กระทู้นี้เป็นการสนทนากับคุณฮุไซนี ต่อจากกระทู้
http://pantip.com/topic/32896880 ซึ่งยังไม่ได้รับคำตอบจากคุณฮุไซนี อันเนื่องมาจากฮาดีษข้างล่างนี้
มีรายงาน จากท่านหัมมาด บินสะละมะฮ์, จากท่านษาบิต อัล-บุนานีย์, จากท่านอนัส บินมาลิก ร.ฎ. ว่า ...
أَنَّ رَجُلاَ قَالَ : يَا رَسُوْلَ اللهِ! أَيْنَ أَبِىْ ؟ .. قَالَ : فِى النَّارِ، فَلَمَّا قَفَّى دَعَاهُ فَقَالَ : إِنَّ أَبِىْ وَأَبَاكَ فِى النَّارِ ...
“ชายผู้หนึ่งกล่าวว่า .. โอ้ท่านรอซู้ลุลลอฮ์ บิดาของฉันอยู่ที่ไหน?, ท่านนบีย์ตอบว่า .. อยู่ในนรก, แล้วเมื่อเขาผินหลังให้ท่านนบีย์ก็เรียกเขา แล้วกล่าวว่า .. แท้จริง ทั้งบิดาของฉันและบิดาของท่านอยู่ในนรก” ...
(บันทึกโดยท่านมุสลิม หะดีษที่ 347/203, ท่านอบูอะวานะฮ์ เล่มที่ 1 หน้า 99, ท่านอบูดาวูด หะดีษที่ 4718, ท่านอะห์มัด เล่มที่ 3 หน้า 268, ท่านอัล-บัยฮะกีย์ เล่มที่ 7 หน้า 190, ท่านอัล-ญูซะกอนีย์ในหนังสือ “อัล-อะบาฏิล วัลมะนากีรฺ” เล่มที่ 1 หน้า 233 และท่านอบูยะอฺลา 6/229/3516)
เนื่องจากว่าผม ไม่เชื่อว่าฮาดีษข้าบนนี้ไม่มีความจริง ทั้งนี้แม้แต่นักวิชาการที่เขียน บทความเรื่องนี้ จากเวบ
http://www.moradokislam.org/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=1380&postdays=0&postorder=asc&start=0
ก็ยังใช้คำว่า :
ผมเอง ยอมรับว่าเป็นอีกผู้หนึ่งที่ “ทำใจรับไม่ได้” เช่นเดียวกันกับคำกล่าวที่ว่า บิดามารดาของท่านนบีย์ ต้องเข้านรก ...
แต่, .. ผมก็อดถามตัวเองไม่ได้ว่า ..
“สมมุติ” ถ้าพิสูจน์ได้ว่าหะดีษทั้ง 2 บทข้างต้นเป็นหะดีษที่ถูกต้อง (صَحِيْحٌ) .. และไม่ขัดแย้งกับอัล-กุรฺอ่านล่ะ? เราจะว่ายังไง ?
เรื่องนี้แสดงว่า ในระหว่างนักวิชาการเองก็ยังไม่มีความแน่ใจว่า "ฮาดีษบทนี้เป็นความจริงหรือไม่?"
ในทัศนะของผม คิดว่า ถ้า หากว่า ฮาดีษบทนี้มีความจริง ว่า คุณพ่อของท่านศาสดามูฮัมมัดอยู่ใน "นรก" หรือเป็นชาวนรก เนื่องมาจาก บิดามารดา ของท่านรอซูล เป็นกาเฟร ทั้งนี้เพราะว่า มีฮาดีษ เล่าต่อมาว่า
(2). มีรายงานจากท่านอบู ฮุร็อยเราะฮ์ ร.ฎ. ว่า ...
زَارَالنَّبِىُّ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ قَبْرَأُمِّهِ فَبَكَى، وَأَبْكَى مَنْ حَوْلَهُ، فَقَالَ : إِسْتَأْذَنْتُ رَبِّىْ فِىْ أَنْ أَسْتَغْفِرَلَهَا فَلَمْ يُؤْذَنْ لِىْ، وَاسْتَأْذَنْتُهُ فِىْ أَنْ أَزُوْرَقَبْرَهَا فَأَذِنَ لِىْ، فَزُوْرُواالْقُبُوْرَ! فَإِنَّهَا تُذَكِّرُالْمَوْتَ ..
“ท่านนบีย์ ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิวะซัลลัมได้ไปเยี่ยมกุบูรฺมารดาของท่าน แล้วท่านก็ร้องไห้ ทำให้คนที่อยู่รอบตัวท่านร้องไห้ด้วย แล้วท่านจึงกล่าวว่า .. “
ฉันขออนุญาตต่อพระผู้อภิบาลของฉันในการขออภัยโทษให้ท่าน(คุณแม่) แต่ฉันไม่ได้รับอนุญาต, ฉันจึงขออนุญาตต่อพระองค์ในการไปเยี่ยมกุบูรฺของท่าน พระองค์ก็อนุญาตแก่ฉัน ดังนั้นพวกท่านจงซิยาเราะฮ์กุบูรเถิด เพราะมันจะช่วยเตือนรำลึกพวกท่านเรื่องความตาย” ...
(บันทึกโดย ท่านมุสลิม หะดีษที่ 108/976, ท่านอัน-นะซาอีย์ หะดีษที่ 2033, ท่านอิบนุมาญะฮ์ หะดีษที่ 1572, ท่านอัล-บัยฮะกีย์ เล่มที่ 4 หน้า 76, และท่านอะห์มัด เล่มที่ 2 หน้า 441)
เหตุผลที่ อัลลอฮ์ไม่อนุญาตให้ท่านรอซูล ในการขออภัยโทษให้ท่าน(คุณแม่) แต่ฉันไม่ได้รับอนุญาต, นั้นผู้รู้นักวิชาการอิสลามอ้างว่า เพราะบิดามารดาของ ท่านศาสดามูฮัมมัดเป็น "กาเฟร"
ตามฮาดีษข้างล่างนี้:
การมีตระกูลเดียวกันกับคนดีนั้น ไม่ได้ทำให้มนุษย์ปลอดภัยจากการลงโทษของอัลลอฮ ตะอาลา ดังที่ท่านอิ ม่ามนะวาวีย์ได้กล่าวว่า
من مات على الكفر فهو في النار ولا تنفعه قرابة المقربين "
ผู้ใดตายในสภาพที่เป็นกุฟุร เขาก็อยู่ในนรก และการเป็นญาติใกล้ชิดกับบรรดาผู้ที่ใกล้ชิดกับพระเจ้านั้น ไม่ได้ก่อประโยชน์ ให้แก่เขาแต่ประการใด" ดู ชัรหุมุสลิม 3/79
สิ่งที่ผมสงสัยและต้องการถามคุณฮุไซนีก็คือ:
ถ้าคุณพ่อคุณแม่ของท่านรอซูลเป็น "กาเฟร" อย่างแท้จริงแล้ว คุณพ่อคุณแม่ ปู้ย่าตายาย ของ ท่านศอฮาบะห์ หรือ สหายของท่านศาสดามูฮัมมัด ไม่เป็น "กาเฟร" กันหมดหรือ? เนื่องจาก เขาเกิดก่อนที่ จะมี "อิสลาม" ในรูปแบบสมัยหลังจากได้รับอัลกุรอานแล้ว เนื่องจากในสมัยก่อนท่านศาสดามูฮัมมัดเกิดนั้น ตามประวัติศาสตร์อิสลามเล่ามาว่า
"ตระกูลกุเรชของท่านนบีย์ .. โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คุณปู่ของท่าน .. ประวัติศาสตร์บันทึกเอาไว้ว่า เป็นผู้มีหน้าที่ดูแลรักษาบัยตุ้ลลอฮ์ (กะอฺบะฮ์) ...
และเมื่อตอนที่ท่านนบีย์ ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิวะซัลลัมพิชิตนครมักกะฮ์ในเดือนรอมะฎอนปี ฮ.ศ.ที่ 8 .. ปรากฏว่ารอบๆกะอฺบะฮ์ (ตามบันทึกในหนังสือประวัติศาสตร์หลายเล่ม ตัวอย่างเช่นหนังสือ “นูรุลยะกีน” หน้า 223) ระบุว่า มีเจว็ดต่างๆอยู่ถึง 360 ตัวด้วยกัน ... ผมจึงไม่ทราบว่า ตระกูลของท่านนบีย์ทำหน้าที่ดูแลรักษาบัยตุ้ลลอฮ์เพียงอย่างเดียว หรือเคยเคารพบูชาเจว็ดพวกนั้นด้วย ?? ... หรือเมื่อตอนที่ท่านอบูฏอลิบซึ่งเป็นลุงจะสิ้นชีวิต และท่านนบีย์เสนอให้ท่าน “ยอมรับพระเจ้าองค์เดียว” โดยการกล่าวปฏิญาณว่า ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮ์ แต่กลับถูกขัดขวางโดยอบูละฮับผู้เป็นลุงอีกท่านหนึ่งที่คอยกำชับท่านอบูฏอลิบว่า “อย่าละทิ้งศาสนาของปู่ย่าตายาย” เป็นอันขาด"
ข้อความข้างบนนี้ คือเหตุผลที่ "สันนิฐาน" ว่า บิดามารดาของท่านศาสดามูฮัมมัดอาจจะ เป็นผู้สร้างภาคี หรือไม่สร้างภาคีก็ได้ แต่เนื่องจากฮาดีษ เป็น ฮาดีษ ซอเฮี๊ยะ เป็น ฮาดีษ ที่เทียบเท่าอัลกุรอาน (ตามความเฃื่อถือของชาวฮาดีษ ซึ่งเป็นความเชื่อถือที่ ผิด เนื่องจากเป็นการสร้างภาคี ทั้งนี้เนื่องจาก อัลกุรอานเท่านั้นที่เป็นบัญญัติของพระเจ้า) ในที่นี้เขาสันนิฐานว่า คุณพ่อคุณแม่ของท่านศาสดามูฮัมมัดเป็น "กาเฟร" ทั้งนี้เพราะว่า ตามความเชื่อของชาวฮาดีษ ถ้าเขาปฏิเสธ ซอเฮี๊ยะฮาดีษ แล้วเขาจะ กลายเป็น "กาเฟรมูรตัด" คือตกจากการเป็นมุสลิม
ตามเหตุผลข้างบนนี้ คุณฮุไซนี จึงปฏิเสธความเป็น "กาเฟร" ของคุณพ่อคุณแม่ของท่านรอซูล ไม่ได้
คำถามของผมที่ค้างไว้ในกระทู้ก่อนหน้านี้ คือ;
ถ้าเช่นนั้นหากว่าคุณพ่อคุณแม่ของท่านรอซูล เป็นกาเฟร และเป็นชาวนรกแล้ว คงไม่เป็นอยู่เพียงคู่เดียวเท่านั้น พ่อแม่หรือปู่ย่าตายายของสหายของท่านรอซูล ก็อาจจะต้องเป็นชาวนรกไปด้วยการที่เป็น "กาเฟร" ดอกหรือ? (ทั้งนี้เพราะว่า เขาเหล่านั้น ไม่เป็นที่ทราบแน่ว่าสร้างภาคีหรือไม่ เพียงแต่เป็นการสันนิฐาน)
การเชื่อเช่นนี้ตามเหตุผลในอัลกุรอานแล้วขัดกับอัลกุรอาน ดังนั้น ผมมีความต้องการให้คุณฮุไซนี อธิบายเหตุผลของคุณว่า, เพราะเหตุใดมุสลิมจึงไม่อาจจะขอพรจากอัลลอฮ์ ให้กับพ่อแม่ที่เป็นกาเฟร ได้ ในเมื่ออัลกุรอาน บอกอย่างชัดเจนว่า ควรจะทำอย่างไรต่อพ่อแม่ อัลกุรอานไม่มีบัญญัติห้าม, ไม่ให้มุสลิมที่เป็นลูกขอพร ต่ออัลลอฮ์ให้กับพ่อแม่ที่เป็นกาเฟร, อัลกุรอานมีแต่สนับสนุนให้มุสลิมรู้สึก ถึงบุญคุณพ่อแม่ โดยโอบอุ้มท่านและ กล่าวว่า;
وَاخْفِضْ لَهُمَا جَنَاحَ الذُّلِّ مِنَ الرَّحْمَةِ وَقُلْ رَبِّ ارْحَمْهُمَا كَمَا رَبَّيَانِي صَغِيرًا
And make yourself submissively gentle to them with compassion, and say:
O my Lord! have compassion on them, as they brought me up (when I was) little.[อัลกุรอาน 17:24]
"ข้าแต่พระเจ้าของฉัน ทรงโปรดเมตตาแก่ท่านทั้งสองเช่นที่ทั้งสองได้เลี้ยงดูฉันเมื่อเยาว์วัย"
คุยกับคุณฮุไซนีต่อในเรื่อง "มุสลิมขอพรให้กับพ่อแม่ที่เป็น กาเฟร หรือ นับถือศาสนาอื่นได้หรือไม่?"
http://pantip.com/topic/32896880 ซึ่งยังไม่ได้รับคำตอบจากคุณฮุไซนี อันเนื่องมาจากฮาดีษข้างล่างนี้
มีรายงาน จากท่านหัมมาด บินสะละมะฮ์, จากท่านษาบิต อัล-บุนานีย์, จากท่านอนัส บินมาลิก ร.ฎ. ว่า ...
أَنَّ رَجُلاَ قَالَ : يَا رَسُوْلَ اللهِ! أَيْنَ أَبِىْ ؟ .. قَالَ : فِى النَّارِ، فَلَمَّا قَفَّى دَعَاهُ فَقَالَ : إِنَّ أَبِىْ وَأَبَاكَ فِى النَّارِ ...
“ชายผู้หนึ่งกล่าวว่า .. โอ้ท่านรอซู้ลุลลอฮ์ บิดาของฉันอยู่ที่ไหน?, ท่านนบีย์ตอบว่า .. อยู่ในนรก, แล้วเมื่อเขาผินหลังให้ท่านนบีย์ก็เรียกเขา แล้วกล่าวว่า .. แท้จริง ทั้งบิดาของฉันและบิดาของท่านอยู่ในนรก” ...
(บันทึกโดยท่านมุสลิม หะดีษที่ 347/203, ท่านอบูอะวานะฮ์ เล่มที่ 1 หน้า 99, ท่านอบูดาวูด หะดีษที่ 4718, ท่านอะห์มัด เล่มที่ 3 หน้า 268, ท่านอัล-บัยฮะกีย์ เล่มที่ 7 หน้า 190, ท่านอัล-ญูซะกอนีย์ในหนังสือ “อัล-อะบาฏิล วัลมะนากีรฺ” เล่มที่ 1 หน้า 233 และท่านอบูยะอฺลา 6/229/3516)
เนื่องจากว่าผม ไม่เชื่อว่าฮาดีษข้าบนนี้ไม่มีความจริง ทั้งนี้แม้แต่นักวิชาการที่เขียน บทความเรื่องนี้ จากเวบ
http://www.moradokislam.org/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=1380&postdays=0&postorder=asc&start=0
ก็ยังใช้คำว่า :
ผมเอง ยอมรับว่าเป็นอีกผู้หนึ่งที่ “ทำใจรับไม่ได้” เช่นเดียวกันกับคำกล่าวที่ว่า บิดามารดาของท่านนบีย์ ต้องเข้านรก ...
แต่, .. ผมก็อดถามตัวเองไม่ได้ว่า .. “สมมุติ” ถ้าพิสูจน์ได้ว่าหะดีษทั้ง 2 บทข้างต้นเป็นหะดีษที่ถูกต้อง (صَحِيْحٌ) .. และไม่ขัดแย้งกับอัล-กุรฺอ่านล่ะ? เราจะว่ายังไง ?
เรื่องนี้แสดงว่า ในระหว่างนักวิชาการเองก็ยังไม่มีความแน่ใจว่า "ฮาดีษบทนี้เป็นความจริงหรือไม่?"
ในทัศนะของผม คิดว่า ถ้า หากว่า ฮาดีษบทนี้มีความจริง ว่า คุณพ่อของท่านศาสดามูฮัมมัดอยู่ใน "นรก" หรือเป็นชาวนรก เนื่องมาจาก บิดามารดา ของท่านรอซูล เป็นกาเฟร ทั้งนี้เพราะว่า มีฮาดีษ เล่าต่อมาว่า
(2). มีรายงานจากท่านอบู ฮุร็อยเราะฮ์ ร.ฎ. ว่า ...
زَارَالنَّبِىُّ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ قَبْرَأُمِّهِ فَبَكَى، وَأَبْكَى مَنْ حَوْلَهُ، فَقَالَ : إِسْتَأْذَنْتُ رَبِّىْ فِىْ أَنْ أَسْتَغْفِرَلَهَا فَلَمْ يُؤْذَنْ لِىْ، وَاسْتَأْذَنْتُهُ فِىْ أَنْ أَزُوْرَقَبْرَهَا فَأَذِنَ لِىْ، فَزُوْرُواالْقُبُوْرَ! فَإِنَّهَا تُذَكِّرُالْمَوْتَ ..
“ท่านนบีย์ ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิวะซัลลัมได้ไปเยี่ยมกุบูรฺมารดาของท่าน แล้วท่านก็ร้องไห้ ทำให้คนที่อยู่รอบตัวท่านร้องไห้ด้วย แล้วท่านจึงกล่าวว่า .. “ฉันขออนุญาตต่อพระผู้อภิบาลของฉันในการขออภัยโทษให้ท่าน(คุณแม่) แต่ฉันไม่ได้รับอนุญาต, ฉันจึงขออนุญาตต่อพระองค์ในการไปเยี่ยมกุบูรฺของท่าน พระองค์ก็อนุญาตแก่ฉัน ดังนั้นพวกท่านจงซิยาเราะฮ์กุบูรเถิด เพราะมันจะช่วยเตือนรำลึกพวกท่านเรื่องความตาย” ...
(บันทึกโดย ท่านมุสลิม หะดีษที่ 108/976, ท่านอัน-นะซาอีย์ หะดีษที่ 2033, ท่านอิบนุมาญะฮ์ หะดีษที่ 1572, ท่านอัล-บัยฮะกีย์ เล่มที่ 4 หน้า 76, และท่านอะห์มัด เล่มที่ 2 หน้า 441)
เหตุผลที่ อัลลอฮ์ไม่อนุญาตให้ท่านรอซูล ในการขออภัยโทษให้ท่าน(คุณแม่) แต่ฉันไม่ได้รับอนุญาต, นั้นผู้รู้นักวิชาการอิสลามอ้างว่า เพราะบิดามารดาของ ท่านศาสดามูฮัมมัดเป็น "กาเฟร"
ตามฮาดีษข้างล่างนี้:
การมีตระกูลเดียวกันกับคนดีนั้น ไม่ได้ทำให้มนุษย์ปลอดภัยจากการลงโทษของอัลลอฮ ตะอาลา ดังที่ท่านอิ ม่ามนะวาวีย์ได้กล่าวว่า
من مات على الكفر فهو في النار ولا تنفعه قرابة المقربين "
ผู้ใดตายในสภาพที่เป็นกุฟุร เขาก็อยู่ในนรก และการเป็นญาติใกล้ชิดกับบรรดาผู้ที่ใกล้ชิดกับพระเจ้านั้น ไม่ได้ก่อประโยชน์ ให้แก่เขาแต่ประการใด" ดู ชัรหุมุสลิม 3/79
สิ่งที่ผมสงสัยและต้องการถามคุณฮุไซนีก็คือ:
ถ้าคุณพ่อคุณแม่ของท่านรอซูลเป็น "กาเฟร" อย่างแท้จริงแล้ว คุณพ่อคุณแม่ ปู้ย่าตายาย ของ ท่านศอฮาบะห์ หรือ สหายของท่านศาสดามูฮัมมัด ไม่เป็น "กาเฟร" กันหมดหรือ? เนื่องจาก เขาเกิดก่อนที่ จะมี "อิสลาม" ในรูปแบบสมัยหลังจากได้รับอัลกุรอานแล้ว เนื่องจากในสมัยก่อนท่านศาสดามูฮัมมัดเกิดนั้น ตามประวัติศาสตร์อิสลามเล่ามาว่า
"ตระกูลกุเรชของท่านนบีย์ .. โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คุณปู่ของท่าน .. ประวัติศาสตร์บันทึกเอาไว้ว่า เป็นผู้มีหน้าที่ดูแลรักษาบัยตุ้ลลอฮ์ (กะอฺบะฮ์) ...
และเมื่อตอนที่ท่านนบีย์ ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิวะซัลลัมพิชิตนครมักกะฮ์ในเดือนรอมะฎอนปี ฮ.ศ.ที่ 8 .. ปรากฏว่ารอบๆกะอฺบะฮ์ (ตามบันทึกในหนังสือประวัติศาสตร์หลายเล่ม ตัวอย่างเช่นหนังสือ “นูรุลยะกีน” หน้า 223) ระบุว่า มีเจว็ดต่างๆอยู่ถึง 360 ตัวด้วยกัน ... ผมจึงไม่ทราบว่า ตระกูลของท่านนบีย์ทำหน้าที่ดูแลรักษาบัยตุ้ลลอฮ์เพียงอย่างเดียว หรือเคยเคารพบูชาเจว็ดพวกนั้นด้วย ?? ... หรือเมื่อตอนที่ท่านอบูฏอลิบซึ่งเป็นลุงจะสิ้นชีวิต และท่านนบีย์เสนอให้ท่าน “ยอมรับพระเจ้าองค์เดียว” โดยการกล่าวปฏิญาณว่า ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮ์ แต่กลับถูกขัดขวางโดยอบูละฮับผู้เป็นลุงอีกท่านหนึ่งที่คอยกำชับท่านอบูฏอลิบว่า “อย่าละทิ้งศาสนาของปู่ย่าตายาย” เป็นอันขาด"
ข้อความข้างบนนี้ คือเหตุผลที่ "สันนิฐาน" ว่า บิดามารดาของท่านศาสดามูฮัมมัดอาจจะ เป็นผู้สร้างภาคี หรือไม่สร้างภาคีก็ได้ แต่เนื่องจากฮาดีษ เป็น ฮาดีษ ซอเฮี๊ยะ เป็น ฮาดีษ ที่เทียบเท่าอัลกุรอาน (ตามความเฃื่อถือของชาวฮาดีษ ซึ่งเป็นความเชื่อถือที่ ผิด เนื่องจากเป็นการสร้างภาคี ทั้งนี้เนื่องจาก อัลกุรอานเท่านั้นที่เป็นบัญญัติของพระเจ้า) ในที่นี้เขาสันนิฐานว่า คุณพ่อคุณแม่ของท่านศาสดามูฮัมมัดเป็น "กาเฟร" ทั้งนี้เพราะว่า ตามความเชื่อของชาวฮาดีษ ถ้าเขาปฏิเสธ ซอเฮี๊ยะฮาดีษ แล้วเขาจะ กลายเป็น "กาเฟรมูรตัด" คือตกจากการเป็นมุสลิม
ตามเหตุผลข้างบนนี้ คุณฮุไซนี จึงปฏิเสธความเป็น "กาเฟร" ของคุณพ่อคุณแม่ของท่านรอซูล ไม่ได้
คำถามของผมที่ค้างไว้ในกระทู้ก่อนหน้านี้ คือ;
ถ้าเช่นนั้นหากว่าคุณพ่อคุณแม่ของท่านรอซูล เป็นกาเฟร และเป็นชาวนรกแล้ว คงไม่เป็นอยู่เพียงคู่เดียวเท่านั้น พ่อแม่หรือปู่ย่าตายายของสหายของท่านรอซูล ก็อาจจะต้องเป็นชาวนรกไปด้วยการที่เป็น "กาเฟร" ดอกหรือ? (ทั้งนี้เพราะว่า เขาเหล่านั้น ไม่เป็นที่ทราบแน่ว่าสร้างภาคีหรือไม่ เพียงแต่เป็นการสันนิฐาน)
การเชื่อเช่นนี้ตามเหตุผลในอัลกุรอานแล้วขัดกับอัลกุรอาน ดังนั้น ผมมีความต้องการให้คุณฮุไซนี อธิบายเหตุผลของคุณว่า, เพราะเหตุใดมุสลิมจึงไม่อาจจะขอพรจากอัลลอฮ์ ให้กับพ่อแม่ที่เป็นกาเฟร ได้ ในเมื่ออัลกุรอาน บอกอย่างชัดเจนว่า ควรจะทำอย่างไรต่อพ่อแม่ อัลกุรอานไม่มีบัญญัติห้าม, ไม่ให้มุสลิมที่เป็นลูกขอพร ต่ออัลลอฮ์ให้กับพ่อแม่ที่เป็นกาเฟร, อัลกุรอานมีแต่สนับสนุนให้มุสลิมรู้สึก ถึงบุญคุณพ่อแม่ โดยโอบอุ้มท่านและ กล่าวว่า;
And make yourself submissively gentle to them with compassion, and say:
O my Lord! have compassion on them, as they brought me up (when I was) little.[อัลกุรอาน 17:24]
"ข้าแต่พระเจ้าของฉัน ทรงโปรดเมตตาแก่ท่านทั้งสองเช่นที่ทั้งสองได้เลี้ยงดูฉันเมื่อเยาว์วัย"