โบเดิม คนเดียว “เที่ยวภูกระดึง เลยเถิดถึง เชียงคาน”

กระทู้สนทนา
โบเดิม คนเดียว “เที่ยวภูกระดึง เลยเถิดถึง เชียงคาน”
21-25 ธ.ค. 2557
---------------------------------------------
IG : BODERMDERM
FB : https://www.facebook.com/bb.bobbaby
---------------------------------------------


เป็นการเขียนกระทู้ใน pantip ครั้งแรก
ถ้าผิดพลาดประการใด ต้องขออภัยมาณที่นี้ด้วยน้า

ทริปนี้...เป็นการไปภูกระดึง แบบที่ไม่คาดคิดว่าจะเลยเถิดไปถึงเชียงคาน และไม่คาดคิดว่าจะได้ไปเหมือนกัน
เพราะว่าก็เป็นผู้หญิงคนเดียว กลัวอันตราย
แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคแต่อย่างใด เพราะเราคิดว่าเราคงดูแลตัวเองได้

อะก็เลยเริ่มมมม!! หาข้อมูลว่าต้องตรียมตัวยังไงบ้าง และเก็บกระเป๋าพร้อมออกเดินทาง
ที่มีติดตัวไป...มีแค่เป้หนึ่งใบ ไอโฟนหนึ่งเครื่อง 555555

- ออกเดินทาง (จากหมอชิต – ผานกเค้า)
ออกเดินทางจากหมอชิต  20-12-57 เวลา : 21.30 น.
โดย “ภูกระดึงทัวร์” ราคา 391 บาท

ตอนนี้รู้สึกตื่นเต้นมาก คิดในใจว่าจะรอดไหมเนี่ยยยย
ขึ้นรถมาปุ๊ปก็เจอ คนที่คิดว่าน่าจะไป ภูกระดึง เหมือนกันมากันเป็นกลุ่มเชียว

และแล้วก็หลับ ตื่นมาอีกทีอ้าววโคราชแล้ววว เป็นไงล่ะตื่นเต้นมาก

** วันที่ 21 ธันวาคม 2557 **
--------------------------------------------------------------------------------------
ถึง ผานกเค้า (ร้านเจ๊กิม) 21-12-57 เวลา : 05.00 น.

ถึงแล้วเว้ยย ร้านเจ๊กิมในตำนาน
เสียงต้อนรับขึ้นมา “เชิญด้านในได้นะครับ มีห้องน้ำไว้บริการครับ เชิญอาบน้ำทำธุระได้เลยครับ”
เราก็จัดแจงกินข้าว ซื้อน้ำเก็บใส่กระเป๋า เพราะรู้มาว่าน้ำบนภู แพงม๊าก

ประมาณ 06.45น. ออกเดินทางจากร้านเจ๊กิม ไปภูกระดึง ด้วยรถแดง เพราะภูให้ขึ้นได้ตั้งแต่ 07.00 น.
ราคา 30 บาท

เป็นไงล่ะทีนี้ รู้สึกเริ่มตื่นเต้นกับอากาศ ถึงกับเล็บม่วงเลยทีเดียวว

ถึงแล้วววภูกระดึง

-ติดต่อซื้อบัตรเข้าอุทยาน เรียบร้อยได้มาในราคา 20 บาทเท่านั้นนน !! ป้าบอกว่ามาคนเดียวเอาไป 20 นะลูกก
-ติดต่อเรื่องเต้นท์ 2 คืน (คืนละ 225 บาท)
-ติดต่อเรื่องลูกหาบ ที่อาคาร 4 (อาคารรับ-ส่งสัมภาระ) คิดเป็นกิโลละ 30 บาท ถือว่าคุ้มมม แบกขึ้นไปเองก็คงไม่ไหว 555

จัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย

เริ่มปฏิบัติการอันหฤโหด ได้เริ่มขึ้นแล้วววว !!
ขึ้นภูเวลา 07.30 น. ถือเป็นฤกษ์งามยามดี พระอาทิตย์สาดแสงสวยงาม ไม่เกี่ยว 5555
อะเริ่มมาชมความงามของภูกระดึง กับเราเล้ยย

ฮะ ! อะไรนะ ใช้เวลาโดยประมาณ 3-5 ชม. โอ้วววไม่…
ระยะทางทั้งหมด 9 กิโล เราจะไหวไหมมม นึกในใจ !!
แต่ก็ได้รวบรวมความอยากที่อยากจะรู้ว่า ไอ้เจ้าภูกระดึงมันมีดีอะไรนักหนา
ทำไมต้องมาสัมผัสให้ได้สักครั้งในชีวิต

ระหว่างทางเดินขึ้นไป แค่ซำแรก ขอ ย้ำ นะ ว่า ซำแรก  แค่ทางเดินไป "ซำแฮก" เท่านั้น...
ทำให้เกิดการตั้งคำถามกับตัวเองมากมายเลยแหละ เช่น
เห้ย! กูมาทำอะไร? วะเนี่ย นี่แค่กิโลแรก ยังเหนื่อยขนาดนี้ เมื่อไหร่จะถึง? 5 ชั่วโมงจะเอาอยู่ไหม? ยิ้มโคตรเหนื่อยเลย ชันก็ชัน
โอ้ย!! เปลี่ยนใจกลับได้ไหม? คิดถูกแล้วใช่ไหม?
แต่ว้าวุ่นได้สักพัก ก็มีกำลังใจบวกกับเราจะไม่ทิ้งความตั้งใจของเราแน่ๆ
หึหึหึ เอาวะ... “ความไกลวัดกันที่หัวใจ ไม่ใช่ระยะทาง” เย๊......เราจะไปต่อ

เบอร์ติดต่อแจ้งเหตุ ขอความช่วยเหลือนะ

อุ๊ยเห็นไหมม !? พี่ลูกหาบยังฟิตขนาดนี้
เราอายุยัง 20 กว่าๆเอง ทำไมจะไปไม่ถึง อ๊ะ..รู้สึกหึกเหิมขึ้นมาทันที


ลูกหาบคนนึง
แบกของประมาณร่วมๆ 40 กิโลได้ โคตรเฟี๊ยวเลยยย ใจพี่โคตรเท่


อะตามมาเรื่อยๆ นะ กำลังเริ่มสนุกเลย

ย่างเข้าฤดูหนาวแล้ว ต้นไม้ก็ผลัดใบเป็นธรรมดา
ตอนแรกก็ตั้งใจไว้จะถ่ายรูปกลับมาให้เยอะที่สุด เดินขึ้นมาชักไม่แน่ใจ
แค่เอาตัวเองรอดขึ้นไปคงจะเป็นอะไรที่สุดยอดแล้ว

อ้าวววววววววว เห้ยยย ! ถึงแล้ว “ซำแฮก” กิโลที่ 1

พักกินไข่ปิ้งซะหน่อยย ถือว่าเป็นอาหาร ยอดฮิตของที่นี่เลยนะ มีขายทุกร้าน ทุกซำ

ผ่านซำแรกมาก็รู้สึกมีกำลังใจขึ้นมา เพราะเขาว่ากันว่า
จะมีซำแฮก และหลังแป ที่จะค่อนข้างชัน ซำอื่นก็สบายๆ

ดูความชันได้ วัดกันเห็นๆ ผ่านด่านหินมาแล้ว

ระหว่างทาง ก็ถามมาตลอดว่านี่กี่โลแล้วคะ
อีกนานไหมกว่าจะถึง
ลุงลูกหาบบอกว่าไม่ไกลๆ อีก 3 บันไดเหล็กเองลูก เดี๋ยวก็ถึงแล้ว

โห ! นี่หรอ... บันไดเหล็กที่เขาว่ากัน มันไม่ง่ายเลยนะที่จะมาถึง มันทั้งสูงทั้งชัน
อะยังไงเราก็เดินทางมาถึงด่านเหล็กแรกแล้วว
ตลอดระยะทางที่ผ่านมาจนมาถึงครึ่งทาง ก็เพื่อนที่กำลังลงจากภู คอยให้กำลังใจตลอดเลยนะว่า
“อีกนิดเดียว จะถึงแล้วนะ” ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกัน
มันคงอาจจะใกล้ถึงจริงๆ หรือไม่ก็แค่การให้กำลังใจกับเพื่อนร่วมทางก็เป็นได้ แต่ถึงอย่างไรมันก็ทำให้เรามีแรงที่จะเดินต่อไปได้
อย่างสนุกมากๆ เลยล่ะ
จนบางครั้ง เราก็ลืมตัวเลยว่าเรา ขึ้นภูมาคนเดียว 555 ก็เล่นคุยกับทุกคนที่เดินผ่าน ซะงั้นเลย
แต่มันก็หนาวนะ แต่ไม่เหงาเลย

เป็นไงเก่งป้ะ...มาถึง ด่านเหล็ก ด่าน 2 แล้วววว
โอ้ยย น้ำตาจะไหลจริงๆ รู้สึกแล้วว่าทำไมต้องมาสักครั้งในชีวิต มันชนะใจตัวเองนี่แหละ สุดยอดตรงนี้แหละ
นี่ขนาดยังไม่ถึงจุดพีคนะ ยังฟินขนาดนี้
ถ้าใครอยากมาคนเดียวแบบเรา มาได้เลยนะ มันไม่อันตรายอย่างที่คิดเลย มีเพื่อนตลอดทางขอแค่เรากล้าที่จะพูดทักทาย

เดินทางมาถึงหลังแป  เป็นที่เรียบร้อย
เดินมาเรื่อยๆ จนถึง ศูนย์บริการนักท่องเที่ยววังกวาง จากนั้นจ็จะเป็นทางราบ
อีก 3 กิโล ก็จะถึงที่กางเต้นท์แล้ววว ก็แอบดีใจ แต่พอเดินๆ ไป เราว่าทางชันสนุกกว่าเยอะเลยย
เพราะดูเหมือนว่า ไอ้ 3 กิโลเนี่ยมันช่างยาวไกลซะเหลือเกินนน



นีก็ต้นสนที่มีอยู่สองข้างทาง ตลอดระยะทาง 3 กิโลเมตร
ธรรมชาติ ฟุ้งฟิ้งง กระดิ่งแมว


พอเจอต้นไม้ สวยๆ เข้าหน่อย
เริ่มรู้สึกเสียดายที่ไม่ได้เอากล้องมาด้วย  แต่ก็ไม่เป็นไร ไอโฟนเอาอยู่

และแล้วว แล้ว แล้ว วว ว ว  ว เราก็ได้เดินทางมาถึงที่กางเต้นท์ แถ่นน แท๊นนน
ดีใจมาก ถึงแล้วโว้ยย
ขึ้นมาถึงตรงนี้ เราไม่ปวดขา ไม่เมื่อยเลย
อาจจะเป็นเพราะความตื่นเต้น มันบดบังไปหมด 555
ถึงแล้วก็จัดการเรื่องที่นอนเรียบร้อย

ประมาณ 16.30 น. เราก็ไปดูพระอาทิตย์ตกที่ “ผาหมากดูก”
เดินไปใกล้จะถึงแล้วเหมือนฝันมาก ตื่นเต้น จะได้ดูพระอาทิตย์ตก

ช็อตนี้แหละ เหมือนยิ่งใกล้ถึง ยิ่งตื่นเต้น

แต่พอถึงก็ดูได้แป้ปเดียว พระอาทิตย์ก็ตกลาขอบฟ้าไป...
เราก็มีความสามารถเก็บรูปมาได้เท่านี้จริงๆ 5555

ถือเป็นการจบทริปของวันนี้ จากที่เดินทางมาทั้งวัน
เราก็รีบนอนเพื่อพรุ่งนี้จะได้มีแรงไปเที่ยววต่อ

** วันที่ 22 ธันวาคม 2557 **
------------------------------------------------------------------
วันนี้มีแพลนไว้ว่าจะไป "น้ำตกถ้าใหญ่"
ก็ทานข้าว ชาร์ตแบตเสร็จ ก็เตรียมตัวออกเดินทาง
แต่โชคดีที่การเดินทางไปครั้งนี้ เราได้เพื่อนร่วมทางมาสองคน
ชื่อ "แพรว กับ อ๊อฟ" กลายเป็นเราสอง สาม คน 5555

ทางผ่านไปน้ำตกถ้าใหญ่ มีองค์พระพุทธให้สักการะ เอาโชคเอาชัยซะหน่อยย สาธุ๊

ถึงน้ำตกแล้ววว เย่ๆ

เตือน ระวัง ! ช้าง หลัง 15.00 น.
เดินมาระยะทางก็ประมาณ 2 กิโลกว่าได้ แต่ถือว่าโอเคเลย คุ้มเหนื่อย
แต่พอถึงก็ต้องเดินลงไปอีก นิดหน่อย

แล้วเราก็จะพบกับความงามม ม มแท๊น น น น

จริงๆ ตอนแรกที่ตั้งใจมาที่นี่เพราะ จะมาดูใบเมเปิ้ลล ล
555 ได้ดูสมใจแล้ว แถมมีของแถม เป็นเฟิร์น เขียวชะอุ่มเต็มไปหมด
มันสุดยอดจริงๆ อากาศเย็นมากที่ในน้ำตก



ช่วงนี้น้ำที่น้ำตกมีน้อยนิดซะเหลือเกิน มีเท่าเนี๊ยะ ! 55 กระปิดกระปอย หยอย หยอย

ไหนๆ ก็มาถึงนี่แล้ว
จะไม่ไปผาหล่มสักก็ กระไรอยู่
เดินเดินทางไปต่อ ปลายทาง "ผาหล่มสัก" เดี๋ยวจะไม่ถึง ภูกระดึง อิอิ

ทางที่เดินไปแบบ โคตรร้อนเลย และไม่มีร้านขายของเลย
ดีนะที่มีเพื่อนมาด้วย ไม่งั้นตายแหงๆ


ร้อนๆดูแสงพระอาทิตย์ ซะก่อน เป็นเวลาช่วงเที่ยงๆ พอดีซะด้วย


ทางบางจุด ก็เป็น ทรายส่วนมาก
เหมือนเป็นการอวดแฟชั่นรองเท้าที่พื้นทรายจริงๆ รองเท้า รองเท้า เต็มไปหมด

ได้เวลาพักแล้ว



เป็นที่ๆ คนส่วนใหญ่จะมาหยุดพักแช่น้ำ และนอน เพราะบรรยากาศดีอะ ดีมาก ลมพัดตลอด
เดินต่อมาเรื่อยๆ ก็เหมือนเจอน้ำที่ไหลมาจากน้ำตกสวยดี

และแล้วเราก็เจออีกน้ำตก
แต่เราก็ไม่ได้แวะไปนะ

แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่