ความทรงจำสีจาง

กระทู้สนทนา
ความทรงจำสีจาง

เรื่อง Sri153

บรรยาย KTH

    แดดอ่อนยามเช้าสาดส่องผ่านกรอบหน้าต่าง ม่านสีชมพูบางเบากระพือพลิ้วหยอกล้อสายลมเอื่อย เหล่านกตามกิ่งไม้ต่างเจื้อยแจ้วต้อนรับวันใหม่ ช่างเป็นเช้าที่หลายคนยังอยากซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่มและมีความสุขกับความฝันบนเตียงอุ่น

    สมชายปรือตาขึ้นอย่างยากลำบาก ปวดตุ้บที่ขมับทั้งสองข้าง เมื่อคืนเขาคงนอนไม่พอและดื่มหนักจนเกินไป ทั้งๆ ที่ปกติแทบจะไม่เคยแตะเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์ทุกชนิดแท้ๆ แต่เมื่อคืนเขามีความสุขมากจนถึงขนาดที่ดื่มเข้าไปเท่าไหร่ก็ไม่รู้สึกเมา

    เขามีความสุขมากจริงๆ ที่ได้แต่งงานกับยุพา ความรู้สึกเกินบรรยายยามเมื่อเธอจับมือเขาพร้อมกับให้คำมั่นสัญญาต่อหน้าแขกเหรื่อว่าจะใช้ชีวิตต่อจากนี้ไปด้วยกันจวบจนวันสุดท้ายของลมหายใจยังคงแจ่มชัดสว่างไสวเหมือนกับเพิ่งเกิดขึ้นไม่กี่นาทีนี้เอง

    ยุพาทั้งน่ารักและอัธยาศัยดี ไม่ว่าใครที่ได้พบปะปราศรัยต่างก็นิยมชมชอบ ไม่น่าแปลกใจเลยที่ใครๆ ต่างก็หมายปองเธอ แต่เหมือนสวรรค์โปรดที่เขากลับกลายเป็นผู้โชคดีคนนั้น ทั้งๆ ที่เขาเองไม่ได้มีอะไรโดดเด่นเลย มันเหมือนเรื่องโกหกจนเขาเองยังกลัวว่ามันจะเป็นเพียงฝันไป

    ชีวิตคนหนึ่งคนมีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมาย แต่คงมีไม่กี่เรื่องเท่านั้นที่ทำให้เรารู้สึกว่าเราโชคดีที่สุดในโลก และเรื่องที่เราได้สามารถใช้ชีวิตร่วมกับคนที่เรารักและรักเราก็เป็นเรื่องหนึ่งที่ทำให้รู้สึกได้แบบนั้น

    ยังเหลือวันหยุดที่ลาไว้อีกหลายวัน สมชายคิดวางแผนจะพายุพาไปเที่ยวทะเลทางใต้ที่เธอชอบ มันเป็นที่ๆ เขาและเธอเคยไปเที่ยวด้วยกันเป็นครั้งแรก อีกทั้งยังเป็นที่ๆ เธอตอบรับรักเขา

    โลกทั้งใบกลายเป็นสีชมพู สมชายยิ้มให้กับภาพในหัวสมอง ให้กับตัวเอง ให้กับเพดาน ให้กับความว่างเปล่าตรงหน้า เขาเหลียวมองไปยังที่นอนข้างกาย หวังจะได้เห็นใบหน้าหญิงคนรักยามที่กำลังหลับปุ๋ย แต่มันกลับว่างเปล่า ยุพาไม่ได้นอนอยู่เหมือนอย่างที่คิดไว้

    บางทีเธออาจจะกำลังทำหน้าที่แม่ศรีเรือนที่ดีอยู่ อาจกำลังเตรียมอาหารเช้าและกำลังรอให้เขาตื่นลงไปทานด้วยกัน อาจกำลังรดน้ำต้นไม้ที่สวนหน้าบ้าน หรืออาจกำลังให้อาหารเจ้าจัมโบ้ สุนัขตัวเขื่องที่เลี้ยงมาด้วยกันตั้งแต่มันยังแบเบาะ

    ปกติเจ้าจัมโบ้จะเห่าปลุกเขาเพื่อให้พาไปเดินเล่นทุกเช้า แต่วันนี้สมชายคิดว่าเขาไม่ได้ยินเสียงเห่าของมัน คงเป็นเพราะเขาเมาไม่ได้สตินั่นล่ะ สายตาเหลือบมองนาฬิกาแขวนผนัง คงจะดีกว่าถ้าตอนนี้เขารีบอาบน้ำแต่งตัวและลงไปช่วยยุพาทำอะไรก็ตามที่เธอกำลังทำอยู่ตอนนี้

    เขาผละตัวเองออกจากที่นอน ความปวดเมื่อยเจ็บแปลบแล่นไปทั่วร่าง คิดไม่ถึงว่าอาการเมาค้างจะทำให้รู้สึกแย่ได้ขนาดนี้ นึกสัญญากับตัวเองหนักแน่นว่าจะไม่แตะเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อีกเป็นอันขาด

    ประตูตู้เสื้อผ้าถูกเหวี่ยงออก ขณะที่สมชายกำลังเลือกชุดที่แขวนเรียงรายอยู่สายตาพลับเหลือบไปมองกระจกเงาที่ติดอยู่กับประตูตู้ ภาพสะท้อนของใครคนหนึ่งปรากฏอยู่ในนั้น เป็นใครก็ต้องรู้ว่าคนในกระจกเงาต้องเป็นชายหนุ่มที่ชื่อสมชาย

    มันควรจะเป็นแบบนัน้น ภาพในนั้นควรจะเป็นชายหนุ่มคิ้วหนาที่มีผมดกดำยุ่งเหยิง แต่ชายชราผมสีดอกเลา ใบหน้าเต็มไปด้วยริ้วรอยเหี่ยวย่นแห่งวัยที่เขาเห็นคือใครกัน

    สมชายไม่เชื่อสายตาตัวเอง เขายกมือขึ้นลูบไล้ใบหน้า ภาพในกระจกทำตาม เขายื่นมือออกไปสัมผัสชายชราในกระจกเงา ชายชราในกระจกเงาทำตาม

    ตึ่กๆ ตึ่กๆ

    หัวใจเต้นรัวแรง สมชายรู้สึกเจ็บหน้าอก เขาเริ่มไม่แน่ใจต่อเหตุการณ์ตรงหน้า หรือว่ากำลังฝันอยู่ เขาลองหยิกตัวเอง มันเจ็บ ลองตบหน้าตัวเองเผื่อว่าอาจจะตื่นจากความฝันแปลกๆ นี้ แต่ไม่ได้ผล นี่เขากำลังตื่นอยู่

    เม็ดเหงื่อผุดทั่วกายจนรู้สึกไม่สบายตัว มือไม้เริ่มสั่น เขากำลังสับสน ทั้งๆ ที่ตรวจสอบทุกอย่างที่ทำได้แล้ว แต่การกระทำทั้งหมดนั้นก็ยืนยันว่าชายชราในกระจกเงาคือเขา

    นี่มันเกิดอะไรขึ้น เมื่อคืนเขายังมีความสุขในงานแต่งงานอยู่เลย แล้วทำไมเพียงชั่วข้ามคืนเขาถึงกลับกลายเป็นคนแก่แบบนี้

    เรื่องแบบนี้ไม่มีทางเป็นไปได้อยู่แล้ว นี่เราคงกำลังฝันไป ไม่สิ ก็เราตรวจสอบแล้วว่านี่คือความจริง แล้วมันเป็นอย่างนี้ได้ยังไง

    การพยายามหาเหตุผลในช่วงเวลาเช่นนี้กลับกลายเป็นการพายเรือในอ่าง ความคิดเดิมๆ วกวนไปมาในหัวสมอง รู้สึกกระอักกระอ่วนจนแทบอาเจียน

    เขาต้องการคนช่วย เท้าทั้งสองพยายามก้าวถี่ๆ หวังที่จะพบใครสักคนให้เร็วที่สุด แต่มันกลับสั่นจนแม้แต่จะยืนให้มั่นคงก็ยังลำบาก มือไม้หาที่เกาะเปะปะไปทั่ว

    ยุพา เธออยู่ไหน ช่วยด้วย นี่เกิดอะไรขึ้น ช่วยด้วย

    เขาอ่อนแรงลงในทุกก้าวที่เหยียบลงบนพื้นบันได ห้องครัวมีเพียงกับข้าวหลายอย่างวางอยู่บนโต๊ะ หากแต่ปราศจากเงาร่างของผู้ที่ปรุงมัน สายตาพยายามกวาดมองไปให้ทั่ว

    ยุพาอาจอยู่ตรงไหนในบ้าน แต่สมชายคิดผิด นอกจากเข้าแล้วปราศจากสิ่งมีชีวิตอื่นใด เขาพยายามควบคุมสติ หายใจเข้าออกลึก แต่ไม่ได้ผล เขากลัวเกินกว่าจะควบคุมอะไรได้ ภาพตรงหน้าเริ่มหมุนคว้าง รู้สึกเลื่อนลอยเหมือนกำลังสิ้นสติ

    ยุพาอาจอยู่ที่สวนหน้าบ้าน เธอจะช่วยเขาให้หลุดจากฝันร้ายบ้าๆ นี่เสียที เขาพยายามก้าวเท้า แต่ขาเจ้ากรรมสั่นรุนแรงจนเขาล้มลง ร่างกายทั้งหมดหลุดจากการควบคุมของจิตใจและสมอง

    “อ๊าก...กกกก”

    เสียงตะโกนอย่างคนสิ้นสติเป็นสิ่งสุดท้ายที่ทำได้ ทันใดนั้นบานประตูที่เขาหมายจะไปให้ถึงก็เปิดออก เงาร่างหนึ่งวิ่งออกมาจากแสงสว่างตรงหน้า

    ....................................
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่