......(1)......แรกเริ่มขอให้นึกย้อนไปถึงความว่างเปล่าและมืดมิดไม่มีอะไรแม้แต่แสงสว่างหรือเสียง นั่นคือการหลับอย่างสาบายไม่มีทั้งทุกข์ หรือ สุข ซึ่งเป็นความพอดีๆ (เป็นกลาง) พุทธเรียกว่านิพพาน (สูงสุด)
......โลกที่เราเห็นๆอยู่ไม่ได้มีแค่เท่าที่เห็น หากแต่ทว่า #... มีที่ที่เราๆมองไม่เห็น อย่างนับไม่ถ้วน มีความผันผวนอยู่ตลอดเวลาดั่งความแปรแปรวนใน แมท'ทริคซฺ(หาความหมายเอง) ชีวิตทุกชีวิต ล้วนมีเกิด และ มีดับเป็นธรรมดา แต่ที่ไม่เคยย้อนดูว่าเกิดทำไม เพื่ออะไร ให้ย้อนดู ......(1)......(น่าเบื่อมาก)เมื่อมีสิ่งที่เรียกว่าจิตปะทุขึ้นแน่นอนย่อมมีตัวตน แต่เมื่ออ้างว้างโดดเดี่ยวในความมืด (จาก #... หน้าที่บอกมันคือควากซ์ ในความถี่ใหม่/ภพใหม่) นานมากจนในที่สุดก็มีความรู้สึก นึกคิด และสิ่งต่างๆเริ่มทยอยมา จวบจนมีอำนาจในการใช้จิตเนรมิตสร้างสิ่งต่างๆขึ้นมา และเริ่มสร้างตัวตน(จิต) เพิ่มเพื่อมาเป็นคู่หูคลายเหงาและช่วยคิด (แบ่งเซลล์ อะมีบ้า) วิเคราะห์สรรค์สร้างและสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ ขึ้นมาให้มี จนกระเวลาล่วงเลยไป เวลาเปลี่ยน.ความคิดเปลี่ยน นอกจากจะสร้างจิต(ตัวตนเพิ่ม/อีกโลกที่คู่ขนานคนละคลื่นความถี่) evolution/วิวัฒนาการ <<-----หลายล้านปีก่อน จวบจนปัจจุบัน
วิวัฒนาการมานานเท่าไร ไม่สำคัญ
สำคัญที่ ได้ทำ-สานต่อตามเจตนารมณ์หรือเปล่า
...ในปัจจุบันการคิดอย่างถี่มาก(จินตนาการ) เป็นตัวแปลผันในการชักนำพาสิ่งต่างๆเข้ามาหา ยิ่งมีจินตนาการสูงและบ่อย-ถี่มาก ยิ่งเกิดพลัง(พลังงานมืดที่ก่อให้เกิดอีเว้นท์) หลายๆคนอาจไม่เข้าใจ อาจจะหลงลืม หรือยึดติดไปกับวัตถุต่างๆ จนลืมนึกไปว่าก่อนจะเกิดมีความรู้สึกอย่างไร จิตทุกจิตมีเกิด ย่อมมีดับ เป็นธรรมดาหากแต่ถ้าเทียบทางวิทยาศาสตร์ นั่นคือการเปลี่ยนจุดในตาราง และนิพพานคือการพักผ่อน(นอนพัก.ช่วงนี้จิตจะวูบหายไปคล้ายๆแบตฯหมด) เมื่อพักผ่อนเพียงพอแล้วก็จะทำตามความปรารถนาของจิตตน(Quest ที่กำหนดเอง) แต่ส่วนใหญ่มีเพียงความปราถนาเพียงเพื่อลิ้มรสเท่านั้น(ลองชิมดู) เมื่อร่างกายเสื่อมสภาพหมดสิ้นอายุขัย ก็กลับสภาพไปเป็นจิตดั่งเดิม เพียงแต่มีการปรับเปลี่ยนตรงที่มีการยึดติดเพิ่มเข้ามา เป็นรูปร่างวิญญาณตามร่างกายตน?
หากให้เข้าใจอย่างง่าย...
เมื่อหมดลมหายใจจิตจะวูบดับและ ไปอยู่อีกภพหนึ่ง(มิติอื่น/ZONE)ในปัจจุบันจะมีกลุ่มที่ทำหน้าที่นี้อยู่ คอยรองรับจิตที่แปลสภาพเป็นวิญญาณ และแน่นอนว่า เมื่อตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ตนได้กระทำอะไร ประพฤติตนอย่างไรนั้น แม้ว่าจะแอบทำในที่ลับตาคนมาก็ตาม แต่จิตจะสื่อจิตกันได้ และปกปิดไม่ได้ (อย่างที่แมวแตะจมูกกันเพื่อสำรวจว่าไปทำอะไรมาบ้าง/ความเร็วจิตไม่ว่าจะห่างกันเท่าไรแต่ความเร็วคือ:ทันทีทันใด)อยู่ที่เราจะใส่ใจหรือไม่เท่านั้น
หากเป็นผู้กระทำความผิดหนีคดี หรือสร้างความร้าวฉานต่างๆ ซึ่งจะจำแนกและว่าด้วย เหตุผล!!! มีกระบวนการยุติธรรมที่สุดไม่ว่าใครก็ตาม แต่หากว่าความผิดนั้น กระทำด้วยอารมณ์/ความอยาก/ตัณหา/กิเลศ จะตกนรกในฉับพลัน! แต่ก็บางกลุ่ม(.กลุ่มน้อย.แต่.หลายกลุ่ม.)ที่หนีนรกออกมาและต่อต้านระบบส่วนรวม ร่วมกันก่อตั้งกลุ่มของตนสร้างและซ่องสุมกำลังเพื่อ ระราน/ลักขโมย ผู้อื่นซึ่งมีหน่วยงานจัดการอยู่เช่นกัน และย่อมมีการติดตามความเคลื่อนไหวตลอด หากทว่าบางครั้งกลุ่ม น้อยเหล่านั้นได้ประดิษฐ์/พัฒนา เทคโนโลยี จำพวกอาวุธสำหรับต่อต้านยังผลให้เกิดสงครามอย่างต่อเนื่องซึ่งในสงครามนั้นผู้ชนะจะได้ ทรัพยากรณ์และเทคโนโลยีจากฝ่ายที่แพ้รวมไปถึงการยึดครองพื้นที่เพื่อขยายอาณาจักรสำหรับการผนวกเข้าด้วยกัน สำหรับพฤติกรรมนั้นขึ้นอยู่กับบุคคล(นานาจิตตัง:ต่างคนต่างคิด)
นรกที่ว่ามีมากมายหลายระดับ และมีกระบวนการยุติธรรมอย่างที่สุด เพื่อให้เกิดจิตสำนึก และละอายไม่กล้ากระทำความผิดนั้นๆอีกอย่างแท้จริงเท่านั้น จึงจะได้รับการปลดปล่อยออกไป (นานเท่าไหร่แล้วก็แต่ บางสถานที่ที่ต่างมิติกัน หรือต่างโลกต่างโซน เวลาย่อมต่างกันอย่างโซนนรกบางขุม เวลาจะเดินไปคล้ายๆกับห้องกาลเวลาในเรื่องดราก้อนบอล คือ เมื่อเข้าไปเมื่อเวลาภายนอกเท่าไหร่ นานเท่าไรก็แล้วแต่เมื่อออกมาเวลาเดินไปถายนอกเดินไปเพียงแค่ วินาทีเดียว เท่านั้น
สำรับบางโซน บางมิติ(เล็กๆย่อมๆเท่านั้น) ซึ่งมีแต่ชาวสวรรค์ (เทพต่างๆ/อิลลา/ฯ) แน่นอนพวกเขาเหล่านั้นย่อมมีความปราถรนาความต้องการเช่นกัน บ้างก็สุจริตบ้างก็ทุจริต ดังนั้นชาวสวรรค์ที่กระทำความผิดก็ต้องยอมรับผิดตามการกระทำ (เว้นแต่จะสำนึกได้อย่างแท้จริง และจะไม่กระทำอีก) บางพวกที่มีความผิดเหมือนๆกัน และไร้สำนึกซ้ำร้ายยังคิดจะเดินหน้าในทางทุจริตชั่วร้ายเพียงเพื่อความปราถนาต้องการของตนอย่างไร้ความสมเหตุสมผล(จิตร้าย/ชัยฏอน/มาร/ซาตาน) ก็มักจะมารวมกลุ่มกันเพื่อต่อต้านหน่วยงานกระบวนการยุติธรรม ทั้งยังริเริ่มสร้างระบบเศรษฐกิจแน่นอนว่ายิวควบคุมอยู่เบื้องหลังซึ่งถ้ายังคงอย่างนี้ต่อไป ระบบจะป้องกันอย่างอัตโนมัติ
ตัวอย่าง กรณีชาวยิวที่ในอดีตได้ใช้ความรู้ความสามรถความชาญฉลาดของตนไปใช้ในการเอารัดเอาเปรียบ เพื่อหวังผลกำไรประโยชน์สำหรับพวกตน โดยไม่คำนึงถึงผลกระทบและสภาพจิตใจย่ำแย่ที่ตามมาของผู้ถูกกระทำยังผลให้ชาวยิวยังคงมีปัญหาตามที่เห็นในปัจจุบันและยังคงสันดานเดิมในเรื่องผลประโยชน์และอำนาจโดยเฉพาะจากน้ำมัน
ตามความจริงแล้วไม่ใช่แค่ยิวกับฟิลัสติน เท่านั้นที่เป็นพี่น้องกัน หากแต่ทนุษย์ทั้งหมดทั้งโลกรวมทั้งทุกมิติ มาจากจุดเดียวกัน......(1)......และควรจะเป็นในอย่างที่ควรจะเป็น แต่ก็ไม่เป็นและกลับเพิ่มทิฐิมาแบ่งแยก
การแบ่งภพ แบ่งมิติเวลาจะระบบจักรวาลทำงานอัตโนมัติอย่างเที่ยงธรรม
เมื่อได้ตายไป(ยกเว้นถึงแก่กรรมด้วยชราภาพ) Quest ที่ตั้งไว้ยังไม่เสร็จหรือยังไม่บรรลุเป้าหมายตามที่ต้องการก็จะยังไม่พักผ่อน แต่จะเวียนกลับมาจุติใหม่ตามลำดับชั้นสายเลือด แต่ถ้าไม่มีอะไรที่เป็นห่วง/หมดห่วง เมื่อหลับก็จะเข้านิพพาน......(1)......ซึ่งเป็นการพักผ่อนเปรียบเสมือนชาร์จพลังให้ดีขึ้น
ในจักรวาลมีมากมายหลากหลายโซน กาแลกซี่ เปรียบเสมือนเซิฟเวอร์ และดาวเคราะห์ต่างๆคือ ห้อง/มิติที่แตกต่างกันไป จักรวาลนั้นมีลักษณะเหมือนฟองอากาศ ที่เล็กบางใหญ่บ้างมากมายนับไม่ถ้วน ล้วนมีเกิด มีดับเช่นกัน(bob up and down) เดี๋ยวมีเดี๋ยวไม่มีแปรผันไปเรื่อยอย่างไม่แน่นอน
สำหรับบางมิติที่ดูเหมือนจะแข็งแรงและแน่นอน ก็ขึ้นอยู่กับใจ หากแข็งมากก็จะไม่ดับแต่ถึงดับ
เมื่อฟื้นตัว/มีสติก็เริ่มใหม่และสานต่อจากเดิมจนเสร็จกิจ
ทุกครั้งที่ได้ตายไปหากกิจ(Quest) ยังไม่สำเร็จ/ยังไม่ได้ดั่งใจ ก็จะยังคงอยู่และกลับมาสานต่อตามรูปแบบ แผนที่ได้วางไว้ เพราะฉะนั้นทุกๆคนที่เกิดมาย่อมมีหน้าที่อย่างแน่นอน เพียงแต่อาจจะไม่ตรงเส้นตรงวาหรือตรงประเด็นที่ตั้งไว้เพื่อให้ กิจสำเร็จจึงจะเริ่มพัก
เมื่อจิตพัก(หลับ)จิตจะย้อนกลับ โดยการส่งข้อมูลต่างๆไปยังจิตUpline อย่างเรื่อยๆ เป็นระบบ(จิตต้นกำเนิด/จิตก่อนหน้า/จิตบรรพบุรุษ) ดังนั้นทุกการกระทำทุกพฤติกรรมทั้งความคิดและจิตใจจะถูกส่งข้อมูลไปยังจิตแรกเริ่ม แน่นอนว่าจิตแรกเริ่มได้สร้างหน่วยงานเอาไว้สำหรับเรื่องนี้โดยเฉพาะ เพื่อบำบัดจิตให้สะอาดบริสุทธิเพื่อบรรลุภาระกิจต่อไป
หากไม่เข้าใจ
เมื่อเปรียบเทียบ"จิตแรกเริ่มแรกสุด"......(1)......ที่เรียกกันว่า "พระเจ้า" (GOD/ALLAH/YAHWEH) หรือที่เรียกกันว่าจิตจักรวาล (เป็นอนันต์)
จิตสามารถแบ่งจิตต่อไปได้อย่างไม่จำกัด (ขึ้นอยู่กับความต้องการ)แต่ก็มีระยะเวลาในการทำงาน(อายุขัย)เช่นกันสำหรับการเพิ่มอายุขัยนั้น ขึ้นอยู่ที่ความต้องการของจิตนั้นๆ หากปล่อยปละละเลยทิ้งช่วงเวลาจิตก็จะหม่นหมองไป ตามสิ่งเร้าต่างๆแต่หากใส่ใจหรือมีแรงปราถนาก็จะช่วยยืดอายุการใช้งานเพิ่มเข้าไปอีก
ว่าแต่ตอนนี้ชีวิตคุณประสบความเร็จไปได้แค่ไหนแล้ว?
เคยถามตัวเองมั้ย ...ว่าต้องการอะไรในชีวิตบ้าง แล้วทำตามฝันได้ขนาดไหน?
ยังมีอีกเยอะ แต่ขอกั๊กไว้ก่อน ^_^
ทีเทคโนโลยีหละกั๊กกันจัง(ใครๆก้ชอบกั๊ก)
Credit: al-Amyadh
ชีวิต
......โลกที่เราเห็นๆอยู่ไม่ได้มีแค่เท่าที่เห็น หากแต่ทว่า #... มีที่ที่เราๆมองไม่เห็น อย่างนับไม่ถ้วน มีความผันผวนอยู่ตลอดเวลาดั่งความแปรแปรวนใน แมท'ทริคซฺ(หาความหมายเอง) ชีวิตทุกชีวิต ล้วนมีเกิด และ มีดับเป็นธรรมดา แต่ที่ไม่เคยย้อนดูว่าเกิดทำไม เพื่ออะไร ให้ย้อนดู ......(1)......(น่าเบื่อมาก)เมื่อมีสิ่งที่เรียกว่าจิตปะทุขึ้นแน่นอนย่อมมีตัวตน แต่เมื่ออ้างว้างโดดเดี่ยวในความมืด (จาก #... หน้าที่บอกมันคือควากซ์ ในความถี่ใหม่/ภพใหม่) นานมากจนในที่สุดก็มีความรู้สึก นึกคิด และสิ่งต่างๆเริ่มทยอยมา จวบจนมีอำนาจในการใช้จิตเนรมิตสร้างสิ่งต่างๆขึ้นมา และเริ่มสร้างตัวตน(จิต) เพิ่มเพื่อมาเป็นคู่หูคลายเหงาและช่วยคิด (แบ่งเซลล์ อะมีบ้า) วิเคราะห์สรรค์สร้างและสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ ขึ้นมาให้มี จนกระเวลาล่วงเลยไป เวลาเปลี่ยน.ความคิดเปลี่ยน นอกจากจะสร้างจิต(ตัวตนเพิ่ม/อีกโลกที่คู่ขนานคนละคลื่นความถี่) evolution/วิวัฒนาการ <<-----หลายล้านปีก่อน จวบจนปัจจุบัน
วิวัฒนาการมานานเท่าไร ไม่สำคัญ
สำคัญที่ ได้ทำ-สานต่อตามเจตนารมณ์หรือเปล่า
...ในปัจจุบันการคิดอย่างถี่มาก(จินตนาการ) เป็นตัวแปลผันในการชักนำพาสิ่งต่างๆเข้ามาหา ยิ่งมีจินตนาการสูงและบ่อย-ถี่มาก ยิ่งเกิดพลัง(พลังงานมืดที่ก่อให้เกิดอีเว้นท์) หลายๆคนอาจไม่เข้าใจ อาจจะหลงลืม หรือยึดติดไปกับวัตถุต่างๆ จนลืมนึกไปว่าก่อนจะเกิดมีความรู้สึกอย่างไร จิตทุกจิตมีเกิด ย่อมมีดับ เป็นธรรมดาหากแต่ถ้าเทียบทางวิทยาศาสตร์ นั่นคือการเปลี่ยนจุดในตาราง และนิพพานคือการพักผ่อน(นอนพัก.ช่วงนี้จิตจะวูบหายไปคล้ายๆแบตฯหมด) เมื่อพักผ่อนเพียงพอแล้วก็จะทำตามความปรารถนาของจิตตน(Quest ที่กำหนดเอง) แต่ส่วนใหญ่มีเพียงความปราถนาเพียงเพื่อลิ้มรสเท่านั้น(ลองชิมดู) เมื่อร่างกายเสื่อมสภาพหมดสิ้นอายุขัย ก็กลับสภาพไปเป็นจิตดั่งเดิม เพียงแต่มีการปรับเปลี่ยนตรงที่มีการยึดติดเพิ่มเข้ามา เป็นรูปร่างวิญญาณตามร่างกายตน?
หากให้เข้าใจอย่างง่าย...
เมื่อหมดลมหายใจจิตจะวูบดับและ ไปอยู่อีกภพหนึ่ง(มิติอื่น/ZONE)ในปัจจุบันจะมีกลุ่มที่ทำหน้าที่นี้อยู่ คอยรองรับจิตที่แปลสภาพเป็นวิญญาณ และแน่นอนว่า เมื่อตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ตนได้กระทำอะไร ประพฤติตนอย่างไรนั้น แม้ว่าจะแอบทำในที่ลับตาคนมาก็ตาม แต่จิตจะสื่อจิตกันได้ และปกปิดไม่ได้ (อย่างที่แมวแตะจมูกกันเพื่อสำรวจว่าไปทำอะไรมาบ้าง/ความเร็วจิตไม่ว่าจะห่างกันเท่าไรแต่ความเร็วคือ:ทันทีทันใด)อยู่ที่เราจะใส่ใจหรือไม่เท่านั้น
หากเป็นผู้กระทำความผิดหนีคดี หรือสร้างความร้าวฉานต่างๆ ซึ่งจะจำแนกและว่าด้วย เหตุผล!!! มีกระบวนการยุติธรรมที่สุดไม่ว่าใครก็ตาม แต่หากว่าความผิดนั้น กระทำด้วยอารมณ์/ความอยาก/ตัณหา/กิเลศ จะตกนรกในฉับพลัน! แต่ก็บางกลุ่ม(.กลุ่มน้อย.แต่.หลายกลุ่ม.)ที่หนีนรกออกมาและต่อต้านระบบส่วนรวม ร่วมกันก่อตั้งกลุ่มของตนสร้างและซ่องสุมกำลังเพื่อ ระราน/ลักขโมย ผู้อื่นซึ่งมีหน่วยงานจัดการอยู่เช่นกัน และย่อมมีการติดตามความเคลื่อนไหวตลอด หากทว่าบางครั้งกลุ่ม น้อยเหล่านั้นได้ประดิษฐ์/พัฒนา เทคโนโลยี จำพวกอาวุธสำหรับต่อต้านยังผลให้เกิดสงครามอย่างต่อเนื่องซึ่งในสงครามนั้นผู้ชนะจะได้ ทรัพยากรณ์และเทคโนโลยีจากฝ่ายที่แพ้รวมไปถึงการยึดครองพื้นที่เพื่อขยายอาณาจักรสำหรับการผนวกเข้าด้วยกัน สำหรับพฤติกรรมนั้นขึ้นอยู่กับบุคคล(นานาจิตตัง:ต่างคนต่างคิด)
นรกที่ว่ามีมากมายหลายระดับ และมีกระบวนการยุติธรรมอย่างที่สุด เพื่อให้เกิดจิตสำนึก และละอายไม่กล้ากระทำความผิดนั้นๆอีกอย่างแท้จริงเท่านั้น จึงจะได้รับการปลดปล่อยออกไป (นานเท่าไหร่แล้วก็แต่ บางสถานที่ที่ต่างมิติกัน หรือต่างโลกต่างโซน เวลาย่อมต่างกันอย่างโซนนรกบางขุม เวลาจะเดินไปคล้ายๆกับห้องกาลเวลาในเรื่องดราก้อนบอล คือ เมื่อเข้าไปเมื่อเวลาภายนอกเท่าไหร่ นานเท่าไรก็แล้วแต่เมื่อออกมาเวลาเดินไปถายนอกเดินไปเพียงแค่ วินาทีเดียว เท่านั้น
สำรับบางโซน บางมิติ(เล็กๆย่อมๆเท่านั้น) ซึ่งมีแต่ชาวสวรรค์ (เทพต่างๆ/อิลลา/ฯ) แน่นอนพวกเขาเหล่านั้นย่อมมีความปราถรนาความต้องการเช่นกัน บ้างก็สุจริตบ้างก็ทุจริต ดังนั้นชาวสวรรค์ที่กระทำความผิดก็ต้องยอมรับผิดตามการกระทำ (เว้นแต่จะสำนึกได้อย่างแท้จริง และจะไม่กระทำอีก) บางพวกที่มีความผิดเหมือนๆกัน และไร้สำนึกซ้ำร้ายยังคิดจะเดินหน้าในทางทุจริตชั่วร้ายเพียงเพื่อความปราถนาต้องการของตนอย่างไร้ความสมเหตุสมผล(จิตร้าย/ชัยฏอน/มาร/ซาตาน) ก็มักจะมารวมกลุ่มกันเพื่อต่อต้านหน่วยงานกระบวนการยุติธรรม ทั้งยังริเริ่มสร้างระบบเศรษฐกิจแน่นอนว่ายิวควบคุมอยู่เบื้องหลังซึ่งถ้ายังคงอย่างนี้ต่อไป ระบบจะป้องกันอย่างอัตโนมัติ
ตัวอย่าง กรณีชาวยิวที่ในอดีตได้ใช้ความรู้ความสามรถความชาญฉลาดของตนไปใช้ในการเอารัดเอาเปรียบ เพื่อหวังผลกำไรประโยชน์สำหรับพวกตน โดยไม่คำนึงถึงผลกระทบและสภาพจิตใจย่ำแย่ที่ตามมาของผู้ถูกกระทำยังผลให้ชาวยิวยังคงมีปัญหาตามที่เห็นในปัจจุบันและยังคงสันดานเดิมในเรื่องผลประโยชน์และอำนาจโดยเฉพาะจากน้ำมัน
ตามความจริงแล้วไม่ใช่แค่ยิวกับฟิลัสติน เท่านั้นที่เป็นพี่น้องกัน หากแต่ทนุษย์ทั้งหมดทั้งโลกรวมทั้งทุกมิติ มาจากจุดเดียวกัน......(1)......และควรจะเป็นในอย่างที่ควรจะเป็น แต่ก็ไม่เป็นและกลับเพิ่มทิฐิมาแบ่งแยก
การแบ่งภพ แบ่งมิติเวลาจะระบบจักรวาลทำงานอัตโนมัติอย่างเที่ยงธรรม
เมื่อได้ตายไป(ยกเว้นถึงแก่กรรมด้วยชราภาพ) Quest ที่ตั้งไว้ยังไม่เสร็จหรือยังไม่บรรลุเป้าหมายตามที่ต้องการก็จะยังไม่พักผ่อน แต่จะเวียนกลับมาจุติใหม่ตามลำดับชั้นสายเลือด แต่ถ้าไม่มีอะไรที่เป็นห่วง/หมดห่วง เมื่อหลับก็จะเข้านิพพาน......(1)......ซึ่งเป็นการพักผ่อนเปรียบเสมือนชาร์จพลังให้ดีขึ้น
ในจักรวาลมีมากมายหลากหลายโซน กาแลกซี่ เปรียบเสมือนเซิฟเวอร์ และดาวเคราะห์ต่างๆคือ ห้อง/มิติที่แตกต่างกันไป จักรวาลนั้นมีลักษณะเหมือนฟองอากาศ ที่เล็กบางใหญ่บ้างมากมายนับไม่ถ้วน ล้วนมีเกิด มีดับเช่นกัน(bob up and down) เดี๋ยวมีเดี๋ยวไม่มีแปรผันไปเรื่อยอย่างไม่แน่นอน
สำหรับบางมิติที่ดูเหมือนจะแข็งแรงและแน่นอน ก็ขึ้นอยู่กับใจ หากแข็งมากก็จะไม่ดับแต่ถึงดับ
เมื่อฟื้นตัว/มีสติก็เริ่มใหม่และสานต่อจากเดิมจนเสร็จกิจ
ทุกครั้งที่ได้ตายไปหากกิจ(Quest) ยังไม่สำเร็จ/ยังไม่ได้ดั่งใจ ก็จะยังคงอยู่และกลับมาสานต่อตามรูปแบบ แผนที่ได้วางไว้ เพราะฉะนั้นทุกๆคนที่เกิดมาย่อมมีหน้าที่อย่างแน่นอน เพียงแต่อาจจะไม่ตรงเส้นตรงวาหรือตรงประเด็นที่ตั้งไว้เพื่อให้ กิจสำเร็จจึงจะเริ่มพัก
เมื่อจิตพัก(หลับ)จิตจะย้อนกลับ โดยการส่งข้อมูลต่างๆไปยังจิตUpline อย่างเรื่อยๆ เป็นระบบ(จิตต้นกำเนิด/จิตก่อนหน้า/จิตบรรพบุรุษ) ดังนั้นทุกการกระทำทุกพฤติกรรมทั้งความคิดและจิตใจจะถูกส่งข้อมูลไปยังจิตแรกเริ่ม แน่นอนว่าจิตแรกเริ่มได้สร้างหน่วยงานเอาไว้สำหรับเรื่องนี้โดยเฉพาะ เพื่อบำบัดจิตให้สะอาดบริสุทธิเพื่อบรรลุภาระกิจต่อไป
หากไม่เข้าใจ
เมื่อเปรียบเทียบ"จิตแรกเริ่มแรกสุด"......(1)......ที่เรียกกันว่า "พระเจ้า" (GOD/ALLAH/YAHWEH) หรือที่เรียกกันว่าจิตจักรวาล (เป็นอนันต์)
จิตสามารถแบ่งจิตต่อไปได้อย่างไม่จำกัด (ขึ้นอยู่กับความต้องการ)แต่ก็มีระยะเวลาในการทำงาน(อายุขัย)เช่นกันสำหรับการเพิ่มอายุขัยนั้น ขึ้นอยู่ที่ความต้องการของจิตนั้นๆ หากปล่อยปละละเลยทิ้งช่วงเวลาจิตก็จะหม่นหมองไป ตามสิ่งเร้าต่างๆแต่หากใส่ใจหรือมีแรงปราถนาก็จะช่วยยืดอายุการใช้งานเพิ่มเข้าไปอีก
ว่าแต่ตอนนี้ชีวิตคุณประสบความเร็จไปได้แค่ไหนแล้ว?
เคยถามตัวเองมั้ย ...ว่าต้องการอะไรในชีวิตบ้าง แล้วทำตามฝันได้ขนาดไหน?
ทีเทคโนโลยีหละกั๊กกันจัง(ใครๆก้ชอบกั๊ก)
Credit: al-Amyadh