ลืม
เรื่อง สายรุ้ง
บรรยาย KTH
แดดอ่อนยามเช้าสาดส่องผ่านกรอบหน้าต่าง ม่านสีชมพูบางเบากระพือพลิ้วตามสายลมเย็นที่หอบพัดเอาความมีชีวิตชีวาของวันใหม่เข้ามา นกที่เกาะอยู่ตามกิ่งไม้ต่างก็ประชันเสียงกันไม่ขาดสาย
ช่างเป็นบรรยากาศแห่งความสุขจนหลายคนที่ยังคงซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่มหนาและเตียงอุ่นไม่อยากจะลืมตาตื่นจากห้วงความฝัน
สมชายปรือตาขึ้นอย่างยากลำบาก ปวดตุ้บที่ขมับทั้งสองข้าง คงเป็นเพราะเขาดื่มอย่างหนักและนอนไม่พอในคืนที่ผ่านมา ทั้งๆ ที่ปกติแทบจะไม่เคยแตะเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์ทุกชนิดแท้ๆ แต่เมื่อคืนเขามีความสุขมากจนถึงขนาดที่ดื่มเท่าไหร่ก็ไม่รู้สึกเมา
ใช่แล้ว เขามีความสุขมากจริงๆ ที่ได้แต่งงานกับยุพา ความตื่นเต้นและตื้นตันยามเธอจับมือเขาพร้อมกับให้คำมั่นสัญญาต่อหน้าแขกเหรื่อที่มาร่วมงานว่าจะใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ต่อจากนี้ไปด้วยกันจวบจนวันสุดท้ายของลมหายใจยังคงแจ่มชัดสว่างไสวเหมือนกับเพิ่งเกิดขึ้นไม่กี่นาทีนี้เอง
ยุพาทั้งน่ารักและอัธยาศัยดี ไม่ว่าใครที่ได้พบปะปราศรัยต่างก็นิยมชมชอบ ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจเลยที่เธอจะเป็นที่รักใคร่หมายปองของบรรดาหนุ่มน้อยใหญ่ แต่เหมือนสวรรค์โปรดที่เธอกลับเลือกเขาที่ไม่ได้มีอะไรโดดเด่นเลย มันเหมือนเรื่องโกหกจนเขาเองยังนึกแปลกใจและกลัวว่ามันจะเป็นเพียงฝันไป
ในชีวิตของคนเรามีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมาย ทั้งดีร้ายและสุขทุกข์ แต่คงมีไม่กี่เรื่องเท่านั้นที่จะทำให้รู้สึกว่าเราช่างโชคดีและมีความสุขอย่างที่สุด และหนึ่งในนั้นก็คงจะเป็นเรื่องที่ได้สามารถใช้ชีวิตร่วมกับคนที่เรารักและรักเรา
และที่สำคัญกว่านั้น ยิ่งเธอเป็นคนที่เพียบพร้อมไปเสียทุกด้านอย่างยุพา
ยังเหลือวันหยุดที่ลาไว้อีกหลายวัน เพื่อเป็นการตอบแทนความไว้วางใจที่ยุพาฝากทั้งชีวิตไว้กับเขา สมชายคิดวางแผนจะพาเธอไปเที่ยวและจะได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันสองต่อสองสักสองสามวัน
ทะเลทางใต้ที่เธอชอบ ที่นั่นเป็นที่ๆ ได้ไปเที่ยวด้วยกันเป็นครั้งแรก และเป็นที่ๆ เธอตอบรับความรักของเขา
โลกทั้งใบกลายเป็นสีชมพู สมชายยิ้มให้กับภาพในหัวสมอง ให้กับตัวเอง ให้กับเพดาน ให้กับความว่างเปล่าตรงหน้า เขาเหลียวมองไปยังที่นอนข้างตัว หวังจะได้เห็นใบหน้าของหญิงคนรักที่กำลังหลับปุ๋ย
แต่มันว่างเปล่า ยุพาไม่ได้นอนอยู่ข้างกายเหมือนอย่างที่คิดไว้
บางทีเธออาจจะกำลังทำหน้าที่แม่ศรีเรือนที่ดีอยู่ อาจจะกำลังเตรียมอาหารเช้าและรอให้เขาตื่นลงไปทานด้วยกัน อาจจะกำลังรดน้ำต้นไม้ที่สวนหน้าบ้าน หรืออาจจะกำลังให้อาหารเจ้าจัมโบ้ สุนัขตัวเขื่องที่เลี้ยงมาด้วยกันตั้งแต่ยังแบเบาะ
ปกติเจ้าจัมโบ้จะเห่าที่หน้าต่างเพื่อปลุกให้พาไปเดินเล่นทุกเช้า แต่วันนี้สมชายไม่ได้ยินเสียงมันเห่าแม้แต่ครั้งเดียว ก็คงเป็นเพราะเขาเมาจนไม่ได้สตินั่นล่ะ
สายตาเหลือบมองนาฬิกาแขวนผนัง คงจะดีกว่าถ้าตอนนี้เขารีบอาบน้ำแต่งตัวและลงไปช่วยยุพาทำอะไรก็ตามที่เธอกำลังทำอยู่ตอนนี้
เมื่อคิดได้ดังนั้น สมชายจึงตัดสินใจผละตัวเองออกจากที่นอน ความปวดเมื่อยเจ็บแปลบแล่นไปทั่วร่างยามที่แผ่นหลังพ้นจากฟูกนุ่ม คิดไม่ถึงว่าอาการเมาค้างจะทำให้รู้สึกแย่ได้ขนาดนี้
เขานึกสัญญากับตัวเองหนักแน่นว่าจะไม่แตะเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อีกเป็นอันขาด
ประตูตู้เสื้อผ้าถูกเปิดออก ขณะกำลังจะเลือกชุดที่แขวนเรียงรายอยู่สายตาพลันเหลือบไปมองกระจกเงาที่ติดอยู่กับประตูตู้ ภาพสะท้อนของใครคนหนึ่งปรากฏอยู่ในนั้น
เป็นใครก็ต้องรู้ว่าคนในกระจกต้องเป็นเขา ใช่แล้ว มันควรจะเป็นแบบนั้น ภาพในนั้นควรจะเป็นชายหนุ่มคิ้วหนาและมีผมดกดำยุ่งเหยิงที่ชื่อสมชาย
แต่ชายชราผมสีดอกเลา ใบหน้าเต็มไปด้วยริ้วรอยเหี่ยวย่นแห่งวัยที่เขาเห็นคือใครกัน
ไม่เชื่อสายตาตัวเอง สมชายยกมือขึ้นลูบไล้ใบหน้า ภาพในกระจกทำตาม เขายื่นมือออกไปสัมผัสชายชราในกระจกเงา และชายชราในนั้นก็ยื่นมือออกมาแตะยังมือของเขาในเวลาเดียวกัน
ตึ่กๆ ตึ่กๆ
หัวใจเต้นรัวแรงจนเจ็บหน้าอก เริ่มไม่แน่ใจเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น หรือว่านี่กำลังฝันอยู่ เขาลองหยิกตัวเอง มันเจ็บ ลองตบหน้าตัวเองเผื่อว่าอาจจะตื่นขึ้นจากฝันแปลกๆ นี้ แต่ไม่ได้ผล นี่เขากำลังตื่นอยู่
เหงื่อกาฬผุดขึ้นตามใบหน้าและแผ่นหลังจนรู้สึกไม่สบายตัว มือไม้เริ่มสั่น สมชายสับสนกับภาพตรงหน้า เขาทำทุกอย่างแล้ว ตรวจสอบทุกอย่างที่ทำได้แล้ว แต่ไม่ว่าจะทำอย่างไรทั้งหมดที่ทำก็ยืนยันว่าชายชราในกระจกเงาคนนั้นคือเขา
นี่มันเกิดอะไรขึ้น เมื่อคืนเขายังมีความสุขในงานแต่งงานของตนเองกับยุพาอยู่เลยแท้ๆ แล้วทำไมเพียงแค่ชั่วข้ามคืนเขาถึงกลับกลายเป็นคนแก่แบบนี้
เรื่องแบบนี้ไม่มีทางเป็นไปได้อยู่แล้ว นี่เราคงกำลังฝันไปจริงๆ ไม่ ไม่ใช่อย่างนั้น ก็เราตรวจสอบแล้วว่านี่คือความจริง แล้วมันเป็นอย่างนี้ไปได้ยังไง
การพยายามหาเหตุผลในช่วงเวลาที่กำลังสับสนกลายเป็นเหมือนการคิดแบบพายเรือในอ่าง ความคิดเดิมๆ วกวนกลับไปกลับมาในหัวสมอง รู้สึกกระอักกระอ่วนจนอยากอาเจียน
เขาต้องการคนช่วย เท้าทั้งสองพยายามก้าวถี่ๆ เพื่อที่จะพบใครก็ได้สักคนให้เร็วที่สุด แต่ทว่ามันทั้งคู่กลับไม่อาจทำหน้าที่ได้เร็วอย่างใจ มันสั่นจนแม้แต่จะยืนก็ยังลำบาก มือไม้หาที่เกาะเปะปะไปทั่ว
ยุพา ยุพา เธออยู่ไหน ช่วยด้วย นี่เกิดอะไรขึ้น ช่วยด้วย
เหมือนหน้าจะคะมำลงทุกก้าวที่เหยียบลงบนพื้นบันได ห้องครัวมีเพียงกับข้าวหลายรายการวางอยู่บนโต๊ะแต่ปราศจากเงาร่างของผู้ที่ปรุงมันขึ้นมา เขาพยายามกวาดสายตามองไปให้ทั่วบ้านที่สุดเท่าที่จะทำได้
ยุพาอาจจะอยู่บริเวณใดบริเวณหนึ่งในบ้าน แต่เขาคิดผิด นอกจากเขาแล้วปราศจากสิ่งมีชีวิตอื่นใดในบ้านหลังนี้ สมชายพยายามควบคุมสติ หายใจเข้าออกลึก แต่ไม่ได้ผล เขากลัวเกินกว่าจะควบคุมอะไรได้ ภาพตรงหน้าเริ่มหมุนคว้างเลื่อนลอย รู้สึกว่ากำลังจะสิ้นสติ
สวนหน้าบ้าน ยุพาอาจจะอยู่ที่นั่น เธอจะช่วยเขาให้หลุดจากฝันร้ายบ้าๆ นี่เสียที เขาพยายามเดินไปที่ประตูหน้าบ้าน แต่ขาเจ้ากรรมสั่นรุนแรงเสียจนเขาเสียการควบคุมมันไปหมดแล้ว เขาล้มลงกับพื้น ร่างกายหลุดจากการควบคุมของจิตใจและสมอง
“อ๊าก...กกกกก”
เสียงตะโกนอย่างคนสิ้นสติเป็นสิ่งสุดท้ายที่ทำได้ และเมื่อสิ้นเสียงตะโกน บานประตูที่เขาหมายจะไปให้ถึงก็เปิดออก เงาของคนๆ หนึ่งวิ่งออกมาจากแสงสว่างตรงหน้าช่วยพยุงตัวของเขาไว้
....................................
ลืม (Forget)
เรื่อง สายรุ้ง
บรรยาย KTH
แดดอ่อนยามเช้าสาดส่องผ่านกรอบหน้าต่าง ม่านสีชมพูบางเบากระพือพลิ้วตามสายลมเย็นที่หอบพัดเอาความมีชีวิตชีวาของวันใหม่เข้ามา นกที่เกาะอยู่ตามกิ่งไม้ต่างก็ประชันเสียงกันไม่ขาดสาย
ช่างเป็นบรรยากาศแห่งความสุขจนหลายคนที่ยังคงซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่มหนาและเตียงอุ่นไม่อยากจะลืมตาตื่นจากห้วงความฝัน
สมชายปรือตาขึ้นอย่างยากลำบาก ปวดตุ้บที่ขมับทั้งสองข้าง คงเป็นเพราะเขาดื่มอย่างหนักและนอนไม่พอในคืนที่ผ่านมา ทั้งๆ ที่ปกติแทบจะไม่เคยแตะเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์ทุกชนิดแท้ๆ แต่เมื่อคืนเขามีความสุขมากจนถึงขนาดที่ดื่มเท่าไหร่ก็ไม่รู้สึกเมา
ใช่แล้ว เขามีความสุขมากจริงๆ ที่ได้แต่งงานกับยุพา ความตื่นเต้นและตื้นตันยามเธอจับมือเขาพร้อมกับให้คำมั่นสัญญาต่อหน้าแขกเหรื่อที่มาร่วมงานว่าจะใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ต่อจากนี้ไปด้วยกันจวบจนวันสุดท้ายของลมหายใจยังคงแจ่มชัดสว่างไสวเหมือนกับเพิ่งเกิดขึ้นไม่กี่นาทีนี้เอง
ยุพาทั้งน่ารักและอัธยาศัยดี ไม่ว่าใครที่ได้พบปะปราศรัยต่างก็นิยมชมชอบ ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจเลยที่เธอจะเป็นที่รักใคร่หมายปองของบรรดาหนุ่มน้อยใหญ่ แต่เหมือนสวรรค์โปรดที่เธอกลับเลือกเขาที่ไม่ได้มีอะไรโดดเด่นเลย มันเหมือนเรื่องโกหกจนเขาเองยังนึกแปลกใจและกลัวว่ามันจะเป็นเพียงฝันไป
ในชีวิตของคนเรามีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมาย ทั้งดีร้ายและสุขทุกข์ แต่คงมีไม่กี่เรื่องเท่านั้นที่จะทำให้รู้สึกว่าเราช่างโชคดีและมีความสุขอย่างที่สุด และหนึ่งในนั้นก็คงจะเป็นเรื่องที่ได้สามารถใช้ชีวิตร่วมกับคนที่เรารักและรักเรา
และที่สำคัญกว่านั้น ยิ่งเธอเป็นคนที่เพียบพร้อมไปเสียทุกด้านอย่างยุพา
ยังเหลือวันหยุดที่ลาไว้อีกหลายวัน เพื่อเป็นการตอบแทนความไว้วางใจที่ยุพาฝากทั้งชีวิตไว้กับเขา สมชายคิดวางแผนจะพาเธอไปเที่ยวและจะได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันสองต่อสองสักสองสามวัน
ทะเลทางใต้ที่เธอชอบ ที่นั่นเป็นที่ๆ ได้ไปเที่ยวด้วยกันเป็นครั้งแรก และเป็นที่ๆ เธอตอบรับความรักของเขา
โลกทั้งใบกลายเป็นสีชมพู สมชายยิ้มให้กับภาพในหัวสมอง ให้กับตัวเอง ให้กับเพดาน ให้กับความว่างเปล่าตรงหน้า เขาเหลียวมองไปยังที่นอนข้างตัว หวังจะได้เห็นใบหน้าของหญิงคนรักที่กำลังหลับปุ๋ย
แต่มันว่างเปล่า ยุพาไม่ได้นอนอยู่ข้างกายเหมือนอย่างที่คิดไว้
บางทีเธออาจจะกำลังทำหน้าที่แม่ศรีเรือนที่ดีอยู่ อาจจะกำลังเตรียมอาหารเช้าและรอให้เขาตื่นลงไปทานด้วยกัน อาจจะกำลังรดน้ำต้นไม้ที่สวนหน้าบ้าน หรืออาจจะกำลังให้อาหารเจ้าจัมโบ้ สุนัขตัวเขื่องที่เลี้ยงมาด้วยกันตั้งแต่ยังแบเบาะ
ปกติเจ้าจัมโบ้จะเห่าที่หน้าต่างเพื่อปลุกให้พาไปเดินเล่นทุกเช้า แต่วันนี้สมชายไม่ได้ยินเสียงมันเห่าแม้แต่ครั้งเดียว ก็คงเป็นเพราะเขาเมาจนไม่ได้สตินั่นล่ะ
สายตาเหลือบมองนาฬิกาแขวนผนัง คงจะดีกว่าถ้าตอนนี้เขารีบอาบน้ำแต่งตัวและลงไปช่วยยุพาทำอะไรก็ตามที่เธอกำลังทำอยู่ตอนนี้
เมื่อคิดได้ดังนั้น สมชายจึงตัดสินใจผละตัวเองออกจากที่นอน ความปวดเมื่อยเจ็บแปลบแล่นไปทั่วร่างยามที่แผ่นหลังพ้นจากฟูกนุ่ม คิดไม่ถึงว่าอาการเมาค้างจะทำให้รู้สึกแย่ได้ขนาดนี้
เขานึกสัญญากับตัวเองหนักแน่นว่าจะไม่แตะเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อีกเป็นอันขาด
ประตูตู้เสื้อผ้าถูกเปิดออก ขณะกำลังจะเลือกชุดที่แขวนเรียงรายอยู่สายตาพลันเหลือบไปมองกระจกเงาที่ติดอยู่กับประตูตู้ ภาพสะท้อนของใครคนหนึ่งปรากฏอยู่ในนั้น
เป็นใครก็ต้องรู้ว่าคนในกระจกต้องเป็นเขา ใช่แล้ว มันควรจะเป็นแบบนั้น ภาพในนั้นควรจะเป็นชายหนุ่มคิ้วหนาและมีผมดกดำยุ่งเหยิงที่ชื่อสมชาย
แต่ชายชราผมสีดอกเลา ใบหน้าเต็มไปด้วยริ้วรอยเหี่ยวย่นแห่งวัยที่เขาเห็นคือใครกัน
ไม่เชื่อสายตาตัวเอง สมชายยกมือขึ้นลูบไล้ใบหน้า ภาพในกระจกทำตาม เขายื่นมือออกไปสัมผัสชายชราในกระจกเงา และชายชราในนั้นก็ยื่นมือออกมาแตะยังมือของเขาในเวลาเดียวกัน
ตึ่กๆ ตึ่กๆ
หัวใจเต้นรัวแรงจนเจ็บหน้าอก เริ่มไม่แน่ใจเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น หรือว่านี่กำลังฝันอยู่ เขาลองหยิกตัวเอง มันเจ็บ ลองตบหน้าตัวเองเผื่อว่าอาจจะตื่นขึ้นจากฝันแปลกๆ นี้ แต่ไม่ได้ผล นี่เขากำลังตื่นอยู่
เหงื่อกาฬผุดขึ้นตามใบหน้าและแผ่นหลังจนรู้สึกไม่สบายตัว มือไม้เริ่มสั่น สมชายสับสนกับภาพตรงหน้า เขาทำทุกอย่างแล้ว ตรวจสอบทุกอย่างที่ทำได้แล้ว แต่ไม่ว่าจะทำอย่างไรทั้งหมดที่ทำก็ยืนยันว่าชายชราในกระจกเงาคนนั้นคือเขา
นี่มันเกิดอะไรขึ้น เมื่อคืนเขายังมีความสุขในงานแต่งงานของตนเองกับยุพาอยู่เลยแท้ๆ แล้วทำไมเพียงแค่ชั่วข้ามคืนเขาถึงกลับกลายเป็นคนแก่แบบนี้
เรื่องแบบนี้ไม่มีทางเป็นไปได้อยู่แล้ว นี่เราคงกำลังฝันไปจริงๆ ไม่ ไม่ใช่อย่างนั้น ก็เราตรวจสอบแล้วว่านี่คือความจริง แล้วมันเป็นอย่างนี้ไปได้ยังไง
การพยายามหาเหตุผลในช่วงเวลาที่กำลังสับสนกลายเป็นเหมือนการคิดแบบพายเรือในอ่าง ความคิดเดิมๆ วกวนกลับไปกลับมาในหัวสมอง รู้สึกกระอักกระอ่วนจนอยากอาเจียน
เขาต้องการคนช่วย เท้าทั้งสองพยายามก้าวถี่ๆ เพื่อที่จะพบใครก็ได้สักคนให้เร็วที่สุด แต่ทว่ามันทั้งคู่กลับไม่อาจทำหน้าที่ได้เร็วอย่างใจ มันสั่นจนแม้แต่จะยืนก็ยังลำบาก มือไม้หาที่เกาะเปะปะไปทั่ว
ยุพา ยุพา เธออยู่ไหน ช่วยด้วย นี่เกิดอะไรขึ้น ช่วยด้วย
เหมือนหน้าจะคะมำลงทุกก้าวที่เหยียบลงบนพื้นบันได ห้องครัวมีเพียงกับข้าวหลายรายการวางอยู่บนโต๊ะแต่ปราศจากเงาร่างของผู้ที่ปรุงมันขึ้นมา เขาพยายามกวาดสายตามองไปให้ทั่วบ้านที่สุดเท่าที่จะทำได้
ยุพาอาจจะอยู่บริเวณใดบริเวณหนึ่งในบ้าน แต่เขาคิดผิด นอกจากเขาแล้วปราศจากสิ่งมีชีวิตอื่นใดในบ้านหลังนี้ สมชายพยายามควบคุมสติ หายใจเข้าออกลึก แต่ไม่ได้ผล เขากลัวเกินกว่าจะควบคุมอะไรได้ ภาพตรงหน้าเริ่มหมุนคว้างเลื่อนลอย รู้สึกว่ากำลังจะสิ้นสติ
สวนหน้าบ้าน ยุพาอาจจะอยู่ที่นั่น เธอจะช่วยเขาให้หลุดจากฝันร้ายบ้าๆ นี่เสียที เขาพยายามเดินไปที่ประตูหน้าบ้าน แต่ขาเจ้ากรรมสั่นรุนแรงเสียจนเขาเสียการควบคุมมันไปหมดแล้ว เขาล้มลงกับพื้น ร่างกายหลุดจากการควบคุมของจิตใจและสมอง
“อ๊าก...กกกกก”
เสียงตะโกนอย่างคนสิ้นสติเป็นสิ่งสุดท้ายที่ทำได้ และเมื่อสิ้นเสียงตะโกน บานประตูที่เขาหมายจะไปให้ถึงก็เปิดออก เงาของคนๆ หนึ่งวิ่งออกมาจากแสงสว่างตรงหน้าช่วยพยุงตัวของเขาไว้
....................................