ฮาๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
เสียงหัวเราะขำขัน ค่อยๆทยอยออกมาจากเหล่านักศึกษาแพทย์ที่อยู่เบื้องหน้า
“หมอกิ๊ก....” อาจารย์หมอพูดเสียงเข้ม พลางมองไปที่หมอกิ๊ก ซึ่งเพิ่งเล่าเรื่องราวชวนสยองขวัญของกระเทยในวันลอยกระทงจบไปหมาดๆ
“แต่จารย์คะ นี่เป็นเรื่องเล่าที่สยองสุดๆของหนูแล้วนะคะ” หมอกิ๊ก ก้มหน้าพูดอ้อมๆแอ้มๆในคอ
“แต่ถ้าเรื่องนี้ไม่โอ เอาเรื่องนี้ไม๊คะ หนูมีอีกเรื่องค่ะ รับรองสยองมากๆค่ะ” หมอกิ๊กเสนอ ด้วยหน้าตาระรื่น
“พอๆๆ ผมว่าผมไม่กล้าเสี่ยงละ เรื่องเมื่อกี๊ผมยังสะท้านไม่หายเลย” อาจารย์หมอพูดพลางนวดขมับ
แอ๊ดดดดดดดดดดดด ปึ้ง
ทุกคนหันไปมองที่ประตูห้องด้านหน้าของ Lab Gross เพราะมีชายคนหนึ่งเดินเข้ามา
“เอ้า ทำไมจ้องผมอย่างงั้นล่ะครับ.. อาจารย์ครับหวัดดีครับ” หมอเอ้ หมอหนุ่มไฟแรง ที่อายุยังน้อยแต่เป็นถึงหัวหน้าภาควิชากายวิภาคของคณะแพทย์ทักทายขึ้น
“หมอเอ้ ไปซะนานเลยนะ ให้ไปส่งหนังสือ ล่อไปเกือบชม.นี่เค้าจะปิดคอร์สแล้วเนี่ย” อาจารย์หมอเอ่ยขึ้น
“อ๋อ พอดีอยู่คุยกับคณะบดีเรื่องงานวันพ่อ ที่คณะจะจัดด้วยน่ะครับ เลยนานหน่อย แล้วขากลับขับรถมาเกิดเรื่องนิดหน่อยครับ”
“แล้วนั่น...” หมอธีร์ชี้ไปที่ประตู เพราะสังเกตเห็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งแอบยืนหลบหลังประตู
“อ๋อ ก็เนี่ยล่ะครับ ที่ทำให้ผมมาสาย” หมอเอ้หันไปหาเด็กผู้หญิงคนนั้น “เข้ามาสิ นั่งข้างในนี่ก็ได้” หมอเอ้กวักมือเรียกเด็กคนนั้น
เด็กผู้หญิงผิวขาวซีด ผมยาวปิดหน้าปิดตา แต่งชุดนักเรียน กระโปรงสั้น ถือกระเป๋านักเรียนสีดำ ค่อยๆเดินเข้ามานั่งตรงเก้าอี้หน้าห้อง ทุกๆคนต่างจ้องมอง และสงสัยในตัวเธอ ที่สำคัญที่มันทำให้น่าฉงนปนสยองคือ เสื้อของเธอเต็มไปด้วยเลือด มีรอยคราบเลือดเปรอะเปื้อนขาไปหมด
“แล้วเรื่องมันเป็นไงมาไงล่ะ” หมอธีร์เอ่ยถาม
“เธอเป็นอะไรมากรึเปล่า เลือดเต็มตัวเลย ไปห้องพยาบาลก่อนดีไม๊?” หมอกิ๊กเป็นห่วง เมื่อเห็นเธอหน้าซีดๆ
“เรื่องมันยาวน่ะ เดี๋ยวผมเล่าให้ฟัง เลือดที่เห็นนั่นไม่ใช่เลือดเธอหรอก แต่ไม่ต้องห่วง เธอสบายดี แต่ว่าเธอไม่ยอมไปเปลี่ยนเสื้อผ้า” “อ้าว... แล้วนี่อาจารย์สอนเสร็จแล้วหรอครับ แล้วประชุมอะไรกันอยู่ครับเนี่ย” หมอเอ้ถาม
“อ๋อ เสร็จแล้วล่ะ เผอิญเวลามันเหลือเลยชวนน้องๆนศพ. กับพี่ๆstaff เค้ามาจับกลุ่มเล่าเรื่องสยองขวัญกัน” อาจารย์หมอกล่าว
“โห แสดงว่าผมพลาดช็อตเด็ดสำคัญไปเลยสิครับเนี่ย” หมอเอ้ออกอาการเสียดาย
“แหม่ เด็ดมากด้วย เรื่องสยองสุดๆเพิ่งจบไปเมื่อกี้ ใช่ไม๊หมอกิ๊ก” หมอธีร์แซว
“ว่าแต่ หมอเอ้ มีเรื่องอะไรสยองๆ จะนำเสนอไม๊ล่ะ” อาจารย์หมอถาม
“อืมมม ก็มีอยู่เรื่องนึงนะครับ เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับผมเองแล่ะ ไม่รู้จะสยองเท่าเรื่องของคนอื่นๆที่เล่ามารึเปล่า แต่สำหรับผมผมว่ามันสะพรึงมากๆครับ” หมอเอ้ถ่อมตัว
“อื้มๆๆ งั้นเอาเลยๆ” อาจารย์หมอเชิญหมอเอ้ และทุกๆคนเบื้องหน้าก็นิ่งเงียบรอฟังอย่างใจจดใจจ่อ
“โอเคครับ เรื่องนี้เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับความเป็นความตายของผมเอง และเป็นความสยดสยองที่ผมจะไม่มีวันลืม
ผมขอตั้งชื่อเรื่องนี้ว่า “ศาสตราจารย์””
โลงพยาบาล 6 (ตอน ศาสตราจารย์)
เสียงหัวเราะขำขัน ค่อยๆทยอยออกมาจากเหล่านักศึกษาแพทย์ที่อยู่เบื้องหน้า
“หมอกิ๊ก....” อาจารย์หมอพูดเสียงเข้ม พลางมองไปที่หมอกิ๊ก ซึ่งเพิ่งเล่าเรื่องราวชวนสยองขวัญของกระเทยในวันลอยกระทงจบไปหมาดๆ
“แต่จารย์คะ นี่เป็นเรื่องเล่าที่สยองสุดๆของหนูแล้วนะคะ” หมอกิ๊ก ก้มหน้าพูดอ้อมๆแอ้มๆในคอ
“แต่ถ้าเรื่องนี้ไม่โอ เอาเรื่องนี้ไม๊คะ หนูมีอีกเรื่องค่ะ รับรองสยองมากๆค่ะ” หมอกิ๊กเสนอ ด้วยหน้าตาระรื่น
“พอๆๆ ผมว่าผมไม่กล้าเสี่ยงละ เรื่องเมื่อกี๊ผมยังสะท้านไม่หายเลย” อาจารย์หมอพูดพลางนวดขมับ
แอ๊ดดดดดดดดดดดด ปึ้ง
ทุกคนหันไปมองที่ประตูห้องด้านหน้าของ Lab Gross เพราะมีชายคนหนึ่งเดินเข้ามา
“เอ้า ทำไมจ้องผมอย่างงั้นล่ะครับ.. อาจารย์ครับหวัดดีครับ” หมอเอ้ หมอหนุ่มไฟแรง ที่อายุยังน้อยแต่เป็นถึงหัวหน้าภาควิชากายวิภาคของคณะแพทย์ทักทายขึ้น
“หมอเอ้ ไปซะนานเลยนะ ให้ไปส่งหนังสือ ล่อไปเกือบชม.นี่เค้าจะปิดคอร์สแล้วเนี่ย” อาจารย์หมอเอ่ยขึ้น
“อ๋อ พอดีอยู่คุยกับคณะบดีเรื่องงานวันพ่อ ที่คณะจะจัดด้วยน่ะครับ เลยนานหน่อย แล้วขากลับขับรถมาเกิดเรื่องนิดหน่อยครับ”
“แล้วนั่น...” หมอธีร์ชี้ไปที่ประตู เพราะสังเกตเห็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งแอบยืนหลบหลังประตู
“อ๋อ ก็เนี่ยล่ะครับ ที่ทำให้ผมมาสาย” หมอเอ้หันไปหาเด็กผู้หญิงคนนั้น “เข้ามาสิ นั่งข้างในนี่ก็ได้” หมอเอ้กวักมือเรียกเด็กคนนั้น
เด็กผู้หญิงผิวขาวซีด ผมยาวปิดหน้าปิดตา แต่งชุดนักเรียน กระโปรงสั้น ถือกระเป๋านักเรียนสีดำ ค่อยๆเดินเข้ามานั่งตรงเก้าอี้หน้าห้อง ทุกๆคนต่างจ้องมอง และสงสัยในตัวเธอ ที่สำคัญที่มันทำให้น่าฉงนปนสยองคือ เสื้อของเธอเต็มไปด้วยเลือด มีรอยคราบเลือดเปรอะเปื้อนขาไปหมด
“แล้วเรื่องมันเป็นไงมาไงล่ะ” หมอธีร์เอ่ยถาม
“เธอเป็นอะไรมากรึเปล่า เลือดเต็มตัวเลย ไปห้องพยาบาลก่อนดีไม๊?” หมอกิ๊กเป็นห่วง เมื่อเห็นเธอหน้าซีดๆ
“เรื่องมันยาวน่ะ เดี๋ยวผมเล่าให้ฟัง เลือดที่เห็นนั่นไม่ใช่เลือดเธอหรอก แต่ไม่ต้องห่วง เธอสบายดี แต่ว่าเธอไม่ยอมไปเปลี่ยนเสื้อผ้า” “อ้าว... แล้วนี่อาจารย์สอนเสร็จแล้วหรอครับ แล้วประชุมอะไรกันอยู่ครับเนี่ย” หมอเอ้ถาม
“อ๋อ เสร็จแล้วล่ะ เผอิญเวลามันเหลือเลยชวนน้องๆนศพ. กับพี่ๆstaff เค้ามาจับกลุ่มเล่าเรื่องสยองขวัญกัน” อาจารย์หมอกล่าว
“โห แสดงว่าผมพลาดช็อตเด็ดสำคัญไปเลยสิครับเนี่ย” หมอเอ้ออกอาการเสียดาย
“แหม่ เด็ดมากด้วย เรื่องสยองสุดๆเพิ่งจบไปเมื่อกี้ ใช่ไม๊หมอกิ๊ก” หมอธีร์แซว
“ว่าแต่ หมอเอ้ มีเรื่องอะไรสยองๆ จะนำเสนอไม๊ล่ะ” อาจารย์หมอถาม
“อืมมม ก็มีอยู่เรื่องนึงนะครับ เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับผมเองแล่ะ ไม่รู้จะสยองเท่าเรื่องของคนอื่นๆที่เล่ามารึเปล่า แต่สำหรับผมผมว่ามันสะพรึงมากๆครับ” หมอเอ้ถ่อมตัว
“อื้มๆๆ งั้นเอาเลยๆ” อาจารย์หมอเชิญหมอเอ้ และทุกๆคนเบื้องหน้าก็นิ่งเงียบรอฟังอย่างใจจดใจจ่อ
“โอเคครับ เรื่องนี้เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับความเป็นความตายของผมเอง และเป็นความสยดสยองที่ผมจะไม่มีวันลืม
ผมขอตั้งชื่อเรื่องนี้ว่า “ศาสตราจารย์””