นี่เป็นการเดินทางอินเดียครั้งที่ 2 สำหรับเรา
ครั้งแรกไม่ได้เอามาแชร์ประสบการณ์ แต่ถ้ามีเวลาจะลงแน่นอน เพราะว่ามันเร้าใจมาก กับครั้งนี้ก็เช่นกัน มีเรื่องราวมากมายให้ตื่นเต้น เสียงหัวเราะ รอยยิ้ม การเถียง ได้รับอะไรใหม่ๆมีคนมากมายถามว่าไปทำไมอินเดีย สกปกจะตาย อาหารการกิน จะกินยังไง นอนยังไง ผู้คนก็อยู่แต่สลัม เรากลับชอบนะ กับสิ่งที่คนพูดแบบนี้ เรายิ่งอยากจะไปใหญ่เลย อย่าได้ชวนเพื่อนหรือใครไปเชียว ถ้าไม่ได้ชอบแนวเดียวกัน เพราะคุณจะได้คำตอบที่ชำใจ 555
การเดินทางครั้งนี้เราคุยกับเพื่อนสนิทเราว่าเราอยากไปแจกสมุด ดินสอ พวกเครื่องเขียนให้เด็กๆ ที่อยู่ในสลัม เพื่อนเราตั้งใจมาทำงานที่อินเดีย ก็เลยเข้าทาง เรามาแค่ 2 วัน เรานั่งสายการบิน Jet Airways วันศุกร์ เวลา 21.30 น. ใช้เวลาการเดินทาง 4 ชั่วโมง เรานั่งกับคนอินเดียทั้งทางด้านซ้าย-ขวา ทางซ้ายก็คุยโทรศัพท์ ทางขวาก็คุยโทรศัพท์ เข้ามานั่งจนเครื่งอออก คุยตลอดเลย พอจะนอนแอ๊ะอะไรอยู่ข้างๆเรา หันไปคือ ส้นเท้าของสาวอินเดีย มันจะเอามาพาดหัวเราอยู่ละ...
ถึงสนามบินมุมไบตอน 00.30 น. พอตรวจคนเข้าเมืองเสร็จเรียบร้อย เราก็กำลังเดินออกจากสนามบิน โอ้ววว สนามบินเปลี่ยนไป สะอาดขึ้น สวยขึ้น เป็นระเบียบมากขึ้น เราเดินออกมางงๆ นิดหน่อย เพราะว่าผู้คนนับพันๆ คนก็มารอรับเพื่อนหรือญาติก็จับจ้องมาที่เรา เอาละแล้วเราจะเจอเพื่อนเรายังไง แต่ไม่เกิน 5 นาที เพื่อนเราก็วิ่งมารับ เย้ๆๆๆ เราดีใจมาก เพราะถ้าไม่เจอเพื่อนเรา เราคงเอ่อๆ แน่นอน เอาละเราก็เดินขึ้นบันไดเลื่อน ไปชั้นบน มีแท็กซี่เพียบเลย เพื่อนเราคุยกับแท็กซี่ว่า ไปแถว Gateway Of India
Taxi : 900 รูปี
เรา : มิตเตอร์ๆๆๆ
Taxi: ไม่ได้เพราะตอนนี้ จะตี 1 แล้ว
เรา : 700 รูปี ถ้าไม่ไปก็ไปไม่เหมือนกัน เพราะเพื่อนมาเมื่อวานแค่ 700 เอง
Taxi : 800 รูปี
เราไม่พูดอะไรแล้วก็ลงจากรถเลย สรุป Taxi บอกว่า OK OK 700 รูปี 555555555+++ นี่และ India เริ่มสนุกแล้วสิ
ระยะทางก็ไกลเหมือนกันนะ เรานั่งรถประมาณ 30 นาทีได้ หรือว่าเค้าขับช้าไม่รู้นะ ตลอดทางก็บีบแตร ไฟเลี้ยวไม่เปิด อยากเลียวก็เลี้ยวเลย เรานั่งสังเกตว่ารถยนต์ 99% ทุกคนมีรอยการชน แล้วมีคำถามในใจว่า ประเทศเค้ามีประกันภัยรถยนต์เหมือนบ้านเราหรือเปล่า?? ตอนที่เรานั่งรถเราคุยกับเพื่อนเราว่า เราอยากไปผับอินเดีย เพื่อนเราเลยบอกว่าจัดไป แต่คืนนี้น่าจะไม่ทันเพราะผับผิด ตี 3 แล้วนี่ก็จะตี 2 แล้ว อีกอย่างเราแบกสมุดมาเกือบ 100 เล่ม ดินสอ ยางลบอีก คงหนักน่าดู ถ้าถือของไป เต้นไป 555+ สุดท้ายก็เลื่อนไปคืนวันพรุ้งนี้แทน เอาละถึงโรงแรมแล้ว เรามาพักที่ Strand Hotel อยู่ถนนเดียวกับ Gateway Of India ห้องพักสะอาดใช้ได้เลย สักพักเราก็เข้านอน
เราตื่นมาประมาณ 7 โมงเช้า เพราะว่าเสียงทางด้านนอกดังมากๆๆ ห้องที่เรานอนมีระเบียง ถึงเดินออกไปปุ๊ป ก็จะเจอกับผู้คนทันที ทั้ง Taxi คนเดิน แล้วยังมีงานแต่งงานด้วยนะ เป็นพื้นที่ยาวออกไปทางทะเล งานแต่งหรูหราเลยทีเดียว ประดับด้วยดอกไม้เพียบ เปิดเพลง Hip Pop ด้วย ฮ่าๆๆ เล่นทำเราตื่นเลย
พอหลังจากอาบน้ำเสร็จ เราก็เดินจะไปหาน้ำผลไม้กินซะหน่อย เดินไปเรื่อยๆ ก็เจอแล้ว นี่เลยร้านนี้ 2 วันที่เรามาอินเดีย เราต้องเดินมากินร้านนี้ มีน้ำทุกอย่าง วันนี้วันสั่งน้ำสับปะรด แล้วต่อด้วยน้ำส้ม เป็นไงบ้างค่ะร้านสวยงามไหมค่ะ ห้อยส้มจะถึงพื้นอยู่แล้ว
พอเรียบร้อยก็มุ่งหน้าไป สลัมแถวๆนั้น โดยที่เดินไปมั่วๆ ไม่ต้องมีไกด์ เราสังเกตว่าเป็นซอกเล็กๆ นั้นและคือสลัม เราเดินเข้าไปเลย บ้านเป็นห้อง สี่เหลี่ยม ไม่น่าเกิน 2*2 เมตร หรือเล็กกว่านั้นด้วยซ่ำ ผู้คนใช้ชีวิตอยู่น่าจะเป็นหมื่นๆคน บ้านติดๆกัน น้ำหยดจากที่สูงตลอดไม่รู้ว่าน้ำอะไร ฮ่าๆๆ เอาละพอเราเริ่มเห็นกลุ่มเด็กๆ เราก็วางของแล้วก็เรียกพวกเค้ามารับดินสอ สมุด เชื่อไหมว่าไม่เกิน 10 นาที เด็กๆมารุ่มเป็นร้อยๆคน เราหยิบแถบไม่ทัน ทั้งคนแก่ เด็กพึ่งหัดเดิน วัยรุ่น พ่อแม่เดินมาขอดินสอเอาไปให้ลูกๆ เราต้องบอกว่า ที่ละคนๆ ถ้ารุมแบบนี้จะไม่ให้ พวกเค้าก็ฟังนะ แล้วก็ยังมีคนแถวนั้นมาช่วยจัดการความเป็นระเบียบให้ เรารู้สึกอิ่มใจมากๆ ไม่เกิน 15 นาที ของเกือบ 100 ชุดหมดภายในพริบตา แล้วคิดว่า พรุ้งนี้ต้องหาร้านขายเครื่องเขียนแล้วซื้อไปแจกพวกเข้าอีก สักนิดหน่อย พอเราบอกว่าหมดแล้วนะค่ะ พวกเค้าบอกเราพรุ้งนี้มาอีกนะ มาทุกวันนะ เด็กๆที่นั้นน่ารักมาก รอยยิ้ม การแต่งตัว คือเด็กจริงๆ
พอเสร็จภารกิจ เราก็ออกจากสลัม เดินตามทางไปเรื่อยๆ ก็แวะร้านขายชา ราคา 10 รูปี ครั้งแรกที่เรามาอินเดีย เราไม่ค่อยชอบชานะ เพราะว่ามันมีรสชาติเผ็ด แล้วเราก็ไม่ได้สังเกตว่าเค้าใส่อะไร พึ่งมารู้เอาวันนี้ เค้าสาธิตวิธีการทำให้เราดู แล้วก็ชงให้เราดิ่ม มันร้อนมากเลย คนแถวนั้นเดินมาแล้วหยิบแก้วเราไปเฉย เราก็ งง สรุปเค้าเปลี่ยนแก้วให้เรา โดยวิธีการสลับไปมา ให้ความร้อยหายไป โอ้วววว ฉันรักอินเดียจัง เรารีบกล่าวคำขอบคุณ แล้วเค้าก็ส่ายๆหน้า แบบอินเดีย
เราเดินไปเรื่อยๆ ระหว่างทางเป็นร้านทำรองเท้า ร้านขายผัก ร้านขายผลไม้ ขายปลา ขายถั่ว ขายสารพัด เราเดินแล้วเห็นร้านหนึ่งทำอะไรไม่รู้ เราเลยถามว่าขอนั่งด้วยได้ไหม เค้ารีบตอบว่าได้ แล้วโชว์ให้เราดูว่าเค้ากำลังทำอะไร เหมือนเค้ากำลังบดข้าว แบบละเอียด เค้าบอกให้เรามาถ่ายรูปคู่กับเค้า เราเลยจัดไป จากนั้นก็เห็นร้านขายขนมเหมือนโดนัท คนรุมซื้อกันเยอะมากเหมือนแจกฟรี เราก็เลยไปรอซื้อบ้าง โอ้วว มันอร่อยดีนะ เหมือนมันบดเอามาทอด เราถามเจ้าของร้านว่ามันเรียกว่าอะไร เค้าบอกว่า VADA มันราดด้วยน้ำสีขาวแล้วสีเขียว อร่อยเชียวล่ะ
[SR] อินเดียไปครั้งเดียวไม่พอ
ครั้งแรกไม่ได้เอามาแชร์ประสบการณ์ แต่ถ้ามีเวลาจะลงแน่นอน เพราะว่ามันเร้าใจมาก กับครั้งนี้ก็เช่นกัน มีเรื่องราวมากมายให้ตื่นเต้น เสียงหัวเราะ รอยยิ้ม การเถียง ได้รับอะไรใหม่ๆมีคนมากมายถามว่าไปทำไมอินเดีย สกปกจะตาย อาหารการกิน จะกินยังไง นอนยังไง ผู้คนก็อยู่แต่สลัม เรากลับชอบนะ กับสิ่งที่คนพูดแบบนี้ เรายิ่งอยากจะไปใหญ่เลย อย่าได้ชวนเพื่อนหรือใครไปเชียว ถ้าไม่ได้ชอบแนวเดียวกัน เพราะคุณจะได้คำตอบที่ชำใจ 555
การเดินทางครั้งนี้เราคุยกับเพื่อนสนิทเราว่าเราอยากไปแจกสมุด ดินสอ พวกเครื่องเขียนให้เด็กๆ ที่อยู่ในสลัม เพื่อนเราตั้งใจมาทำงานที่อินเดีย ก็เลยเข้าทาง เรามาแค่ 2 วัน เรานั่งสายการบิน Jet Airways วันศุกร์ เวลา 21.30 น. ใช้เวลาการเดินทาง 4 ชั่วโมง เรานั่งกับคนอินเดียทั้งทางด้านซ้าย-ขวา ทางซ้ายก็คุยโทรศัพท์ ทางขวาก็คุยโทรศัพท์ เข้ามานั่งจนเครื่งอออก คุยตลอดเลย พอจะนอนแอ๊ะอะไรอยู่ข้างๆเรา หันไปคือ ส้นเท้าของสาวอินเดีย มันจะเอามาพาดหัวเราอยู่ละ...
ถึงสนามบินมุมไบตอน 00.30 น. พอตรวจคนเข้าเมืองเสร็จเรียบร้อย เราก็กำลังเดินออกจากสนามบิน โอ้ววว สนามบินเปลี่ยนไป สะอาดขึ้น สวยขึ้น เป็นระเบียบมากขึ้น เราเดินออกมางงๆ นิดหน่อย เพราะว่าผู้คนนับพันๆ คนก็มารอรับเพื่อนหรือญาติก็จับจ้องมาที่เรา เอาละแล้วเราจะเจอเพื่อนเรายังไง แต่ไม่เกิน 5 นาที เพื่อนเราก็วิ่งมารับ เย้ๆๆๆ เราดีใจมาก เพราะถ้าไม่เจอเพื่อนเรา เราคงเอ่อๆ แน่นอน เอาละเราก็เดินขึ้นบันไดเลื่อน ไปชั้นบน มีแท็กซี่เพียบเลย เพื่อนเราคุยกับแท็กซี่ว่า ไปแถว Gateway Of India
Taxi : 900 รูปี
เรา : มิตเตอร์ๆๆๆ
Taxi: ไม่ได้เพราะตอนนี้ จะตี 1 แล้ว
เรา : 700 รูปี ถ้าไม่ไปก็ไปไม่เหมือนกัน เพราะเพื่อนมาเมื่อวานแค่ 700 เอง
Taxi : 800 รูปี
เราไม่พูดอะไรแล้วก็ลงจากรถเลย สรุป Taxi บอกว่า OK OK 700 รูปี 555555555+++ นี่และ India เริ่มสนุกแล้วสิ
ระยะทางก็ไกลเหมือนกันนะ เรานั่งรถประมาณ 30 นาทีได้ หรือว่าเค้าขับช้าไม่รู้นะ ตลอดทางก็บีบแตร ไฟเลี้ยวไม่เปิด อยากเลียวก็เลี้ยวเลย เรานั่งสังเกตว่ารถยนต์ 99% ทุกคนมีรอยการชน แล้วมีคำถามในใจว่า ประเทศเค้ามีประกันภัยรถยนต์เหมือนบ้านเราหรือเปล่า?? ตอนที่เรานั่งรถเราคุยกับเพื่อนเราว่า เราอยากไปผับอินเดีย เพื่อนเราเลยบอกว่าจัดไป แต่คืนนี้น่าจะไม่ทันเพราะผับผิด ตี 3 แล้วนี่ก็จะตี 2 แล้ว อีกอย่างเราแบกสมุดมาเกือบ 100 เล่ม ดินสอ ยางลบอีก คงหนักน่าดู ถ้าถือของไป เต้นไป 555+ สุดท้ายก็เลื่อนไปคืนวันพรุ้งนี้แทน เอาละถึงโรงแรมแล้ว เรามาพักที่ Strand Hotel อยู่ถนนเดียวกับ Gateway Of India ห้องพักสะอาดใช้ได้เลย สักพักเราก็เข้านอน
เราตื่นมาประมาณ 7 โมงเช้า เพราะว่าเสียงทางด้านนอกดังมากๆๆ ห้องที่เรานอนมีระเบียง ถึงเดินออกไปปุ๊ป ก็จะเจอกับผู้คนทันที ทั้ง Taxi คนเดิน แล้วยังมีงานแต่งงานด้วยนะ เป็นพื้นที่ยาวออกไปทางทะเล งานแต่งหรูหราเลยทีเดียว ประดับด้วยดอกไม้เพียบ เปิดเพลง Hip Pop ด้วย ฮ่าๆๆ เล่นทำเราตื่นเลย
พอหลังจากอาบน้ำเสร็จ เราก็เดินจะไปหาน้ำผลไม้กินซะหน่อย เดินไปเรื่อยๆ ก็เจอแล้ว นี่เลยร้านนี้ 2 วันที่เรามาอินเดีย เราต้องเดินมากินร้านนี้ มีน้ำทุกอย่าง วันนี้วันสั่งน้ำสับปะรด แล้วต่อด้วยน้ำส้ม เป็นไงบ้างค่ะร้านสวยงามไหมค่ะ ห้อยส้มจะถึงพื้นอยู่แล้ว
พอเรียบร้อยก็มุ่งหน้าไป สลัมแถวๆนั้น โดยที่เดินไปมั่วๆ ไม่ต้องมีไกด์ เราสังเกตว่าเป็นซอกเล็กๆ นั้นและคือสลัม เราเดินเข้าไปเลย บ้านเป็นห้อง สี่เหลี่ยม ไม่น่าเกิน 2*2 เมตร หรือเล็กกว่านั้นด้วยซ่ำ ผู้คนใช้ชีวิตอยู่น่าจะเป็นหมื่นๆคน บ้านติดๆกัน น้ำหยดจากที่สูงตลอดไม่รู้ว่าน้ำอะไร ฮ่าๆๆ เอาละพอเราเริ่มเห็นกลุ่มเด็กๆ เราก็วางของแล้วก็เรียกพวกเค้ามารับดินสอ สมุด เชื่อไหมว่าไม่เกิน 10 นาที เด็กๆมารุ่มเป็นร้อยๆคน เราหยิบแถบไม่ทัน ทั้งคนแก่ เด็กพึ่งหัดเดิน วัยรุ่น พ่อแม่เดินมาขอดินสอเอาไปให้ลูกๆ เราต้องบอกว่า ที่ละคนๆ ถ้ารุมแบบนี้จะไม่ให้ พวกเค้าก็ฟังนะ แล้วก็ยังมีคนแถวนั้นมาช่วยจัดการความเป็นระเบียบให้ เรารู้สึกอิ่มใจมากๆ ไม่เกิน 15 นาที ของเกือบ 100 ชุดหมดภายในพริบตา แล้วคิดว่า พรุ้งนี้ต้องหาร้านขายเครื่องเขียนแล้วซื้อไปแจกพวกเข้าอีก สักนิดหน่อย พอเราบอกว่าหมดแล้วนะค่ะ พวกเค้าบอกเราพรุ้งนี้มาอีกนะ มาทุกวันนะ เด็กๆที่นั้นน่ารักมาก รอยยิ้ม การแต่งตัว คือเด็กจริงๆ
พอเสร็จภารกิจ เราก็ออกจากสลัม เดินตามทางไปเรื่อยๆ ก็แวะร้านขายชา ราคา 10 รูปี ครั้งแรกที่เรามาอินเดีย เราไม่ค่อยชอบชานะ เพราะว่ามันมีรสชาติเผ็ด แล้วเราก็ไม่ได้สังเกตว่าเค้าใส่อะไร พึ่งมารู้เอาวันนี้ เค้าสาธิตวิธีการทำให้เราดู แล้วก็ชงให้เราดิ่ม มันร้อนมากเลย คนแถวนั้นเดินมาแล้วหยิบแก้วเราไปเฉย เราก็ งง สรุปเค้าเปลี่ยนแก้วให้เรา โดยวิธีการสลับไปมา ให้ความร้อยหายไป โอ้วววว ฉันรักอินเดียจัง เรารีบกล่าวคำขอบคุณ แล้วเค้าก็ส่ายๆหน้า แบบอินเดีย
เราเดินไปเรื่อยๆ ระหว่างทางเป็นร้านทำรองเท้า ร้านขายผัก ร้านขายผลไม้ ขายปลา ขายถั่ว ขายสารพัด เราเดินแล้วเห็นร้านหนึ่งทำอะไรไม่รู้ เราเลยถามว่าขอนั่งด้วยได้ไหม เค้ารีบตอบว่าได้ แล้วโชว์ให้เราดูว่าเค้ากำลังทำอะไร เหมือนเค้ากำลังบดข้าว แบบละเอียด เค้าบอกให้เรามาถ่ายรูปคู่กับเค้า เราเลยจัดไป จากนั้นก็เห็นร้านขายขนมเหมือนโดนัท คนรุมซื้อกันเยอะมากเหมือนแจกฟรี เราก็เลยไปรอซื้อบ้าง โอ้วว มันอร่อยดีนะ เหมือนมันบดเอามาทอด เราถามเจ้าของร้านว่ามันเรียกว่าอะไร เค้าบอกว่า VADA มันราดด้วยน้ำสีขาวแล้วสีเขียว อร่อยเชียวล่ะ