แฟนเก่าตามง้อมา5ปี...

สวัสดีครับ ผมจะขอเราเรื่องชิวิตดราม่าของผมหน่อย อาจจะยาวและเวิ่นเว้อบ้างนะครับ เพราะผมกะจะเล่าตั้งแต่แรกที่ผมได้เจอกับแฟนเก่าคนนี้เลย ยังไงก็ฝากกระทู้นี้ไว้ในอ้อมใจของเพื่อนๆชาวpantipด้วยนะครับ

ย้อนกลับไปซัก 8ปีก่อน ตอนนั้นผมเพิ่งขึ้นย้ายโรงเรียนเพื่อนม.ปลาย โรงเรียนที่ผมย้ายมาเป็นโรงเรียนประจำจังหวัดครับ สังคมที่นี่ถือว่าแปลกหูแปลกตาสำหรับเด็กที่มาจากโรงเรียนเอกชนเล็กๆอย่างผม วันที่ผมไปโรงเรียนครั้งแรกในฐานะนักเรียนโรงเรียนนี้ คือวันเข้าค่ายพุทธบุตร+ปฐมนิเทศน์ครับ และเป็นครั้งแรกที่ผมได้เจอกับเธอคนนี้ เค้าเป็นคนแรกที่เข้ามาทักผมที่กำลังยืนมึนๆหาแถวตัวเองไม่เจอ ประโยคแรกที่เค้าทักผมมาคือ"เธอๆ อยู่ห้อง3ป่ะ" และพอผมหันไปสบตา บอกตรงๆผมตกหลุมรักเค้าตั้งแต่ตอนนั้นครับ เป็นผู้หญิงในฝันที่ไม่คิดว่าชีวิตนี้จะได้เจอ ตรงสเปคผมทุกอย่างตั้งแต่หัวจรดเท้า

ตลอดระยะเวลาเข้าค่าย3วัน ผมแอบมองเค้าอยู่ห่างๆ เค้านั่งอยู่หน้าแถว ผมนั่งอยู่ท้ายแถว ทุกกริยาของเค้าทำให้โลกของผมมันเบ่งบานไปซะหมด แต่ผมก็ไม่กล้าเข้าไปคุยนะครับ เนื่องจากเมื่อก่อนโคตรขี้อาย แต่มีบางครั้งที่เค้าหันมาสบตาตอนที่ผมกำลังมอง เค้าก็ยิ้มให้ผม ผมนี่หัวใจแทบกระดอนออกจากปาก รีบหลบหน้าทันที เค้าเป็นคนเฟรนด์ลี่มากครับ เรามาจากต่างโรงเรียนเหมือนกัน และมาคนเดียวเหมือนกัน แต่วันแรกเค้าก็ได้เพื่อนแล้ว ส่วนผมยังไม่มีใครจำชื่อได้เลย เวลา3วันที่เข้าค่ายหมดไป โดยที่ผมไม่กล้าเข้าไปคุยกับเค้าเลยแม้แต่ประโยคเดียว

และเมื่อวันเปิดเทอมครั้งแรก ผมตัดสินใจเป็นมั่นเป้นเหมาะว่าวันนี้แหละ จะขอเข้าไปทำความรู้จักให้ได้ แต่จนแล้วจนรอด เวลาผ่านไปเป็นเดือนผมยังไม่ได้คุยกับเค้าเลยซักประโยค ที่ผมได้คือ แอบมอง ถ้าเค้าหันมาสบตา ก็หันหน้าหนี

ตอนนั้นผมเริ่มมีเพื่อนบ้างแล้วครับ เป็นเพื่อนผุ้ชายทั้งหมดในกลุ่ม ผมคุยกับเพื่อนเรื่องเค้า เพื่อนผมเลยไปหลอกถามเมลมาให้ ผมแอดmsnเค้าไปตอนคาบเรียนคอม ผมทำใจนานมากกว่าจะทักเค้าไป และคำแรกที่พิมไปคือ "ดีจ้า" เค้าพิมตอบดีจ้ากลับมาเหมือนกัน แล้วก็หมดคาบพอดี (นั่งทำใจนานไปหน่อย) แต่เอาววะ เริ่มไปแล้ว1ประโยค เดี๋ยวมันต้องมีโอกาสได้คุยกันมั่งแหละ

มีโอกาสคุยจริงๆครับ คืออีก1อาทิตย์ถัดมาในคาบเรียนคอมเหมือนเดิม = =" คราวนี้เราได้คุยกันจริงๆครับ ผมก็ชวนคุยเล่นไปเรื่อย เนื่องจากลึกๆแล้วผมเป็นคนกวงติงพอสมควร เวลาหยอดมุขขำๆไปเค้าก็จะหันมายิ้มกับผม(จริงๆโต๊ะคอมที่นั่งก็เยื้องกันไปนิดเดียว) ตอนนั้นผมมีความสุขมาก เราเริ่มได้คุยกันมากขึ้น ทั้งในจอและนอกจอ เวลาเราสบตากันตอนที่ผมแอบมองผมก็ไม่ต้องหลบตาแล้ว เรายิ้มให้กันเลย และยิ่งร็จักนิสัยใจคอด้วย โห เกิดมาคุ่กันชัดๆ แม้แต่นิสัยก็เป็นแบบที่ผมชอบเป๊ะๆ ช่วงนั้นจำได้ว่าโลกผมมันหวานแหววมากๆ แต่โลกอันหวานแหววของผมก็พังทลายลงในอีกไม่นาน

เพราะเค้ามีแฟนแล้วครับ และมีแฟนเป็นผู้หญฺิงด้วย คือเค้าเป็นเลสเบี้ยน ตอนรู้ครั้งแรกจากปากของเค้าเอง เพราะแฟนเค้าให้มาบอกผมเพราะแฟนเค้ารู้ว่าผมชอบเค้า ผมนี่อึ้งไปเลย หลังจากวันนั้น ผมก็ไม่ได้คุยกับเค้าเลยครับ แม้ในคาบคอมเค้าจะทักมาบ้าง แต่ผมก็ไม่ตอบ ได้แต่แอบมองเหมือนเดิม  แต่ถ้าเราสบตากัน ผมเลือกที่จะหันหน้าหนีแล้ว

และเมื่อผมแอบมองเค้าบ่อยๆ ทักมาไม่คุยด้วย ยิ้มมาหันหน้าหนี กลายเป็นว่าเค้ารู้สึกไม่ปลอดภัยครับ เค้าคิดว่าผมเป็นพวกโรคจิต คราวนี้เค้าเลือกที่จะตีตัวออกห่างผมอย่างเห็นได้ชัดเลยครับ ชนิดที่ว่าถูกสุ่มให้ทำงานกลุ่มเดียวกัน เค้าขอแลกกลุ่มกับเพื่อนเลย ผมโคตรดาร์กเลยช่วงนั้น จิตตกมาก แต่พยายามหาอะไรทำให้ไม่คิดมาก อ่านหนังสือ เล่นกีฬา ทำอะไรสารพัด แต่ทุกครั้งที่ว่างก็คิดถึงรอยยิ้มของเค้า คิดถึงช่วงเวลาที่เราได้คุยกัน

เมื่อจบม.4 เปิดเทอมม.5 เช้าวันแรกที่มาเรียนผมก็มองหาเค้า แต่กลับไม่เจอในแถวเคารพธงชาติ ผมสงสัยเลยลองไปถามเพื่อนในกลุ่มเค้าดู เลยรุ้ว่าเค้าย้ายห้องไปแล้ว เพื่อเค้ายังบอกว่าไม่ต้องคิดมากนะ เค้าไม่ได้ย้ายห้องไปเพราะกลัวผม แต่ย้ายไปเพราะเรียนไม่ไหว(ห้องผมเป็นห้องพิเศษวิทย์-คณิต เรียนหนักมาก เค้าเรียนไม่ไหวขอย้ายห้องไปวิทย์คณิตปกติ) ผมเลยได้แต่แอบมองเธอในมุมที่ไกลกว่าเดิม มีบางทีที่เราบังเอิญสบตากัน แต่เค้าตะทำหน้าแบบขยะแขยงผมมาก ผมน้ำตาแทบเล็ด ได้แต่โหมกิจกรรมให้มันหนักกว่าเดิมจะได้ไม่ต้องคิด เวลาผ่านไป กิจกรรมที่ผมโหมหนักนั้นมันส่งผลดีกับผมครับ ผมน้ำหนักลดลง ดูดีขึ้นมาหน่อย แถมจัดค่ายให้น้องๆ บวกกับที่ผมตอนนั้นเริ่มหายขี้อาย กลายเป็นคนตลกๆไม่ถือตัว ก็มีน้องม.ต้นมาตามกรี๊ดกร๊าดอยุ่จำนวณหนึ่งแหละ ผมรุ้สึกดีนะ ยิ่งคนที่ไม่เคยมีใครมาชอบเลยอย่างผมนี่รู้สึกดีมากๆ แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่า ถ้า1ในคนที่มาตามกรี๊ด เป็นเค้าก็คงดีน่ะสิ

ตอนนั้นมีน้องมาขอคบผมครับ ผมเลยเออ ลองๆคุยๆไปไม่เสียหาย ตอนนั้นคิดอย่างเดียวเลยว่า คบไปเผื่อจะลืมเค้าได้ แต่ไม่ได้ผลครับ ผมกับน้องคบกันได้ไม่ถึงเดือนผมก็เป็นฝ่ายบีบให้น้องเค้าบอกเลิกผม เนื่องจากเคมีเข้ากันไม่ได้ และผมก็ลองคบๆกับใครอีกหลายคนครับ 5-6คนได้(ผู้ชายก็มี ลองค้นหาตัวเองดู แต่ค้นพบเลยว่าไม่ใช่) แต่ไม่ยืดซํกคน ผมบีบให้ทุกคนต้องเลิกกับผมหมด เพราะรู้เลยว่าคบต่อไปผมก็เปลี่ยนใจไม่ได้ ผมยังคิดไม่ตกว่าทำไมผมถึงได้หลงรักผู้หญิงคนหนึ่งได้มากขนาดนี้ ทั้งๆที่ช่วงเวลาแห่งความสุขของเราก็มีแค่นิดเดียวเท่านั้น

จบม.5 ขึ้นม.6 ตอนนั้นครอบครัวของผมซึ่งมีพ่อเป็นข้าราชการ ได้รับเลื่อนตำแหน่งและโยกย้ายไปทำงานยังจังหวัดบ้านเกิด ผมเลยได้อยู่หอเองคนเดียวเป็นครั้งแรก ผมแบบว่าตอนนั้นหลั่นล๊ากับอิสรภาพมาก เริ่มกินเหล้ากินเบียร์ตีรันฟันแทงก็ช่วงนี้ และผมก็ได้เพื่อนอยู่กลุ่มนอกโรงเรียนอีกกลุ่ม ซึ่งรู้จักกันโดยเพื่อนสนิทในวัยเด็กของผมคนหนึ่ง สมมุติว่าชื่อวิน วินพาผมไปรู้จักกับเพื่อใหม่ๆเยอะแยะ และ1ในนั้นที่วินได้แนะนำให้ผมรู้จัก ก็คือไอซ์ครับ(ผมขอสมมุติชื่อว่าเค้าชื่อไอซ์แล้วกันนะครับ)

วินกับไอซ์เรียนม.ต้นจากโรงเรียนเดียวกัน แรกๆที่ผมกับไอซ์ต้องมานั่งกินเหล้าโต๊ะเดียวกัน จำได้ว่าผมรู้สึกกระดากมาก คือไอซ์ไม่ได้สนใจผมครับ คุยเล่นกับเพื่อนคนอื่นๆ แต่ไม่เห็นหัวผมเลย ผมอึดอัดโคตร ผ่านเหตุการณ์แบบนี้ไปซัก4-5ครั้ง ผมทนไม่ไหว ตัดสินใจจับมือไอซ์และลากออกมาคุยกันให้รู้เรื่อง เพื่อนในวงเหล้างงกันเป็นแถว อ้อ การจับมือครั้งนี้เป็นการจับมือผู้หญิงที่ไม่ใช่ญาติครั้งแรกในชีวิตผมนะครับ พอดีเป็นผู้ชายรักนวลสงวนตัว = ="

"เธอรังเกียจเราขนาดนั้นเลยเหรอ?" ผมยิงคำถามตรงๆใส่หน้าเลยครับ ผมกะว่าใช้ความแรงเข้าว่า เหตุการณ์มันอาจจะไม่เลวร้าย แต่ผมพลาดครับ ผมลืมเองว่าไอซ์ก็โคตรแรงเหมือนกัน ไอซ์ตอบกลับมาว่า "เออ ใช่ พอใจยัง จะแอบเลิกมองกูได้รึยัง" ผมงี้อึ้งไปเลย ผมเลยตอบกลับไปแบบหงอยๆว่า"อืม เข้าใจแล้ว เธอกลับไปนั่งกับเพื่อนเหอะ ฝากบอกวินด้วยเรากลับละ" ถ้าเป็นในละครน้ำเน่า ไอซ์คงมาจับมือผมแล้วบอกว่า เราขอโทษนะ แต่เล่าครับ ไอซ์สบถออกมาว่า "จะไปตายที่ไหนก็ไป ไอ้โรคจิต" จอนนนนนนน ผมแมร่งแทบคลั่ง ออกนอกร้านเหล้าวิ่งขึ้นมอไซค์บิดตะบึงไปแบบไร้ทิศทางเลยครับ จำได้ว่าผมออกจากร้านประมาณ2ทุ่ม กว่าจะได้หยุดบิดรถก็เกือบ4ทุ่ม เพราะน้ำมันหมด เข็นมอไซค์เดินลับหอ ถึงหอเกือบตีหนึ่งได้

ผมกลับมาหอ เจอวินกับเพื่อนอีก2คนยืนรอผมอยู่หน้าหอ เพื่อนคนหนึ่งวิ่งมาต่อยหน้าผมทีหนึ่ง "มิงหายไปไหนมาวะฉัด" ผมโดนต่อยก็ล้มลง รถก็ล้มลงมาทับ ตอนนั้นเพื่อนแบบเหวอกันมากเพราะปกติแล้วหมัดแบบนี้ไม่โดนตัวผมแน่ๆ(1ในกีฬาที่ผมเล่นคือชกมวย) รีบมาประคองผมลุกขึ้น ผมเล่าเรื่องทุกอย่างตั้งแต่วันแรกที่ผมกับไอซ์เจอกันให้เพื่อนฟัง ตอนนั้นผมอยากร้องไห้มากแต่ร้องไม่ออก คืนนั้นผ่านไปอย่างยากลำบากครับ ผมนั่งเหม่อถึงเช้าไม่ได้นอนซักแอะ เช้าอีกวันไปเรียนนี่เหมือนซอมบี้ และเกือบ2สัปดาห์หลังจากวันนั้นผมก็ยังคงสภาพซอมบี้ไว้ได้อย่างดีเยี่ยม

เย็นวันศุกร์ ผมเดินลากสภาพซอมบี้ไปเข้าห้องน้ำที่หลังอาคารช๊อพ ซึ่งปกติแล้วจะไม่ค่อยมีคนมาเข้า แต่ผมก็ต้องตื่นจากสภาพซอมบี้มาชั่วขณะ เพราะผมเห็นไอซ์กำลังนั่งแอบอยู่ที่มุมอาคาร ร้องไห้ฟูมฟาย ผมเห็นก็เดาได้เจ็ดแปดส่วนแหละว่าเลิกกับแฟน เลยเดินเข้าไปยื่นผ้าเช็ดหน้าให้ ไอซ์แหงนมองหน้าผม แล้วกรีดร้อง "ไปให้พ้นๆ อย่ามายุ่งกับกู ไป๊!!" ถ้าเป็นปกติ ผมงี้คงอึ้งไปอีกรอบ แต่พอดีตอนนั้นผมเหมือนคนจิตหลุด ไม่ได้สนใจอะ อยากไล่ก็ไล่กรูไม่มีที่จะไปอยู่ละ เลยพูดจากใจไปเลยว่า"เธออยากอยู่คนเดียว เราก็ไม่ว่านะ เธอจะเกลียดเรา ก็สิทธิ์ของเธอ แต่เราขอร้อง เช็ดน้ำตาเธอก่อนนะ อย่างน้อยก็จนกว่าเราจะเดินไปพ้นหน้าเธอ เพราะเราเห็นเธอร้องไห้แล้วเราปวดใจ" ไม่ได้เก๊กหล่ออะไรนะครับ แต่พูดไปจากใจล้วนๆจริงๆ เค้าเงยหน้ามองผมอีกรอบ กระชากผ้าเช็ดหน้าไป แล้วไล่ผมอีกครั้ง ผมก็เดินจากไปแต่โดยดี

เช้าวันจันทร์ มีเพื่อนผู้หญิงในห้องเอาของมาให้ผม บอกว่ามีคนฝากมาให้ ของนั้นมีผ้าเช็ดหน้าหนึ่งผืน กับลูกอมฮาร์ตบีท1เม็ด ที่เขียนคำว่า"ขอบคุณนะ" ผมยิ้มแฉ่งเลยครับ ถือเป็นประโยคแรกในรอบปีกว่าที่ไอซ์พูดดีๆกับผม แค่ประโยคเดียวทำให้โลกของผมเบ่งบานอีกครั้ง แต่ก็ไม่มากเท่าเมื่อก่อนแล้วล่ะ เพราะหัวใจผมมันด้านชาลงไปเยอะ เย็นวันนั้นเพื่อนกลุ่มวินนัดผมไปกินเหล้าอีกครับ แน่นอนว่าผมเจอไอซ์ ทีนี้นายเพื่อนตัวแสบผมมันจัดให้ผมกับไอซ์นั่งติดกันครับ ทีแรกเราก็ต่างคนต่างไม่สนใจกันเหมือนเดิม แต่ผมรอครับ รอหาจังหวะที่เพื่อนเมากันหมดแล้ว พูดกับไอซ์ว่า "ไม่ต้องขอบคุณหรอก" ไอซ์ยิ้มครับ ผมก็ยิ้ม และเราก็ไม่ได้พูดอะไรกันอีก เสร็จแล้วเราก็แยกย้ายกันกลับบ้านกลับหอโดยเพื่อนวินตัวแสบมันบอกให้ผมไปส่งไอซ์ที่หอ และมันก็แกล้งทำให้รถคันอื่นเต็มให้หมด ผมเลยต้องพาไอซ์ซ้อนมอไซค์ไปส่งที่หอ ไอซ์บอกให้ผมส่งลงแค่ปากซอยครับ โดยให้เหตุผลว่า กลัวแฟนเห็นเดี๋ยวแฟนจะโกรธ ผมก็งงๆไม่ใช่ว่าเลิกกันไปแล้วหรอกเหรอวะ แต่ก็ไม่ได้ถามอะไร ทำตามแต่โดยดี

พอกลับมาถึงหอผม ผมเห็นไอซ์ออนmsnอยู่ ซึ่งปกติแล้วคุณเธอไม่ค่อยออนครับ เป็นพวกสวนกระแส ชาวบ้านเขาฮิตอะไรนางจะไม่เอา ไม่เล่น ไม่ทำ และในสเตตัสmsn ไอซ์ก็ขึ้นว่า "ขอบคุณนะ^^" ผมคิดอยู่นานว่าหมายถึงผมหรือเปล่า ก็ไม่อยากมโนไปเอง เลยตัดสินใจทักไปเลยว่า "เล่าเรื่องแฟนให้ฟังหน่อยสิ" ไอซ์ตอบกลับมาแค่ "ขอบคุณมากจริงๆนะ" แล้วหายไปเลย

ผมเลยสรุปเอาว่า ไอซ์คงไม่อยากให้ผมไปเจือกเรื่องของเขา เลยไม่รอละ ตี1ละนอนดีกว่า พรุ่งนี้เช้าต้องไปโรงเรียน ประมาณตี2 ผมยังนอนคิดเรื่องไอซ์อยู่ โทรศัพท์ก็เข้า เป็นเบอร์ที่ไม่คุ้นตา แต่พอรับแล้วฟังเสียงก็จำได้ เป็นไอซ์ครับ ไอซ์โทรมาเล่าเรื่องแฟนให้ผมฟัง ไอซ์บอกว่าตอนนั้นคุยไม่สะดวกแฟนอยู่(ไอซ์อยู่หอห้องเดียวกับแฟนครับ) ตอนนี้แฟนหลับแล้วเลยออกมาโทรหาที่ระเบียงหน้าห้อง ไอซ์เล่าเรื่องแฟนให้ผมฟัง ผมก็ทำหน้าที่ผู้ฟังที่ดี ฟังและจำเรื่องทั้งหมด สรุปที่ไอซ์ร้องไห้วันนั้น คือไอซ์สอบติดมช.ครับ ซึ่งอยู่ในจังหวัดบ้านเกิดไอซ์ แต่แฟนไอซ์อยากเรียนในกทม. เลยทะเลาะกันรุนแรงมากเนื่องจากไอซ์เป็นคนไม่ยอมคน ผลที่ได้คือบอกเลิกไปเพราะอารมณ์โกรธ แล้วมานั่งเสียใจเองทีหลัง ไอซ์บอกว่าตอนนั้นในมือกำมีดไว้จะเชือดข้อมือ ถ้าไม่ได้ผมเข้าไปวุ่นวายด้วยคงเชือดข้อมือไปแล้ว (นางเป็นคนอารมณ์ร้อนน่ะครับ)

อ้าว 9000กว่าตัวอักษรแล้วเหรอเนี่ย ไวจัง นี่ยังเล่าไม่ถึงไหนเลย ยังไงก็ขอเวลาพิมพ์ต่อแแป้บนึงนะครับ 555 จะมีคนเข้ามาอ่านไหมเนี่ย

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่