นานแล้วที่ไม่ได้เจอ เธอคิดถึงกันหรือเปล่า (ท่อนนึงจากเพลงใหม่ของวง klear)
,,
ไม่มั่นใจว่า ได้กินบะหมี่รถเข็น หรือศัพท์ทางการแพทย์เรียก "ป๊อกๆ" แบบนี้ครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ , วันนี้มีโอกาสได้เจอ จึงไม่รอที่จะจัด
สมัยเด็กๆ รถเข็นและเสียงเรียกลูกค้าด้วยเคาะไม้ที่เป็นเอกลักษณ์แบบนี้ จะเป็นที่ฮิตในหมู่เด็กวัยเดียวกัน รองจากไอติม , บะหมี่แห้งไม่ผักกากหมูเยอะๆ คือเมนูทีเด็ดประจำตัวของเราในตอนนั้น , สมัยนั้นใครแม่มกินผักได้ ดูเป็นพวกแปลกผิดมนุษย์ เลยจำเป็นต้องแกล้งทำเป็นไม่ใส่ผัก (ทั้งที่ตัวเองกินผักกินพืชกินหญ้ากินฟางได้) เพื่อที่จะไม่แปลกจากลุ่มเพื่อนวัยเดียวกัน , สนนราคาก็ชามละไม่น่าจะเกิน15บาท แต่อิ่มแบบรูตูดแทบแตก
เอกลักษณ์ของป๊อกๆที่เป็นทีเด็ดอีกอย่าง , เราว่าคือการมีเก้าอี้พ่วงท้ายรถมาแบบนี้ คือเอาไว้ให้คนนั่งกิน เรียกได้ว่าจอดไหนก็-กันตรงนั้นไม่ต้องมีโต๊ะให้มากเรื่อง ถือโซ้ยกันสนั่น , เป็นบรรยากาศที่ทำให้การกินดูมีรสชาดขึ้นมากๆ ในบางจังหวะใสนตอนเด็กนั้น เรายังชอบไปนั่งปะปนในกลุ่มของพี่ตุ๊กๆ พี่วิน พี่แทกซี่ พี่เมสเซนเจอ ที่มานั่งเก้าอี้แบบนี้ เพื่อเพิ่มอรรถรสการกินก็มี , และด้วยวัยที่โตขึ้น ผ่านการรับผิดชอบการงานหลายอย่าง ทำให้เราและป๊อกๆไม่ได้เจอกันไปโดยปริยาย ..
,,
"ป๊อกๆๆๆ" เสียงนี้ทำเอาเราสะดุ้ง และรีบหันกลับไปมองต้นเสียง พร้อมทั้งยิ้มอย่างมีความสุขทั้งบนหน้าและในใจ , แม้จะไม่ใช่เจ้าเก่าที่เราเคยกินเหมือนตอนเด็ก แต่พ่อค้าก็พยักหน้ารับและลงมือทำเมนูที่เรารีบเดินเข้าไปสั่ง .
บะหมี่แห้งไม่ผักกากหมูเยอะๆ อยู่ในชามสีชมพูใบกลมบนมือเราที่กำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้พลาสติกตัวบางๆ ข้างรถเข็น , ไม่ใช่ว่ายังกินผักไม่ได้ ไม่ใช่ว่าหิวจนไม่สามารถซื้อใส่ถุงได้ ไม่ใช่ว่าแอบสะใจที่พ่อค้าต้องล้างชาม
แต่ความสุขที่ได้ย้อนกลับไปวัยเด็กในตอนนั้น มันกำลังฉายออกมาในทุกๆคำที่กำลังโซ๊ยเข้าไป
ป๊อกๆๆๆๆๆๆๆ *
ป๊อกๆๆ *
,,
ไม่มั่นใจว่า ได้กินบะหมี่รถเข็น หรือศัพท์ทางการแพทย์เรียก "ป๊อกๆ" แบบนี้ครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ , วันนี้มีโอกาสได้เจอ จึงไม่รอที่จะจัด
สมัยเด็กๆ รถเข็นและเสียงเรียกลูกค้าด้วยเคาะไม้ที่เป็นเอกลักษณ์แบบนี้ จะเป็นที่ฮิตในหมู่เด็กวัยเดียวกัน รองจากไอติม , บะหมี่แห้งไม่ผักกากหมูเยอะๆ คือเมนูทีเด็ดประจำตัวของเราในตอนนั้น , สมัยนั้นใครแม่มกินผักได้ ดูเป็นพวกแปลกผิดมนุษย์ เลยจำเป็นต้องแกล้งทำเป็นไม่ใส่ผัก (ทั้งที่ตัวเองกินผักกินพืชกินหญ้ากินฟางได้) เพื่อที่จะไม่แปลกจากลุ่มเพื่อนวัยเดียวกัน , สนนราคาก็ชามละไม่น่าจะเกิน15บาท แต่อิ่มแบบรูตูดแทบแตก
เอกลักษณ์ของป๊อกๆที่เป็นทีเด็ดอีกอย่าง , เราว่าคือการมีเก้าอี้พ่วงท้ายรถมาแบบนี้ คือเอาไว้ให้คนนั่งกิน เรียกได้ว่าจอดไหนก็-กันตรงนั้นไม่ต้องมีโต๊ะให้มากเรื่อง ถือโซ้ยกันสนั่น , เป็นบรรยากาศที่ทำให้การกินดูมีรสชาดขึ้นมากๆ ในบางจังหวะใสนตอนเด็กนั้น เรายังชอบไปนั่งปะปนในกลุ่มของพี่ตุ๊กๆ พี่วิน พี่แทกซี่ พี่เมสเซนเจอ ที่มานั่งเก้าอี้แบบนี้ เพื่อเพิ่มอรรถรสการกินก็มี , และด้วยวัยที่โตขึ้น ผ่านการรับผิดชอบการงานหลายอย่าง ทำให้เราและป๊อกๆไม่ได้เจอกันไปโดยปริยาย ..
,,
"ป๊อกๆๆๆ" เสียงนี้ทำเอาเราสะดุ้ง และรีบหันกลับไปมองต้นเสียง พร้อมทั้งยิ้มอย่างมีความสุขทั้งบนหน้าและในใจ , แม้จะไม่ใช่เจ้าเก่าที่เราเคยกินเหมือนตอนเด็ก แต่พ่อค้าก็พยักหน้ารับและลงมือทำเมนูที่เรารีบเดินเข้าไปสั่ง .
บะหมี่แห้งไม่ผักกากหมูเยอะๆ อยู่ในชามสีชมพูใบกลมบนมือเราที่กำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้พลาสติกตัวบางๆ ข้างรถเข็น , ไม่ใช่ว่ายังกินผักไม่ได้ ไม่ใช่ว่าหิวจนไม่สามารถซื้อใส่ถุงได้ ไม่ใช่ว่าแอบสะใจที่พ่อค้าต้องล้างชาม
แต่ความสุขที่ได้ย้อนกลับไปวัยเด็กในตอนนั้น มันกำลังฉายออกมาในทุกๆคำที่กำลังโซ๊ยเข้าไป
ป๊อกๆๆๆๆๆๆๆ *