เรื่องสั้น ชุด "ฝัน STory" ตอน ผียายทวด (โดย จ๊ะ เสือไบ)

ข้าพเจ้าฝันในคืนวันศุกร์ที่ ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๖๗ อันเป็นฝันประหลาดที่ข้าพเจ้าเคยฝันมา ณ ความฝันสองตีนของข้าพเจ้ากำลังยืน ณ หน้าบ้านหลังเก่าของคุณยาย บ้านหลังน้อยชั้นเดียวที่ก่อด้วยอิฐบล็อกสีเทาเรียงรายกันเป็นชั้นๆ ฉาบด้วยปูนคอนกรีตสีเดียวกันจนเรียบ มิได้ทาสีใดเลยแม้แต่น้อยทั้งนอก-ในของบ้าน
      หลังคากระเบื้องสีขาว บัดนี้กลายเป็นสีดำด้วยคราบราดำที่เกาะเต็มพื้นที่จนกลายเป็นสีคล้ายมะกอกเทศหรือลูกพรุน
      เมื่อข้าพเจ้ามองไปที่คานอันทำด้วยไม้ ข้าพเจ้าไม่ทราบแน่ชัดว่าเป็นไม้อันใด อนุมานว่าไม่ไม้สักก็ไม้ตะเคียน อันหาได้ยากแล้วที่จักเป็นคานไม้ในปรัตยุบัน เนื่องจากทรัพยากรป่าไม้ในประเทศไทยเหลือน้อยเต็มที ผู้คนจึงนิยมใช้เหล็กทำเป็นคานแทน 
      ประตูบ้านเป็นประตูไม้สักที่มิได้ใช้กบเหลาไม้ให้เป็นสีเนื้ออันเกลี้ยงเกลาชุบด้วยสีน้ำมันเนื้อไม้แลทินเนอร์แต่อย่างใด หากแต่เป็นประตูที่ยังใช้เนื้อไม้เดิม กล่าวคือนำไม้ที่ไม่ผ่านกระบวนการเหลานำมาเลื่อยตัดเป็นประตู
      เคหาสน์น้อยนี้มีประตูหลายบาน บานประตูก็เหมือนกับประตูตามบ้านทั่วไป หากแต่ประตูหน้าบ้านจักพิเศษกว่าบานอื่น เนื่องด้วยเป็นประตูไม้ มีบานพับที่คล้ายกับประตูบานพับตามห้องประชุมต่างๆ
      หน้าต่างของบ้านหลังนี้มี ๒ แบบ แบบที่หันหน้าไปทางทิศใต้แลทิศตะวันตกเป็นหน้าต่างกระจกกรอบไม้ ส่วนทิศอื่นของบ้านเป็นหน้าต่างไม้ธรรมดา
 
 (ลักษณะประตูแบบต่างๆ)
 
(ลักษณะประตูบานพับ)
          (ลักษณะของหน้าต่างกรอบไม้)
        
(ลักษณะของหน้าต่างไม้ธรรมดา)

    บ้านเล็กหลังนี้ไม่มีห้องนอน มีเพียงเตียงสองหลังที่ตั้งไว้หลังละตำแหน่ง รวมสองตำแหน่ง ตำแหน่งแรกเป็นเตียงที่ตั้งไว้กลางบ้าน มีลักษณะเป็นเตียงไม้สักเก่า มีสี่เสาเอาไว้แขวนหูมุ้งสีขาว โดยในอดีตคุณตากับคุณยายจักนอนที่เตียงนี้ แล้วท่านจึงย้ายไปที่บ้านปลูกใหม่ข้างเคียงบ้านหลังนี้ซึ่งมีมุ้งลวดในภายหลัง

 
(ลักษณะเตียงของคุณตา-คุณยาย)
    เตียงหลังถัดมาเป็นเตียงที่อยู่ข้างในซึ่งถูกล้อมไว้ด้วยกำแพงทั้งสองด้าน อีกสองด้านเป็นชั้นวางของขนาดใหญ่สูงสามเมตรอันกั้นไว้ไม่หมด เหลือช่องเล็กๆช่อง๑ที่มีม่านกั้น โดยม่านถูกแขวนไว้บนราวที่พาดผ่านด้านบนสุดของชั้นวางของทั้งสองหลัง มันดูเหมือนห้องลำลองห้องหนึ่งซึ่งไร้ประตูปิดกั้น พิศดูภายในห้องนั้นมีเตียงสปริงที่อายุการใช้งานจัดว่าใหม่เอี่ยม แลมีมุ้งชนิดครอบ  รูปร่างคล้ายฝาชีสีเหลืองใสขนาดมหึมา ครอบเตียงสปริงไว้ป้องกันยุงลาย
 
(แผนผังแสดงตำแหน่งเตียงที่ ๒)
    
(มุ้งฝาชีที่ครอบเตียงสปริงไว้)


      เนื่องจากบ้านหลังนี้ไร้ซึ่งมุ้งลวด ทำให้ยุงลายสามารถเข้ามากัดผู้อาศัยได้โดยผ่านทางผนังอิฐบล็อกช่องลม เตียงหลังที่สองนี้ไว้สำหรับอาคันตุกะของคุณตา-คุณยายมานอนพัก โดยมักเป็นพวกน้องๆของแม่ หรือน้าๆของข้าพเจ้านั่นเอง
    อนึ่ง สถานที่นี้ตั้งอยู่กลางชนบทในอำเภอร่อนพิบูลย์ จังหวัดนครศรีธรรมราช บ้านซึ่งไร้เครื่องปรับอากาศ ส่วนพัดลมนั้นก็มีเพียง ๒ เครื่องต่อ ๒ เตียงเท่านั้น
    ปกติคุณยายของข้าพเจ้าเป็นคนงกอย่างมาก ท่านไม่นิยมเปิดพัดลมเพราะเปลืองค่าไฟ ท่านถือคติว่าใช้ลมธรรมชาติก็เพียงพอแล้ว แต่สำหรับผู้ที่มาอาศัยพักบ้านของท่านเป็นการชั่วคราวนั้น น้อยคนที่จักไม่กระอักกระอ่วนในเรื่องนี้
    ห้องน้ำเป็นส้วมคอห่านนั่งยองสีเหลืองแบบตักน้ำราด อนึ่งน้ำที่ใช้ราดจักถูกเก็บไว้ในอ่างขนาดใหญ่ทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า เป็นอ่างก่อด้วยปูน มันมีสีที่อึมครึม พื้นห้องน้ำก็อึมครึม เพราะมิได้ปูกระเบื้องหากแต่เป็นพื้นปูนฉาบหยาบๆ แสงไฟในห้องน้ำก็จัดว่าน้อยจนริบหรี่ เนื่องจากอาศัยแสงไฟในห้องครัวร่วมกัน กล่าวคือใช้หลังการไฟหนึ่งดวงสองห้อง มาถึงตรงนี้ท่านผู้อ่านคงนึกอุทานในใจว่า “อุเหม่” คุณยายของข้าพเจ้า ช่างเค็มดัง”เกลือเรียกพี่” เลยเทียว
    ครัวที่นี่อยู่หน้าประตูทางเข้าห้องน้ำ มีเกือบทุกอย่างที่ครัวไทยพึงมี ทั้งเตาแก๊ส หม้อ จาน ชาม ตู้เย็นแบบ ๑ ประตูยี่ห้อ Whirlpool หม้อหุงข้าวแลกระติกน้ำร้อนยี่ห้อ Sharp เครื่องปั่นอเนกประสงค์ยี่ห้อ National แต่ไม่มีเตาไมโครเวฟ เนื่องจากมันเป็นอุปกรณ์ที่ทันสมัยเกินไปสำหรับผู้สูงวัย
 
...

          มันเป็นเวลาบ่ายแก่ๆที่ข้าพเจ้ายืนอยู่หน้าบ้านคุณยาย กับกรลูกของน้าอ้อย น้าสาวของข้าพเจ้า ท่านผู้อ่านคงจักจำกรได้บ้างแล้ว เนื่องจากข้าพเจ้าเขียนถึงกรสองเรื่อง คือเรื่อง “สอบธุรการ” กับ “สามคนบนทางรถไฟ” ฉันนั้นข้าพเจ้าคงมิต้องสาธยายลักษณะทางกายภาพของกรมากนัก แต่ขอเขียนเพื่อทวนความจำผู้อ่านบ้างเป็นไร คงไม่เสียมรรยายดอกกระมัง
    กรเป็นชายหนุ่มวัย ๒๑ รูปร่างสูงโปร่งเกือบ ๒ เมตร หุ่นค่อนไปทางท้วมเล็กน้อย ผิวสองสี สายตาสั้นแต่ไม่จัดว่าสั้นมาก สวมแว่นสายตาบ้างเป็นครั้งคราว ชอบเล่นบาสเก็ตบอลกับกีตาร์เป็นชีวิตจิตใจ
    กรสูบบุหรี่ไฟฟ้าไปพลางคุยกับข้าพเจ้าไปพลาง กลับกันข้าพเจ้ามิได้สูบบุหรี่แต่อย่างใด เพราะข้าพเจ้านั้นได้เลิกสูบบุหรี่ไปตั้งแต่ พ.ศ๒๕๖๔ แล้ว
    ความจริงเรื่องที่เราคุยกันก็คือเรื่องที่เราตัดสินใจจักนอนเฝ้าคุณตาคุณยายในบ้านหลังนี้ โดยข้าพเจ้าจักนอนบนโซฟา ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างเตียงของตากับยายแลเตียงของแขก เพื่อที่ว่าข้าพเจ้าจักได้ดูแลคุณตากับคุณยายได้สะดวก เพราะท่านชราภาพมากแล้ว อายุล่วงเลยมาถึงวัย ๙๐ กว่าปี ส่วนกรนั้นนอนที่เตียงแขก 

 
(แผนผังที่วางสิ่งของในบ้านคุณตา-คุณยาย)


    โซฟาเป็นโซฟาไม้เก่าทำด้วยไม้สัก มีขนาดยาวประมาณ ๑๖๕ เซนติเมตร ซึ่งเล็กกว่าตัวข้าพเจ้าที่สูง ๑๘๐ เซนติเมตร แต่ข้าพเจ้าจำใจนอน เพราะความกตัญญูกตเวที
    ดึกสงัดคืนนั้นตากับยายนอนหลับสนิท กรก็หลับสนิทเช่นกัน ส่วนข้าพเจ้าผู้นอนหมอนขิดกลับนอนไม่หลับ! อาจเป็นเพราะข้าพเจ้ามิได้รับลมเย็นๆจากพัดลมก็เป็นได้ อากาศจึงค่อนข้างอบอ้าว หูของข้าพเจ้าได้ยินเสียงนาฬิกาเดินอย่างชัดเจน ในความมืดข้าพเจ้ากวาดสายตาไปทั่วไล่ตั้งแต่เพดานจรดบริเวณที่วางของตรงข้ามกับโซฟาที่ข้าพเจ้านอนอยู่
    เมื่อกวาดสายตาจากบนลงล่างจักเจอสิ่งต่อไปนี้:  บนสุดจักเป็นเพดาน, ต่อมาจักเป็นเสาที่แขวนไฟ LED ซึ่งทำเลียนแบบหลอดฟลูออเรสเซนต์แบบยาว,  ถัดจากหลอดไฟจักเป็นชั้นวางของสูง ๓ เมตร แล้วถัดจากชั้นวางของจึงเป็นพื้นที่มิได้ปูกระเบื้อง.
    เมื่อข้าพเจ้ากวาดสายตาจากเพดานลงมา ยังไม่ทันลงมาถึงชั้นวางของดิบดี ข้าพเจ้าก็เห็นเงาตะคุ่มๆ ของหญิงชราผู้๑ซึ่งข้าพเจ้าคุ้นตา หล่อนสวมชุดคลุมยาวสีดำประหนึ่ง “ผู้คุมวิญญาณ” ในนวนิยาย Harry Potter หรือชุดที่มีลักษณะคล้ายกับ “ยมทูต” ในภาพยนตร์หรือการ์ตูนหลายเรื่อง
    ข้าพเจ้ามองหญิงชราผู้นี้อย่างตาค้างแลตกใจสุดขีด ทันใดนั้นภาพของหญิงชราจากเลือนรางก็พลันชัดแจ้ง หล่อนมิใช่ใครที่ไหนหากแต่คือ “ทวดวุ่น” ยายของแม่หรือแม่ของยายข้าพเจ้านั่นเอง
    ตอนข้าพเจ้าถือกำเนิดในพุทธศักราช ๒๕๓๙ ไม่นานนักทวดวุ่นก็เสีย ข้าพเจ้ายังเป็นทารกแบเบาะจึงจำความไม่ได้ มินึกมิฝันว่าข้าพเจ้าจักเห็นทวดวุ่นมาปรากฏกายเช่นนี้
    แม้ชุดที่ทวดใส่จักเป็นชุดคล้ายยมทูต แต่ทวดมิได้มาเอาวิญญาณข้าพเจ้าแต่อย่างใด ทวดยิ้มให้กับข้าพเจ้า ยิ้มหวานๆของหญิงชราที่ไร้ซึ่งฟันไว้ขบเคี้ยว ดูคล้ายกับหญิงชราทั่วไปซึ่งยิ้มให้เด็กๆ แม้ข้าพเจ้าจักตกใจที่เห็นทวดวุ่นมาปรากฏกาย แต่ท่านก็ยังยิ้มให้ข้าพเจ้าไม่หยุดหย่อน ท่านไม่พูดไม่จากับข้าพเจ้าแม้นแต่เพียงนิด ข้าพเจ้าก็ไม่ทราบว่าหลังจากนั้นเกิดเหตุการณ์อันใดต่อ ข้าพเจ้าตื่นขึ้นมาในเช้าวันเสาร์ที่ ๑๘ พฤษภาคม ๒๕๖๗ พร้อมกับคำถามที่ว่า “ทวดวุ่นมาเข้าฝันข้าพเจ้าทำไมกัน ???”  หรือท่านต้องการที่จักให้ข้าพเจ้าเขียนเรื่องสั้นที่มีชื่อว่า “ฝัน สตอรี่” ต่อไปเรื่อยๆกระมัง
 
จ๊ะ เสือไบ
๒๐ พ.ค. ๒๕๖๗
                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                              
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  แต่งเรื่องสั้น นวนิยายสยองขวัญ เรื่องสั้น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่