[CR] เกาหลี 6วัน 5คืน ด้วย2ขาพาตะลุย ไม่ง้อทัวร์ อิอิ

สวัสดีครับ นี่เป็นรีวิวแรกของผมหากผิดพลาดตรงไหนต้องขออภัยด้วยครับ เพียงแค่อยากบันทึกเรื่องราวการไปเที่ยวของตัวเอง ไว้อ่านในเวลาที่คิดถึง เป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆที่สนใจ และเป็นการตอบแทน เพราะทริปนี้หลายๆข้อมูลที่ผมใช้ก็ล้วนแต่ได้รับคำปรึกษาที่ดีจากทุกคนในนี้ วันนี้ผมจึงมาเขียนบ้าง เผื่อจะเป็นประโยชน์ และมีหลายอันที่ผมเองก็ยังไม่เข้าใจ รบกวนผู้รู้ช่วยสอดแทรกข้อมูลเพิ่มเติมให้ด้วยนะครับ

เริ่มเลยนะครับ
การเดินทางครั้งนี้ เริ่มจากการชักชวนของน้องสาวของเพื่อสนิทผมคนหนึ่ง "พี่พวกเราไปเที่ยวเกาหลีกันมั้ย? ไปแบบไปเองไม่ง้อทัวร์"
เรื่องทั้งหมดก็เริ่มขึ้นครับ พวกเราก็รวมตัวเพื่อนที่จะไปด้วยกันทั้งหมดได้ 9 คน เป็นกลุ่มวัยรุ่นตอนปลาย ปลายมากๆ(29-30++) 8 คน และคุณแม่เพื่อนอีก 1 คน(สาวใสวัยเกือบเกษียณ) ผมขอข้ามเรื่องการจองเครื่อง และการจองที่พักนะครับ เพราะน้องเป็นคนจัดการ สรุปเราได้ตั๋วเดินทางวันที่ 19 มกราคม 2558 ของ Air Asia X ออกเดินทาง 8.05(มั้งนะ) ถึงเกาหลี 15.30 โดยประมาณ


พวกเราจองที่พักที่ Namsan Guesthouse 2 ครับ แถวมยองดง ผมชอบมากๆเลย มารู้เอาวันท้ายๆว่า พักที่นี่สามารถเดินเที่ยวได้หลายที่เลย โดยไม่จำเป็นต้องใช้บริการรถไฟใต้ดิน เดินแค่ 5-10 นาทีก็ถึงสถานที่น่าเที่ยวแล้ว เช่น ตลาดนัมแดมุน ของถูกดีครับ ผัก ผลไม้สด ช่วงนี้ก็สตรอเบอรี่เลยครับ ลูกเท่าเมาส์คอมฯแพ็คละ 6000-8000w แนะนำให้ไปซื้อตอนดึกๆนะครับ ถูกสุดๆ เหมือนเขาลดราคาก่อนปิดร้าน ส่วนสตรอเบอรี่ลูกเล็กๆ ก็ราคาลดหลั่นกันไปครับ

ของฝาก ของกิน ร้านอาหารราคาไม่แพง เย็นๆมีร้านนั่งเต้นท์เหมือนในซีรี่ด้วยครับ  ย่านพระราชวังถ็อกซู วังเคียงฮุย พิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งชาติถ็อกซู ฯลฯ

ก่อนไปผมก็เหมือนๆกับทุกคน(?) หาอ่านข้อมูลจากหลายๆแหล่ง ลงทุนซื้อหนังสือ นี่คือคำภีไบเบิ้ลของผมครับ 2 เล่มนี้เจ๋งจริงๆ ใครที่คิดจะไปเที่ยวเกาหลีด้วยตัวเอง ผมแนะนำให้ไปลองหาซื้อมาอ่านดูนะครับ อธิบายค่อนข้างง่ายครับ จัด route ให้เสร็จสรรพ (อันนี้ผมไม่ได้ค่านายหน้าจากเขานะครับ) อีกเล่มเป็นหนังสือสอนพูด หรือขี้เกียจพูดก็ชี้ให้คนเกาหลีอ่านสิ่งที่เราต้องการจะสื่อได้เลยครับ มีภาพการ์ตูนด้วยครับ แต่เล่มนี้ไม่ค่อยได้ใช้เท่าไร ... เคยมีคนบอกว่าคนเกาหลีไม่พูดอังกฤษ แต่แปลกมากครับ ผมไปทริปนี้ ผมว่าสื่อสารได้ในระดับนึงเลยครับ บางคนภาษาอังกฤษไฟแล็บเลย


เรื่องเสื้อผ้ากันหนาว : ช่วงที่ผมไป อากาศติดลบครับ -7 ถึง 2 องศาc และ 6 องศาในช่วงบ่ายที่มีแดดนะครับ (มาแป๊บบบเดียวก็หนาวอีกแล้ว) สังเกตว่าช่วงซัก 17.45-18.00 เป็นต้นไป ท้องฟ้ามืดเร็วและมีลมครับ หนาวสะท้านเลย ผมใส่ลองจอร์น 1 ชั้นตามด้วยเสื้อผ้าปกติ เสื้อกันหนาว ถุงเท้า2ชั้น ถุงมือ ที่ปิดหู และผ้าปิดปาก(ใช้เป็นบางครั้งเฉพาะตอนหนาวจริงๆครับ สังเกตคนที่นี่ถ้าไม่ใช่อาจุม่า หรือคุณลุงแก่ๆ ก็ไม่ค่อยมีใครใส่กันครับ 5555)
ปล. วันเดินทางจากบ้านเรา ไม่ต้องจัดเต็มนะครับ เดี๋ยวเป็นลมบนเครื่อง ใส่เสื้อผ้าสบายๆธรรมดาๆ เสื้อหนาวเตรียมไว้ แต่ยังไม่ต้องใส่ก็ได้ครับ ร้อนสุดๆเลยบนเครื่อง

เรื่อง ตม. : อย่าวิตกจริตจนเกินไปครับ ผมกลัวจนมืองิเปียกไปหมด เตรียมสาระพัดตามที่อ่านแล้วคนนั้นคนนี้แนะนำ เอาเข้าจริงๆ ผ่านเฉยเลย ไม่ได้ควักอะไรที่เตรียมมาเลยซักอย่าง (พาสฯผมขาวสะอาดมากครับ ไม่เคยไปไหนมาก่อน ครั้งนี้ครั้งแรก) แต่แนะนำทุกคนที่ไปครั้งแรกแบบผม หรือกลัว ตม. จัดๆ ให้แต่งตัวดีๆ อย่าทำหน้ากรรมกร หรือแต่งตัววาบหวามเป็นใช้ได้ครับ คือมาเที่ยวเน้อะ ก็แต่งเนื้อแต่งตัวนิดนึงแต่พองามนะครับ .... เตรียมเอกสารที่จำเป็นไว้เผื่อฉุกเฉินนิดหน่อยก็พอครับ ถ้าเราไปเพื่อเที่ยวจริงๆ ไม่ต้องกลัวครับ แต่ของผมตอนนั้นนิ กลัวจนเกร็งไปหมด แถมพี่ ตม.แถวผมนิหน้านิ่งมาก คนก่อนหน้าผม 2 คน โดนเชิญเข้าห้องดับจิต ผมนี่เหงือไหลพรากเลย แต่สุดท้ายก็ผ่านกันแบบงงๆ และรวดเร็วทั้ง 9 คน มีลุ้นนิดหน่อยคือน้องในกลุ่มมีเปลี่ยนชื่อมา ประกอบกับแสกนนิ้วไม่ค่อยจะผ่าน โดนลองหลายทีเลยลุ้นกันใหญ่

การเดินทางสู่ที่พัก :
พอผ่านปุ๊บ ก็ร่วมๆ 16.30 ละมั้งครับประมาณนั้น เราก็มุ่งหน้าไปหาซื้อบัตร T-Money กันเลยครับ บัตรถ้าซื้อที่สนามบินจะแพงกว่าข้างนอก 500wครับ ผมซื้อใบนี้มา 3000 เติมเงินไปอีก 10000w เพื่อใช้จ่ายค่ารถไฟครับ

ตอนนี้ละครับ เกิดความคิดเห็นเป็น 2 ฝ่าย กลุ่มน้องกับแม่ เขาเคยมาแล้ว และกระเป๋าใหญ่หิ้วไม่ไหวกัน กลุ่มนี้เลยเลือกเดินทางด้วย Airport Limousine ครับ  ส่วนกลุ่มผม 3 คนเน้นประหยัด และอยากผจญโลกครับเลยเลือกเดินทางด้วย AREX รถไฟแอร์พอร์ต ต่อด้วย subway ด้วยเส้นทาง Incheon Int'l Airport ปลายทาง Myeong-dong *แนะนำให้โหลด app Subway Korea ผมใช้อันนี้นะครับ ดีมาก มันบอกสถานี สถานีที่ต้องเปลี่ยน เวลาที่ใช้เดินทาง ค่าใช้จ่าย ฯลฯ ก่อนเดินทางจริงลองโหลดมาเล่นดูก่อนก็ดีนะครับ

พอตัดสินใจได้แล้ว ผมกับน้องก็แยกกันออกมาจากกลุ่มครับ เดินตามป้ายมาเรื่อยๆครัย แหงนหน้ามองหาป้ายที่บอกว่าไป รถไฟอะครับ เดินไปเรื่อยๆจะเจอเค้าเตอร์ขายตั๋วสำหรับคนที่จะเดินทางด้วย รถไฟแบบด่วน อ่อ... ลืมบอกไป AREX จะมี2 แบบนะครับ คือแบบธรรมดา และแบบด่วน (Express) จะใช้เวลาในการเดินทางต่างกัน 10 นาทีครับ ถ้าหลงแวะเข้าไปถามที่เค้าเตอร์ น้องพนักงานหน้าสวยก็จะพยายามขายตั๋วแบบ Express ให้เรา ช่วงที่ผมไปมีโปรฯด้วยนะ จากปกติ 8000w เหลือ 6000wนะครับ ถ้าฟังไม่ผิด(คือภาษาอังกฤษผมก็เกือบพิการอยู่แล้ว ไม่เก่งเท่าไรครับ ฟังรู้เรื่องบ้าง ไม่รู้บ้าง ก็เดาๆมั่วๆไป) ผมก็หลงเข้าไปถามทางเขาครับ ตามประสาคนต้องการความชัวร์ คุยกันอยู่นานที่สุดผมไม่ยอมซื้อและยืนยันว่าจะไปแบบธรรมดา ไปทางไหน... สาวเจ้าก็ทำหน้าเจื่อนๆ แล้วชี้ไปด้านหลัง ประมาณว่าทางนั้นแหละ ไป๊ๆ  เหม็นสาบคนจน 5555+ (โทษนะจ้ะน้อง ถ้าเป็นผู้ชายขายพี่อาจจะซื้อก็ได้ แฮ่...) ก่อนเข้าสถานีเราต้องเอาบัตร T-money ไปแปะที่เครื่องผ่านประตูเหมือนรถไฟฟ้าบ้านเราอะนะครับ

บรรยากาศบนรถไฟ  ที่นั่งเพียบ!! (เพราะเราเป็นต้นทาง)

ซักพักเริ่มมีคนตามมานั่งเยอะขึ้น แต่ก็ไม่ถึงกับแนนนะครับ เบาะอุ่นดีด้วย มีฮีตเตอร์ แหะๆ สังเกตดูมีทั้งชาวต่างชาติ และเกาหลี ปะปนกันไป
รถไฟก็ทันสมัยดีครับ มีไฟกะพริบบนแผนที่ และหน้าจอประกาศสถานี หลากหลายภาษา จีน ญี่ปุ่น เกาหลี อังกฤษ (แต่ไม่มีไทย555+) ไม่หลงอย่างแน่นอนครับ รถไฟขบวนนี้วิ่งบนดินนะครับ ก็จะได้เห็นทิวทัศน์ตลอดทางครับ

ผ่านไปซัก 50 นาทีก็ถึงสถานีโซล Seoul station ทีนี้ก็ต้องลงรถไฟครับเพื่อต่อ Subway ไป Myeong-dong มันก็จะมี 2 ฝั่งให้ขึ้นเหมือนๆกับบ้านเราอะนะครับ มองหาป้ายที่บอกให้ไป Transfer สาย4 สีฟ้านะครับ ก็เดินๆตามป้ายไปก็จะเจอสถานีครับ(กว่าจะเจอก็เดินกันเหนื่อยเลย แบกกระเป๋าขึ้นลงบันไดช่วงสั้นๆครับ บางช่วงไม่มีบันไดเลื่อน อาจมีลิฟนะครับ แต่ขี้เกียจหา) จาก Seoul ไป Myeong-dong ก็จะผ่านอีกสถานีนึงก่อนคือ Hoehyeon(Namdaemun Market) No.425 ก็ขึ้ยฝั่งนั้นไปครับ

ทีนี้บนรถก็จะแน่นไปด้วยผู้คนละครับ อารมณ์สถานีสยามบ้านเรา ก็เบียดๆไปครับ นักท่องเที่ยวแบบเราเยอะแยะ

แป๊บเดียวก็ถึงMyeong-dong ครับ เดินออกประตู3มาเหลียวซ้ายเจอ 7-11 ก็เดินไปหาเลยครับ เดินตามถนนด้านหน้า 7 ขึ้นไปเรื่อยๆซัก 500เมตร Namsan Guesthouseก็จะอยู่ซ้ายมือครับ

อันนี้ถ่ายตอนเช้าอีกวันครับ ตอนไปถึงทั้งหนาว ทั้งมืด ไม่มีอารมณ์เลยครับ รีบเช็คอิน เข้าที่พัก แล้วไปหามื้อเย็นกินกันที่ในตลาดมยองดง โดยอาหารมื้อแรกของเราเป็น DAK GALBI (ทัคคาลบี้) ร้านเด็ดในตลาดเมียงดงครับ  ร้าน Yoogane(유가네 닭갈비)


พออิ่มก็เดินย่อยกัน แล้วเข้าที่พักครับ วันนี้ขอจบเท่านี้ก่อนนะครับ หิวมากแล้ว นั่งทำรูปแล้วเห็น ทัคคาลบี้ แล้วหิวเลย.... ขอไปหาอะไรที่ใกล้เคียง เช่นบะหมี่กึ่งฯทานก่อนนะครับ (เนื่องจากกระเป๋าฉีกไปแล้ว ช่วงนี้ต้องประหยัดรัดเข็มฯ) เดี๋ยวพรุ่งนี้มีเวลาจะมารีวิว วันที่ 2 (20 มกราคม2558) ต่อนะครับ