30 Kilogram To Mars
****มีทั้งการลดน้ำหนักที่ถูกต้องและผิด และการแก้ไขความผิดพลาด ****

เริ่มต้นจาก ชายผู้มีน้ำหนักตัว 120 กิโลกรัม ดื่มเหล้า และ กินบุฟเฟ่ห์เป็นชีวิตจิตใจ ผมภูมิใจกับการกินของผมมาก รวมไปถึงการดื้ม น้ำอัดลม ถึงวันละ 2 ลิตร อ่านไม่ผิดหรอกครับ ดื่มแทนน้ำจริงๆ
จุดเปลี่ยนมันเริ่มมาจาก วงเหล้า ขณะที่ผมนั่งดื่มเหล้ากับเพื่อนรักอยู่สามคน ได้เกิดประเดนอันโหดร้ายที่จะเปลี่ยนชีวิตผมไปตลอดการ
"เห้ย ไอ่

แอ๊ก ลดน้ำหนักได้แล้วนะเว้ย "
"เออจริง -เหล้าขนาดนี้ ดูดื้ อ้วนจนหายใจดังวี้ด วี้ด แล้ว "
"ลดเถอะวะ ตัวเหมือนระเบิดเวลาเข้าไปทุกวันแล้ว "
"เลือกเอาละกัน ว่าจะตายแบบไหน"

ภาพก่อนช่วงเวลาลดน้ำหนัก
หลังจากนั้น ช่วงเวลาแห่งการลดน้ำหนักก็ได้เกิดขึ้น(16พ เม.ย)
เช้าวันรุ่งขึ้นต่อมา เพื่อนผมได้พาผมไปกินครับ ใช่ครับฟังไม่ผิด พาไปกินครับ กินเท่าที่ผมจะอยากกิน กิน

เหมือนพรุ่งนี้โลกจะแตก เรียกว่า-เลยก็ได้ครับวันนั้น และหลังจากนั้นผมยังไปดื่มเหล้าจนภาพตัด วาร์ปกลับบ้านกันเลยทีเดียวเชียว
ช่วงการลดน้ำหนักตอนแรก ด้วยผมมีปัญหาเรื่อง เคยเข่าหลุดจากอุบัติเหตุ+น้ำหนักตัว ทำให้ไม่สามารถวิ่งได้ แต่ผมปั่นจักรยานมาได้สัก 2-3 ปีแล้ว แต่ช่วงแรกนี่คุมอาหารอย่างเดียวครับ
ช่วงการลดน้ำหนักแรกๆ ผมเน้นการคุมอาหาร ลดอาหารที่มีส่วนประกอบจากน้ำตาล ทั้งหมด ! รวมไปถึงกินข้าว มื้อละ 6 ช้อน เล่นเอาแค่ลุกไปเข้าห้องน้ำนี่ก็หน้ามืด บวกกับร่างกายมีอาการเสพติดน้ำตาลอย่างรุนแรง ทำให้เกิดอาการลงแดงถึงขั้น เข้าห้องน้ำวันนึงเป็น 20 ครั้ง หลังจากนั้น สองอาทิตย์ น้ำหนักได้ลงไปถึง 10 กิโลอย่างไม่น่าเชื่อ ลืมบอกไป งดเหล้า เลยนะครับ หรือถ้าเลี่ยงไม่ไ่ด้จริงๆ แนะนำ san miguel light มัน low calories ครับ แต่ทางที่ดีงดไปเลยดีกว่า

นี่คืออาหารลดน้ำหนักมื้อแรกของผมครับ 555
หลักจากเริ่มมีการศึกษาข้อมูลสำหรับการลดน้ำหนักมากขึ้น ผมเริ่มกลับมาทานอาหารปกติแต่คุมแคลอรี่ และ ออกกำลังกายด้วยการปั่นจักรยาน โดยใช้เทรนเนอร์อยู่ที่บ้าน โดยมีความรู้เท่าที่ว่า กินเท่าไหร่ ก็ออกให้เยอะ
ปั่นไปดูหนังไปชิลๆ ช่วงนี้ น้ำหนักลงมาเรื่อยๆ จนถึง 108 ผมก็เริ่มรู้จักกับ คลีนฟู๊ต การศึกษาคร่าวๆคือ มันคืออาหารที่ ผ่านการปรุงน้อยที่สุด ก็ลองมั่วๆทำครับ พบว่า มันเป็นอาหารที่ แคลอรี่น้อยแต่อิ่ม

แต่ขอบอกเลยครับ ว่าตอนแรกๆ ผมกินทั้งน้ำตาเลยจริงๆ เคยตัดพ้อกับตัวเองว่า ทำไมกูต้องมาทรมานแบบนี้ กูกลับไปอ้วนดีกว่า แต่ผมก็ผ่านมันไปได้ และมันก็เป็นตัวช่วยในการลดน้ำหนักของผมอย่างดี

นี่เป็นพวกคลีนฟูตที่ผมทำกินประจำ ช่วงแรกๆจะตามใจปากหน่อย แต่พอคลีนๆหนักๆ นี้ไม่ได้ถ่ายครับ นั่งซึมอยู่ 555
หลังจากลงไป 20 กิโล ผมประสบปัญหากับอาการย้วยขั้นรุนแรง เนื่องจากการอดอาหารที่ผิด และผลกระทบจากการที่น้ำหนักลงไปเร็วมาก ด้วยความเร็ว 20 กิโลกรัม/ 1 เดือน

กางเกงเริ่มหลวมลงมานิดนึงแล้ว
หลังจากนั้น ผมเริ่มมาออกกำลังกายที่เสริมสร้างกล้ามเนื้อแบบเกรียนๆ ผมโชคดีที่มีเพื่อนคอยให้กำลังใจ และ คอยห้ามเวลาผมอยากกินตลอดเลย

เข้าสู่ช่วง 98.4 กิโล ผมเริ่ม มีการเวทเทรนนิ่งเนื่องจากต้องแกไขปัญหาอาการย้วยของผิวหนังบริเวณรอบท้อง และ เป็นช่วงที่เข้าสู่การฝึกงานด้วยครับ

ดูมันซื้อโรตีเป็นสิบอันลงทุนเอามายั่ว แสบจริงๆ

ดูบัตรฝึกงานสิ ฮ่าๆ
ช่วงฝึกงานผมได้นำอาหารไปทานที่ฝึกงานด้วย เนื่องจากกลัวจะเกินแคลอรี่ ฮ่าๆ แต่ตอนหลังๆก็มีเพื่อนที่ฝึกงานอยากทานด้วย เลยทำไปเผื่อ ในภาพอาจจะดูเยอะไปหน่อย แต่ทานกันประมาน สามคนครับ
ส่วนมากเมนูหลักๆผม จะเป็นอกไก่ต้มนม ไม่ก็ อกไก่นาบกระทะ
อันนี้เป็นรูปฝึกงานช่วงอาทิตย์แรก ดูสิ กระดุมเสื้อช็อปแทบปริ หายใจแรงไม่ได้นะ กระดุมยิงเลย ฮ่าๆ โชคดีที่รุ่นพี่ฝึกงานผม เล่นเวทเทรนนิ่งด้วย จึงได้รับคำแนะนำ และ อุปกรณ์มากมาย มาให้ใช้ที่หอ ทำให้ผมสามารถลดน้ำหนักได้เรื่อยๆ โดยไม่หยุดยั้ง

คอเริ่มมาแว้วว อิอิ
เข้าเดือนที่สองด้วยน้ำหนัก 96.5 น้ำหนักเริ่มลงช้า มาก
แต่เริ่มแกไขเรื่องย้วยมาได้นิดนึง และ กางเกงหลวมมาก
ภาพตอนไปสเม็ดกับเพื่อน เอ๊ะ นี่มันบล๊อคลดความอ้วน หรือ ประวัติส่วนตัวกูวะเนี่ย
แต่ประเดน มันอยู่ตรงที่ว่า ผมสามารถใส่เสื้อเชิตที่เคยซื้อมาเมื่อ สองปีกว่าๆ ที่ผ่านมาได้แล้ว หลังจากใส่ไม่ได้มา นาน มากกกก จนแทบจะทิ้งมันไปซะแล้ว

และอีกอย่างคือ นั่งไขว่ห้างได้แล้วครับ สัญญาณเริ่มต้นของความผอม
ช่วงลดน้ำหนักช่วงนี้ ผมใช้เครื่องวัดอัตราการเต้นของหัวใจ ที่มีอยู่แล้วมาประกอบ โดยการคุม zone การเต้นของหัวใจอยู่ที่ zone 2 หรือ fat burn zone นะครับ โดยใช้เวลาการปั่น 1 ชั่วโมงขึ้นไป ตอนนี้ยังงอแงไม่ค่อยชอบการเวทเทรนนิ่งซักเท่าไหร่ จะมียอมเล่นก็ท่า squat จนน้ำหนักลงมาหยุดที่ 95.2 ครับ คาอยู่อย่างนี้มาเป็นอาทิตย์ ไม่ยอมลงไปไหน เครียดมาก บอกตรงๆ ว่าแทบบ้าเลย ออกหนักขึ้นเรื่อยๆ กินน้อยลงเรื่อยๆ จนมีคนบอกว่าให้ลองวัดสัดส่วนดูครับ หลังจากนั้น ชีวิตเปลี่ยนไปเลย เริ่มชั่งน้ำหนักน้อยลง วัดรอบแขน ขา คอ อก เอว มากกว่าที่จะชั่งน้ำหนัก เพราะน้ำหนักมันแกว่งง่ายครับ จะขี้ จะเยี่ยว

ก้ลงและ สัดส่วนสิเรื่องจริง และ ผมก็รุ้จักกับคำว่า Cheat day มันคือการ - ครับ -แบบไม่สนโลก เนื่องจากการลดน้ำหนัก ร่างกายเนี่ย มันไม่เข้าใจหรอกครับ ว่าเราอยากลดน้ำหนัก มันคิดว่าเราอดอยาก ดังนั้น มันจะลดพลังงานในการใช้งานลง และเป็นเหตุผลที่ทำให้เราต้อง cheatttttttttttttttttttttt

โคตรเป็นวันที่ผมเฝ้ารอในทุกๆอาทิตย์ 55555555

วัน Cheat ครับ

รองเท้ากระจุยครับ 5555

จนเข้าสู่ น้ำหนัก 93.5 เข็มขัดเข้าถึงรูสุดท้ายแล้วครับ ไอ่

ผมโวยวายอยุ่ในห้อง ดีใจคนเดียวแทบบ้าครับ เพราะมันคือ เข็มขัดตอนที่ผมซื้อเมื่อประมาน 4 ปีที่แล้ว คือ

ทนมากของ และ คือ มันเริ่มจากรูนอกสุดที่เจาะเพิ่มมาสองรู ช่วงนี้ ปั่น fat burn กับ weight training ครับ
หลังจากนั้น งานเข้าครับ งานแต่งงานญาติ ห้าวเป้ง สั่งเสื้อ slim fit ไซส์ L ครับ กลับมาบ้านปุ้ป ใส่ไมไ่ด้ครับ งานเข้าาา แล้วต้องไปงานตอนเช้า ทำไงละครับ วิ่งไปซื้อเสื้อที่ห้าง ด้วยความเป็นคนอ้วนครับ ผมแทบไม่เคยจะไปเหยียบห้างตรงโซนเสื้อผ้ามานานมาก เพราะมักจะจ๋อยกลับเพราะไม่มีไซส์ทุกครั้ง คราวนีผมก็เดินเข้าไปแบบหวั่นๆ ขอลองเสื้อครับ ครั้งแรก xl ใจหวั่นๆ เพราะ xl เนี่ย ยังไม่เคยใส่ได้ ลองปุ้ป น้ำตาแทบไหล หลวมโพรกก รีบขอเปลี่ยนเป็น L ทันทีแต่ในใจคิดว่า คงจะไม่น่าจะใส่ได้ สรุป ใส่ได้ครับ กรี้ดดดด แตก แม่ผมจ่ายเงินซื้อเสื้อให้แบบไม่บ่นเลย คงจะแอบบดีใจ (ใช่แมะ คุณแม่)

นี่คือไซส์ L ที่ซื้อมาครับ
หลังจากนั้นเหลิงเลยครับ สั่งเสื้อ ไซส์ L มาเพียบ 555 บางตัวก็ยังใส่ไม่ได้
และ นี่คือภาพสุดท้ายของวันฝึกงานครับ สังเกตุเสื้อช็อปสิครับ อิอิ
เข้าเดือนที่สามหลังจากน้ำหนักลงมาถึง 90.5 เกิดปัญหาครับ

ค้าง ค้างยังไงก็ไม่ลง ทำ

อะไรก็ไม่ลง จนผมไปปรึกษากับเพื่อนครับ พบว่า ผมกินแป้งน้อยไปมาก (ข้าวกล้อง 1 กำมือ) ทำให้ผมรู้จักกับคำว่า Carb refeed มันคือการเติมแป้งครับ ฟังไม่ผิด มันคือการกินแป้งให้เพิ่มมากขึ้น จะคล้ายๆกับ cheat day แต่ว่าจะมีการเสริมแป้งเข้าไปมากขึ้น ซึ่งสามารถทำร่วมกันได้กับ cheat day แต่ต้องระวังเรื่อง calories ด้วยนะครับ มันอาจจะเกินได้ ผมก็เลยทดสอบเลยครับครับ สรุปว่า น้ำหนักลงมา 89.9 เลยย ว้ายกรี้ดดด

มีเพื่อนรักคนนึงให้กางเกงยีนส์ไว้เมื่อสี่ปีที่แล้ว ใส่ไม่ได้มานานแต่เราก็เก็บไว้ วันนี้ใส่ได้แล้วเว้ยยย

ไหปลาร้ามากแล้วครับ อีก 1 สัญญาณของความผอม 555
ช่วงนี้ผมมาปั่นแบบ hiit (45นาที) 2 วัน fat burn [high hr] (40-60 นาที) 3 วัน และ วันเบริน ยาวๆ 1 วัน( 60 นาที ++ เคยทำมากสุด 5 ชม.) ครับ ทั้งอาทิตย์จะพักสองวัน

ส่วนนี้เป็นโปรแกรมเวทเทรนนิ่งที่ผมใช้
ตอนนี้กำลังจะเข้าเดือนที่สี่ครับ น้ำหนักวันนี้ก็ 88.8 ครับ เลขสวยแมะ ฮ่าๆ
ส่วนเรื่องอาหาร ผมทาน 1700 kcal / วัน โดยแบ่งเป็น 6 มื้อ
สัดส่วน โปรตีน/แป้ง/ไขมัน คือ 40/40/20 แต่ไขมันเกินทุกวันเลยย 5555

อันนี้ที่ผมทาน/วัน นะครับ(โดยประมาน) ขาดบ้างเกินบ้าง
3 เดือน 22 วัน กับ 32 กิโลกรัมที่หายไป ไป ไป
เรื่องยาลดน้ำหนักผมไม่ได้ใช้นะครับ
อาหารเสริมที่กินมี whey เพียงอย่างเดียว
อุปกรณ์ก็ turbo training ของ beto กับจักรยานที่มีอยู่แล้วครับ

ขอเป็นกำลังใจให้คนที่ลดน้ำหนักทุกคนครับ
คนอย่างผมยังลดได้ พวกคุณสบายแน่นอน
ขอขอบคุณ
bo box oil ที่นั่งด่ากูวันนั้น
Box เพื่อนรักที่คอยให้คำแนะนำตั้งแต่วันแรกที่ด่ากู จนถึงทุกวันนี้ คอยถามพฤติกรรมกูตลอด
win ที่ให้คำแนะนำตลอดครับ รวมถึงอุปกรณ์ต่างๆ ให้มาเยอะจนเกรงใจเลย
P ที่ลากกูขึ้นหอ ไม่ให้-กลางคืนวันนั้น 5555 และยังเป็นคนช่วยให้ผมเลิกกินโค้กได้ เ
พี่ อั้ม พี่ปลา dramatical rider ที่บอกผมมานานและ ผมไมไ่ด้ไม่ฟังนะพี่ ข้อมูลทุกอย่างที่พี่บอกมันอยู่ในหัวผมหมดเลย แต่ผมรอเวลามันกลั่นตัว
page fit fact fun
3 เดือนกับ 22 วัน กับการลดน้ำหนัก 32 กิโล (120 กก. ถึง 88 กก.)
****มีทั้งการลดน้ำหนักที่ถูกต้องและผิด และการแก้ไขความผิดพลาด ****
เริ่มต้นจาก ชายผู้มีน้ำหนักตัว 120 กิโลกรัม ดื่มเหล้า และ กินบุฟเฟ่ห์เป็นชีวิตจิตใจ ผมภูมิใจกับการกินของผมมาก รวมไปถึงการดื้ม น้ำอัดลม ถึงวันละ 2 ลิตร อ่านไม่ผิดหรอกครับ ดื่มแทนน้ำจริงๆ
จุดเปลี่ยนมันเริ่มมาจาก วงเหล้า ขณะที่ผมนั่งดื่มเหล้ากับเพื่อนรักอยู่สามคน ได้เกิดประเดนอันโหดร้ายที่จะเปลี่ยนชีวิตผมไปตลอดการ
"เห้ย ไอ่
"เออจริง -เหล้าขนาดนี้ ดูดื้ อ้วนจนหายใจดังวี้ด วี้ด แล้ว "
"ลดเถอะวะ ตัวเหมือนระเบิดเวลาเข้าไปทุกวันแล้ว "
"เลือกเอาละกัน ว่าจะตายแบบไหน"
ภาพก่อนช่วงเวลาลดน้ำหนัก
หลังจากนั้น ช่วงเวลาแห่งการลดน้ำหนักก็ได้เกิดขึ้น(16พ เม.ย)
เช้าวันรุ่งขึ้นต่อมา เพื่อนผมได้พาผมไปกินครับ ใช่ครับฟังไม่ผิด พาไปกินครับ กินเท่าที่ผมจะอยากกิน กิน
ช่วงการลดน้ำหนักตอนแรก ด้วยผมมีปัญหาเรื่อง เคยเข่าหลุดจากอุบัติเหตุ+น้ำหนักตัว ทำให้ไม่สามารถวิ่งได้ แต่ผมปั่นจักรยานมาได้สัก 2-3 ปีแล้ว แต่ช่วงแรกนี่คุมอาหารอย่างเดียวครับ
ช่วงการลดน้ำหนักแรกๆ ผมเน้นการคุมอาหาร ลดอาหารที่มีส่วนประกอบจากน้ำตาล ทั้งหมด ! รวมไปถึงกินข้าว มื้อละ 6 ช้อน เล่นเอาแค่ลุกไปเข้าห้องน้ำนี่ก็หน้ามืด บวกกับร่างกายมีอาการเสพติดน้ำตาลอย่างรุนแรง ทำให้เกิดอาการลงแดงถึงขั้น เข้าห้องน้ำวันนึงเป็น 20 ครั้ง หลังจากนั้น สองอาทิตย์ น้ำหนักได้ลงไปถึง 10 กิโลอย่างไม่น่าเชื่อ ลืมบอกไป งดเหล้า เลยนะครับ หรือถ้าเลี่ยงไม่ไ่ด้จริงๆ แนะนำ san miguel light มัน low calories ครับ แต่ทางที่ดีงดไปเลยดีกว่า
นี่คืออาหารลดน้ำหนักมื้อแรกของผมครับ 555
หลักจากเริ่มมีการศึกษาข้อมูลสำหรับการลดน้ำหนักมากขึ้น ผมเริ่มกลับมาทานอาหารปกติแต่คุมแคลอรี่ และ ออกกำลังกายด้วยการปั่นจักรยาน โดยใช้เทรนเนอร์อยู่ที่บ้าน โดยมีความรู้เท่าที่ว่า กินเท่าไหร่ ก็ออกให้เยอะ
ปั่นไปดูหนังไปชิลๆ ช่วงนี้ น้ำหนักลงมาเรื่อยๆ จนถึง 108 ผมก็เริ่มรู้จักกับ คลีนฟู๊ต การศึกษาคร่าวๆคือ มันคืออาหารที่ ผ่านการปรุงน้อยที่สุด ก็ลองมั่วๆทำครับ พบว่า มันเป็นอาหารที่ แคลอรี่น้อยแต่อิ่ม
นี่เป็นพวกคลีนฟูตที่ผมทำกินประจำ ช่วงแรกๆจะตามใจปากหน่อย แต่พอคลีนๆหนักๆ นี้ไม่ได้ถ่ายครับ นั่งซึมอยู่ 555
หลังจากลงไป 20 กิโล ผมประสบปัญหากับอาการย้วยขั้นรุนแรง เนื่องจากการอดอาหารที่ผิด และผลกระทบจากการที่น้ำหนักลงไปเร็วมาก ด้วยความเร็ว 20 กิโลกรัม/ 1 เดือน
กางเกงเริ่มหลวมลงมานิดนึงแล้ว
หลังจากนั้น ผมเริ่มมาออกกำลังกายที่เสริมสร้างกล้ามเนื้อแบบเกรียนๆ ผมโชคดีที่มีเพื่อนคอยให้กำลังใจ และ คอยห้ามเวลาผมอยากกินตลอดเลย
เข้าสู่ช่วง 98.4 กิโล ผมเริ่ม มีการเวทเทรนนิ่งเนื่องจากต้องแกไขปัญหาอาการย้วยของผิวหนังบริเวณรอบท้อง และ เป็นช่วงที่เข้าสู่การฝึกงานด้วยครับ
ดูมันซื้อโรตีเป็นสิบอันลงทุนเอามายั่ว แสบจริงๆ
ดูบัตรฝึกงานสิ ฮ่าๆ
ช่วงฝึกงานผมได้นำอาหารไปทานที่ฝึกงานด้วย เนื่องจากกลัวจะเกินแคลอรี่ ฮ่าๆ แต่ตอนหลังๆก็มีเพื่อนที่ฝึกงานอยากทานด้วย เลยทำไปเผื่อ ในภาพอาจจะดูเยอะไปหน่อย แต่ทานกันประมาน สามคนครับ
ส่วนมากเมนูหลักๆผม จะเป็นอกไก่ต้มนม ไม่ก็ อกไก่นาบกระทะ
อันนี้เป็นรูปฝึกงานช่วงอาทิตย์แรก ดูสิ กระดุมเสื้อช็อปแทบปริ หายใจแรงไม่ได้นะ กระดุมยิงเลย ฮ่าๆ โชคดีที่รุ่นพี่ฝึกงานผม เล่นเวทเทรนนิ่งด้วย จึงได้รับคำแนะนำ และ อุปกรณ์มากมาย มาให้ใช้ที่หอ ทำให้ผมสามารถลดน้ำหนักได้เรื่อยๆ โดยไม่หยุดยั้ง
คอเริ่มมาแว้วว อิอิ
เข้าเดือนที่สองด้วยน้ำหนัก 96.5 น้ำหนักเริ่มลงช้า มาก
แต่เริ่มแกไขเรื่องย้วยมาได้นิดนึง และ กางเกงหลวมมาก
ภาพตอนไปสเม็ดกับเพื่อน เอ๊ะ นี่มันบล๊อคลดความอ้วน หรือ ประวัติส่วนตัวกูวะเนี่ย
แต่ประเดน มันอยู่ตรงที่ว่า ผมสามารถใส่เสื้อเชิตที่เคยซื้อมาเมื่อ สองปีกว่าๆ ที่ผ่านมาได้แล้ว หลังจากใส่ไม่ได้มา นาน มากกกก จนแทบจะทิ้งมันไปซะแล้ว
และอีกอย่างคือ นั่งไขว่ห้างได้แล้วครับ สัญญาณเริ่มต้นของความผอม
ช่วงลดน้ำหนักช่วงนี้ ผมใช้เครื่องวัดอัตราการเต้นของหัวใจ ที่มีอยู่แล้วมาประกอบ โดยการคุม zone การเต้นของหัวใจอยู่ที่ zone 2 หรือ fat burn zone นะครับ โดยใช้เวลาการปั่น 1 ชั่วโมงขึ้นไป ตอนนี้ยังงอแงไม่ค่อยชอบการเวทเทรนนิ่งซักเท่าไหร่ จะมียอมเล่นก็ท่า squat จนน้ำหนักลงมาหยุดที่ 95.2 ครับ คาอยู่อย่างนี้มาเป็นอาทิตย์ ไม่ยอมลงไปไหน เครียดมาก บอกตรงๆ ว่าแทบบ้าเลย ออกหนักขึ้นเรื่อยๆ กินน้อยลงเรื่อยๆ จนมีคนบอกว่าให้ลองวัดสัดส่วนดูครับ หลังจากนั้น ชีวิตเปลี่ยนไปเลย เริ่มชั่งน้ำหนักน้อยลง วัดรอบแขน ขา คอ อก เอว มากกว่าที่จะชั่งน้ำหนัก เพราะน้ำหนักมันแกว่งง่ายครับ จะขี้ จะเยี่ยว
วัน Cheat ครับ
รองเท้ากระจุยครับ 5555
จนเข้าสู่ น้ำหนัก 93.5 เข็มขัดเข้าถึงรูสุดท้ายแล้วครับ ไอ่
หลังจากนั้น งานเข้าครับ งานแต่งงานญาติ ห้าวเป้ง สั่งเสื้อ slim fit ไซส์ L ครับ กลับมาบ้านปุ้ป ใส่ไมไ่ด้ครับ งานเข้าาา แล้วต้องไปงานตอนเช้า ทำไงละครับ วิ่งไปซื้อเสื้อที่ห้าง ด้วยความเป็นคนอ้วนครับ ผมแทบไม่เคยจะไปเหยียบห้างตรงโซนเสื้อผ้ามานานมาก เพราะมักจะจ๋อยกลับเพราะไม่มีไซส์ทุกครั้ง คราวนีผมก็เดินเข้าไปแบบหวั่นๆ ขอลองเสื้อครับ ครั้งแรก xl ใจหวั่นๆ เพราะ xl เนี่ย ยังไม่เคยใส่ได้ ลองปุ้ป น้ำตาแทบไหล หลวมโพรกก รีบขอเปลี่ยนเป็น L ทันทีแต่ในใจคิดว่า คงจะไม่น่าจะใส่ได้ สรุป ใส่ได้ครับ กรี้ดดดด แตก แม่ผมจ่ายเงินซื้อเสื้อให้แบบไม่บ่นเลย คงจะแอบบดีใจ (ใช่แมะ คุณแม่)
นี่คือไซส์ L ที่ซื้อมาครับ
หลังจากนั้นเหลิงเลยครับ สั่งเสื้อ ไซส์ L มาเพียบ 555 บางตัวก็ยังใส่ไม่ได้
และ นี่คือภาพสุดท้ายของวันฝึกงานครับ สังเกตุเสื้อช็อปสิครับ อิอิ
เข้าเดือนที่สามหลังจากน้ำหนักลงมาถึง 90.5 เกิดปัญหาครับ
มีเพื่อนรักคนนึงให้กางเกงยีนส์ไว้เมื่อสี่ปีที่แล้ว ใส่ไม่ได้มานานแต่เราก็เก็บไว้ วันนี้ใส่ได้แล้วเว้ยยย
ไหปลาร้ามากแล้วครับ อีก 1 สัญญาณของความผอม 555
ช่วงนี้ผมมาปั่นแบบ hiit (45นาที) 2 วัน fat burn [high hr] (40-60 นาที) 3 วัน และ วันเบริน ยาวๆ 1 วัน( 60 นาที ++ เคยทำมากสุด 5 ชม.) ครับ ทั้งอาทิตย์จะพักสองวัน
ส่วนนี้เป็นโปรแกรมเวทเทรนนิ่งที่ผมใช้
ตอนนี้กำลังจะเข้าเดือนที่สี่ครับ น้ำหนักวันนี้ก็ 88.8 ครับ เลขสวยแมะ ฮ่าๆ
ส่วนเรื่องอาหาร ผมทาน 1700 kcal / วัน โดยแบ่งเป็น 6 มื้อ
สัดส่วน โปรตีน/แป้ง/ไขมัน คือ 40/40/20 แต่ไขมันเกินทุกวันเลยย 5555
อันนี้ที่ผมทาน/วัน นะครับ(โดยประมาน) ขาดบ้างเกินบ้าง
3 เดือน 22 วัน กับ 32 กิโลกรัมที่หายไป ไป ไป
เรื่องยาลดน้ำหนักผมไม่ได้ใช้นะครับ
อาหารเสริมที่กินมี whey เพียงอย่างเดียว
อุปกรณ์ก็ turbo training ของ beto กับจักรยานที่มีอยู่แล้วครับ
ขอเป็นกำลังใจให้คนที่ลดน้ำหนักทุกคนครับ
คนอย่างผมยังลดได้ พวกคุณสบายแน่นอน
ขอขอบคุณ
bo box oil ที่นั่งด่ากูวันนั้น
Box เพื่อนรักที่คอยให้คำแนะนำตั้งแต่วันแรกที่ด่ากู จนถึงทุกวันนี้ คอยถามพฤติกรรมกูตลอด
win ที่ให้คำแนะนำตลอดครับ รวมถึงอุปกรณ์ต่างๆ ให้มาเยอะจนเกรงใจเลย
P ที่ลากกูขึ้นหอ ไม่ให้-กลางคืนวันนั้น 5555 และยังเป็นคนช่วยให้ผมเลิกกินโค้กได้ เ
พี่ อั้ม พี่ปลา dramatical rider ที่บอกผมมานานและ ผมไมไ่ด้ไม่ฟังนะพี่ ข้อมูลทุกอย่างที่พี่บอกมันอยู่ในหัวผมหมดเลย แต่ผมรอเวลามันกลั่นตัว
page fit fact fun