จีนสุดอู้ฟู่ เผยบริษัทกว่า 20 แห่ง เตรียม"ตบเท้า"เข้าตลาดหุ้นสหรัฐปีนี้ "อันดับสามของโลก"
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจคาดว่า หน่วยงานจีน 15-20 แห่งจะเข้าสู่ตลาดหุ้นสหรัฐในปีนี้ ท่ามกลางความมั่นใจของผู้นักลงทุนที่ฟื้นตัวของสภาพเศรษฐกิจของบริษัทของจีน โดยหน่วยงานเหล่านี้จะเป็นหน่วยงานประเภทค้าปลีก หน่วยงานเทคโนโลยี และภาคสาธารณสุข
นักวิเคราะห์ระบุว่า ปัจจุบันจีนได้กลายเป็นประเทศใหญ่อันดับสามของโลกที่มีบริษัทเข้าสู่ตลาดสหรัฐ รองจากสหรัฐ และแคนาดา โดยนับตั้งแต่เดือนพ.ย.ปี 2013 มีบริษัทจีนกว่า 74 แห่งจดทะเบียนเข้าสู่ตลาดหุ้นนิวยอร์ก และส่งผลให้บริษัทเหล่านี้มูลค่าเงินทุนรวมกว่า 1.04 ล้านล้านดอลลาร์ และคาดว่าจีนจะยังคงสถานภาพดังกล่าวเนื่องจาก
มีบริษัทจีนยังคงต้องการเข้าสู่ตลาดหุ้นสหรัฐอย่างต่อเนื่อง และภาวะราคาหุ้นในตลาดหุ้นสหรัฐที่สูงขึ้นได้เพิ่มความเชื่อมั่นแก่นักลงทุน โดยเมื่อปีที่แล้ว จีนมีบริษัทเข้าสู่ตลาดหุ้นสหรัฐ 6 แห่ง สามารถระดมทุนได้กว่า 720 ล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบกับปี 2012 ซึ่งมีบริษัทจีนเพียง 2 แห่งเท่านั้นที่เข้าตลาดหุ้นสหรัฐ
ขณะที่นักลงทุนทั่วโลกกำลังจับตาศักยภาพของบริษัทจีนอย่างใกล้ชิด โดยที่ผ่านมา ตลาดสหรัฐถือว่าเป็นที่ดึงดูดต่อบริษัทด้านอินเตอร์เนทของจีน โดยบริษัทเหล่านี้ มีรายได้จากการระดมทุนที่ดีหลังเข้าสู่ตลาดหุ้นสหรัฐแล้ว ซึ่งในช่วงสิ้นปี 2013 การระดมทุนของบริษัทเหล่านี้มีมูลค่าเกินกว่า 1 พันล้านดอลลาร์
ขณะเดียวกัน "ไชน่า คอร์ป"ซึ่งอยู่ในตลาดหุ้นแนสแด๊กและเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของเว็บไซต์เว๋อป๋อที่เข้าสู่ตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อเร็ว ๆ นี้ ก็คาดว่าจะสามารถระดมทุนได้กว่า 500 ล้านดอลลาร์ ในช่วงไตรมาสที่สองของปีนี้ และบริษัท"จูไม ดอท คอม"ซึ่งเป็นบริษัทอีคอมเมิร์ชด้านผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางจีน ก็วางแผนจะเปิดขายหุ้นไอพีโอ โดยตั้งเป้าว่าจะสามารถระดมทุนได้กว่า 500 ล้านดอลลาร์ ส่วน"JD.com"ก็เพิ่งยืนเรื่องเข้าตลาดหุ้นสหรัฐ และหวังว่าจะสามารถระดมทุนได้มากกว่า 1,500 ล้านดอลลาร์ด้วย
จีนกับสหรัฐ เป็นคู่แฝดหรือเปล่า ทำสงครามน้ำลายแต่ก็เป็นคู่ขากันแอบกินตับกัน หรือ ผลัดกันล้างตู้เย็น
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจคาดว่า หน่วยงานจีน 15-20 แห่งจะเข้าสู่ตลาดหุ้นสหรัฐในปีนี้ ท่ามกลางความมั่นใจของผู้นักลงทุนที่ฟื้นตัวของสภาพเศรษฐกิจของบริษัทของจีน โดยหน่วยงานเหล่านี้จะเป็นหน่วยงานประเภทค้าปลีก หน่วยงานเทคโนโลยี และภาคสาธารณสุข
นักวิเคราะห์ระบุว่า ปัจจุบันจีนได้กลายเป็นประเทศใหญ่อันดับสามของโลกที่มีบริษัทเข้าสู่ตลาดสหรัฐ รองจากสหรัฐ และแคนาดา โดยนับตั้งแต่เดือนพ.ย.ปี 2013 มีบริษัทจีนกว่า 74 แห่งจดทะเบียนเข้าสู่ตลาดหุ้นนิวยอร์ก และส่งผลให้บริษัทเหล่านี้มูลค่าเงินทุนรวมกว่า 1.04 ล้านล้านดอลลาร์ และคาดว่าจีนจะยังคงสถานภาพดังกล่าวเนื่องจาก
มีบริษัทจีนยังคงต้องการเข้าสู่ตลาดหุ้นสหรัฐอย่างต่อเนื่อง และภาวะราคาหุ้นในตลาดหุ้นสหรัฐที่สูงขึ้นได้เพิ่มความเชื่อมั่นแก่นักลงทุน โดยเมื่อปีที่แล้ว จีนมีบริษัทเข้าสู่ตลาดหุ้นสหรัฐ 6 แห่ง สามารถระดมทุนได้กว่า 720 ล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบกับปี 2012 ซึ่งมีบริษัทจีนเพียง 2 แห่งเท่านั้นที่เข้าตลาดหุ้นสหรัฐ
ขณะที่นักลงทุนทั่วโลกกำลังจับตาศักยภาพของบริษัทจีนอย่างใกล้ชิด โดยที่ผ่านมา ตลาดสหรัฐถือว่าเป็นที่ดึงดูดต่อบริษัทด้านอินเตอร์เนทของจีน โดยบริษัทเหล่านี้ มีรายได้จากการระดมทุนที่ดีหลังเข้าสู่ตลาดหุ้นสหรัฐแล้ว ซึ่งในช่วงสิ้นปี 2013 การระดมทุนของบริษัทเหล่านี้มีมูลค่าเกินกว่า 1 พันล้านดอลลาร์
ขณะเดียวกัน "ไชน่า คอร์ป"ซึ่งอยู่ในตลาดหุ้นแนสแด๊กและเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของเว็บไซต์เว๋อป๋อที่เข้าสู่ตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อเร็ว ๆ นี้ ก็คาดว่าจะสามารถระดมทุนได้กว่า 500 ล้านดอลลาร์ ในช่วงไตรมาสที่สองของปีนี้ และบริษัท"จูไม ดอท คอม"ซึ่งเป็นบริษัทอีคอมเมิร์ชด้านผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางจีน ก็วางแผนจะเปิดขายหุ้นไอพีโอ โดยตั้งเป้าว่าจะสามารถระดมทุนได้กว่า 500 ล้านดอลลาร์ ส่วน"JD.com"ก็เพิ่งยืนเรื่องเข้าตลาดหุ้นสหรัฐ และหวังว่าจะสามารถระดมทุนได้มากกว่า 1,500 ล้านดอลลาร์ด้วย