เงินเดือนคนไทย เพราะอะไรคนส่วนใหญ่รายได้ยังไม่ถึง 15000 บาท

รู้หรือไม่? จากข้อมูลล่าสุดปี 2567 ของประกันสังคม ม.33 เผยความจริงน่าตกใจ! 
มนุษย์เงินเดือนกว่า 55% หรือ 6.7 ล้านคน มีรายได้ไม่เกิน 15,000 บาทต่อเดือน
และกลุ่มที่ใหญ่ที่สุดเกือบ 2.8 ล้านคน มีเงินเดือนแค่ 9,001-11,000 บาท เท่านั้น!

ตัวเลขนี้สะท้อนอะไร? ทำไมโครงสร้างค่าจ้างของแรงงานไทยส่วนใหญ่ถึงยังอยู่ในระดับที่ท้าทายค่าครองชีพ?
แล้วคำว่า "ชนชั้นกลาง" ที่แท้จริงต้องมีรายได้เท่าไหร่?

ประเด็นเรื่อง “รายได้” และการนิยาม “ชนชั้นกลาง” ในสังคมไทยยังคงเป็นหัวข้อที่ถูกหยิบยกขึ้นมาถกเถียงอยู่เสมอ
ว่าแท้จริงแล้วเส้นแบ่งของแต่ละสถานะทางเศรษฐกิจควรวัดจากเกณฑ์ใด เพื่อให้เห็นภาพที่ชัดเจนและจับต้องได้มากที่สุด
การพิจารณาจากข้อมูลรายได้จริงของกลุ่มผู้ใช้แรงงานในระบบจึงเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่สะท้อนภาพความเป็นจริงได้เป็นอย่างดี


จากข้อมูลล่าสุดประจำปี 2567 โดยสำนักงานประกันสังคม ซึ่งรวบรวมจากฐานผู้ประกันตนในมาตรา 33 หรือกลุ่มพนักงานบริษัทเอกชนทั่วไปจำนวนกว่า 12,144,583 คน ได้ฉายภาพโครงสร้างเงินเดือนของมนุษย์เงินเดือนไทยไว้อย่างน่าสนใจ ทำให้เราสามารถมองเห็นการกระจายตัวของรายได้ในภาคแรงงานที่เป็นทางการได้อย่างเป็นรูปธรรม

ตารางสรุปข้อมูลรายได้ผู้ประกันตนมาตรา 33 ปี 2567


กลุ่มรายได้ที่หนาแน่นที่สุด คือ พลังขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจ?
จากสถิติผู้ประกันตนมาตรา 33 โดยสำนักงานประกันสังคม พบข้อเท็จจริงที่น่าสนใจยิ่งเกี่ยวกับโครงสร้างรายได้ของแรงงานในระบบ กล่าวคือ กลุ่มประชากรแรงงานที่มีจำนวนหนาแน่นที่สุดนั้นอยู่ในช่วงเงินเดือน 9,001–11,000 บาท โดยมีจำนวนสูงถึง 2,797,187 คน หรือคิดเป็นสัดส่วนเกือบหนึ่งในสี่ (ประมาณ 23%) ของผู้ประกันตนทั้งหมด ตัวเลขดังกล่าวไม่ได้เป็นเพียงข้อมูลทางสถิติ แต่ยังบ่งชี้ถึงการมีอยู่ของกลุ่มกำลังสำคัญที่ทำหน้าที่เป็นฟันเฟืองในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจมหภาคของประเทศ

แม้ว่ารายได้ต่อหน่วยของแรงงานกลุ่มนี้อาจไม่สูงนัก แต่เมื่อพิจารณาในภาพรวมแล้ว จำนวนประชากรที่มหาศาลนี้ได้ก่อให้เกิด “กำลังซื้อ” (Purchasing Power) ขนาดใหญ่ที่เป็นฐานรากให้กับเศรษฐกิจภายในประเทศ การใช้จ่ายของแรงงานเกือบ 2.8 ล้านคนนี้มุ่งเน้นไปที่สินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นต่อการดำรงชีพเป็นหลัก ซึ่งสร้างเสถียรภาพและความต่อเนื่องให้แก่ภาคการค้าปลีก ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) รวมถึงภาคการผลิตที่เกี่ยวข้องกับสินค้าในชีวิตประจำวัน เรียกได้ว่ากลุ่มรายได้นี้เป็นเส้นเลือดฝอยที่หล่อเลี้ยงระบบเศรษฐกิจฐานรากให้หมุนเวียนอย่างไม่หยุดนิ่ง

ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อพิจารณาประกอบกับกลุ่มรายได้ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองและสาม คือ ช่วง 13,001–15,000 บาท (จำนวน 1,707,441 คน) และช่วง 11,001–13,000 บาท (จำนวน 1,493,225 คน) จะยิ่งเห็นภาพชัดเจนขึ้นว่า โครงสร้างของแรงงานในระบบส่วนใหญ่กระจุกตัวอยู่ในช่วงรายได้ที่ไม่เกิน 15,000 บาทต่อเดือน

ดังนั้น กลุ่มรายได้ที่หนาแน่นที่สุดเป็นพลังขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจจึงมิใช่คำกล่าวที่เกินจริง แต่เป็นการสะท้อนภาพความเป็นจริงที่ว่า เสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศนั้นพึ่งพิงการบริโภคภายในประเทศจากแรงงานกลุ่มนี้เป็นสำคัญ การเปลี่ยนแปลงใดๆ ที่ส่งผลกระทบต่อรายได้หรือความสามารถในการใช้จ่ายของคนกลุ่มนี้ เช่น ภาวะเงินเฟ้อ หรือการปรับขึ้นของราคาสินค้า จึงย่อมส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ การทำความเข้าใจพลวัตของกลุ่มรายได้นี้จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการกำหนดนโยบายเศรษฐกิจและการวางแผนพัฒนาประเทศในระยะยาว

เส้นขีดแบ่งคุณภาพชีวิต ทำไมโครงสร้างรายได้แรงงานไทยจึงเป็นความท้าทาย
สะท้อนถึงความท้าทายเชิงโครงสร้างของตลาดแรงงานไทยได้อย่างมีนัยสำคัญ นั่นคือ การกระจุกตัวของรายได้ในระดับที่ไม่เกิน 15,000 บาทต่อเดือน ซึ่งครอบคลุมประชากรแรงงานมากกว่าครึ่งหนึ่งของทั้งระบบ

ข้อมูลตั้งแต่ช่วงรายได้น้อยที่สุดไปจนถึง 15,000 บาท พบว่า มีจำนวนผู้ประกันตนรวมกันสูงถึงกว่า 6,700,000 คน หรือคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 55% ข้อเท็จจริงนี้เป็นเครื่องยืนยันว่า โครงสร้างรายได้ ของแรงงานไทยส่วนใหญ่นั้น ยังคงอยู่ในระดับที่ต้องเผชิญกับแรงกดดันจากสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อนำตัวเลขดังกล่าวมาเทียบเคียงกับดัชนี ค่าครองชีพ ที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ปรากฏการณ์นี้ได้สร้าง “ความท้าทาย” ที่สำคัญต่อ คุณภาพชีวิต ของแรงงานกลุ่มนี้ โดยรายได้ในระดับดังกล่าว ในเขตเมืองใหญ่ที่มีค่าใช้จ่ายสูง อาจไม่เพียงพอที่จะสร้างความมั่นคงทางการเงินในระยะยาวได้ เนื่องจากรายรับส่วนใหญ่จะถูกจัดสรรให้กับค่าใช้จ่ายที่จำเป็น เช่น ค่าที่พัก ค่าเดินทาง และค่าอาหาร ทำให้มีเงินออมหรือเงินลงทุนเพื่ออนาคตในสัดส่วนที่จำกัด สภาวะเช่นนี้ก่อให้เกิดภาวะเปราะบางทางเศรษฐกิจครัวเรือน ซึ่งมีความอ่อนไหวสูงต่อค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิดหรือภาวะเงินเฟ้อ

เพื่อทำความเข้าใจบริบทให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น เมื่อพิจารณาในเชิงเปรียบเทียบกับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำของประเทศไทยในปี 2567 ซึ่งสำหรับกรุงเทพมหานครอยู่ที่ประมาณ 10,890 บาทต่อเดือน จะเห็นได้ว่าฐานรายได้ของกลุ่มแรงงานที่ใหญ่ที่สุด (9,001-11,000 บาท) นั้น มีระดับที่สูงกว่าอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเพียงเล็กน้อยเท่านั้น สิ่งนี้สะท้อนว่า แม้จะเป็นแรงงานที่มีนายจ้างและอยู่ในระบบประกันสังคม แต่ระดับค่าตอบแทนก็ยังไม่แตกต่างจากเส้นแบ่งรายได้ขั้นพื้นฐานมากนัก

ตารางสรุป เปิดโครงสร้างรายได้ไทย : เหตุผลที่แรงงานกว่า 55% มีรายได้ไม่ถึง 15,000 บาท

อ้างอิงจาก

อ่านรายละเอียดเจาะลึกบทวิเคราะห์ฉบับเต็ม ถึงสาเหตุเชิงโครงสร้างที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังตัวเลขเหล่านี้ ได้ที่นี่
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่