สูตรดีทอกซ์แบบเข้มข้น เพื่อสุขภาพที่ดี
วันนี้ขอเสนอคอร์สพิเศษสำหรับเพื่อนๆ ที่รักสุขภาพทุกคนทราบครับ ถึงสูตรการทำดีทอกซ์แบบเข้มข้นครับ รับรองผล 100% เนื่องจากได้เคยทดสอบด้วยตนเองมาก่อนแล้ว (ตอนช่วงที่บวชอยู่) หากผู้อ่านคนใดที่สนใจก็ลองทำตามดูนะครับ ได้ผลอย่างไรก็แจ้งผลให้ทราบด้วย
แต่ต้องแจ้งก่อนว่า เป็นสูตรแบบเข้มข้นจริงๆ และเป็นการพิสูจน์ตนเองด้วยว่า มีกำลังใจเข้มแข็งเพียงใด โดยสูตรดังกล่าวต้องใช้เวลาในการทำทั้งหมด 14 วันติดต่อกัน สำหรับผู้ที่ทำครั้งแรก และ 7 วันสำหรับผู้ที่ทำครั้งต่อๆ ไป
ผลลัพธ์สำหรับคอร์สนี้ คือ ทำให้ลำไส้ของเราซึ่งผ่านการทำหน้าที่อย่างโชกโชนตลอดชีวิตของเรา สะอาดหมดจด สามารถล้างสิ่งสกปรกหมักหมมต่างๆ ที่เคลือบอยู่บนผิวของลำไส้ออกไปให้หมด ซึ่งสิ่งสกปรกต่างๆเหล่านี้แหละที่เป็นสาเหตุของการเกิดมะเร็งลำไส้ที่เป็นโรคที่น่ากลัวสำหรับคนยุคใหม่อย่างเรา
และมีผลพลอยได้ (ซึ่งบางคนอยากได้เป็นผลหลัก) ก็คือ ทำให้ผิวพรรณกระจ่างใส เปล่งปลั่ง มีน้ำมีนวล และที่สำคัญที่สุดคือ น้ำหนักลดลงด้วยครับ (บางคนลดไม่มากนัก ก็ประมาณ 3-4 กิโลกรัม แต่เท่าที่ทราบคือ มีคนที่น้ำหนักเริ่มต้นเยอะหน่อย สามารถลดลงได้มากถึง 20-30 กิโลกรัมเชียวนะครับ ขอย้ำว่าท่านอ่านไม่ผิดครับ ลดได้มากขนาดนั้นจริงๆ) เริ่มสนใจกันแล้วใช่ไหมครับ
ก่อนอื่น ก็ให้ซื้อน้ำตาลคาราเมล (ยี่ห้อวังขนาย แต่ไม่ได้ค่าโฆษณาจากยี่ห้อนี้นะครับ) มาสัก 3 กิโลกรัมนะครับ (ถุงละครึ่งกิโล ก็ซื้อมา 6 ถุง สำหรับทำได้ 14 วันเลยครับ หากเพื่อนคนไหนอยากทำไม่ถึง 14 วัน ก็ลดขนาดเองนะครับ) ส่วนประกอบนี้ใช้เป็นแหล่งพลังงานเพื่อประทังชีวิตในระหว่างกระบวนการครับ
และ ซื้อส่วนประกอบที่ 2 คือ มะนาวครับ ซื้อมาเยอะๆ เลยก็ได้ ใช้ครั้งละอย่างน้อย 3 ลูก วันละ 6 ครั้ง จำนวน 14 วัน ก็คิดเป็น 252 ลูกครับ แต่ซื้อมามากกว่านี้ก็ได้เพราะว่ายิ่งน้ำมะนาวเยอะ ยิ่งได้ผลดีครับ ส่วนประกอบนี้ต้องการฤทธิ์กรดสำหรับกัดลอกเนื้อเยื่อที่ไม่ดีบริเวณทางเดินอาหารออกนะครับ และมีผลพลอยได้จาก Very high dose Vitamin C ซื่งใช้เป็น Antiaging (สารชะลอความแก่) ได้ดีมากๆ ครับ รับรองว่าทำเสร็จจะอ่อนวัยลงไปเยอะเลย และยังช่วยให้ผิวขาวใสด้วยโดยไม่ต้องใช้เครื่องสำอางราคาแพงๆ อีกด้วย
และ ส่วนประกอบที่ 3 คือ พริกปาปริกาป่น แบบที่กินกับพิซซ่าน่ะครับ หาซื้อได้ที่ Tops นะ แต่หากหาไม่ได้จริงๆ ใช้พริกขี้หนูป่นก็ได้ครับ แซ่บดีครับ ส่วนประกอบนี้ช่วยทำให้ผิวเนื้อเยื่อลอกได้ดีขึ้น และแต่งรสชาติให้แซ่บยิ่งขึ้น
ขั้นตอนต่อมา คือการเตรียมสูตรน้ำสำหรับทำดีทอกซ์แล้วนะครับ เริ่มต้นจากการนำน้ำตาลคาราเมลมา 2 ถุงก่อน (1 กิโลกรัม) ผสมน้ำ 1 กิโลกรัม (อันนี้ไม่ต้องตวงก็ได้ครับ เติมกะๆ เอาแบบทำอาหารก็ได้ครับ) ละลายให้เข้ากันดี ตั้งไฟพอเดือดเพื่อช่วยละลายด้วยก็ได้ครับ แล้วแบ่งน้ำเชื่อมนี้เป็น 5 ส่วนเท่าๆ กัน เก็บไว้ในตู้เย็นเป็น Stock solution สำหรับการทำดีทอกซ์ 5 วัน
ขั้นที่ 3 คือ ในแต่ละวัน ให้นำ Stock solution มา 1 ขวด เติมน้ำลงไปให้ครบ 1800 มิลลิลิตร แล้วแบ่งใส่ขวดได้เป็น 3 ขวด (ใช้ขวดน้ำดื่มขนาด 600 มิลลิลิตร ที่ขายทั่วไปน่ะครับ) ซึ่งน้ำเชื่อม 3 ขวดนี้ ใช้ได้สำหรับการดื่ม 1 วันพอดี (6 มื้อ) คือมื้อละครึ่งขวด
ส่วนมะนาว อาจคั้นไว้วันละ 1 ครั้งก็ได้ คือใช้น้ำมะนาวอย่างน้อย 18 ลูก คั้นน้ำใส่ขวดได้ให้ได้อย่างน้อยครึ่งขวด หรือ อย่างน้อย 18 ช้อนโต๊ะ (บางทีอาจเพิ่มปริมาณมะนาวได้ เนื่องจากมะนาวอาจมีน้ำมากน้อยต่างกัน โดยแต่ละมื้อต้องใช้น้ำมะนาวประมาณ 3-5 ช้อนโต๊ะ (ยิ่งใช้มากยิ่งได้ผลดีครับ) คั้นเสร็จแล้วให้แช่เย็นไว้นะครับ (แช่กระติกน้ำแข็งก็ได้) วิตามินซีในน้ำมะนาวจะได้ไม่สลายตัว
หากใครขยันหน่อย คั้นน้ำมะนาวมื้อต่อมื้อเลยยิ่งดี แต่หากไม่มีเวลา คั้นไว้วันละครั้ง และแช่ตู้เย็นไว้ ไม่ต้องแช่แข็งนะครับ
ทีนี้ก็ถึงขั้นตอนการทำแล้วนะครับ คือสูตรในการทำให้ทำครั้งแรก 14 วัน และหากต้องการทำอีกก็คือ ให้เว้นไปอย่างน้อย 6 เดือน จึงทำซ้ำได้ ถ้าจะให้ดีควรทำทุกๆ ปีนะครับ เพื่อสุขภาพที่ดีเยี่ยม
วันที่ 0 (ก่อนเริ่มดื่มน้ำดีทอกซ์) เวลา 20.00 น. ให้ชงชามะขามแขก (ยี่ห้ออะไรก็ได้ ตอนที่ผมทำใช้ยี่ห้อ “ฟิตเน่” ครับ) ดื่ม 1 แก้ว (แช่ชานานๆหน่อยก็ได้ สัก 20-30 นาที ตัวยาจะได้ออกมาเยอะๆ)
วันที่ 1-3 ให้ชงชาระบายดื่ม 2 รอบต่อวัน คือ ตอน 6.00 น. และ 20.00 น. ส่วนในระหว่างวันให้ดื่มน้ำมะนาวจำนวน 6 มื้อ คือ เวลา 8.00 น., 10.00 น., 12.00 น., 14.00 น., 16.00 น., และ 18.00 น.
วิธีในการผสมน้ำมะนาวคือ ตวงน้ำมะนาวมา 3-5 ช้อนโต๊ะ ผสมกับพริกป่นก่อนเพื่อให้กระจายตัวได้ง่าย ใช้พริกมากน้อยแล้วแต่ชอบว่าเผ็ดมากเผ็ดน้อย จากนั้นเติมน้ำเชื่อมคาราเมลครึ่งขวด ผสมให้เข้ากัน แล้วดื่ม หากใครชอบเย็นๆ ก็เติมน้ำแข็งได้นะครับ
วันที่ 4-14 ดื่มชาระบายเพียงวันละครั้งพอครับ คือตอน 6.00 น. ส่วนน้ำมะนาวให้ดื่มเหมือนเดิมครับ คือวันละ 6 ครั้ง
และ มีข้อแนะนำเพิ่มเติมครับ คือ
1. การผสมน้ำมะนาว ให้ผสมครั้งต่อครั้งนะครับ อย่าผสมทิ้งไว้ เพื่อให้คุณค่าของวิตามินในน้ำมะนาวอยู่สมบูรณ์ที่สุด
2. ให้ดื่มน้ำเยอะๆในระหว่างวัน เพื่อป้องกัน Acid-Base Imbalance ในร่างกายของเรา
3. ให้แปรงฟันบ่อยๆ และบ้วนปากทุกครั้งที่ดื่มน้ำมะนาว เพื่อสุขภาพปากและฟันของท่าน
4. ในระหว่างวัน หากรู้สึกเพลีย แนะนำให้จิบน้ำ Maple syrup (หาซื้อได้ น่าจะมีที่ Tops หรือหากหาซื้อไม่ได้ ให้ใช้น้ำเชื่อมธรรมดาแทนก็ได้ครับ) เพื่อเพิ่มพลังงาน ซึ่งจะรู้สึกว่าต้องการมากๆ ตอนก่อนนอน และตอนเช้า เนื่องจากช่วง 18.00-8.00 น. นั้น ร่างกายจะไม่ได้รับสารอาหารเลย อาจรู้สึกเพลียได้ จึงให้ใช้วิธีจิบน้ำเชื่อมดังกล่าว แต่แค่จิบนะครับ อย่ากินเยอะ (เดี๋ยวจะเป็นเบาหวานแทน) เพราะตอนที่ทำนั้น 14 วัน ใช้ Syrup ขนาด 250 ml ไม่ถึง 2 ขวด
5. ในวันแรกๆที่ดื่มชาระบาย 2 ครั้งต่อวัน อาจเข้าห้องน้ำบ่อยหน่อยนะครับ แต่ไม่ได้รู้สึกไม่สบายท้องแต่อย่างใด ไม่ต้องกังวลนะครับ ส่วนวันหลังๆ ก็ถ่ายปกติ วันละ 1 ครั้ง ปกติแล้วยาระบายที่ดื่ม จะออกฤทธิ์หลังจากดื่ม 6-9 ชั่วโมง แต่อาจแตกต่างขึ้นกับบุคคลครับ
6. อุจจาระวันแรกๆ เป็นอาหารที่ค้างในลำไส้ ซึ่งอาจไม่แตกต่างจากเดิม แต่วันที่ 3 เป็นต้นไป จะเป็นมูกมันๆ สีเข้ม กลิ่นเหม็นมาก และจะเป็นเช่นนี้ไปจนจบคอร์สเลย ช่วงแรกๆ อุจจาระอาจลอยน้ำ แต่ตอนท้ายๆ อาจจมน้ำ และมีเนื้อเยื่อออกมาเป็นแผ่นๆ บ้าง ไม่ต้องตกใจ
7. ช่วงหลังจาก 7 วันไปแล้ว หากรู้สึกมีกลิ่นตัวมากขึ้นกว่าเดิม ไม่ต้องตกใจเช่นกัน เพราะเป็นการขับสารพิษออกทางผิวหนังครับ ซึ่งการทำดีทอกซ์โดยวิธีนี้มีข้อดีคือ นอกจากสามารถกำจัดสารพิษในทางเดินอาหารได้แล้วนั้น ยังสามารถออกฤทธิ์กำจัดสารพิษในอวัยวะอื่นๆและในกระแสเลือดได้ด้วย ซึ่งพิสูจน์ได้จากการกำจัดออกทางผิวหนังทำให้มีกลิ่นตัวมากขึ้นนี้แหละ
8. ในช่วงที่ทำดีทอกซ์นี้ ผิวหนังอาจแห้งมาก แนะนำให้ทาโลชัน หรือน้ำมัน ตามผิวหนังด้วยครับ เพื่อลดอาการคันตามผิวหนัง
ตลอดการทำดีทอกซ์โดยวิธีนี้ ห้ามกินอาหารอื่นๆ นอกจากน้ำดีทอกซ์นี้เท่านั้นครับ งดอาหารไปเลย 14 วัน (อันนี้แหละ ผอมแน่ๆ) แต่รับรองว่า ไม่หิวหรืออ่อนเพลียแต่อย่างใด พลังงานที่ได้รับในแต่ละวันยังเพียงพออยู่ (เคยได้รับการตรวจสอบพลังงานที่ได้รับในแต่ละวันแล้วโดยอาจารย์หมอ ม.เชียงใหม่ ท่านยืนยันว่าไม่ขาดพลังงานครับ) ทำให้สามารถทำงานต่างๆ ได้ตามปกติทุกประการ
เพื่อนๆ ที่เคยลองทำตามคอร์สนี้บอกว่าไม่หิวจริงๆ ที่ยากที่สุดก็คือกำลังใจในการงดอาหารนี้แหละ เพราะจะรู้สึกว่าทำไมช่วงเวลาดังกล่าว ก็จะมีคนชวนไปกินอาหารอร่อยๆ ที่เราชอบ (ทำไมไม่ชวนไปกินช่วงอื่นอ่ะ) หรือ ทำไมโฆษณาในทีวีมีแต่รายการอาหารที่น่ากินทั้งนั้นเลย (จริงๆมันก็โฆษณาปกติแหละ แต่เราอยากกินมากกว่าปกติน่ะ) นี่เป็นการทดสอบว่ากำลังใจของเราเข้มแข็งเพียงใด
อ้อ ขั้นสุดท้าย หลังจากผ่านคอร์สนี้ไปแล้ว 14 วัน (เย้ๆ เก่งจังเลย) วันรุ่งขึ้น และวันต่อมาอีกสัก 1-2 วัน ให้กินอาหารอ่อนๆ และรสไม่จัดก่อนนะครับ เช่น โจ๊ก ข้าวต้ม ต้มจับฉ่าย และให้ทานนมเปรี้ยวหรือโยเกิร์ตที่มีเชื้อจุลินทรีย์ เพื่อเพิ่มปริมาณเชื้อในลำไส้ด้วยครับ
ขอเตือนท่านด้วยความหวังดีว่า วันแรกที่เริ่มกินอาหาร ขอให้กินอาหารอย่างช้าๆ และปริมาณน้อย ก่อนนะครับ มิฉะนั้นท่านอาจเกิดอาการจุก พะอืดพะอม และอาเจียนได้ เพราะตอนนั้นกระเพาะอาหารเรารับปริมาณอาหารได้ไม่เยอะ แล้วค่อยเพิ่มปริมาณในภายหลัง
เป็นอันว่า จบคอร์สดีทอกซ์แบบเข้มข้น หลังจากนั้นท่านจะรู้สึกว่าร่างกายของเราสดชื่น ตัวเบาลงไปเยอะมาก (น้ำหนักลดเยอะดี) มีระบบการขับถ่ายที่ดีมาก และอุจจาระที่ออกมาก็จะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าระบบทางเดินอาหารเราสะอาดจริงๆ (กินอะไรเข้าไปก็จะถ่ายออกมาแบบไม่เปลี่ยนรูปมากนัก)
โชคดีนะครับสำหรับคนที่อยากทำตาม (หากสงสัยอะไรเพิ่มเติม สามารถสอบถามได้ครับ)
สุขภาพดี ไม่มีขาย ถ้าอยากได้ต้องทำเองนะครับ
เพื่อนๆคนไหนเคยลองดีท๊อกซ์สูตรนี้ได้ผลยังไงบ้าง อยากทราบจริงๆเราเพิ่งลองวันนี้วันแรกค่ะ
วันนี้ขอเสนอคอร์สพิเศษสำหรับเพื่อนๆ ที่รักสุขภาพทุกคนทราบครับ ถึงสูตรการทำดีทอกซ์แบบเข้มข้นครับ รับรองผล 100% เนื่องจากได้เคยทดสอบด้วยตนเองมาก่อนแล้ว (ตอนช่วงที่บวชอยู่) หากผู้อ่านคนใดที่สนใจก็ลองทำตามดูนะครับ ได้ผลอย่างไรก็แจ้งผลให้ทราบด้วย
แต่ต้องแจ้งก่อนว่า เป็นสูตรแบบเข้มข้นจริงๆ และเป็นการพิสูจน์ตนเองด้วยว่า มีกำลังใจเข้มแข็งเพียงใด โดยสูตรดังกล่าวต้องใช้เวลาในการทำทั้งหมด 14 วันติดต่อกัน สำหรับผู้ที่ทำครั้งแรก และ 7 วันสำหรับผู้ที่ทำครั้งต่อๆ ไป
ผลลัพธ์สำหรับคอร์สนี้ คือ ทำให้ลำไส้ของเราซึ่งผ่านการทำหน้าที่อย่างโชกโชนตลอดชีวิตของเรา สะอาดหมดจด สามารถล้างสิ่งสกปรกหมักหมมต่างๆ ที่เคลือบอยู่บนผิวของลำไส้ออกไปให้หมด ซึ่งสิ่งสกปรกต่างๆเหล่านี้แหละที่เป็นสาเหตุของการเกิดมะเร็งลำไส้ที่เป็นโรคที่น่ากลัวสำหรับคนยุคใหม่อย่างเรา
และมีผลพลอยได้ (ซึ่งบางคนอยากได้เป็นผลหลัก) ก็คือ ทำให้ผิวพรรณกระจ่างใส เปล่งปลั่ง มีน้ำมีนวล และที่สำคัญที่สุดคือ น้ำหนักลดลงด้วยครับ (บางคนลดไม่มากนัก ก็ประมาณ 3-4 กิโลกรัม แต่เท่าที่ทราบคือ มีคนที่น้ำหนักเริ่มต้นเยอะหน่อย สามารถลดลงได้มากถึง 20-30 กิโลกรัมเชียวนะครับ ขอย้ำว่าท่านอ่านไม่ผิดครับ ลดได้มากขนาดนั้นจริงๆ) เริ่มสนใจกันแล้วใช่ไหมครับ
ก่อนอื่น ก็ให้ซื้อน้ำตาลคาราเมล (ยี่ห้อวังขนาย แต่ไม่ได้ค่าโฆษณาจากยี่ห้อนี้นะครับ) มาสัก 3 กิโลกรัมนะครับ (ถุงละครึ่งกิโล ก็ซื้อมา 6 ถุง สำหรับทำได้ 14 วันเลยครับ หากเพื่อนคนไหนอยากทำไม่ถึง 14 วัน ก็ลดขนาดเองนะครับ) ส่วนประกอบนี้ใช้เป็นแหล่งพลังงานเพื่อประทังชีวิตในระหว่างกระบวนการครับ
และ ซื้อส่วนประกอบที่ 2 คือ มะนาวครับ ซื้อมาเยอะๆ เลยก็ได้ ใช้ครั้งละอย่างน้อย 3 ลูก วันละ 6 ครั้ง จำนวน 14 วัน ก็คิดเป็น 252 ลูกครับ แต่ซื้อมามากกว่านี้ก็ได้เพราะว่ายิ่งน้ำมะนาวเยอะ ยิ่งได้ผลดีครับ ส่วนประกอบนี้ต้องการฤทธิ์กรดสำหรับกัดลอกเนื้อเยื่อที่ไม่ดีบริเวณทางเดินอาหารออกนะครับ และมีผลพลอยได้จาก Very high dose Vitamin C ซื่งใช้เป็น Antiaging (สารชะลอความแก่) ได้ดีมากๆ ครับ รับรองว่าทำเสร็จจะอ่อนวัยลงไปเยอะเลย และยังช่วยให้ผิวขาวใสด้วยโดยไม่ต้องใช้เครื่องสำอางราคาแพงๆ อีกด้วย
และ ส่วนประกอบที่ 3 คือ พริกปาปริกาป่น แบบที่กินกับพิซซ่าน่ะครับ หาซื้อได้ที่ Tops นะ แต่หากหาไม่ได้จริงๆ ใช้พริกขี้หนูป่นก็ได้ครับ แซ่บดีครับ ส่วนประกอบนี้ช่วยทำให้ผิวเนื้อเยื่อลอกได้ดีขึ้น และแต่งรสชาติให้แซ่บยิ่งขึ้น
ขั้นตอนต่อมา คือการเตรียมสูตรน้ำสำหรับทำดีทอกซ์แล้วนะครับ เริ่มต้นจากการนำน้ำตาลคาราเมลมา 2 ถุงก่อน (1 กิโลกรัม) ผสมน้ำ 1 กิโลกรัม (อันนี้ไม่ต้องตวงก็ได้ครับ เติมกะๆ เอาแบบทำอาหารก็ได้ครับ) ละลายให้เข้ากันดี ตั้งไฟพอเดือดเพื่อช่วยละลายด้วยก็ได้ครับ แล้วแบ่งน้ำเชื่อมนี้เป็น 5 ส่วนเท่าๆ กัน เก็บไว้ในตู้เย็นเป็น Stock solution สำหรับการทำดีทอกซ์ 5 วัน
ขั้นที่ 3 คือ ในแต่ละวัน ให้นำ Stock solution มา 1 ขวด เติมน้ำลงไปให้ครบ 1800 มิลลิลิตร แล้วแบ่งใส่ขวดได้เป็น 3 ขวด (ใช้ขวดน้ำดื่มขนาด 600 มิลลิลิตร ที่ขายทั่วไปน่ะครับ) ซึ่งน้ำเชื่อม 3 ขวดนี้ ใช้ได้สำหรับการดื่ม 1 วันพอดี (6 มื้อ) คือมื้อละครึ่งขวด
ส่วนมะนาว อาจคั้นไว้วันละ 1 ครั้งก็ได้ คือใช้น้ำมะนาวอย่างน้อย 18 ลูก คั้นน้ำใส่ขวดได้ให้ได้อย่างน้อยครึ่งขวด หรือ อย่างน้อย 18 ช้อนโต๊ะ (บางทีอาจเพิ่มปริมาณมะนาวได้ เนื่องจากมะนาวอาจมีน้ำมากน้อยต่างกัน โดยแต่ละมื้อต้องใช้น้ำมะนาวประมาณ 3-5 ช้อนโต๊ะ (ยิ่งใช้มากยิ่งได้ผลดีครับ) คั้นเสร็จแล้วให้แช่เย็นไว้นะครับ (แช่กระติกน้ำแข็งก็ได้) วิตามินซีในน้ำมะนาวจะได้ไม่สลายตัว
หากใครขยันหน่อย คั้นน้ำมะนาวมื้อต่อมื้อเลยยิ่งดี แต่หากไม่มีเวลา คั้นไว้วันละครั้ง และแช่ตู้เย็นไว้ ไม่ต้องแช่แข็งนะครับ
ทีนี้ก็ถึงขั้นตอนการทำแล้วนะครับ คือสูตรในการทำให้ทำครั้งแรก 14 วัน และหากต้องการทำอีกก็คือ ให้เว้นไปอย่างน้อย 6 เดือน จึงทำซ้ำได้ ถ้าจะให้ดีควรทำทุกๆ ปีนะครับ เพื่อสุขภาพที่ดีเยี่ยม
วันที่ 0 (ก่อนเริ่มดื่มน้ำดีทอกซ์) เวลา 20.00 น. ให้ชงชามะขามแขก (ยี่ห้ออะไรก็ได้ ตอนที่ผมทำใช้ยี่ห้อ “ฟิตเน่” ครับ) ดื่ม 1 แก้ว (แช่ชานานๆหน่อยก็ได้ สัก 20-30 นาที ตัวยาจะได้ออกมาเยอะๆ)
วันที่ 1-3 ให้ชงชาระบายดื่ม 2 รอบต่อวัน คือ ตอน 6.00 น. และ 20.00 น. ส่วนในระหว่างวันให้ดื่มน้ำมะนาวจำนวน 6 มื้อ คือ เวลา 8.00 น., 10.00 น., 12.00 น., 14.00 น., 16.00 น., และ 18.00 น.
วิธีในการผสมน้ำมะนาวคือ ตวงน้ำมะนาวมา 3-5 ช้อนโต๊ะ ผสมกับพริกป่นก่อนเพื่อให้กระจายตัวได้ง่าย ใช้พริกมากน้อยแล้วแต่ชอบว่าเผ็ดมากเผ็ดน้อย จากนั้นเติมน้ำเชื่อมคาราเมลครึ่งขวด ผสมให้เข้ากัน แล้วดื่ม หากใครชอบเย็นๆ ก็เติมน้ำแข็งได้นะครับ
วันที่ 4-14 ดื่มชาระบายเพียงวันละครั้งพอครับ คือตอน 6.00 น. ส่วนน้ำมะนาวให้ดื่มเหมือนเดิมครับ คือวันละ 6 ครั้ง
และ มีข้อแนะนำเพิ่มเติมครับ คือ
1. การผสมน้ำมะนาว ให้ผสมครั้งต่อครั้งนะครับ อย่าผสมทิ้งไว้ เพื่อให้คุณค่าของวิตามินในน้ำมะนาวอยู่สมบูรณ์ที่สุด
2. ให้ดื่มน้ำเยอะๆในระหว่างวัน เพื่อป้องกัน Acid-Base Imbalance ในร่างกายของเรา
3. ให้แปรงฟันบ่อยๆ และบ้วนปากทุกครั้งที่ดื่มน้ำมะนาว เพื่อสุขภาพปากและฟันของท่าน
4. ในระหว่างวัน หากรู้สึกเพลีย แนะนำให้จิบน้ำ Maple syrup (หาซื้อได้ น่าจะมีที่ Tops หรือหากหาซื้อไม่ได้ ให้ใช้น้ำเชื่อมธรรมดาแทนก็ได้ครับ) เพื่อเพิ่มพลังงาน ซึ่งจะรู้สึกว่าต้องการมากๆ ตอนก่อนนอน และตอนเช้า เนื่องจากช่วง 18.00-8.00 น. นั้น ร่างกายจะไม่ได้รับสารอาหารเลย อาจรู้สึกเพลียได้ จึงให้ใช้วิธีจิบน้ำเชื่อมดังกล่าว แต่แค่จิบนะครับ อย่ากินเยอะ (เดี๋ยวจะเป็นเบาหวานแทน) เพราะตอนที่ทำนั้น 14 วัน ใช้ Syrup ขนาด 250 ml ไม่ถึง 2 ขวด
5. ในวันแรกๆที่ดื่มชาระบาย 2 ครั้งต่อวัน อาจเข้าห้องน้ำบ่อยหน่อยนะครับ แต่ไม่ได้รู้สึกไม่สบายท้องแต่อย่างใด ไม่ต้องกังวลนะครับ ส่วนวันหลังๆ ก็ถ่ายปกติ วันละ 1 ครั้ง ปกติแล้วยาระบายที่ดื่ม จะออกฤทธิ์หลังจากดื่ม 6-9 ชั่วโมง แต่อาจแตกต่างขึ้นกับบุคคลครับ
6. อุจจาระวันแรกๆ เป็นอาหารที่ค้างในลำไส้ ซึ่งอาจไม่แตกต่างจากเดิม แต่วันที่ 3 เป็นต้นไป จะเป็นมูกมันๆ สีเข้ม กลิ่นเหม็นมาก และจะเป็นเช่นนี้ไปจนจบคอร์สเลย ช่วงแรกๆ อุจจาระอาจลอยน้ำ แต่ตอนท้ายๆ อาจจมน้ำ และมีเนื้อเยื่อออกมาเป็นแผ่นๆ บ้าง ไม่ต้องตกใจ
7. ช่วงหลังจาก 7 วันไปแล้ว หากรู้สึกมีกลิ่นตัวมากขึ้นกว่าเดิม ไม่ต้องตกใจเช่นกัน เพราะเป็นการขับสารพิษออกทางผิวหนังครับ ซึ่งการทำดีทอกซ์โดยวิธีนี้มีข้อดีคือ นอกจากสามารถกำจัดสารพิษในทางเดินอาหารได้แล้วนั้น ยังสามารถออกฤทธิ์กำจัดสารพิษในอวัยวะอื่นๆและในกระแสเลือดได้ด้วย ซึ่งพิสูจน์ได้จากการกำจัดออกทางผิวหนังทำให้มีกลิ่นตัวมากขึ้นนี้แหละ
8. ในช่วงที่ทำดีทอกซ์นี้ ผิวหนังอาจแห้งมาก แนะนำให้ทาโลชัน หรือน้ำมัน ตามผิวหนังด้วยครับ เพื่อลดอาการคันตามผิวหนัง
ตลอดการทำดีทอกซ์โดยวิธีนี้ ห้ามกินอาหารอื่นๆ นอกจากน้ำดีทอกซ์นี้เท่านั้นครับ งดอาหารไปเลย 14 วัน (อันนี้แหละ ผอมแน่ๆ) แต่รับรองว่า ไม่หิวหรืออ่อนเพลียแต่อย่างใด พลังงานที่ได้รับในแต่ละวันยังเพียงพออยู่ (เคยได้รับการตรวจสอบพลังงานที่ได้รับในแต่ละวันแล้วโดยอาจารย์หมอ ม.เชียงใหม่ ท่านยืนยันว่าไม่ขาดพลังงานครับ) ทำให้สามารถทำงานต่างๆ ได้ตามปกติทุกประการ
เพื่อนๆ ที่เคยลองทำตามคอร์สนี้บอกว่าไม่หิวจริงๆ ที่ยากที่สุดก็คือกำลังใจในการงดอาหารนี้แหละ เพราะจะรู้สึกว่าทำไมช่วงเวลาดังกล่าว ก็จะมีคนชวนไปกินอาหารอร่อยๆ ที่เราชอบ (ทำไมไม่ชวนไปกินช่วงอื่นอ่ะ) หรือ ทำไมโฆษณาในทีวีมีแต่รายการอาหารที่น่ากินทั้งนั้นเลย (จริงๆมันก็โฆษณาปกติแหละ แต่เราอยากกินมากกว่าปกติน่ะ) นี่เป็นการทดสอบว่ากำลังใจของเราเข้มแข็งเพียงใด
อ้อ ขั้นสุดท้าย หลังจากผ่านคอร์สนี้ไปแล้ว 14 วัน (เย้ๆ เก่งจังเลย) วันรุ่งขึ้น และวันต่อมาอีกสัก 1-2 วัน ให้กินอาหารอ่อนๆ และรสไม่จัดก่อนนะครับ เช่น โจ๊ก ข้าวต้ม ต้มจับฉ่าย และให้ทานนมเปรี้ยวหรือโยเกิร์ตที่มีเชื้อจุลินทรีย์ เพื่อเพิ่มปริมาณเชื้อในลำไส้ด้วยครับ
ขอเตือนท่านด้วยความหวังดีว่า วันแรกที่เริ่มกินอาหาร ขอให้กินอาหารอย่างช้าๆ และปริมาณน้อย ก่อนนะครับ มิฉะนั้นท่านอาจเกิดอาการจุก พะอืดพะอม และอาเจียนได้ เพราะตอนนั้นกระเพาะอาหารเรารับปริมาณอาหารได้ไม่เยอะ แล้วค่อยเพิ่มปริมาณในภายหลัง
เป็นอันว่า จบคอร์สดีทอกซ์แบบเข้มข้น หลังจากนั้นท่านจะรู้สึกว่าร่างกายของเราสดชื่น ตัวเบาลงไปเยอะมาก (น้ำหนักลดเยอะดี) มีระบบการขับถ่ายที่ดีมาก และอุจจาระที่ออกมาก็จะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าระบบทางเดินอาหารเราสะอาดจริงๆ (กินอะไรเข้าไปก็จะถ่ายออกมาแบบไม่เปลี่ยนรูปมากนัก)
โชคดีนะครับสำหรับคนที่อยากทำตาม (หากสงสัยอะไรเพิ่มเติม สามารถสอบถามได้ครับ)
สุขภาพดี ไม่มีขาย ถ้าอยากได้ต้องทำเองนะครับ