"นิคม"ชี้ สนช.ลังเลอำนาจถอดถอน หวั่นทำบรรทัดฐานการเมืองมีปัญหา เตรียมฟ้องศาลยธ.
เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม นายนิคม ไวยรัชพานิช อดีตประธานวุฒิสภา กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ยืนยันสำนวนถอดถอนของตน และนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานรัฐสภา ให้ที่ประชุมสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)ดำเนินการต่อไป ว่า ชัดเจนว่า ป.ป.ช.ชี้มูล ตนและนายสมศักดิ์ ไปตามรัฐธรรมนูญ 2550 ที่ถูกยกเลิกไปตามคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) อีกทั้งสนช.เองก็ยอมรับว่า การถอดถอนตามรัฐธรรมนูญที่ฉีกทิ้งไปแล้วเป็นปัญหาอย่างหนึ่ง ก็สะท้อนถึงความลังเลในอำนาจหน้าที่การถอดถอนของ สนช. เองว่ามีหรือไม่ ทั้งนี้ตนอยากให้ สนช. คำนึงถึงความเป็นธรรมสำหรับผู้ถูกชี้มูลความผิดด้วยว่า พวกเราดำเนินการแก้ไขรัฐธรรมนูญไปตามอำนาจหน้าที่ที่มี และรัฐธรรมนูญฉบับเดิมก็ถูกฉีกทิ้งไปแล้ว
นายนิคมกล่าวต่อว่านอกจากนี้ตนขอเรียกร้องให้ สมาชิกสนช. ทุกคนพิจารณาถึงกระบวนการถอดถอนให้รอบคอบตามข้อกฎหมายที่กำหนดไว้ และต้องพึงระวังให้มากที่สุดหากจะดำเนินการถอดถอนตน นายสมศักดิ์ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และอดีต ส.ว.ทั้ง 36 คน เนื่องจากการดำเนินการต่างๆของ สนช. จะกลายเป็นบรรทัดฐานใหม่แก่การเมืองไทยที่อาจมีปัญหาต่อไปอนาคต
“เบื้องต้นมองว่าหากกระบวนการถอดถอนยังเดินหน้าต่อไป ผมคงจะไม่ไปร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย แต่จะฟ้องต่อศาลยุติธรรม เพื่อให้ศาลพิจารณาว่า การยกร่างข้อบังคับ สนช. พ.ศ. 2557 โดยอาศัยเพียงกฎหมายลูกแล้วนำมาดำเนินการลงมติถอดถอน ส.ส. ส.ว.ที่ดำเนินการแก้ไขรัฐธรรมนูญไปตามอำนาจหน้าที่และมีเอกสิทธิ์คุ้มครองอย่างชอบธรรม ถือเป็นการประพฤติมิชอบของ สนช. หรือไม่ เพื่อให้นักการเมืองที่มาจาการเลือกตั้งได้รับการคุ้มครองตามกติกา” อดีตประธานวุฒิสภากล่าว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://www.matichon.co.th/index.php
เป็นกำลังใจให้คุณนิคม คุณสมศักดิ์ คุณยิ่งลักษณ์ และอดีต ส.ว. 36 ท่านกรณี ปปช.ยื่นถอดถอนค่ะ
เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม นายนิคม ไวยรัชพานิช อดีตประธานวุฒิสภา กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ยืนยันสำนวนถอดถอนของตน และนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานรัฐสภา ให้ที่ประชุมสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)ดำเนินการต่อไป ว่า ชัดเจนว่า ป.ป.ช.ชี้มูล ตนและนายสมศักดิ์ ไปตามรัฐธรรมนูญ 2550 ที่ถูกยกเลิกไปตามคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) อีกทั้งสนช.เองก็ยอมรับว่า การถอดถอนตามรัฐธรรมนูญที่ฉีกทิ้งไปแล้วเป็นปัญหาอย่างหนึ่ง ก็สะท้อนถึงความลังเลในอำนาจหน้าที่การถอดถอนของ สนช. เองว่ามีหรือไม่ ทั้งนี้ตนอยากให้ สนช. คำนึงถึงความเป็นธรรมสำหรับผู้ถูกชี้มูลความผิดด้วยว่า พวกเราดำเนินการแก้ไขรัฐธรรมนูญไปตามอำนาจหน้าที่ที่มี และรัฐธรรมนูญฉบับเดิมก็ถูกฉีกทิ้งไปแล้ว
นายนิคมกล่าวต่อว่านอกจากนี้ตนขอเรียกร้องให้ สมาชิกสนช. ทุกคนพิจารณาถึงกระบวนการถอดถอนให้รอบคอบตามข้อกฎหมายที่กำหนดไว้ และต้องพึงระวังให้มากที่สุดหากจะดำเนินการถอดถอนตน นายสมศักดิ์ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และอดีต ส.ว.ทั้ง 36 คน เนื่องจากการดำเนินการต่างๆของ สนช. จะกลายเป็นบรรทัดฐานใหม่แก่การเมืองไทยที่อาจมีปัญหาต่อไปอนาคต
“เบื้องต้นมองว่าหากกระบวนการถอดถอนยังเดินหน้าต่อไป ผมคงจะไม่ไปร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย แต่จะฟ้องต่อศาลยุติธรรม เพื่อให้ศาลพิจารณาว่า การยกร่างข้อบังคับ สนช. พ.ศ. 2557 โดยอาศัยเพียงกฎหมายลูกแล้วนำมาดำเนินการลงมติถอดถอน ส.ส. ส.ว.ที่ดำเนินการแก้ไขรัฐธรรมนูญไปตามอำนาจหน้าที่และมีเอกสิทธิ์คุ้มครองอย่างชอบธรรม ถือเป็นการประพฤติมิชอบของ สนช. หรือไม่ เพื่อให้นักการเมืองที่มาจาการเลือกตั้งได้รับการคุ้มครองตามกติกา” อดีตประธานวุฒิสภากล่าว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้