....ชำแหละ ลิขิต ธีรเวคิน ราชบัณฑิตที่คิดจะบิดเบือน ฯ จากรายการคม ชัด ลึก เรารู้ทัน (2).... (คุณ sao..เหลือ..noi)


... ลิขิต ธีรเวคิน ราชบัณฑิตที่คิดจะบิดเบือน เพื่อบังฟ้าข้ามสมุทร เรารู้ทัน (1)....
http://pantip.com/topic/31919312

ผู้ที่เป็นถึง "ราชบัณฑิต" ได้ชื่อว่าเป็นปราชญ์ของแผ่นดิน
ความคิด ความอ่าน ตรรกะเหตุผล ต้องเป็นหลักให้บ้านเมือง ยามวิกฤต
แต่เมื่อได้เคยลิ้มรสความหอมหวลอันเน่าเหม็นของอำนาจทางการเมือง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ยอมทอดกายรับใช้นักการเมือง ความรู้ ตรรกะ ความมีเหตุ ความมีผล
การลำดับความสำคัญของปัญหาเพื่อแสวงหาทางออกที่ดีที่สุด
ก็พลันวิปลาศ เสื่อมมลายไปสิ้น กลายเป็นไม้หลักปักขี้เลน โอนไปเอนมาสับเปลี่ยนสับปลับ กลับไปกลับมา...

รู้ซึ้งถึงปัญหาการเลือกตั้งประเทศไทยอย่างถ่องแท้ แต่ก็ยังเร่งขับ เร่งดัน เร่งรีบ
ให้ชาติบ้านเมืองเข้าสู่วังวนปัญหาเดิม โดยมิได้คำนึงถึงหลักการที่ตัวเองเคยพร่ำบ่นไว้


คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
เราจะมาชี้แจงแถลงไขให้ทราบว่า "ราชบัณฑิต" ที่คิดจะบิดเบือนเพื่อ "บังฟ้าข้ามสมุทร"
ใช้องค์ความรู้ที่มีลวงล่อหลอกพวกท่านอย่างไร...

1) นาทีที่ 5.20
         มนุษย์เป็นสัตว์สังคมต้องอยู่เป็นกลุ่ม มีความขัดแย้ง สู้กัน ผู้ฉลาดเลยใช้อำนาจที่มีจัดระเบียบสังคมแล้วบอกว่าต่อไปนี้ข้าพเจ้าจะจัดการทุกอย่าง ออกกฎเกณฑ์ มีผู้ช่วยเหลือ จัดสรรทรัพยากร ทุกคนยอมรับ นี่คือการเกิด “รัฐ” ,  สังคมก่อน แล้วเกิดรัฐ รัฐเป็นนามธรรม แล้วคนคนนี้และพรรคพวกเป็นผู้ใช้อำนาจรัฐ จึงเรียกว่า “รัฐบาล” เขามีอำนาจสูงสุดอย่างนั้นเขาคือ “รัฏฐาธิปัตย์”
(ฮานิดๆ กับความเห็นนี้ของคุณลิขิต)

“รัฐ” ประกอบด้วยลักษณะสำคัญ 4 ประการ
    1. ประชากร รัฐทุกรัฐจะต้องมีประชากรจำนวนหนึ่งซึ่งเป็นกลุ่มคนที่มีจุดมุ่งหมายและมีประโยชน์ร่วมกัน จำนวนประชากรของแต่ละรัฐอาจมีมากน้อยแตกต่างกันไป ที่สำคัญคือ จะต้องมีประชากรดำรงชีพอยู่ภายในขอบเขตของรัฐนั้น
    2. ดินแดน รัฐต้องมีดินแดนอันแน่นอนของรัฐนั้น กล่าวคือ มีเส้นเขตแดนเป็นที่ยอมรับของนานาประเทศทั้งโดยข้อเท็จจริงและโดยสนธิสัญญา ทั้งนี้รวมถึงพื้นดิน พื้นน้ำและพื้นอากาศ
    3. อำนาจอธิปไตย อำนาจอธิปไตย คือ อำนาจรัฐ หมายถึง อำนาจสูงสุดในการปกครองประเทศ ทำให้รัฐสามารถดำเนินการทั้งในส่วนที่เกี่ยวกับการปกครองภายในและภายนอก
    4. รัฐบาล คือ องค์กรหรือหน่วยงานที่ดำเนินงานของรัฐในการปกครองประเทศ รัฐบาลเป็นผู้ทำหน้าที่สาธารณะสนองเจตนารมย์ของสาธารณชนในรัฐ เพื่อรักษาผลประโยชน์ของประชาชนและป้องกันการรุกรานจากรัฐอื่น รัฐบาลเป็นองค์กรทางการเมืองที่ขาดไม่ได้ของรัฐ

รัฏฐาธิปัตย์ ( Sovereign ) หมายถึง อำนาจเบ็ดเสร็จ เด็ดขาด ทั้งหมดทั้งสิ้น ในรัฐ หรือประเทศนั้น ๆ ที่ใช้ในการปกครองรัฐ - ชาติ หรือประเทศ  ดังนั้น คำว่า รัฏฐาธิปัตย์ จึงมีความหมายสื่อไปในแง่ของอำนาจโดยตรง ไม่ได้หมายถึงผู้ใช้อำนาจ ส่วนผู้ใช้อำนาจ รัฏฐาธิปัตย์นั้นเรียกว่า องค์อธิปัตย์

องค์อธิปัตย์ หมายถึง บุคคล คณะบุคคล ที่ได้ยึดอำนาจ รัฏฐาธิปัตย์ ซึ่งเป็นอำนาจเบ็ดเสร็จนั้นไว้ในมือสมบูรณ์เบ็ดเสร็จแล้ว และประกาศตนเป็นผู้ใช้อำนาจนั้น หรือตั้งตนเป็นองค์อธิปัตย์ เพื่อใช้อำนาจ
รัฏฐาธิปัตย์ ในรัฐนั้นๆแต่เพียงผู้เดียว

สรุปคือ รัฏฐาธิปัตย์ หมายถึงอำนาจสูงสุดทั้งหมดที่มีอยู่ในรัฐโดยธรรมชาติตามสภาพ ประกอบด้วยอำนาจบริหาร ตุลาการ นิติบัญญัติ ซึ่งแต่เดิมถูกใช้หรือรวมศูนย์อำนาจไว้ที่คนเพียงผู้เดียว
ต่อมามีการศึกษาโครงสร้างอำนาจนี้โดย “มองเตสซิเออ และได้แยกให้ชัดเจนจนรัฐ-ชาติสมัยใหม่มีการแบ่งแยกอำนาจนี้ออกจากกันและให้องค์กรต่างๆทางสังคม เข้ามาใช้อำนาจนั้นแยกขาดจากกัน หรือถ่วงดุลกัน (กังวาน ทองเนตร)

รัฏฐาธิปัตย์ คือผู้เป็นใหญ่ในแผ่นดิน ส่วนจะเป็นใครก็สุดแท้แต่ว่าเป็นผู้เป็นใหญ่ในแผ่นดินหรือบ้านเมืองใด มีระบอบการปกครองอย่างไร และยึดถือทฤษฎีใดเป็นหลัก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

สรุปว่า ไม่มีทฤษฎีใดเลยที่จะบอกว่า "รัฐบาล" มีอำนาจรัฏฐาธิปัตย์ รัฐบาลก็เป็นแค่ส่วนหนึ่งของอำนาจรัฎฐาธิปัตย์ที่ใช้อำนาจบริหาร คุณลิขิตจงใจใช้คำว่ารัฐบาล แทนที่จะใช้คำว่าผู้ปกครอง หรือคำอื่นลักษณะนี้ที่  คุณลิขิต พูดโยงจาก “รัฐ” แล้วไป”รัฐบาล” แล้วสรุปว่า “รัฐบาล คือ "รัฐฐาธิปัตย์” ก็เพื่อต้องการให้ผู้สนับสนุนรัฐบาลยิ่งลักษณ์ หรือเสื้อแดงทั้งหลาย หรือผู้ไม่มีความรู้สับสนและปูทางที่จะสร้างความชอบธรรมให้รัฐบาล หรือ อาจเกิดจากการพูดแบบปากพาไป แต่ระดับราชบัณฑิต คิดว่าคงเป็นไปได้ยาก... เว้นเกิดจากความตั้งใจที่จะบิดเบือน



~ ศรอรชุน ~

(มีต่อ)
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
2) นาที 20.30
แม้การโยกย้ายข้าราชการ ต่อไปไม่ต้องมีการบริหารประเทศแล้ว บริหาร โยกย้ายอะไรไม่ได้เลยเพราะมีความผิด   สภาผู้แทนราษฎรทำอะไรไม่ได้เลย ออกกฎหมายมาอาจจะถูกปลดออกหมด ใครปกครองประเทศ นิติบัญญัติ บริหาร ตุลาการ แยกกันสามอย่าง อยู่ๆตุลาการตัดสินได้ทุกอย่าง กลายเป็นซูปราออแกไนเซชั่น สูงสุดยิ่งกว่ารัฏฐาธิปัตย์อีก...
(สังเวชมาก กับความเห็นอันนี้ของคุณลิขิต)

ประเทศไทยมีอำนาจอธิปไตยเป็นอำนาจสูงสุด อำนาจของรัฏฐาธิปัตย์ ก็คือการมีอำนาจอธิปไตย อำนาจอธิปไตย แบ่งเป็นสามส่วน นิติบัญญัติ บริหาร และตุลาการ ได้บรรจุไว้ในรัฐธรรมนูญ ซึ่งก็คือกฎหมายสูงสุดในการปกครองประเทศ  ใครจะละเมิดไม่ได้ หรือจะออกกฎหมายให้ขัดแย้งไม่ได้

กระบวนการควบคุมการปฏิบัติให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ หรือควบคุมกฎหมายไม่ให้แย้งกับรัฐธรรมนูญ สำหรับประเทศไทยมีพัฒนาการมาเป็นลำดับ แนวคิดในการควบคุมกฎหมายมิให้ขัดรัฐธรรมนูญในประเทศไทย ได้เริ่มก่อตัวขึ้น นับแต่ที่มีการประกาศใช้ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2475 ซึ่งได้รับรองความเป็นกฎหมายสูงสุดของรัฐธรรมนูญลายลักษณ์อักษรไว้เป็นครั้งแรก และนับแต่นั้นเป็นต้นมา ระบบการควบคุมกฎหมายมิให้ขัดรัฐธรรมนูญ ก็ได้มีวิวัฒนาการมาอย่างต่อเนื่อง โดยอาจแบ่งระบบควบคุมกฎหมายมิให้ขัดรัฐธรรมนูญในประเทศไทยตามลักษณะขององค์กรที่มีอำนาจหน้าที่ดังกล่าวในแต่ละช่วงเวลาได้เป็น 4 ระยะ ดังนี้
(1) ช่วงระยะเวลาที่รัฐสภามีอำนาจสูงสุดในการตีความรัฐธรรมนูญ (พ.ศ. 2475 – 2489)
(2) ช่วงระยะเวลาที่การควบคุมกฎหมายมิให้ขัดรัฐธรรมนูญเป็นอำนาจของศาลยุติธรรม (พ.ศ. 2489)
(3) ช่วงระยะเวลาที่การควบคุมกฎหมายมิให้ขัดรัฐธรรมนูญเป็นอำนาจของคณะตุลาการรัฐธรรมนูญ (พ.ศ. 2489-2539)
(4) ช่วงระยะเวลาที่มีการประกาศใช้ธรรมนูญการปกครองแห่งราชอาณาจักร ซึ่งอำนาจในการควบคุมกฎหมายมิให้ขัดรัฐธรรมนูญ กลับไปยังศาลยุติธรรม

และพัฒนาไปสู่การควบคุมกฎหมายมิให้ขัดรัฐธรรมนูญ โดยศาลรัฐธรรมนูญตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2540 และ พ.ศ.2550 ในปัจจุบัน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

การโยกย้ายเลขา สมช. ของนายกอภิสิทธิ์ และ นายกยิ่งลักษณ์ มีความแตกต่างกัน ประการสำคัญคือ นายกอภิสิทธิ์ย้ายเลขา สมช. เมื่อปฏิบัติหน้าที่นายกผ่านไปแล้วเกือบปีและไม่มีข้อครหาเกี่ยวกับการเอื้อประโยชน์ให้กับพวกพ้อง  แต่นายกยิ่งลักษณ์ย้ายนายถวิลในขณะที่รับตำแหน่งนายกได้ไม่นานแทบยังไม่ได้ร่วมงานกับนายถวิลเลย และเป็นที่ชัดเจนต่อสังคมว่าเป็นการเอื้อประโยชน์ให้ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ เข้ามารับตำแหน่ง ผบ.ตร. แทนท่านเดิม ที่ย้ายมาเป็น เลขา สมช.

คำวินิจฉัยของศาลปกครองสูงสุดครับ...
http://isranews.org/isranews-scoop/item/28337-yinkluck.html

“ศาลปกครองสูงสุดวินิจฉัยแล้วว่าไม่ใช่การแต่งตั้ง โยกย้าย ที่เป็นไปตามการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาและเป็นการกระทำ โดยไม่ชอบ เป็นไปเพื่อให้ ผู้อื่นมาดำรง ตำแหน่ง ผบ.ตร คือแม้ศาลไม่ได้เอ่ยชื่อ แต่เป็นอันรู้กันว่าเพื่อให้ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์มานั่ง ผบ.ตร. เพราะฉะนั้น กรณีนี้ ถ้าคุณยิ่งลักษณ์ ย้าย คุณถวิล โดยไม่ใช่คุณเพรียวพันธ์มานั่งเป็น ผบ.ตร. จะไม่เข้าข่าย ไม่ผิดตามมาตรา 266 เลย แต่นี่ เห็นได้ชัดว่าเป็นการแต่งตั้ง โยกย้าย เพื่อประโยชน์ตนเอง คือเพื่อให้เครือญาติตนเข้ามา”

คุณลิขิต โปรดฟังและจำไปด้วยว่า อำนาจตุลาการไม่ได้มีอำนาจเหนือกว่าบริหารและนิติบัญญัติ เพียงแต่คอยควบคุมไม่ให้อำนาจบริหารและนิติบัญญัติ กระทำการหรือออกกฎหมายซึ่งขัดแย้งกับรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุดเท่านั้น

ก็ถ้ารัฐบาลยิ่งลักษณ์ไม่ทำผิดกฎหมาย ไม่ย้ายข้าราชการระดับสูงเพื่อให้เกิดประโยชน์แก่เครือญาติตัวเอง  ไม่บังอาจออกกฎหมายที่ขัดกับรัฐธรรมนูญ อย่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม หรือ พ.ร.บ.กู้สองล้าน ศาลรัฐธรรมนูญจะไปทำอะไรได้เล่า จะไปก้าวล่วงอำนาจบริหารและนิติบัญญัติได้อย่างไร เรารู้ว่าคุณลิขิตก็รู้ แต่แกล้งตั้งใจ “บิดเบือน” เราจึงรู้สึกสังเวชกับความเห็นนี้ของคุณลิขิต ราชบัณฑิต ปราชญ์ของแผ่นดินเป็นอย่างยิ่ง

~ ศรอรชุน ~
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่