าท่ามกลางเสียงบ่นแย่ๆๆในพันทิป แต่ร้านหรูคนแน่นคิวแน่น
แปลว่าเศรษฐกิจไม่ได้ตก แต่มันฝืด
เกิดเพราะคนชนชั้นนึงไม่มีเงินจับจ่ายเนื่องจากหนี้บาน (ผลจากการยุให้คนก่อหนี้ท่วมหัวเมื่อหลายปีก่อน)
ส่วนคนมีเงินก็ไม่ใช้เงินซื้อของตลาดกลางถึงล่าง เพราะของแพงแต่ไม่ได้คุณภาพ (เกิดจากขึ้นราคาพรวดพราด แต่คุณภาพไม่ตามราคาตั้งแต่หลายปีก่อน)
คนมีเงินจึงจะซื้อของระดับบนแทน เพราะเขามีเงิน
ความคิดเห็นที่ 13
จะค้าขายหรือทำธุรกิจ มันก็เป็นแบบนี้มาหลายปีแล้ว. ปีหน้าหรือปีไหนๆลองมาอ่านกระทู้ ดูซิครับ มีคนบ่นเรื่องนี้ทุกปี บางคน 5 ปีที่แล้ว ขายของตลาดนัด ขายเสื้อผ้า ยอดขายเท่านั้นเท่านี้ แล้วก็ทำแบบเดิม มา5ปี ไม่เคยพัฒนา ไม่เคยปรับปรุง ขายแบบเดิม อยู่ที่เดิม พอขายไม่ได้ ก็บอกเศรษฐกิจไม่ดี ไปเอาตัวเลขโน่นนี่นั้น มาเปรียบเทียบ จริงๆถ้าลองสังเกตุและคิดดูนะครับ สิ่งรอบๆตัวเรามันเปลี่ยนแปลงตลอด เมื่อ 5 ปีที่แล้ว ขายตลาดนัดขายดีมาก ผ่านมา 1 ปี ตลาดนัดมีทุกมุมเมือง จากเมื่อก่อน อาทิตย์ล่ะครั้ง. เดี๋ยวนี้ นัดประจำ นัดทุกวัน กินนอนกันที่ตลาดแล้ว พ่อค้าแม่ค้าเยอะขึ้น แต่ขายของเหมือนกันหมด เดี๋ยวนี้คนนิยมซื้อ online. พอยอดตก ก็บอกว่าเศรษฐกิจไม่ดี ไม่เคยมองดูปัจจัยอื่นๆ ว่าสาเหตุมันมาจากอะไร ทำแบบเดิมๆ และหวังว่าจะได้ผลลัพท์แบบเดิมๆ. ไม่หาสาเหตุ และแก้ปัญหา แค่นี้แหล่ะที่อยากบ่น. แต่ผมสงสัยอยู่นิดนึง ผมทำธุรกิจโฆษณา และwebsite และเพื่อนๆที่ทำธุรกิจ รับเหมา ทำคอนโดขาย เวลาเจอกัน ไม่มีใครบ่นอะไร มีแต่งานเยอะทำไม่ทัน แต่พอไปเจอเพื่อนๆที่ทำงานประจำ หรือ ขายของ online. ชอบบ่นว่าเศรษฐกิจไม่ดี
เพิ่มเติมนะครับ ที่เขียนนี้ผมไม่ได้บอกว่าเศรษฐกิจมันดี หรือไม่ดี แต่ผมจะสื่อสารว่า ไม่ว่าเศรษฐกิจจะเป็นยังไง เราก็ต้องเอาตัวรอดก่อน อย่ารอให้ใครมาช่วย อย่ารอให้เศรษฐกิจมันดีขึ้นมาเอง อะไรทำแล้วไม่กำไรก็หยุดทำเปลี่ยนไปหาอย่างอื่นทำนะครับ ใช้เวลาในการหาทางออกของตัวเองดีที่สุดครับ
เพิ่มเติมนะครับ ที่เขียนนี้ผมไม่ได้บอกว่าเศรษฐกิจมันดี หรือไม่ดี แต่ผมจะสื่อสารว่า ไม่ว่าเศรษฐกิจจะเป็นยังไง เราก็ต้องเอาตัวรอดก่อน อย่ารอให้ใครมาช่วย อย่ารอให้เศรษฐกิจมันดีขึ้นมาเอง อะไรทำแล้วไม่กำไรก็หยุดทำเปลี่ยนไปหาอย่างอื่นทำนะครับ ใช้เวลาในการหาทางออกของตัวเองดีที่สุดครับ
แสดงความคิดเห็น
ปัญหาเศรษฐกิจไทยตอนนี้ เป็นเพราะ "คนไม่มีเงินจะใช้" หรือ "คนมีเงินแต่ไม่ใช้เงิน" กันแน่?
เห็นหลายกระทู้บอกว่าเดินตลาดนัดแล้วเงียบเหงาซบเซามาก คุยกับพ่อค้าแม่ค้าก็ได้คำตอบว่าขายไม่ดี ซึ่งเราว่ามันเกิดได้จากหลายสาเหตุ สินค้าที่ขายในตลาดนัดส่วนใหญ่เป็นพวกสินค้าแฟชั่น เสื้อผ้า กระเป๋า เครื่องประดับ กลุ่มเป้าหมายคือมนุษย์เงินเดือนชนชั้นกลาง ถ้าบอกว่าคนกลุ่มนี้ไม่มีเงินจะใช้ อาจเกิดจากสองสาเหตุ สาเหตุหนึ่งคือเขาตกงาน ถูกเลย์ออฟ แต่เราก็ยังไม่เห็นข่าวแบบนี้นะ เพื่อนรุ่นเดียวกับเราก็ยังมีหน้าที่การงานที่ดีอยู่ ยังไม่มีใครถูกให้ออก หรืออีกสาเหตุหนึ่งคือคนกลุ่มนี้มีภาระหนี้สินเยอะ ผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ทำให้ไม่มีเงินเหลือใช้ซื้อของอื่นๆ ซึ่งเราว่าก็คงมีจำนวนหนึ่ง แต่ไม่น่าจะเยอะขนาดมีนัยสำคัญต่อยอดขายของพ่อค้าแม่ค้าในตลาดนัดเลยนะ ส่วนตัวเราเลยคิดว่าชนชั้นกลางยังมีเงินใช้อยู่แหละ เพียงแต่เขาเปลี่ยนวิธีใช้เงิน เอาเงินไปช็อปของบนออนไลน์มากขึ้น โดยที่เม็ดเงินไปตกอยู่ที่เว็บอีคอมเมิร์ซใหญ่ๆ หรือไม่ก็ชนชั้นกลางมีเงินแต่ไม่ยอมใช้เงิน เก็บเงินมากขึ้น เอาเงินไปซื้อหุ้น (และติดดอยอยู่) รวมถึงเริ่มนอยด์เพราะเห็นคนบ่นเรื่องเศรษฐกิจมากขึ้น ก็เลยรัดเข็มขัดมากขึ้นไปอีก
มาดูชนชั้นล่างบ้าง เราไม่มีโอกาสได้ใกล้ชิดกับคนกลุ่มนี้ ก็เลยได้แต่มโนเอาเอง เราคิดว่าคนกลุ่มนี้เริ่มได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจบ้างแล้ว เช่น แรงงานในโรงงานถูกเลย์ออฟเนื่องจากมีการย้านฐานการผลิตไปประเทศอื่นที่มีค่าแรงถูกกว่า แรงงานในภาคบริการเริ่มมีต่างด้าวเข้ามาแย่งงาน เกษตรกรก็มีปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำเนื่องจากซัพพลายล้น คนกลุ่มนี้เข้าข่ายไม่มีเงินจะใช้ เขาต้องใช้เงินกับสิ่งที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตเท่านั้น ข้าวสาร เนื้อหมู เนื้อไก่ ยังขายได้ แต่รถกระบะ มอเตอร์ไซค์ โทรศัพท์มือถือ ตอนนี้ชนชั้นล่างซื้อไม่ไหว
เนื่องจากเราวิเคราะห์แบบนั่งมโนเอา เลยอยากฟังความเห็นจากสมาชิก Pantip ว่าปัญหาเศรษฐกิจไทยตอนนี้มันอยู่ที่ตรงไหนกันแน่ และอยากรู้ว่าตอนนี้แต่ละคนอยู่ในกลุ่ม "คนไม่มีเงินจะใช้" (แต่ยังเล่นเน็ตได้) หรือ "คนมีเงินแต่ไม่ใช้เงิน" กัน?