ภิกษุทำตนให้เป็นอุปมาว่า สัตว์ทั้งปวงย่อมสะดุ้งต่ออาชญา
สัตว์ทั้งปวงย่อมกลัวต่อความตาย แล้วไม่พึงฆ่าเอง ไม่พึง
ใช้ผู้อื่นให้ฆ่า
ภิกษุทำตนให้เป็นอุปมาว่า สัตว์ทั้งปวงย่อม
สะดุ้งต่ออาชญา ชีวิตเป็นที่รักของสัตว์ทั้งปวง แล้วไม่พึง
ฆ่าเอง ไม่พึงใช้ผู้อื่นให้ฆ่า ผู้ใดแสวงหาความสุขเพื่อตน
ย่อมเบียดเบียนสัตว์ทั้งหลายผู้ใคร่ความสุขด้วยอาชญา ผู้นั้น
ย่อมไม่ได้ความสุขในโลกหน้า ผู้ใดแสวงหาความสุขเพื่อ
ตน ย่อมไม่เบียดเบียนสัตว์ทั้งหลายผู้ใคร่ความสุข ด้วย
อาชญา ผู้นั้นย่อมได้ความสุขในโลกหน้า
ท่านอย่าได้กล่าวคำหยาบกะใครๆ ผู้ที่ท่านกล่าวแล้วพึงกล่าวตอบท่าน
เพราะว่าถ้อยคำแข็งดีให้เกิดทุกข์ อาชญาตอบพึงถูกต้องท่าน
ถ้าท่านไม่ยังตนให้หวั่นไหวดุจกังสดาลถูกขจัดแล้ว ท่านนี้
จะเป็นผู้ถึงนิพพาน ความแข่งดีย่อมไม่มีแก่ท่าน
นายโคบาลย่อมต้อนฝูงโคไปสู่ที่หากิน ด้วยท่อนไม้ฉันใด ความแก่
และความตายย่อมต้อนอายุของสัตว์ทั้งหลายไป ฉันนั้น คน
พาลผู้ไร้ปัญญาทำกรรมอันลามกอยู่ ย่อมไม่รู้สึก ภายหลัง
ย่อมเดือดร้อนเพราะกรรมของตนเอง เหมือนบุคคลถูกไฟ ไหม้ ฉะนั้น
ผู้ใดย่อมประทุษร้ายในพระขีณาสพผู้ไม่มี
อาชญา ผู้ไม่ประทุษร้าย ด้วยอาชญา ผู้นั้นย่อมเข้าถึงเหตุ
แห่งทุกข์ ๑๐ อย่าง อย่างใดอย่างหนึ่งพลันทีเดียว คือ
เวทนาหยาบช้า ความเสื่อมทรัพย์ ความแตกแห่งสรีระ
อาพาธหนัก ความฟุ้งซ่านแห่งจิต ความขัดข้องแต่พระราชา
การกล่าวตู่อันร้ายแรง ความสิ้นญาติ ความย่อยยับแห่งโภคะ
ทั้งหลาย หรือไฟย่อมไหม้เรือนของเขา เมื่อตายไป เขาผู้
ไร้ปัญญาย่อมเข้าถึงไฟนรก ความประพฤติเปลือย การทรงชฎา
การนอนที่เปือกตม การไม่กินข้าว หรือการนอนเหนือแผ่น
ดิน ความคลุกคลีด้วยธุลี ความเพียรอันปรารภด้วยความเป็น
คนกระโหย่ง ยังสัตว์มีความสงสัยอันข้ามไม่ได้แล้วให้หมด จดไม่ได้
ว่าด้วยมิใช่เป็นคฤหัสถ์ด้วยสักแต่เพศ
สัตว์ทั้งปวงย่อมกลัวต่อความตาย แล้วไม่พึงฆ่าเอง ไม่พึง
ใช้ผู้อื่นให้ฆ่า
ภิกษุทำตนให้เป็นอุปมาว่า สัตว์ทั้งปวงย่อม
สะดุ้งต่ออาชญา ชีวิตเป็นที่รักของสัตว์ทั้งปวง แล้วไม่พึง
ฆ่าเอง ไม่พึงใช้ผู้อื่นให้ฆ่า ผู้ใดแสวงหาความสุขเพื่อตน
ย่อมเบียดเบียนสัตว์ทั้งหลายผู้ใคร่ความสุขด้วยอาชญา ผู้นั้น
ย่อมไม่ได้ความสุขในโลกหน้า ผู้ใดแสวงหาความสุขเพื่อ
ตน ย่อมไม่เบียดเบียนสัตว์ทั้งหลายผู้ใคร่ความสุข ด้วย
อาชญา ผู้นั้นย่อมได้ความสุขในโลกหน้า
ท่านอย่าได้กล่าวคำหยาบกะใครๆ ผู้ที่ท่านกล่าวแล้วพึงกล่าวตอบท่าน
เพราะว่าถ้อยคำแข็งดีให้เกิดทุกข์ อาชญาตอบพึงถูกต้องท่าน
ถ้าท่านไม่ยังตนให้หวั่นไหวดุจกังสดาลถูกขจัดแล้ว ท่านนี้
จะเป็นผู้ถึงนิพพาน ความแข่งดีย่อมไม่มีแก่ท่าน
นายโคบาลย่อมต้อนฝูงโคไปสู่ที่หากิน ด้วยท่อนไม้ฉันใด ความแก่
และความตายย่อมต้อนอายุของสัตว์ทั้งหลายไป ฉันนั้น คน
พาลผู้ไร้ปัญญาทำกรรมอันลามกอยู่ ย่อมไม่รู้สึก ภายหลัง
ย่อมเดือดร้อนเพราะกรรมของตนเอง เหมือนบุคคลถูกไฟ ไหม้ ฉะนั้น
ผู้ใดย่อมประทุษร้ายในพระขีณาสพผู้ไม่มี
อาชญา ผู้ไม่ประทุษร้าย ด้วยอาชญา ผู้นั้นย่อมเข้าถึงเหตุ
แห่งทุกข์ ๑๐ อย่าง อย่างใดอย่างหนึ่งพลันทีเดียว คือ
เวทนาหยาบช้า ความเสื่อมทรัพย์ ความแตกแห่งสรีระ
อาพาธหนัก ความฟุ้งซ่านแห่งจิต ความขัดข้องแต่พระราชา
การกล่าวตู่อันร้ายแรง ความสิ้นญาติ ความย่อยยับแห่งโภคะ
ทั้งหลาย หรือไฟย่อมไหม้เรือนของเขา เมื่อตายไป เขาผู้
ไร้ปัญญาย่อมเข้าถึงไฟนรก ความประพฤติเปลือย การทรงชฎา
การนอนที่เปือกตม การไม่กินข้าว หรือการนอนเหนือแผ่น
ดิน ความคลุกคลีด้วยธุลี ความเพียรอันปรารภด้วยความเป็น
คนกระโหย่ง ยังสัตว์มีความสงสัยอันข้ามไม่ได้แล้วให้หมด จดไม่ได้