ขอเราระบายระบบการทำงานของทรูหน่อยนะคะ สุดทนมากเลย
จุดเริ่มต้นของเรื่องคือเราต้องการใช้โปรทริปเปิ้ลสุข เพราะที่บ้านเราก็ใช้ wifi ของ true มาตลอด(แม้ว่าจะกากก็ตาม ต้องโทรแจ้งเรื่อยๆว่าช้า ตอนนี้ก็ช้าคะ แต่ขี้เกียจโทรแจ้งแล้วคะ เพราะอยากจะเปลี่ยน) โทรศัพท์ของเราก็ใช้ทรู (ตอนนั้นได้ลดค่าโทรศัพท์ 50% เพราะย้ายค่ายมา) แล้วค่าบริการร่วมมันพอกะแพ็คเกจที่เราต้องเปลี่ยนและได้ดูทรูวิชั่นด้วย เราก็เลยคิดจะเปลี่ยน

วันแรกเลยนะคะ ประมาณเดือนกันยา เราก็ไปทำเรื่องที่ศูนย์ true digital gateway แต่ทางเจ้าหน้าที่แจ้งมาว่าของเราต้องทำตอนเดือน10 เนื่องจากมือถือติดโปรลด 50% อยู่ เราเลยถามพนักงานว่าถ้างั้นเดียวเรามาทำใหม่เดือนหน้าเพราะเราจะเลือกโปรโทรศัพท์ 299 บาท ซึ่งเพิ่มเงินอีกเพียง 100 บาท จากแพ็คแกจ พนักงานก็บอกว่าทำเรื่องทิ้งไว้ได้ครับเดียวจะทำให้ เราก็เลยทำเรื่องทิ้งไว้ เพราะจะได้ไม่ต้องมารอคิวนานๆ แต่พอถึงเวลาเปลี่ยนโปรก็มีเจ้าหน้าที่โทรมาแจ้งเรื่องติดทรูวิชั่น ซึ่งหมายถึงเจ้าหน้าที่ดำเนินเรื่องให้เรียบร้อยตามที่ตกลงกัน แล้วก็พอดีกับช่วงนั้นเป็นช่วง asian game ได้อัพเกรดช่องดูฟรี เราก็เลยไม่รู้ว่าเกิดข้อผิดพลาดขึ้น
1.จากทริปเปิลสุขกลายเป็นดับเบิ้ลสุข
2.แพ็คเกจดูทีวีจากknowledgeกลายเป็นenjoy (ในตอนนั้นยังใช้ชื่อนี้อยู่คะ ตอนนี้เปลี่ยนชื่อตามรูปแล้วคะ)
3.แพ็คเกจโทรศัพท์จากที่เลือก299฿ (เพิ่มเงินจากโปรสุขคูณสาม100฿) กลายเป็น 599฿ ได้รับส่วนลด99฿
เราติดต่อเจ้าหน้าที่ทางโทรศัพท์ (ครั้งที่1)
เรามารู้ตอนที่บิลค่าโทรศัพท์ส่งมา เราเลยโทรเข้าไปที่ศูนย์ประมาณเดือน 10 ให้เขาตรวจสอบ เขาจึงจะแก้ไขให้ส่วนค่าโทรศัพท์เขาจะคิดเราตามจริงแล้วเปลี่ยนเป็นโปร 299฿ ให้เราทางเจัาหน้าที่บอกว่าจะตรวจสอบเอกสารและดำเนินการภายใน2-3วัน เราก็เลยรอไปอาทิตย์หนึ่งเพราะเห็นว่าอาจจะหาเอกสารช้าก็ได้ แต่ผ่านมาอาทิตย์หนึ่งยังไม่ได้รับการแก้ไขใดๆทั้งสิ้นเราเลยโทรไปอีกครั้ง
เราติดต่อเจ้าหน้าที่ทางโทรศัพท์ (ครั้งที่2)
เมื่อเราโทรไปอีกครั้งเราก็เล่าให้ฟังทั้งหมดใหม่อีกรอบว่าเราเปลี่ยนแพ็คเกจ เคยโทรมาแล้วว่าจะแก้ไขให้แต่ยังไม่เห็นบิลใหม่ส่งมาให้เลย แพ็คเกจก็ยังไม่เปลี่ยน ทางเจ้าหน้าที่จึงตรวจสอบอีกครั้งและบอกว่าเราแค่โทรเข้าไปแจ้งไม่เห็นข้อมูลที่เราต้องการเปลี่ยนแปลงในระบบเลย เราก็ อ้าวพี่แล้วอย่างนี้จะทำยังไง (ตอนนันเริ่มปรี๊ดละ แต่ยังคุมอารมณ์พยายามพูดเพราะไว้ก่อน เดียวไไม่ทำให้) เขาก็บอกว่าเราเก็บเอกสารไว้ไหมเรา เราก็เลยบอกว่า ไม่ได้เก็บเพราะเซ็นเอกสารอะไรเรียบร้อย เจ้าหน้าที่ก็เก็บไปเลย ไม่ได้ให้เอกสารอะไรเลย เราไม่มี และเจ้าหน้าที่ก็เริ่มเหวี่ยงใส่เราละ เราก็ถามว่าพี่จะจัดการอะไรให้ได้บ้างไหม รับผิดชอบอะไรหรือป่าว เพราะไม่ได้ผิดที่เรา ผิดที่เขานะ เขาก็บอกว่าจะเปลี่ยนโปรให้ได้อย่างเดียว เราก็เลยบอกเขาว่าไม่เป็นไร เดียวเราไปที่ศูนย์เอง และวางสายไปเพราะทนไม่ไหวละ
เข้าไปหาเจ้าหน้าที่ศูนย์ (ครั้งที่3)
เย็นวันนั้นเราก็ไปที่ศูนย์และบอกปัญหาของเราอีกครั้งหนึ่ง เจ้าหน้าที่ก็ถามว่า เราจำได้ไหมว่าพนักงานคนไหนทำเรื่องให้ (บระเจ้าเลยจ้าาา ใครจะจำได้วะเนี่ย) เราก็เลยบอกว่าจำไม่ได้ จำได้แค่ว่าเป็นผู้ชาย เขาเลยบอกว่าจะแก้ไขให้ ส่วนค่าโทร 599฿ ที่เกินมา 300฿ จะให้ชดเชยเป็นค่าโทรเพิ่ม (ต้องเป็นเบอร์อื่น เบอร์ตัวเองไม่ได้ด้วยนะ เราเลยโอนเป็นค่าโทรให้น้องเรา) เราก็เลยโอเค คิดว่าคงเสียเดือนนี้เดือนเดียว ลืมคิดไปเลยว่าเดือนระหว่างทำเรื่องก็ต้องเสีย เพราะทำเรื่องยืดเยื้อมากและเราก็ได้เปลี่ยนโปร วันที่ 13 เดือน 11 อันนี้จำแม่นเลย
พอถึงเดือนปัจจุบันที่เขาเรียกเก็บค่าโทรศัพท์เดือน 11 เราก็งงละ ทำไมยัง 599฿ เราก็เลยไปทำเรื่องอีกครั้ง
เข้าไปหาเจ้าหน้าที่ศูนย์ (ครั้งที่4)
และเราก็เล่าให้ฟังตั้งแต่แรกเลยอีกครั้งหนึ่ง พร้อมทั้งถามว่าทำไมเก็บเรา 599฿ ในเดือนนี้อีกในเมื่อทำเรื่องไปแล้ว เขาก็แจ้งว่าเราเปลี่นวันที่ 13 พฤศจิกายน ยังต้องเสียค่าโทรของ 15/10-15/11(รอบบิลน่าจะประมาณนี้ จำได้แค่ว่าตัดทุกวันที่ 15) จำนวน 599฿ อยู่ ซึ่งเราก็คิดละ ไม่ถูกนะเฮ้ย เราเสียเวลาดำเนินการ แต่ไม่ได้แจ้งเราด้วยนะว่าเราต้องเสียสองเดือน(เราลืมนึกด้วยละ) เราก็เลยบอกว่าเราต้องเสียเกิน 600 เลยนะไม่คิดจะรับผิดชอบอะไรเลยหรอ เขาก็ย้ำว่าเราได้โทรเพิ่ม 300฿ ในเดือนแรกแล้วไง เราก็เซงละ คือจะไม่รับผิดชอบ เราเลยบอกว่า โอเค เราต้องยอมเสียค่าโง่ใช่ไหม (ที่เชื่อใจพวกคุณนะ ความผิดพวกคุณด้วยนะ)
เราเลยทำใจดูบิลแล้วคิดไปจ่ายเลยก็ได้วะ เขาก็โอนคิวให้เรา พอโอนเสร็จก็เรียกเราเร็วมากแต่มีฝรั่งคนหนึ่งยืนทำเรื่องอยู่เจ้าหน้าที่ก็ไม่ว่าง มาดูกัน2คน เราก็ยืนรอสักพักและคิดว่าทำไมรีบเรียก ให้เรานั่งรอก็ได้ หรือถ้าเรียกเราก็พาลูกค้าอีกคนไปคุยอีกที่ดีกว่าไหม ให้เรายืนรอทำไม พอเราตัดสินใจจะเดินออก คุณพนักงานผู้หญิงก็เหมือนจะพึ่งนึกได้เลยกดเรียกอีกรอบเราก็หัน เขาก็ถามว่าเราจะมาทำอะไร(มองแบบยืนเฉยทำไมไม่เข้ามาทำเรื่องให้กดเรียกซ้ำทำไม) เราบอกว่าเรามาจ่ายเงิน เขาก็บอกให้เราบอกเบอร์ได้เลย แต่ ณ ตอนนั้นบอกเลยว่าสุดทนแล้วอ่ะ เราก็เอากระดาษคิวที่ขย้ำไปแล้วตอนจะเดินกลับยื่นให้และบอกว่าเราไม่อยากจ่ายแล้ววันนี้ แล้วเราก็เดินออกมาเลย
เรารู้สึกแค้นใจมากเลยที่เราต้องรับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้นจากความผิดพลาดของพนักงาน อีกทั้งไม่ได้รับความร่วมมือในการแก้ไขเลย ต้องให้เราเหวี่ยงก่อนหรอ เราก็ไม่อยากเหวี่ยงนะ
ป.ล. ตอนนี้เราคิดจะเปลี่ยนไปใช้ 3bb ละ แต่ไม่รู้สัญญาณจะโอเคไหม(บ้านเราอยู่ระหว่างจุฬากะทางไปรถไฟฟ้าใต้ดิน) แล้วจะได้เงินค่าประกันtrue vision 1,000฿ คืนด้วยไหม
ขอบคุณคนที่อ่านนะคะ เราอยากระบายมากเลยและหวังว่าใครที่คิดจะไปทำเรื่องทิ้งไว้แบบเราคิดให้ดีก่อนนะคะ เพราะอาจจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นก็ได้ สำหรับทรูไม่ใช้แค่กรณีนี้กรณีเดียวที่คุณทำกับเรา คุณยังทำอีกหลายอย่างกับน้องสาวเราด้วย เช่น การให้น้องเรารอคิว 2 ชม. พอพี่สาวเราเข้าไปถามก็บอกว่าบริการจ่ายเงินเร็วกว่าบริการหลังการขาย (เหตุผลดีมากค่าาา โดนพี่เราเหวี่ยง จนผู้จัดการต้องออกมาจัดการเองเลยนะคะ)
ขอระบายการบริการของทรูหน่อยคะ
จุดเริ่มต้นของเรื่องคือเราต้องการใช้โปรทริปเปิ้ลสุข เพราะที่บ้านเราก็ใช้ wifi ของ true มาตลอด(แม้ว่าจะกากก็ตาม ต้องโทรแจ้งเรื่อยๆว่าช้า ตอนนี้ก็ช้าคะ แต่ขี้เกียจโทรแจ้งแล้วคะ เพราะอยากจะเปลี่ยน) โทรศัพท์ของเราก็ใช้ทรู (ตอนนั้นได้ลดค่าโทรศัพท์ 50% เพราะย้ายค่ายมา) แล้วค่าบริการร่วมมันพอกะแพ็คเกจที่เราต้องเปลี่ยนและได้ดูทรูวิชั่นด้วย เราก็เลยคิดจะเปลี่ยน
วันแรกเลยนะคะ ประมาณเดือนกันยา เราก็ไปทำเรื่องที่ศูนย์ true digital gateway แต่ทางเจ้าหน้าที่แจ้งมาว่าของเราต้องทำตอนเดือน10 เนื่องจากมือถือติดโปรลด 50% อยู่ เราเลยถามพนักงานว่าถ้างั้นเดียวเรามาทำใหม่เดือนหน้าเพราะเราจะเลือกโปรโทรศัพท์ 299 บาท ซึ่งเพิ่มเงินอีกเพียง 100 บาท จากแพ็คแกจ พนักงานก็บอกว่าทำเรื่องทิ้งไว้ได้ครับเดียวจะทำให้ เราก็เลยทำเรื่องทิ้งไว้ เพราะจะได้ไม่ต้องมารอคิวนานๆ แต่พอถึงเวลาเปลี่ยนโปรก็มีเจ้าหน้าที่โทรมาแจ้งเรื่องติดทรูวิชั่น ซึ่งหมายถึงเจ้าหน้าที่ดำเนินเรื่องให้เรียบร้อยตามที่ตกลงกัน แล้วก็พอดีกับช่วงนั้นเป็นช่วง asian game ได้อัพเกรดช่องดูฟรี เราก็เลยไม่รู้ว่าเกิดข้อผิดพลาดขึ้น
1.จากทริปเปิลสุขกลายเป็นดับเบิ้ลสุข
2.แพ็คเกจดูทีวีจากknowledgeกลายเป็นenjoy (ในตอนนั้นยังใช้ชื่อนี้อยู่คะ ตอนนี้เปลี่ยนชื่อตามรูปแล้วคะ)
3.แพ็คเกจโทรศัพท์จากที่เลือก299฿ (เพิ่มเงินจากโปรสุขคูณสาม100฿) กลายเป็น 599฿ ได้รับส่วนลด99฿
เราติดต่อเจ้าหน้าที่ทางโทรศัพท์ (ครั้งที่1)
เรามารู้ตอนที่บิลค่าโทรศัพท์ส่งมา เราเลยโทรเข้าไปที่ศูนย์ประมาณเดือน 10 ให้เขาตรวจสอบ เขาจึงจะแก้ไขให้ส่วนค่าโทรศัพท์เขาจะคิดเราตามจริงแล้วเปลี่ยนเป็นโปร 299฿ ให้เราทางเจัาหน้าที่บอกว่าจะตรวจสอบเอกสารและดำเนินการภายใน2-3วัน เราก็เลยรอไปอาทิตย์หนึ่งเพราะเห็นว่าอาจจะหาเอกสารช้าก็ได้ แต่ผ่านมาอาทิตย์หนึ่งยังไม่ได้รับการแก้ไขใดๆทั้งสิ้นเราเลยโทรไปอีกครั้ง
เราติดต่อเจ้าหน้าที่ทางโทรศัพท์ (ครั้งที่2)
เมื่อเราโทรไปอีกครั้งเราก็เล่าให้ฟังทั้งหมดใหม่อีกรอบว่าเราเปลี่ยนแพ็คเกจ เคยโทรมาแล้วว่าจะแก้ไขให้แต่ยังไม่เห็นบิลใหม่ส่งมาให้เลย แพ็คเกจก็ยังไม่เปลี่ยน ทางเจ้าหน้าที่จึงตรวจสอบอีกครั้งและบอกว่าเราแค่โทรเข้าไปแจ้งไม่เห็นข้อมูลที่เราต้องการเปลี่ยนแปลงในระบบเลย เราก็ อ้าวพี่แล้วอย่างนี้จะทำยังไง (ตอนนันเริ่มปรี๊ดละ แต่ยังคุมอารมณ์พยายามพูดเพราะไว้ก่อน เดียวไไม่ทำให้) เขาก็บอกว่าเราเก็บเอกสารไว้ไหมเรา เราก็เลยบอกว่า ไม่ได้เก็บเพราะเซ็นเอกสารอะไรเรียบร้อย เจ้าหน้าที่ก็เก็บไปเลย ไม่ได้ให้เอกสารอะไรเลย เราไม่มี และเจ้าหน้าที่ก็เริ่มเหวี่ยงใส่เราละ เราก็ถามว่าพี่จะจัดการอะไรให้ได้บ้างไหม รับผิดชอบอะไรหรือป่าว เพราะไม่ได้ผิดที่เรา ผิดที่เขานะ เขาก็บอกว่าจะเปลี่ยนโปรให้ได้อย่างเดียว เราก็เลยบอกเขาว่าไม่เป็นไร เดียวเราไปที่ศูนย์เอง และวางสายไปเพราะทนไม่ไหวละ
เข้าไปหาเจ้าหน้าที่ศูนย์ (ครั้งที่3)
เย็นวันนั้นเราก็ไปที่ศูนย์และบอกปัญหาของเราอีกครั้งหนึ่ง เจ้าหน้าที่ก็ถามว่า เราจำได้ไหมว่าพนักงานคนไหนทำเรื่องให้ (บระเจ้าเลยจ้าาา ใครจะจำได้วะเนี่ย) เราก็เลยบอกว่าจำไม่ได้ จำได้แค่ว่าเป็นผู้ชาย เขาเลยบอกว่าจะแก้ไขให้ ส่วนค่าโทร 599฿ ที่เกินมา 300฿ จะให้ชดเชยเป็นค่าโทรเพิ่ม (ต้องเป็นเบอร์อื่น เบอร์ตัวเองไม่ได้ด้วยนะ เราเลยโอนเป็นค่าโทรให้น้องเรา) เราก็เลยโอเค คิดว่าคงเสียเดือนนี้เดือนเดียว ลืมคิดไปเลยว่าเดือนระหว่างทำเรื่องก็ต้องเสีย เพราะทำเรื่องยืดเยื้อมากและเราก็ได้เปลี่ยนโปร วันที่ 13 เดือน 11 อันนี้จำแม่นเลย
พอถึงเดือนปัจจุบันที่เขาเรียกเก็บค่าโทรศัพท์เดือน 11 เราก็งงละ ทำไมยัง 599฿ เราก็เลยไปทำเรื่องอีกครั้ง
เข้าไปหาเจ้าหน้าที่ศูนย์ (ครั้งที่4)
และเราก็เล่าให้ฟังตั้งแต่แรกเลยอีกครั้งหนึ่ง พร้อมทั้งถามว่าทำไมเก็บเรา 599฿ ในเดือนนี้อีกในเมื่อทำเรื่องไปแล้ว เขาก็แจ้งว่าเราเปลี่นวันที่ 13 พฤศจิกายน ยังต้องเสียค่าโทรของ 15/10-15/11(รอบบิลน่าจะประมาณนี้ จำได้แค่ว่าตัดทุกวันที่ 15) จำนวน 599฿ อยู่ ซึ่งเราก็คิดละ ไม่ถูกนะเฮ้ย เราเสียเวลาดำเนินการ แต่ไม่ได้แจ้งเราด้วยนะว่าเราต้องเสียสองเดือน(เราลืมนึกด้วยละ) เราก็เลยบอกว่าเราต้องเสียเกิน 600 เลยนะไม่คิดจะรับผิดชอบอะไรเลยหรอ เขาก็ย้ำว่าเราได้โทรเพิ่ม 300฿ ในเดือนแรกแล้วไง เราก็เซงละ คือจะไม่รับผิดชอบ เราเลยบอกว่า โอเค เราต้องยอมเสียค่าโง่ใช่ไหม (ที่เชื่อใจพวกคุณนะ ความผิดพวกคุณด้วยนะ)
เราเลยทำใจดูบิลแล้วคิดไปจ่ายเลยก็ได้วะ เขาก็โอนคิวให้เรา พอโอนเสร็จก็เรียกเราเร็วมากแต่มีฝรั่งคนหนึ่งยืนทำเรื่องอยู่เจ้าหน้าที่ก็ไม่ว่าง มาดูกัน2คน เราก็ยืนรอสักพักและคิดว่าทำไมรีบเรียก ให้เรานั่งรอก็ได้ หรือถ้าเรียกเราก็พาลูกค้าอีกคนไปคุยอีกที่ดีกว่าไหม ให้เรายืนรอทำไม พอเราตัดสินใจจะเดินออก คุณพนักงานผู้หญิงก็เหมือนจะพึ่งนึกได้เลยกดเรียกอีกรอบเราก็หัน เขาก็ถามว่าเราจะมาทำอะไร(มองแบบยืนเฉยทำไมไม่เข้ามาทำเรื่องให้กดเรียกซ้ำทำไม) เราบอกว่าเรามาจ่ายเงิน เขาก็บอกให้เราบอกเบอร์ได้เลย แต่ ณ ตอนนั้นบอกเลยว่าสุดทนแล้วอ่ะ เราก็เอากระดาษคิวที่ขย้ำไปแล้วตอนจะเดินกลับยื่นให้และบอกว่าเราไม่อยากจ่ายแล้ววันนี้ แล้วเราก็เดินออกมาเลย
เรารู้สึกแค้นใจมากเลยที่เราต้องรับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้นจากความผิดพลาดของพนักงาน อีกทั้งไม่ได้รับความร่วมมือในการแก้ไขเลย ต้องให้เราเหวี่ยงก่อนหรอ เราก็ไม่อยากเหวี่ยงนะ
ป.ล. ตอนนี้เราคิดจะเปลี่ยนไปใช้ 3bb ละ แต่ไม่รู้สัญญาณจะโอเคไหม(บ้านเราอยู่ระหว่างจุฬากะทางไปรถไฟฟ้าใต้ดิน) แล้วจะได้เงินค่าประกันtrue vision 1,000฿ คืนด้วยไหม
ขอบคุณคนที่อ่านนะคะ เราอยากระบายมากเลยและหวังว่าใครที่คิดจะไปทำเรื่องทิ้งไว้แบบเราคิดให้ดีก่อนนะคะ เพราะอาจจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นก็ได้ สำหรับทรูไม่ใช้แค่กรณีนี้กรณีเดียวที่คุณทำกับเรา คุณยังทำอีกหลายอย่างกับน้องสาวเราด้วย เช่น การให้น้องเรารอคิว 2 ชม. พอพี่สาวเราเข้าไปถามก็บอกว่าบริการจ่ายเงินเร็วกว่าบริการหลังการขาย (เหตุผลดีมากค่าาา โดนพี่เราเหวี่ยง จนผู้จัดการต้องออกมาจัดการเองเลยนะคะ)