คิดว่าอ้วน เราจะอ้วน ^O^
ฉันเป็นคนกลัวความอ้วน ฉันก็เป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่เคยอ้วนมาก ๆ มาก่อน ซึ่งฉันไม่ใช่คนอ้วนแล้วผอมเลย แล้วผอมแบบคงทนไปตลอด แต่ฉันเคยเป็นคนอ้วนแล้วผอม แล้วอ้วนแล้วผอม แล้วก็อ้วนแล้วก็ผอม อ้วนแบบอ้วนจริง ๆ นะ ไม่ใช่อวบ ๆ ไม่ใช่อ้วนแบบคิดไปเอง แต่อ้วนจริง ๆ ^O^
ตอนเรียนม. 4 ฉันเป็นเด็กผู้หญิงที่ตัวใหญ่ที่สุดในห้องเรียน ถามว่าตอนเด็ก ๆ ฉันเป็นเด็กอ้วนหรือเปล่า ? บอกได้เลยตอนเด็ก ฉันตัวเล็กมาก น่ารักมากด้วย ฉันเป็นเด็กน่ารักจริง ๆ นะ ตอนเด็ก ๆ ฉันกินไม่เก่งเลย ติดอมข้าวมากกว่า (ฉันจำไม่ได้หรอกแม่เล่าให้ฟัง) ไปไหนก็มีแต่คนขออุ้ม ขอหอม มีแต่คนบอกแม่ว่าโตขึ้นให้ส่งฉันเข้าประกวดนางงาม ฉันน่ารักมากจริง ๆ เชื่อยัง (ตอนเด็ก ๆ อ่ะนะ555^O^) เพราะฉันไม่ค่อยกิน อากงฉันไม่ชอบเด็กผอม แม่กับพ่อจึงทำทุกวิธีให้ฉันกิน ฉันชอบกินวิตามิน ยาบำรุงฉันก็ชอบกิน แล้วฉันก็กินอาหารได้เยอะขึ้น สิ่งหนึ่งซึ่งฉันถูกสอนมาตั้งแต่เด็ก ๆ คือต้องกินข้าวให้หมดจาน อย่าเหลือ กว่าจะได้ข้าวแต่ละเม็ดชาวนาต้องเหนื่อยมาก และเป็นลูกคนเดียวในบ้านที่กินข้าวจนหมดเกลี้ยงจานทุกครั้ง ไม่ว่าจำนวนและปริมานอาหารจะมากขนาดไหน ฉันก็กินจนหมด จากนั้นฉันก็ค่อย ๆ อ้วนขึ้น ๆ และก็อ้วนสุด ๆ ตอนม.4 ฉันทำน้ำหนักตัวได้ 75-77 กก. ควรจะดีใจไหมเนีย 555 ^O^
จากพี่น้อง 3 คน ตอนเด็ก ๆ ไม่มีใครอ้วนเลย ฉันเป็นพี่คนโตที่มีหุ่นแตกต่างจากน้อง ๆ อย่างเห็นได้ชัด และด้วยเหตุนี้ในเวลากลางคืน พ่อจึงไม่ซื้อข้าวให้ฉันกิน ฉันต้องนอนดูละครรอบดึก พร้อมกับมองน้อง ๆ กินข้าวกันอร่อยเชียว ฉันก็อยากกินนะ แต่ทำไงได้อ่ะ ก็ฉันดันอ้วนซะก่อน เลยอด มาตราการต่อมาที่พ่อพยายามช่วยให้ฉันลดน้ำหนักได้คือ พาฉันไปสมัครเรียนว่ายน้ำทุกวันเสาร์ เรียนครั้งละ 2 ชม. ฉันเรียนได้ 3 เดือน สระก็ถูกปิด ฉันจึงว่ายน้ำเป็นแค่ท่าฟรีสไตย์ มันก็ยังไม่ผอมสักที ตอนม.5 ฉันเริ่มสำนึกได้ว่า ฉันไม่อยากอ้วนที่สุดในห้อง ฉันจึงเริ่มลดน้ำหนักด้วยตัวฉันเอง โดยวิธีการงดอาหารเย็น ตอนเย็นจะกินแค่นม 1 กล่องพอ และตอนเช้าจะกินแค่กล้วยหอมกับนมแค่นั้น กลางวันก็กินอาหารที่โรงอาหารของโรงเรียน ฉันทำแบบนี้ทุกวันเป็นเวลา เกือบ 6 เดือน เพื่อน ๆ ก็เริ่มทักว่าฉันตัวเล็กลง ฉันสามารถลดน้ำหนักจาก 77-65 ได้ด้วยวิธีนี้ และมันก็ไม่ลดอีกเลย พอขึ้นม.6 เทอม 2 เพื่อน ๆ ก็ชวนฉันไปกินยาลดความอ้วน โดยไปปรึกษาหมอที่คลินิคลดความอ้วน ทุก 2 อาทิตย์ หมอก็จะจัดยาให้ พอลดได้ถึงน้ำหนักที่ต้องการก็กินยาหยุด แต่มันไม่ดีเลยจริง ๆ นะวิธีนี้ ถ้าฉันรู้ถึงผลของมันฉันจะไม่เลือกวิธีนี้เลยจริง ๆ นะ ผลของมันคือ ทำให้ฉันหงุดหงิดง่าย เจ้าอารมณ์ และอารมณ์แปรปวน ปากแห้งตลอดเวลา ไม่ค่อยกินข้าว และดูโทรมมาก ถึงแม้จะผอมแต่เหมือนผีดิบ ไม่สดใส ไม่ร่าเริง มันไม่ดีเลยจริง ๆ ยิ่งเป็นช่วงใกล้เอ็นเข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัยด้วย มันหงุดหงิดบ่อยมาก คนรอบ ๆ ตัวฉัน ไม่ว่าพ่อ แม่ น้อง ๆ ก็ทนฉันไม่ไหวเหมือนกัน ฉันจึงตัดสินใจหยุดกินยา โดยกลับไปที่คลินิคขอยาหยุดหมอ และพอกินยาหยุดหมด ฉันก็เลิก และไม่คิดจะกลับไปลดน้ำหนักด้วยวิธีนี้อีกเลย ให้ตายฉันก็ไม่ทำอีกแล้ว เป็นอีกหนึ่งบทเรียนที่เลวร้ายมากสำหรับฉัน
พอกลับมากินปกติฉันก็น้ำหนักขึ้นมาเรื่อย ๆ น้ำหนักปกติของฉันคือ 65 ฉันหนักเท่านี้ มีขึ้นมีลงบ้างแต่ก็กลับมาหนักที่ 65 อยู่ดี จนฉันออกจากงานประจำ มาช่วยที่บ้าน น้ำหนักฉันก็พุ่งขึ้นแบบฉุดไม่อยู่ ฉันกินทั้งวันไม่ได้ออกกำลังกายเลย ฉันชอบกินเค็กช๊อกโกแล็ต กินแทบทุกวัน และทุกเช้าฉันจะกินโกโก้เย็น บางวันก็กิน 2 ถุงเลย ตู้เย็นจะมีไอติมแช่ไว้ตลอด เพราะแม่ฉันก็ชอบกินเหมือนกัน กินไปทุกวันน้ำหนักก็ขึ้นเอา ๆ จนหนักถึง 73 กก. ฉันทนไม่ไหว และพอดีได้ดูหนังญีปุ่น เป็นผู้หญิงหลานสาวมาเฟีย และมาเป็นครูเด็กแสบ อย่างเท่ห์อ่ะ ฉันคิดในใจ รู้สึกเธอจะมีวิชาป้องตัวสูงมาก ฉันสนใจมาก และอยากเรียนวิชาป้องกัน ฉันจำได้ตอนเรียนม.5 ที่รร.เคยสอนยูโด กับไอคิโด แต่ฉันไม่ได้เรื่องเลย สอบผ่านก็ดีใจมาก พอมาวันนี้ความรู้สึกฉันเปลี่ยนไป ฉันอยากฝึกไอคิโดอีกครั้ง เลยไปหาที่เรียนดู แล้วฉันก็หาเจอที่ไทยญีปุ่นดินแดง มีสอนฟรี วันนั้นเปิดรับพอดี (ทุก ๆ 3 เดือน แต่ละชมรมในไทยญีปุนดินแดง จะเปิดรับเด็กใหม่ เราสามารถเลือกเรียนได้หลายกิจกรรมเลย ปีละ 40 บาทเอง) ฉันก็ไปสมัครเรียน และเริ่มฝึก มันเหนื่อยมาก ฉันเกร็งไปทั้งตัว ตัวแข็งมาก ประมาณว่าไม่ได้เรื่องจริง ๆ 555 ฉันก็ฝึกไปเรื่อย ฝึกได้ 1 ปีฉันก็สอบสาย ได้สายกับเขาด้วยนะ สายส้มปลายฟ้า 3 นิ้ว แต่อย่าถามเลย ฉันลืมท่าไปหมดแล้ว 55 ฉันฝึกไอคิโดจนฉันกลับมาผอมอีกครั้ง ผอมมากกก หนัก 55 กก. แต่ฉันก็ต้องหยุดฝึก เพราะตอนเรียนโทฉันเครียดมาก ฉันกลัวเรียนไม่จบ และฉันไม่อยากทำอะไรเลยช่วงนั้น มันคือยุคมืดของฉัน ฉันเปลี่ยนไปเป็นคนละคน ฉันเก็บตัวเงียบ และก็กิน ๆๆๆๆ ยิ่งเครียดยิ่งกิน แล้วก็กลับมาอ้วนอีกครั้งในที่สุด ชีวิตฉันจะหนีความอ้วนได้ไหมเนีย 555
หลังจากเรียนจบฉันทำน้ำหนักตัวกลับมาที่ 73 กก. อ้วนสมบรูณ์แบบ ฉันทิ้งความหวังว่าฉันจะกลับไปผอมอีก เพราะฉันอายุเริ่มเยอะแล้ว มันยากมากนะที่จะผอมได้อีกครั้ง มีแต่น้ำหนักขึ้นเอา ๆ แต่ใจฉันไม่อยากเป็นคนอ้วนเลยจริง ๆ ฉันเคยบอกตัวเองว่าจะต้องผอมก่อน 30 แล้วฉันก็เคยทำได้แล้ว แต่แล้วฉันดันกลับมาอ้วนอีกแล้ว ชีวิต! ฉันต้องยอมรับที่จะเป็นผู้หญิงอ้วนให้ได้ใช่ไหมเนีย? 555
จริง ๆ ฉันรับไม่ได้ ฉันถามตัวเองว่าลองสู้อีกครั้งนะ ลองดูอีกที และก็เหมือนที่ฉันได้เล่าไปแล้วอ่ะ ในเวลาปีกว่า ๆ ฉันก็กลับมาผอม และก็เฟิร์มกว่าเดิม แถมกินอาหารได้อย่างมีความสุข ร่าเริง สดใส และอารมณ์ดีมากกกก 555 ^O^
ขอบคุณสิ่งดี ๆ ที่ทำให้ฉันมีความสุข ฉันขอยืนยันว่าทุกคนผอมได้นะ และก็อ้วนได้เหมือนกัน อย่าประมาณเลย ฉันเองก็ไม่รู้ว่าจะกลับไปอ้วนอีกหรือเปล่า แต่ตอนนี้ฉันรักการวิ่งไปแล้ว ฉันจะไม่เลิกวิ่งแน่ ๆ ฉันยังวิ่งไม่เก่งหรอกต้องฝึกอีกเยอะ แต่ฉันไม่รีบ หลายคนถามฉันว่าวิ่งหนักขนาดนี้เข่าไม่ปวดหรอ ไม่เจ็บหรอ ? มันก็มีบ้าง แต่มันไม่ได้ทรมาน แล้วฉันก็รู้สึกว่าเข่าฉันแข็งแรงขึ้นกว่าเดิมอีก บอกแล้วว่าฉันค่อยเป็นค่อยไป ฉันไม่ได้ฝืนตัวเองจนเกินไป ฉันปรับท่าวิ่งให้รองรับกับรูปร่างของฉัน ครูดินปรับให้ใหม่หมด และก่อนวิ่งต้องวอม ยืดเหยียด และ วิ่งเสร็จต้องคลูดาวและยืดเหยียดอีกที ฉันทำประจำ และขาฉันก็ไม่ได้ใหญ่ด้วย ฉันเองก็ไม่เข้าใจ ว่าทำไม ผลถึงตรงข้ามกับสิ่งที่ทุกคนเตือนฉัน ฉันหุ่นดีขึ้น สุขภาพกายใจดีขึ้น และก็มองโลกสดใสขึ้นจริง ๆ นะ 5555 ^O^
Norarat Jeab
24-06-57
ปล.เขียนยาวอีกแล้ว ต้องขอโทษด้วย ไม่รู้มีคนอ่านเปล่า แต่ถ้าใครอ่านจบ เจี๊ยบขอขอบคุณมากจริง ๆ ที่เขียนมาไม่รู้เป็นประโยชน์หรือเปล่า แต่เจี๊ยบอยากให้กำลังใจคนที่น้ำหนักเยอะ คนที่ถอดใจเลิกลดน้ำหนัก มันไม่ง่ายนะ พูดเลย อยู่ที่ใจจริง ๆ ดูเจี๊ยบสิ ลดน้ำหนักมาตั้งกี่ครั้ง เอาน่าอ้วนได้ก็ผอมได้ สู้ ๆ นะทุกคน 555 ^O^
ปล.2 เจี๊ยบไม่ใช่คนเก่งจริง ๆ เจี๊ยบไม่รู้อะไรเลย เจี๊ยบมั่วๆ ไปแหละ อย่าถามหลักการเจี๊ยบ เจี๊ยบไม่รู้ เพราะผลลัพธ์ที่เจี๊ยบทำได้ มันตรงข้ามกับที่ทุกคนเคยบอกเจี๊ยบ อย่าให้เจี๊ยบหยุดวิ่งเลยนะ วิ่งแล้วมันมีความสุขจริง ๆ 555 ^O^
ปล. 3 ฝากตรวจคำผิดด้วย พิมพ์เยอะเกิน เดี๋ยวเจี๊ยบแก้ให้ค่ะ ขอบคุณมาก ๆ เลย ^O^
คิดว่าอ้วน เราจะอ้วน ^O^
ฉันเป็นคนกลัวความอ้วน ฉันก็เป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่เคยอ้วนมาก ๆ มาก่อน ซึ่งฉันไม่ใช่คนอ้วนแล้วผอมเลย แล้วผอมแบบคงทนไปตลอด แต่ฉันเคยเป็นคนอ้วนแล้วผอม แล้วอ้วนแล้วผอม แล้วก็อ้วนแล้วก็ผอม อ้วนแบบอ้วนจริง ๆ นะ ไม่ใช่อวบ ๆ ไม่ใช่อ้วนแบบคิดไปเอง แต่อ้วนจริง ๆ ^O^
ตอนเรียนม. 4 ฉันเป็นเด็กผู้หญิงที่ตัวใหญ่ที่สุดในห้องเรียน ถามว่าตอนเด็ก ๆ ฉันเป็นเด็กอ้วนหรือเปล่า ? บอกได้เลยตอนเด็ก ฉันตัวเล็กมาก น่ารักมากด้วย ฉันเป็นเด็กน่ารักจริง ๆ นะ ตอนเด็ก ๆ ฉันกินไม่เก่งเลย ติดอมข้าวมากกว่า (ฉันจำไม่ได้หรอกแม่เล่าให้ฟัง) ไปไหนก็มีแต่คนขออุ้ม ขอหอม มีแต่คนบอกแม่ว่าโตขึ้นให้ส่งฉันเข้าประกวดนางงาม ฉันน่ารักมากจริง ๆ เชื่อยัง (ตอนเด็ก ๆ อ่ะนะ555^O^) เพราะฉันไม่ค่อยกิน อากงฉันไม่ชอบเด็กผอม แม่กับพ่อจึงทำทุกวิธีให้ฉันกิน ฉันชอบกินวิตามิน ยาบำรุงฉันก็ชอบกิน แล้วฉันก็กินอาหารได้เยอะขึ้น สิ่งหนึ่งซึ่งฉันถูกสอนมาตั้งแต่เด็ก ๆ คือต้องกินข้าวให้หมดจาน อย่าเหลือ กว่าจะได้ข้าวแต่ละเม็ดชาวนาต้องเหนื่อยมาก และเป็นลูกคนเดียวในบ้านที่กินข้าวจนหมดเกลี้ยงจานทุกครั้ง ไม่ว่าจำนวนและปริมานอาหารจะมากขนาดไหน ฉันก็กินจนหมด จากนั้นฉันก็ค่อย ๆ อ้วนขึ้น ๆ และก็อ้วนสุด ๆ ตอนม.4 ฉันทำน้ำหนักตัวได้ 75-77 กก. ควรจะดีใจไหมเนีย 555 ^O^
จากพี่น้อง 3 คน ตอนเด็ก ๆ ไม่มีใครอ้วนเลย ฉันเป็นพี่คนโตที่มีหุ่นแตกต่างจากน้อง ๆ อย่างเห็นได้ชัด และด้วยเหตุนี้ในเวลากลางคืน พ่อจึงไม่ซื้อข้าวให้ฉันกิน ฉันต้องนอนดูละครรอบดึก พร้อมกับมองน้อง ๆ กินข้าวกันอร่อยเชียว ฉันก็อยากกินนะ แต่ทำไงได้อ่ะ ก็ฉันดันอ้วนซะก่อน เลยอด มาตราการต่อมาที่พ่อพยายามช่วยให้ฉันลดน้ำหนักได้คือ พาฉันไปสมัครเรียนว่ายน้ำทุกวันเสาร์ เรียนครั้งละ 2 ชม. ฉันเรียนได้ 3 เดือน สระก็ถูกปิด ฉันจึงว่ายน้ำเป็นแค่ท่าฟรีสไตย์ มันก็ยังไม่ผอมสักที ตอนม.5 ฉันเริ่มสำนึกได้ว่า ฉันไม่อยากอ้วนที่สุดในห้อง ฉันจึงเริ่มลดน้ำหนักด้วยตัวฉันเอง โดยวิธีการงดอาหารเย็น ตอนเย็นจะกินแค่นม 1 กล่องพอ และตอนเช้าจะกินแค่กล้วยหอมกับนมแค่นั้น กลางวันก็กินอาหารที่โรงอาหารของโรงเรียน ฉันทำแบบนี้ทุกวันเป็นเวลา เกือบ 6 เดือน เพื่อน ๆ ก็เริ่มทักว่าฉันตัวเล็กลง ฉันสามารถลดน้ำหนักจาก 77-65 ได้ด้วยวิธีนี้ และมันก็ไม่ลดอีกเลย พอขึ้นม.6 เทอม 2 เพื่อน ๆ ก็ชวนฉันไปกินยาลดความอ้วน โดยไปปรึกษาหมอที่คลินิคลดความอ้วน ทุก 2 อาทิตย์ หมอก็จะจัดยาให้ พอลดได้ถึงน้ำหนักที่ต้องการก็กินยาหยุด แต่มันไม่ดีเลยจริง ๆ นะวิธีนี้ ถ้าฉันรู้ถึงผลของมันฉันจะไม่เลือกวิธีนี้เลยจริง ๆ นะ ผลของมันคือ ทำให้ฉันหงุดหงิดง่าย เจ้าอารมณ์ และอารมณ์แปรปวน ปากแห้งตลอดเวลา ไม่ค่อยกินข้าว และดูโทรมมาก ถึงแม้จะผอมแต่เหมือนผีดิบ ไม่สดใส ไม่ร่าเริง มันไม่ดีเลยจริง ๆ ยิ่งเป็นช่วงใกล้เอ็นเข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัยด้วย มันหงุดหงิดบ่อยมาก คนรอบ ๆ ตัวฉัน ไม่ว่าพ่อ แม่ น้อง ๆ ก็ทนฉันไม่ไหวเหมือนกัน ฉันจึงตัดสินใจหยุดกินยา โดยกลับไปที่คลินิคขอยาหยุดหมอ และพอกินยาหยุดหมด ฉันก็เลิก และไม่คิดจะกลับไปลดน้ำหนักด้วยวิธีนี้อีกเลย ให้ตายฉันก็ไม่ทำอีกแล้ว เป็นอีกหนึ่งบทเรียนที่เลวร้ายมากสำหรับฉัน
พอกลับมากินปกติฉันก็น้ำหนักขึ้นมาเรื่อย ๆ น้ำหนักปกติของฉันคือ 65 ฉันหนักเท่านี้ มีขึ้นมีลงบ้างแต่ก็กลับมาหนักที่ 65 อยู่ดี จนฉันออกจากงานประจำ มาช่วยที่บ้าน น้ำหนักฉันก็พุ่งขึ้นแบบฉุดไม่อยู่ ฉันกินทั้งวันไม่ได้ออกกำลังกายเลย ฉันชอบกินเค็กช๊อกโกแล็ต กินแทบทุกวัน และทุกเช้าฉันจะกินโกโก้เย็น บางวันก็กิน 2 ถุงเลย ตู้เย็นจะมีไอติมแช่ไว้ตลอด เพราะแม่ฉันก็ชอบกินเหมือนกัน กินไปทุกวันน้ำหนักก็ขึ้นเอา ๆ จนหนักถึง 73 กก. ฉันทนไม่ไหว และพอดีได้ดูหนังญีปุ่น เป็นผู้หญิงหลานสาวมาเฟีย และมาเป็นครูเด็กแสบ อย่างเท่ห์อ่ะ ฉันคิดในใจ รู้สึกเธอจะมีวิชาป้องตัวสูงมาก ฉันสนใจมาก และอยากเรียนวิชาป้องกัน ฉันจำได้ตอนเรียนม.5 ที่รร.เคยสอนยูโด กับไอคิโด แต่ฉันไม่ได้เรื่องเลย สอบผ่านก็ดีใจมาก พอมาวันนี้ความรู้สึกฉันเปลี่ยนไป ฉันอยากฝึกไอคิโดอีกครั้ง เลยไปหาที่เรียนดู แล้วฉันก็หาเจอที่ไทยญีปุ่นดินแดง มีสอนฟรี วันนั้นเปิดรับพอดี (ทุก ๆ 3 เดือน แต่ละชมรมในไทยญีปุนดินแดง จะเปิดรับเด็กใหม่ เราสามารถเลือกเรียนได้หลายกิจกรรมเลย ปีละ 40 บาทเอง) ฉันก็ไปสมัครเรียน และเริ่มฝึก มันเหนื่อยมาก ฉันเกร็งไปทั้งตัว ตัวแข็งมาก ประมาณว่าไม่ได้เรื่องจริง ๆ 555 ฉันก็ฝึกไปเรื่อย ฝึกได้ 1 ปีฉันก็สอบสาย ได้สายกับเขาด้วยนะ สายส้มปลายฟ้า 3 นิ้ว แต่อย่าถามเลย ฉันลืมท่าไปหมดแล้ว 55 ฉันฝึกไอคิโดจนฉันกลับมาผอมอีกครั้ง ผอมมากกก หนัก 55 กก. แต่ฉันก็ต้องหยุดฝึก เพราะตอนเรียนโทฉันเครียดมาก ฉันกลัวเรียนไม่จบ และฉันไม่อยากทำอะไรเลยช่วงนั้น มันคือยุคมืดของฉัน ฉันเปลี่ยนไปเป็นคนละคน ฉันเก็บตัวเงียบ และก็กิน ๆๆๆๆ ยิ่งเครียดยิ่งกิน แล้วก็กลับมาอ้วนอีกครั้งในที่สุด ชีวิตฉันจะหนีความอ้วนได้ไหมเนีย 555
หลังจากเรียนจบฉันทำน้ำหนักตัวกลับมาที่ 73 กก. อ้วนสมบรูณ์แบบ ฉันทิ้งความหวังว่าฉันจะกลับไปผอมอีก เพราะฉันอายุเริ่มเยอะแล้ว มันยากมากนะที่จะผอมได้อีกครั้ง มีแต่น้ำหนักขึ้นเอา ๆ แต่ใจฉันไม่อยากเป็นคนอ้วนเลยจริง ๆ ฉันเคยบอกตัวเองว่าจะต้องผอมก่อน 30 แล้วฉันก็เคยทำได้แล้ว แต่แล้วฉันดันกลับมาอ้วนอีกแล้ว ชีวิต! ฉันต้องยอมรับที่จะเป็นผู้หญิงอ้วนให้ได้ใช่ไหมเนีย? 555
จริง ๆ ฉันรับไม่ได้ ฉันถามตัวเองว่าลองสู้อีกครั้งนะ ลองดูอีกที และก็เหมือนที่ฉันได้เล่าไปแล้วอ่ะ ในเวลาปีกว่า ๆ ฉันก็กลับมาผอม และก็เฟิร์มกว่าเดิม แถมกินอาหารได้อย่างมีความสุข ร่าเริง สดใส และอารมณ์ดีมากกกก 555 ^O^
ขอบคุณสิ่งดี ๆ ที่ทำให้ฉันมีความสุข ฉันขอยืนยันว่าทุกคนผอมได้นะ และก็อ้วนได้เหมือนกัน อย่าประมาณเลย ฉันเองก็ไม่รู้ว่าจะกลับไปอ้วนอีกหรือเปล่า แต่ตอนนี้ฉันรักการวิ่งไปแล้ว ฉันจะไม่เลิกวิ่งแน่ ๆ ฉันยังวิ่งไม่เก่งหรอกต้องฝึกอีกเยอะ แต่ฉันไม่รีบ หลายคนถามฉันว่าวิ่งหนักขนาดนี้เข่าไม่ปวดหรอ ไม่เจ็บหรอ ? มันก็มีบ้าง แต่มันไม่ได้ทรมาน แล้วฉันก็รู้สึกว่าเข่าฉันแข็งแรงขึ้นกว่าเดิมอีก บอกแล้วว่าฉันค่อยเป็นค่อยไป ฉันไม่ได้ฝืนตัวเองจนเกินไป ฉันปรับท่าวิ่งให้รองรับกับรูปร่างของฉัน ครูดินปรับให้ใหม่หมด และก่อนวิ่งต้องวอม ยืดเหยียด และ วิ่งเสร็จต้องคลูดาวและยืดเหยียดอีกที ฉันทำประจำ และขาฉันก็ไม่ได้ใหญ่ด้วย ฉันเองก็ไม่เข้าใจ ว่าทำไม ผลถึงตรงข้ามกับสิ่งที่ทุกคนเตือนฉัน ฉันหุ่นดีขึ้น สุขภาพกายใจดีขึ้น และก็มองโลกสดใสขึ้นจริง ๆ นะ 5555 ^O^
Norarat Jeab
24-06-57
ปล.เขียนยาวอีกแล้ว ต้องขอโทษด้วย ไม่รู้มีคนอ่านเปล่า แต่ถ้าใครอ่านจบ เจี๊ยบขอขอบคุณมากจริง ๆ ที่เขียนมาไม่รู้เป็นประโยชน์หรือเปล่า แต่เจี๊ยบอยากให้กำลังใจคนที่น้ำหนักเยอะ คนที่ถอดใจเลิกลดน้ำหนัก มันไม่ง่ายนะ พูดเลย อยู่ที่ใจจริง ๆ ดูเจี๊ยบสิ ลดน้ำหนักมาตั้งกี่ครั้ง เอาน่าอ้วนได้ก็ผอมได้ สู้ ๆ นะทุกคน 555 ^O^
ปล.2 เจี๊ยบไม่ใช่คนเก่งจริง ๆ เจี๊ยบไม่รู้อะไรเลย เจี๊ยบมั่วๆ ไปแหละ อย่าถามหลักการเจี๊ยบ เจี๊ยบไม่รู้ เพราะผลลัพธ์ที่เจี๊ยบทำได้ มันตรงข้ามกับที่ทุกคนเคยบอกเจี๊ยบ อย่าให้เจี๊ยบหยุดวิ่งเลยนะ วิ่งแล้วมันมีความสุขจริง ๆ 555 ^O^
ปล. 3 ฝากตรวจคำผิดด้วย พิมพ์เยอะเกิน เดี๋ยวเจี๊ยบแก้ให้ค่ะ ขอบคุณมาก ๆ เลย ^O^