ความทุกข์ของลูกเจ้าของกิจการ.....ความรวยที่แลกมาด้วยความสุขและอิสระ

ไม่มีไร ตั้งกระทู้อยากระบาย ยืมไอดีคนอื่นมาใช้
เกริ่นก่อน เราเป็นคนฐานะปานกลาง ค่อนไปทางดี ที่บ้านมีธุรกิจครอบครัว
ตั้งแต่เด็ก เราเห็นพ่อแม่ทำงานหนักตลอด ที่บ้านเราเป็นลูกคนจีน (วิธีเลี้ยงลูกแบบคนจีนคือ ทำดีเสมอตัว ทำชั่วโดนด่า เพราะงั้น ชีวิตนี้ อย่าหวังเลยว่าเค้าจะชมลูก)
เรารักพ่อแม่มาก อยากทำทุกอย่างให้เค้าสบาย
เราช่วยที่บ้านทำงานมาตลอด ถึงจะเล็กๆน้อยๆ แต่เรียกได้ว่าเห็นพ่อแม่ลำบากมา ที่เราทำมันน้อยมากเมื่อเทียบกับพวกท่าน
เราเป็นคนที่โตกว่าอายุจริง คือความรับผิดชอบสูง เป็นคนจริงจังกับชีวิตว่างั้น
พ่อแม่เราจะสอนเรื่องธุรกิจตลอดเวลา คือเค้าหวังว่าเราจะเป็นคนสืบทอดกิจการให้ได้ เพราะฉะนั้น เวลาทุกนาที สิ่งที่ออกจากปากพวกเค้าคือธุรกิจ
เราชินกับสิ่งพวกนี้มาตลอด

ประเด็นคือ เราค่อนข้างเป็นคนไม่ยุ่งกับไค ด้วยความที่จิงจังกับชีวิตด้วยมั้ง เพราะเราเอาเวลาทั้งหมด ไปคิดเรื่องธุรกิจ ทำให้เรามีเพื่อนน้อยมาก คนอื่นไม่คบอ่ะว่างั้น
และเวลาเพื่อนๆทำกิจกรรมกัน เรามักจะไปไม่ได้ หรือไม่ได้ไป ด้วยภาระทางบ้าน
แต่นั่นไม่สำคันเท่าไหร่ เราชินกับการอยู่เงียบๆ
มันเริ่มอึดอัดมากคือ
1.  เข้ามาเป็นเจ้านายคนอื่นเค้า แต่ในบริษัทก็มีคนเก่าแก่อยุ่ด้วย ซึ่ง เราก้อให้ความเคารพเค้าตลอด พูดจาค่ะ ทุกคำ ขนาดคนเก่าแก่ที่เป็นพนักงานยกของ หรือขับรถ เจอหน้าเรายกมือไหว้เค้าตลอด ไม่ว่าจะฐานะไหน
แต่สิ่งที่เราเจอคือ พวกเค้าตั้งแง่ ไม่ทำตาม นินทาลับหลัง
ถึงเราจะตั้งใจทำงานแค่ไหน เค้าก้อเอาเราไปว่าอยู่ดี ซึ่งเรื่องที่เค้าว่าเรา มันเป็นเรื่องงาน ที่เราเสนอว่าควรปรับเปลี่ยน เช่น การทำฐานข้อมูล ลุกค้า (ซึ่งคนแก่ๆไม่เคยทำเลย) หรือเปลี่ยนระบบคอมพิวเตอรมาคุม

2. ปันหาทุกอย่างเหล่านี้ เราเครียด และกดดัน แต่ไม่สามารถพูดออกไปได้สักคำ เพื่อนไม่มีไคเค้าเข้าใจ เพราะเพื่อนก้อมองในมุมพนักงานหมด คุยกับลูกน้องยิ่งไม่ได้สักคำ อึดอัดมาก

3. เรากลายเป็นคน สังคมไม่มี วันๆทำงาน แล้วก้อเล่นกับหมา ไม่มีเวลาไปเจอคนอื่น คนอื่นก้อค่อยๆหายไป อีกส่วนหนึ่งคือ คนรอบข้าง ฐานะต่ำกว่าเรา เกาะ-ก้อเยอะ เจอหน้าขอให้เลี้ยงข้าวตลอดเวลาโดยอ้างว่าเพราะเรารวยกว่าต้องเลี้ยง ไม่ก้อยืมเงิน เราเลยไม่ค่อยสุงสิงกับใครด้วย

4. สิ่งที่เราไม่ชอบ ทุกอย่าง ต้องทำให้ได้
เราไม่ชอบคนเยอะๆ แต่เราต้องวิ่งหาลุกค้า สังสรรค
พาลูกค้าเที่ยวต่างประเทศ บริการ ทุกอย่าง ต้องกินอาหารแบบที่เราไม่ชอบซ้ำๆ
ต้องหัดตีกอลฟ ตัวดำ
บางทีเราเหนื่อยเราก้อบ่นกับครอบครัว .....แต่เราจะโดนด่ากลับมาทุกครั้ง ว่าไม่อดทน คนอื่นเค้าลำบากกว่าเรา ลุกน้องลำบากกว่า ทำงานให้เรา

5. ชีวิตวัยรุ่นไม่มี  ไม่เคยไปเที่ยวกับเพื่อนเป็นกลุ่มใหญ่ กินข้าวคนเดียว งานอดิเรกไม่มี เพราะไม่เคยรุ้เลยว่าตัวเองชอบอะไร วันๆคิดแต่เรื่องงาน
พ่อแม่เราทำงานหนัก จนงานรับปริญญาเราเค้ายังมาไม่ได้ เราเห็นพ่อแม่คนอื่นมาให้กำลังใจลูก นั่งรอตั้งแต่ตีสี่ ส่วนเราขับรถไปเอง พ่อแม่เราไม่สนใจ ไม่มีการฉลอง  ด้วยความที่เค้าทำงานมาเยอะ มันแค่กระดาษ1ใบ (อันนี้เราแอบน้อยใจ เพราะเราอยากให้พ่อแม่ชมบ้าง 5555 )
6. วัยรุ่นส่วนใหญ่ชอบเล่นเฟสบุค เราด้วย! เพราะในเมื่อ คุยกับใครไม่ได้ บางทีมันก้อมีเรื่องอยากระบายชิมิ
แต่เรานี่ โพสไม่ได้จ้า บางทีพิมค้างไว้ แล้วนั่งลบทิ้ง โมโหเรื่องงาน ไม่ว่าจะเป็น ลุกค้า ลุกน้องทำงานสะเพร่า คนปกติคงมีที่ระบาย เรานี่เก็บไว้จนตัวจะแตก

7. ไม่ว่าจะพยายามทำงานหนักแค่ไหน ฝืนสังขารแค่ไหน ไปงานเลี้ยง เลิกสี่ห้าทุ่ม สิ่งที่ได้ยินกลับมาจากคนรอบข้างคือ
"เป็นลูกเจ้าของ สบายจะตาย"  คำนี้เราเกลียดมากเลยอ่ะ อยากจะตะโกนกลับไป ลุกน้องเลิกงานก็กลับบ้าน สบายใจไม่ต้องคิดเรื่องงาน
เราต้องนั่งดูบันชี วางแผนงานแบบไหน การตลาดทำฝั่งไหน เป็นเรื่องที่พวกเค้าไม่เคยต้องคิดต้องรับผิดชอบอ่ะ

8. ด่าใครไม่ได้ .....ถึงแม้ว่าจะโมโห พ่นควันขนาดไหน ทำได้แค่นิ่ง ตักเตือนส่วนของงาน
เพราะเด่วลุกน้องก่อหวอดใส่ไฟประท้วงพากันลาออก
อาจจะเป็นเพราะเรายังเด็กไปด้วยมั้ง ไม่นิ่งพอด้วยมั้ง ลูกน้องขายขาดทุนไปสามหมื่น ทำได้แค่บันทึกkpi เรารุ้สึกทำใจไม่ได้เท่าไหร่


ที่เราอยากระบายมันเป็นปันหาส่วนตัวเรา คนอื่นอาจจะไม่เจอ และเราไม่ได้จะแบ่งแยกอะไร
เราเข้าใจว่า ลุกน้อง พนักงานก็มีภาระ เลี้ยงครอบครัว ทุกคนมีปัญหาของตัวเอง มีหนี้สิน มีลูกต้องเลี้ยง ปันหาของคนทำงาน เราเข้าใจเพราะเราเริ่มทำมาตั้งแต่ขับรถส่งของเก็บเชค ทิ้งขยะ

แต่แค่อยากให้เข้าใจ มองมุมคนเป็นลูกเจ้าของบ้าง สิ่งที่เราทำทุกอย่าง วางระบบใหม่ ต้องเด็ดขาดบ้าง ต้องคุมค่าใช้จ่าย เพราะเราแค่อยากให้พ่อแม่มีความสุข อยากให้บริษัทโตได้ ครอบครัวอื่น คุยกันแต่เรื่องความสุข ไปเที่ยวไหนวันหยุดทำอะไร กลับบ้านมาเหนื่อยไหม แต่พ่อแม่เราคุยกันแต่เรื่องงาน เรื่องธุรกิจ ห้ามเหนื่อย ห้ามบ่น อดทน ไม่เคยมีสิ่งที่เป็นความสุขออกมา เค้าบอกว่าบริษัทล้มไม่ได้ แล้วลูกน้องจะเอาอะไรกิน เรายอมแลกความสุขของเราทุกอย่างเพื่อนรักษามันไว้
การสร้างอะไรขึ้นมาเองว่ายากแล้ว ขอบอกว่าการรักษาต่อมันยากกว่า เพราะไม่ได้เริ่มทำแต่ต้น

และการที่เราไม่เคยแสดงออกว่ามันมีความทุกข์ แบบที่คนอื่นทั่วไปเค้าทำ มันไม่ใช่เพราะเรารวยแล้วมีความสุขมาก ที่พวกคุณเห็นมันเป็นเปลือกนอก สังคมชอบตีความแบบนี้
การแสดงความทุกข์มันเป็นสิ่งที่เราทำไม่ได้ หรือไม่มีสิทธิ์จะทำเลย เพราะมันจะกระทบต่อความน่าเชื่อถือของผู้บริหารทันที ถ้าผู้บริหารมัวร้องเร่แห่กระเชออยู่ ลูกน้องที่ไหนมันจะฟัง มีแต่จะสมน้ำหน้า และไม่เคารพ

บ่นเฉยๆ ระบาย แค่เหนื่อยใจ พันทิบดีตรงที่ไม่รุ้ว่าเป็นใคร แถมยืมไอดีคนอื่นใช้ ชีวิตก็สู้กันต่อไป

พิมเพิ่ม: ขอบคุณทุกคนมากนะ ที่ให้กำลังใจ เรารุ้สึกดีขึ้น หายใจได้คล่องขึ้น
จากที่อ่านมาทั้งหมด เราขอบอกแทนทุกคนที่อยู่สถานะเดียวกับเราทั้งหมดด้วยนะ ว่าพวกเราไม่เคยยอมแพ้ ปัญหามีต้องแก้ มันคือสิ่งที่ติดตัวมา

หนี้สิน แน่นอนทุกคนที่เข้ามาจับงานนี้จะรู้ สิบล้าน ร้อยล้าน ก็ว่ากันไป ถ้าพลาด หมายถึงคุกกับชีวิตที่มีทั้งหมด
ค่าใช้จ่าย สูงมากตามสภาพ ค่ารักษาพยาบาล เลี้ยงดูครอบครัว

ความกตัญญู เก็บไว้สูงสุดเสมอ ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ หรือคนที่ทำงานให้เรา
สิ่งที่เราพยายามจะเป็น คือเป็นคนบริหารที่ดี ทำให้ทุกคนเดินไปด้วยกันได้
พลาดบ้างสะดุดบ้าง รับคำด่าแล้วมาปรับตัวเอง
ขอบคุนทั้งคำด่าและกำลังใจ
แน่นอนว่าเราจะปรับตัวเองใหม่
และจะไม่หยุดอยู่แค่นี้ จะทำให้มันไปได้ไกลกว่านี้ให้ได้

อย่างที่บอกแหละ ปัญหาของเรา ไม่ใช่เรื่องที่ใหญ่ที่สุด ปันหาของคนอื่น ก็ไม่ใช่เรื่องที่เล็กที่สุด
เราเคารพในเรื่องปันหาของทุกคน ว่ามีความสำคัญเท่าเทียมกัน
เราเคารพในการตัดสินใจของแต่ละคน เพราะเป็นสิ่งที่คุณเลือก คุนย่อมรับผลที่เลือกได้

เพียงแต่ อยากให้พื้นที่พิมฟรีตรงนี้ เป็นพื้นที่สำหรับคนต้องการที่ระบายละกัน เหมือนเราที่ตั้งกระทู้แค่เพราะอยากให้ยอมเปิดรับมุมมองที่บางคนไม่เคยเจอ แต่ตั้งแง่ ไม่พยายามเข้าใจ
เราอ่านทุกคอมเม้น เข้าใจและเห็นใจทุกคน ไม่ว่าอาชีพไหนตำแหน่งไหนก็แล้วแต่
แล้วตอนนี้ คนอื่นพยายามเข้าใจคนอื่นด้วยกันเองรึยังจ้ะ

สู้นะ!!!!
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่