เรืองไกรฟ้องเมกา ปมถอดถอนยิ่งลักษณ์

นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ คณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตนได้ส่งหนังสือถึงนายแพทริค เมอร์ฟีย์ อุปทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย เพื่อให้ความชัดเจนแก่สหรัฐอเมริกาว่า การถอดถอนน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีนั้นเป็นเรื่องการเมือง เพราะสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่มีการยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินต่อป.ป.ช.แต่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง จึงไม่ใช่ตัวแทนปวงชนชาวไทย การถอดถอนน.ส.ยิ่งลักษณ์จึงเป็นการถอดถอนนักการเมืองซึ่งมาจากการเลือกตั้งของประชาชนโดยการกระทำของนักการเมืองที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง นอกจากนี้ คำร้องขอถอดถอนของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กับอดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์นั้น เป็นคำร้องที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะมีเพียงลายมือชื่อและหมายเลขลำดับส.ส. ที่ใช้กันอยู่ในสภาผู้แทนราษฎรเท่านั้น ซึ่งไม่เป็นไปตามมาตรา 61 แห่งพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตพ.ศ. 2542 ที่ต้องระบุชื่อ ที่อยู่ หมายเลขประจำตัวประชาชนด้วย

นายเรืองไกร กล่าวอีกว่า สมาชิกสนช.ไม่สามารถจะอ้างได้ว่า กระบวนการถอดถอนน.ส. ยิ่งลักษณ์เหมือนกับกรณีที่สหรัฐอเมริกาเคยถอดถอนประธานาธิบดี 2 คนก่อนหน้านี้ เพราะกระบวนการถอดถอนนั้นแตกต่างกัน โดยกระบวนการถอดถอนของสหรัฐอเมริกานั้นมีสมาชิกที่มาจากการเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง ทั้งนี้ การบอกความจริงในเรื่องนี้เพราะตนเห็นว่าสหรัฐอเมริกาควรได้รับทราบความจริงอย่างครบถ้วน และไม่ได้มองว่าการที่สหรัฐอเมริกาอยากรู้ความจริงทั้งหมดเกี่ยวกับกระบวนการถอดถอนของสนช.นั้นจะเป็นการแทรกแซง ดังนั้น การดาหน้าออกมาตอบโต้ว่าผู้แทนของสหรัฐอเมริกาเข้ามาก้าวก่ายแทรกแซงกระบวนการภายในของประเทศไทยนั้นตนจึงไม่เห็นด้วย เพราะความจริงชัดเจนมาก่อนหน้านี้แล้วว่า กระบวนการถอดถอนน.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เป็นเพียงกระบวนการทางการเมืองที่เลือกข้าง เลือกปฏิบัติ