ชื่อตอน ขอแปลเองว่า "พิธีเปิดตัว"
ต่อเนื่องจากตอนที่แล้ว
ภายหลังเหตุการไฟไหม้ ก็อยู่ในช่วงเก็บกวาด พร้อมกับลูวิซที่กำลังบ่น
ซึ่งตนเชื่อว่าเป็นฝีมือพวกขุนนางที่ตนสั่งลงโทษไปแน่ ๆ
หนุ่มแว่นเลขาก็พานิเกะมาพบ
นิเกะก็ทำซึน บ่นใส่ว่าเดี๋ยวก็ไล่กลับ เดี๋ยวก็เรียกตัวมา จะเอาไงแน่ยะ!
ก่อนจะหันไปถามเรื่องฝนที่ตกลงมาว่าเป็นยังไงบ้าง?
คำตอบที่ได้ก็คือ
ก็งั้น ๆ แหละ ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ด้วย เสื้อผ้าเนื้อตัวก็เปียกหมด ที่สำคัญ ยังไงน้ำก็เป็นแค่น้ำอยู่ดี
แต่ว่า...
รุ้งที่โผล่มาตอนท้ายนั่น... ฉันชอบแฮะ...

ได้ยินอย่างนั้น นิเกะก็พลอยยิ้มไปด้วย

ลูวิซก็แซวกลับอีก อะไรกัน แค่ถูกชมนิดหน่อยก็เคลิ้มแล้ว อยากโชว์ฝนให้ดูมากขนาดนั้นเลยเหรอ
นิเกะก็เลยหัวเสียขึ้นมาอีก
งั้นไปให้พ้น ๆ ก็ได้!
แต่ลูวิซก็ "ใครว่าล่ะ"
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้First Kiss~~~~






ผมทำเสียงนี้แบบเป๊ะ ๆ
ยิ่งสนใจเธอมากกว่าเดิมเป็นเท่าตัวเลย
รุ่งเช้าวันถัดมา

นิเกะก็ลืมตาตื่นขึ้น
บ่นพึมพำว่ายังไงก็ยังไม่ชินกับที่นี่ซะที แสงดวงอาทิตย์จ้าไปหมด
เอ๊ะ? อะไรนิ่ม ๆ (หรือแข็ง ๆ)
zzz....ZZZZ........
เหวอกินสิครับ ไอ้ราชาเปี๊ยกมาแก้ผ้านอนอยู่ข้าง ๆ
นิเกะกรี๊ดลั่น จนลูวิซตื่น
โวยวายอะไรแต่เช้า หนวกหูชะมัด
ก...ก... แกมุดมานอนข้างฉันได้ยังไง แถมยังแก้ผ้าอีก!?
ลูวิซบอกว่าทั้งห้องทำงานแล้วก็ห้องของตัวเองโดนไฟไหม้ไปหมดแล้ว จะให้นอนที่ไหนล่ะ
อีกอย่าง คู่แต่งงานจะนอนด้วยกันมันก็เป็นเรื่องปกติไม่ใช่รึไง
ตอนนั้นเองลูวิซก็สังเกตเห็นอะไรบางอย่าง

คลานเข้าไปใกล้ ๆ ก่อนจะพูดด้วยสีหน้าซีเรียส
"นิเกะ นี่เธอ...."

"เหอ?"
หน้าอกหดลงไปนะ
--โป๊ก!!
ทำร้ายพระชารา โทษถึงประหารเลยนะเฟ้ย
ก็ปากพาจนเองนี่หว่า
เชฟก็เข้าใจสถานการณ์ดี เสนอคอร์สเมนูพิเศษสำหรับเพิ่มสัดส่วนให้เลย
"ไม่เอาย่ะ! อกฉันไม่ได้หด!!"
ระหว่างที่กำลังกินมื้อเช้า ลูวิซก็แจ้งเรื่องงานพิธีเปิดตัวที่กำลังจะจัดในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
มันก็คืองานที่จะป่าวประกาศอย่างเป็นทางการต่อเหล่าข้าหลวงทุกคนให้รู้จักกับนิเกะ ที่กำลังจะเป็นราชินี สตรีหมายเลขหนึ่งของอาณาจักรนี้
พอบอกว่า "ระหว่างงาน ก็ช่วยเรียกฝนให้แขกเหรื่อได้ดูด้วยล่ะ"
นิเกะก็ปฏิเสธทันที ไม่เอาย่ะ!
พอถูกปฏิเสธแบบไม่เสียเวลาคิดเลย ลูวิซเองก็มีเคืองเหมือนกัน (แต่เคืองแบบเด็ก ๆ นะ)
เหล่าผู้อัญเชิญฝนเองก็มีศักดิ์ศรีเหมือนกัน พิธีเรียกฝนถือเป็นพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์
ที่ผู้ปกครองอาณาจักรของเธอใช้เพื่อปวงชน ไม่ใช่จะเอามาแสดงโชว์ในงานพิธีบ้าบออะไรนั่น
ไม่ต้องมาทำเป็นยึดติดขนบธรรมเนียมนักเลยน่า ยัยเบ๊อะหัวโบราณ
อ้าว ๆ พูดงี้ก็สวยเด้
อนึ่งชีวิตคู่ ผัวเมีย มีทะเลาะกันบ้างก็เป็นธรรมดาอ่ะนะ = ='a

แต่นี่มันเด็ก ๆ ทั้งคู่เลยนี่หว่า
ตกค่ำ
มีการประชุมกันระหว่างที่ปรึกษาอาวุโสแล้วก็พระราชา เรื่องที่เหตุการไฟไหม้พอจะเดาตัวผู้บงการได้
แต่กลับไม่มีแผนจะลงโทษอะไรเพิ่มเติม ซึ่งลูวิซเป็นคนระบุเอง เพราะขืนหากทำอะไรรุนแรงเข้าไปอีก ก็มีแต่จะยิ่งเพิ่ม
กระแสต่อต้านมากขึ้นเท่านั้น ทีนี้จะเกิดอะไรขึ้นอีกก็ไม่รู้
ซึ่งจริง ๆ แล้วแนวคิดนนี้ นิเกะ เป็นคนเสนอกับลูวิซเอง
พอถามถึงทางนิเกะบ้าง
ก็บอกแค่ว่ากำลังอยู่ระหว่างฝึกอบรมสำหรับการเป็นสตรีหมายเลขหนึ่งอยู่
ทั้งการร่ำเรียนเขียนอ่าน แล้วก็มารยาทต่าง ๆ การพูดจาด้วย
ตัดมาทางนิเกะ ทิ้งตัวนอนด้วยความเหนื่อยหน่ายสุดขีด
เพราะทั้งวันก็เอาแต่เรียน ๆ ๆ ๆ ผู้หญิงแอ็คทีฟอย่างเธอก็ต้องเบื่อเป็นธรรมดา
เหลือบไปเห็นแจกันดอกไม้ซึ่งเป็นพืชจากดินแดนนี้
พอคิดถึงดินแดนนี้ ก็คิดถึงลูวิซขึ้นมา

ว่าพอจะมีอะไรที่สามารถสื่อใจถึงกันได้บ้างรึเปล่านะ?
เรื่องสำคัญ ขนาดที่จะยอมให้มีเราคนเดียวที่จะเข้าถึงได้น่ะ...
(บ่นโน่นบ่นนี้ ทะเลาะบ่อย ๆ จริง ๆ แล้วก็หลงรักไปแล้วเรียบร้อย)
พอผลอยหลับไป ก็มีใครบางคนเข้ามาในห้อง
แต่อย่าลืมสิ ว่านี่ไม่ใช่แค่ห้องของนิเกะ แต่เป็นห้องของว่าทีราชินีเชียวนะ คนที่จะผ่านเข้ามาได้ แถมทางประตูตรง ๆ มีไม่กี่คนหรอก
รุ่งเช้า ไม่เจอไอ้เด็กแสบนั่นมามุดโปง
ถามถึงได้รู้ว่าออกไปทำงานตั้งนานแล้ว
พวกเมดก็พากันบ่นอุบว่า พระราชาลูวิซ แม้จะเด็กแต่ทรงงานหนักมาก
ไหนจะประชุมกับพวกข้าราชการขุนนางฝ่ายต่าง ๆ ลงพื้นที่ไปโน่นไปนี่ ตกค่ำก็ลุยงานเอกสารอีก
นิเกะก็ออกมาบ่นกับเลขา ว่าสมกับเป็นราชา บ้างานเอาเรื่องเลยนะเนี่ย
เลขาแว่นก็พยักหน้าเห็นด้วย แต่ก็บอกเพิ่มเติมว่า ลูวิซเคยพูดไว้ "ยิ่งมีงานล้นมือเท่าไหร่ ก็ยิ่งช่วยให้ไม่ต้องคิดเรื่องไม่จำเป็นมากขึ้นเท่านั้น"
นิเกะรู้สึกติดใจกับ "เรื่องที่ไม่จำเป็น" ขึ้นมา
หรือว่าจะเป็นความจำเกี่ยวกับแม่ของตัวเองกันนะ?
ีระหว่างที่กำลังคุยกัน ก็มีกลุ่มคนมาทักจากด้านหลัง
พวกขุนนางนั่นเอง คงจะเสร็จจากประชุมกับลูวิซละมั้ง
พอรู้ว่าเป็นพวกขุนนางกับชนชั้นสูง นิเกะก็ออกอาการเก้ ๆ กัง ๆ นิดหน่อย
พอถึงจังหวะที่กำลังจะแนะนำตัวเองว่าเป็นภริยาของพระราชาเท่านั้นแหละ
"ของเล่นในห้องบรรทม" ของราชา ก็ถูกแทรกขึ้นมา
ตามด้วยสายตาดูหมิ่นดูแคลนของพวกขุนนาง

บอกอีกว่าเอาสาวบ้านนอกจากอาณาจักรหลังเขามาเป็นของเล่นโชว์ตัวในงาน คิดอะไรไม่เข้าท่าเลยจริง ๆ
เจอเข้าไปแบบนี้ นิเกะก็ของขึ้นน่ะสิ

แต่ตอนที่กำลังจะต่อว่าอะไรสวนไป
"ก็ยังดีกว่าไอ้พวกที่เอาแต่ประจบสอพลอไปวัน ๆ นั่นแหละ"
ลูวิซนั่นเอง
เตือนให้พวกขุนนาง เวลาจะพูดจาอะไรก็ให้มันระวังปากไว้บ้าง
"เพราะนั่นนะ... เมียฉันนะโว้ย..."
นิเกะได้ยิน ถึงกับแอบเขิลล์
พอพวกขุนนางไปแล้ว นิเกะก็ขอโทษแต่โดยดี
ที่เกือบจะสติขาดผึงเพราะถูกยั่วยุเล็ก ๆ น้อย ๆ
ก่อนจะทักลูวิซว่า ดูซูบซีดลงไปรึเปล่า?
(สองคนนี้เอาเข้าจริง ๆ ก็คอยสังเกตกันตลอดเลยนี่หว่า)
ลูวิซตอบว่าทำงานทั้งคืน ไม่ได้นอนเลย
เพื่อเป็นการชดใช้เหตุวุ่นว่ายเมื่อกี้ ก็เลย...
ค่อยยังชั่ว... เห็นบอกให้ชดใช้ นึกว่าจะสั่งอะไรทะลึ่ง ๆ ซะอีก
้ถ้าเกิดสั่งขึ้นมาแล้วจะทำมั้ยล่ะ?
ต... ตาบ้า!
ก็อยากทำอยู่หรอก แต่ตอนนี้ไม่มีอารมณ์ อยากพักมากกว่า
โอกาสเหมาะพอดี นิเกะ ก็เลยแนะนำออกไปว่า ถ้างั้นทำไมไม่ลด ๆ งานของตัวเองลงบ้างล่ะ
แบ่งให้ผู้ช่วยที่เหมาะสมทำบ้างก็ได้
แต่พอนิเกะไปแตะเรื่องงานเข้าเท่านั้นแหละ ลูวิซก็เสียงแข็งทันที
"เธอไม่มีสิทธิ์มาบอกให้ฉันทำหรือไม่ทำอะไร ไม่ใช่กงการ"
กระแสลมดราม่าพัดวูบอีกครั้ง
"ไม่มีจริง ๆ เหรอ" นิเกะพูดเสียงเศร้า ๆ

เรื่องที่เราสองคนพอจะสื่อใจถึงกันได้น่ะ
[spoil]Soredemo Sekai wa Utsukushii 3 (ฟิน~~~~)
ต่อเนื่องจากตอนที่แล้ว
ภายหลังเหตุการไฟไหม้ ก็อยู่ในช่วงเก็บกวาด พร้อมกับลูวิซที่กำลังบ่น
ซึ่งตนเชื่อว่าเป็นฝีมือพวกขุนนางที่ตนสั่งลงโทษไปแน่ ๆ
หนุ่มแว่นเลขาก็พานิเกะมาพบ
นิเกะก็ทำซึน บ่นใส่ว่าเดี๋ยวก็ไล่กลับ เดี๋ยวก็เรียกตัวมา จะเอาไงแน่ยะ!
ก่อนจะหันไปถามเรื่องฝนที่ตกลงมาว่าเป็นยังไงบ้าง?
คำตอบที่ได้ก็คือ
ก็งั้น ๆ แหละ ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ด้วย เสื้อผ้าเนื้อตัวก็เปียกหมด ที่สำคัญ ยังไงน้ำก็เป็นแค่น้ำอยู่ดี
แต่ว่า...
รุ้งที่โผล่มาตอนท้ายนั่น... ฉันชอบแฮะ...
ได้ยินอย่างนั้น นิเกะก็พลอยยิ้มไปด้วย
ลูวิซก็แซวกลับอีก อะไรกัน แค่ถูกชมนิดหน่อยก็เคลิ้มแล้ว อยากโชว์ฝนให้ดูมากขนาดนั้นเลยเหรอ
นิเกะก็เลยหัวเสียขึ้นมาอีก
งั้นไปให้พ้น ๆ ก็ได้!
แต่ลูวิซก็ "ใครว่าล่ะ"
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ยิ่งสนใจเธอมากกว่าเดิมเป็นเท่าตัวเลย
รุ่งเช้าวันถัดมา
นิเกะก็ลืมตาตื่นขึ้น
บ่นพึมพำว่ายังไงก็ยังไม่ชินกับที่นี่ซะที แสงดวงอาทิตย์จ้าไปหมด
เอ๊ะ? อะไรนิ่ม ๆ (หรือแข็ง ๆ)
zzz....ZZZZ........
เหวอกินสิครับ ไอ้ราชาเปี๊ยกมาแก้ผ้านอนอยู่ข้าง ๆ
นิเกะกรี๊ดลั่น จนลูวิซตื่น
โวยวายอะไรแต่เช้า หนวกหูชะมัด
ก...ก... แกมุดมานอนข้างฉันได้ยังไง แถมยังแก้ผ้าอีก!?
ลูวิซบอกว่าทั้งห้องทำงานแล้วก็ห้องของตัวเองโดนไฟไหม้ไปหมดแล้ว จะให้นอนที่ไหนล่ะ
อีกอย่าง คู่แต่งงานจะนอนด้วยกันมันก็เป็นเรื่องปกติไม่ใช่รึไง
ตอนนั้นเองลูวิซก็สังเกตเห็นอะไรบางอย่าง
คลานเข้าไปใกล้ ๆ ก่อนจะพูดด้วยสีหน้าซีเรียส
"นิเกะ นี่เธอ...."
"เหอ?"
หน้าอกหดลงไปนะ
--โป๊ก!!
ทำร้ายพระชารา โทษถึงประหารเลยนะเฟ้ย
ก็ปากพาจนเองนี่หว่า
เชฟก็เข้าใจสถานการณ์ดี เสนอคอร์สเมนูพิเศษสำหรับเพิ่มสัดส่วนให้เลย
"ไม่เอาย่ะ! อกฉันไม่ได้หด!!"
ระหว่างที่กำลังกินมื้อเช้า ลูวิซก็แจ้งเรื่องงานพิธีเปิดตัวที่กำลังจะจัดในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
มันก็คืองานที่จะป่าวประกาศอย่างเป็นทางการต่อเหล่าข้าหลวงทุกคนให้รู้จักกับนิเกะ ที่กำลังจะเป็นราชินี สตรีหมายเลขหนึ่งของอาณาจักรนี้
พอบอกว่า "ระหว่างงาน ก็ช่วยเรียกฝนให้แขกเหรื่อได้ดูด้วยล่ะ"
นิเกะก็ปฏิเสธทันที ไม่เอาย่ะ!
พอถูกปฏิเสธแบบไม่เสียเวลาคิดเลย ลูวิซเองก็มีเคืองเหมือนกัน (แต่เคืองแบบเด็ก ๆ นะ)
เหล่าผู้อัญเชิญฝนเองก็มีศักดิ์ศรีเหมือนกัน พิธีเรียกฝนถือเป็นพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์
ที่ผู้ปกครองอาณาจักรของเธอใช้เพื่อปวงชน ไม่ใช่จะเอามาแสดงโชว์ในงานพิธีบ้าบออะไรนั่น
ไม่ต้องมาทำเป็นยึดติดขนบธรรมเนียมนักเลยน่า ยัยเบ๊อะหัวโบราณ
อ้าว ๆ พูดงี้ก็สวยเด้
อนึ่งชีวิตคู่ ผัวเมีย มีทะเลาะกันบ้างก็เป็นธรรมดาอ่ะนะ = ='a
แต่นี่มันเด็ก ๆ ทั้งคู่เลยนี่หว่า
ตกค่ำ
มีการประชุมกันระหว่างที่ปรึกษาอาวุโสแล้วก็พระราชา เรื่องที่เหตุการไฟไหม้พอจะเดาตัวผู้บงการได้
แต่กลับไม่มีแผนจะลงโทษอะไรเพิ่มเติม ซึ่งลูวิซเป็นคนระบุเอง เพราะขืนหากทำอะไรรุนแรงเข้าไปอีก ก็มีแต่จะยิ่งเพิ่ม
กระแสต่อต้านมากขึ้นเท่านั้น ทีนี้จะเกิดอะไรขึ้นอีกก็ไม่รู้
ซึ่งจริง ๆ แล้วแนวคิดนนี้ นิเกะ เป็นคนเสนอกับลูวิซเอง
พอถามถึงทางนิเกะบ้าง
ก็บอกแค่ว่ากำลังอยู่ระหว่างฝึกอบรมสำหรับการเป็นสตรีหมายเลขหนึ่งอยู่
ทั้งการร่ำเรียนเขียนอ่าน แล้วก็มารยาทต่าง ๆ การพูดจาด้วย
ตัดมาทางนิเกะ ทิ้งตัวนอนด้วยความเหนื่อยหน่ายสุดขีด
เพราะทั้งวันก็เอาแต่เรียน ๆ ๆ ๆ ผู้หญิงแอ็คทีฟอย่างเธอก็ต้องเบื่อเป็นธรรมดา
เหลือบไปเห็นแจกันดอกไม้ซึ่งเป็นพืชจากดินแดนนี้
พอคิดถึงดินแดนนี้ ก็คิดถึงลูวิซขึ้นมา
ว่าพอจะมีอะไรที่สามารถสื่อใจถึงกันได้บ้างรึเปล่านะ?
เรื่องสำคัญ ขนาดที่จะยอมให้มีเราคนเดียวที่จะเข้าถึงได้น่ะ...
(บ่นโน่นบ่นนี้ ทะเลาะบ่อย ๆ จริง ๆ แล้วก็หลงรักไปแล้วเรียบร้อย)
พอผลอยหลับไป ก็มีใครบางคนเข้ามาในห้อง
แต่อย่าลืมสิ ว่านี่ไม่ใช่แค่ห้องของนิเกะ แต่เป็นห้องของว่าทีราชินีเชียวนะ คนที่จะผ่านเข้ามาได้ แถมทางประตูตรง ๆ มีไม่กี่คนหรอก
รุ่งเช้า ไม่เจอไอ้เด็กแสบนั่นมามุดโปง
ถามถึงได้รู้ว่าออกไปทำงานตั้งนานแล้ว
พวกเมดก็พากันบ่นอุบว่า พระราชาลูวิซ แม้จะเด็กแต่ทรงงานหนักมาก
ไหนจะประชุมกับพวกข้าราชการขุนนางฝ่ายต่าง ๆ ลงพื้นที่ไปโน่นไปนี่ ตกค่ำก็ลุยงานเอกสารอีก
นิเกะก็ออกมาบ่นกับเลขา ว่าสมกับเป็นราชา บ้างานเอาเรื่องเลยนะเนี่ย
เลขาแว่นก็พยักหน้าเห็นด้วย แต่ก็บอกเพิ่มเติมว่า ลูวิซเคยพูดไว้ "ยิ่งมีงานล้นมือเท่าไหร่ ก็ยิ่งช่วยให้ไม่ต้องคิดเรื่องไม่จำเป็นมากขึ้นเท่านั้น"
นิเกะรู้สึกติดใจกับ "เรื่องที่ไม่จำเป็น" ขึ้นมา
หรือว่าจะเป็นความจำเกี่ยวกับแม่ของตัวเองกันนะ?
ีระหว่างที่กำลังคุยกัน ก็มีกลุ่มคนมาทักจากด้านหลัง
พวกขุนนางนั่นเอง คงจะเสร็จจากประชุมกับลูวิซละมั้ง
พอรู้ว่าเป็นพวกขุนนางกับชนชั้นสูง นิเกะก็ออกอาการเก้ ๆ กัง ๆ นิดหน่อย
พอถึงจังหวะที่กำลังจะแนะนำตัวเองว่าเป็นภริยาของพระราชาเท่านั้นแหละ
"ของเล่นในห้องบรรทม" ของราชา ก็ถูกแทรกขึ้นมา
ตามด้วยสายตาดูหมิ่นดูแคลนของพวกขุนนาง
บอกอีกว่าเอาสาวบ้านนอกจากอาณาจักรหลังเขามาเป็นของเล่นโชว์ตัวในงาน คิดอะไรไม่เข้าท่าเลยจริง ๆ
เจอเข้าไปแบบนี้ นิเกะก็ของขึ้นน่ะสิ
แต่ตอนที่กำลังจะต่อว่าอะไรสวนไป
"ก็ยังดีกว่าไอ้พวกที่เอาแต่ประจบสอพลอไปวัน ๆ นั่นแหละ"
ลูวิซนั่นเอง
เตือนให้พวกขุนนาง เวลาจะพูดจาอะไรก็ให้มันระวังปากไว้บ้าง
"เพราะนั่นนะ... เมียฉันนะโว้ย..."
นิเกะได้ยิน ถึงกับแอบเขิลล์
พอพวกขุนนางไปแล้ว นิเกะก็ขอโทษแต่โดยดี
ที่เกือบจะสติขาดผึงเพราะถูกยั่วยุเล็ก ๆ น้อย ๆ
ก่อนจะทักลูวิซว่า ดูซูบซีดลงไปรึเปล่า?
(สองคนนี้เอาเข้าจริง ๆ ก็คอยสังเกตกันตลอดเลยนี่หว่า)
ลูวิซตอบว่าทำงานทั้งคืน ไม่ได้นอนเลย
เพื่อเป็นการชดใช้เหตุวุ่นว่ายเมื่อกี้ ก็เลย...
ค่อยยังชั่ว... เห็นบอกให้ชดใช้ นึกว่าจะสั่งอะไรทะลึ่ง ๆ ซะอีก
้ถ้าเกิดสั่งขึ้นมาแล้วจะทำมั้ยล่ะ?
ต... ตาบ้า!
ก็อยากทำอยู่หรอก แต่ตอนนี้ไม่มีอารมณ์ อยากพักมากกว่า
โอกาสเหมาะพอดี นิเกะ ก็เลยแนะนำออกไปว่า ถ้างั้นทำไมไม่ลด ๆ งานของตัวเองลงบ้างล่ะ
แบ่งให้ผู้ช่วยที่เหมาะสมทำบ้างก็ได้
แต่พอนิเกะไปแตะเรื่องงานเข้าเท่านั้นแหละ ลูวิซก็เสียงแข็งทันที
"เธอไม่มีสิทธิ์มาบอกให้ฉันทำหรือไม่ทำอะไร ไม่ใช่กงการ"
กระแสลมดราม่าพัดวูบอีกครั้ง
"ไม่มีจริง ๆ เหรอ" นิเกะพูดเสียงเศร้า ๆ
เรื่องที่เราสองคนพอจะสื่อใจถึงกันได้น่ะ