ก็มีบ้างนะคะที่จะมีคนเชิญให้ไปกินฟรีแลกกับการรีวิวอาหาร+เกมส์จับคำผิด และนี่ก็เป็นอีกครั้งหนึ่ง
แล้วก็อย่างว่านะคะ เวลาคนเชิญไปกิน บริการหรือบรรยากาศด้านอื่นๆก็จะเขียนไม่ได้ เพราะมันจะไม่ปกติ
ก็ขอเป็นภาพอาหารและบรรยายอาหารอย่างพอสังเขปแบบคนชอบกินที่ไม่ได้มีความเชี่ยวชาญพิเศษด้านอาหารจีนก็แล้วกันค่ะ
เบนก็เพิ่งรู้ว่า แชงกรีล่า อยู่ใกล้รถไฟฟ้ามากตอนขับรถผ่านนี่แหละค่ะ เพราะว่าไม่ได้ไปมานานมากแล้ว ตัวห้องอาหารชื่อ Shang Palace ซึ่งเป็นห้องอาหารจีน เพิ่งตกแต่งใหม่เสร็จเมือสามเดือนที่แล้ว แต่เค้าว่าเชฟยังเป็นคนเดิมอยู่ คือ เชฟศักรินทร์ คันสร
แถมวันนี้ได้มาเจอ Blogger อีกท่าน คือ
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=eatleklek ช่างน่ารักเป็นกันเองสะนี่กะไร
แอบดีใจว่ารู้จักเบนอีกต่างหาก
ร้านเค้าเปิดตั้งแต่ 11:30 วันที่เบนไปมีแต่คนอยู่ในห้อง VIP ปิดม่านปิดม่านกันใหญ่ ข้างนอกก็มีคนนั่งกินอีกนิดหน่อย แต่บรรยากาศดีไม่แออัดดีค่ะ
ที่เค้าเชิญให้มาลองวันนี้เป็นเมนูเฉพาะของเดือนมีนาคม
มาว่ากันที่ตัวแรก เป็น เสี่ยวหลงเปาตับห่าน ราคา 120 บาท บางลูกมีน้ำบางลูกไม่มีน้ำ ส่วนตัวตับห่านนั้นได้กลิ่นชัดเจน แต่รสชาตินั้นค่อยข้างน้อย ด้วยราคาที่พอรับได้ก็ถือว่าโอเคสำหรับเมนูนี้
เมนูนี้แปลกมากไม่เคยเห็นในร้านจีนที่อื่น คือ ขนมจีบผักโขม (ราคา 100 บาท) แล้วแถมรสชาติดีด้วยสิ นุ่มและได้รับรสชาติผักโขมเต็มๆ ที่แปลกคือยังคงความเป็นจีนได้อย่างประหลาด
พายไส้ไก่ ราคา 80 แป้งบาง กรอบนิดๆและนุ่มหน่อย แต่ไส้นั้นรสชาติแบบอ่อนๆ สำหรับเบนไม่ได้ตื่นเต้นเท่าไหร แต่ถ้าได้กินคนละชิ้นก็สนุกดี ได้ลองอะไรใหม่ๆ ตอนแรกถ้าไม่อ่านเมนูก็จะคิด นี่ทูน่าหรือไก่
ก๋วยเตี๋ยวหลอดหัวไชเท้าทอดกรอบ ราคา 80 บาท มื้อนี้ได้กินของทอดค่อนข้างเยอะ เบนเป็นแฟนของนึ่งมากกว่าสำหรับติ่มซำ แต่ก็ต้องบอกว่าของทอดที่นี้ไม่ค่อยเลี่ยนเท่าไหร ทำได้ดี ไม่ค่อยอมน้ำมัน ใครที่ชอบกินของทอดก็คงเป็นเมนูที่น่าลองเลยทีเดียว มาพร้อมกับน้ำจิ้มหวาน จิ้มเอง เพื่อหัวไชเท้าจะได้กรอบอยู่นานๆ
ปอเปี๊ยะกุ้งกล้วยหอมทอด ราคา 120 บาท ฟังชื่อแล้วมันแปลกมาก เหมือนไม่น่าจะเข้ากันได้ แต่กินแล้วมันไม่แปลกเลย ถึงจะไม่ถึงกับชูรสชาติซึ่งกันและกัน แต่ว่ามันก็พอเข้ากันได้ แถมมาคู่กับซอสมานองเนสวาซาบิ กลิ่นวาซาบิมีแต่แปลกที่ไม่ฉุนขึ้นจมูก จิ้มแก้เลี่ยนได้ดี แต่ถ้าจิ้มกลิ่นกล้วยก็หายหมดเลย ได้แต่กลิ่นวาซาบิ กินแบบไม่จิ่มก็ใช้ได้เหมือนกัน
พายหมูแดง อันนี้เป็นเมนูประจำที่เค้าว่าเด็ดของที่นี้ค่ะ เบนว่าแป้งของที่นี้ดี เหมือนตัวที่เป็นไส้ไก่ แต่เบนว่าไส้หมูแดงหวานไปนิด แล้วเบนว่าเค้าทาน้ำเชื่อมที่แป้งด้วย เลยยิ่งหวานเข้าไปใหญ่
มื้ออาหารจะไม่จบถ้าไม่ได้กินขนม มื้อนี้ก่อนที่เบนจะวิ่งออกมาเพราะมีประชุมกับทาง SCB ต่อเกี่ยวกับทริปที่จะพาลูกค้าไปสิ้นเดือนมีนาคมนี้ ก็ได้กินวุ้นตะไคร้ ราคา 80 บาท ไปสามคำ ถือว่าใช้ได้ refreshing ปากได้ดีค่ะ กลิ่นตะไคร้อ่อนๆ แต่ไม่แน่ใจว่าโรยผักมาทำไมเพราะเหม็นเขียวมาก
ด้วยราคาและบรรยากศแบบนี้ คงต้องกลับไปลองเองอีกรอบจะได้สั่งได้ตามใจ
[SR] รีวิว Shang Palace ห้องอาหารจีน(โรงแรมแชงกรีล่า) เมนูพิเศษเฉพาะเดือนมีนาคม โดย เบญญาภา Fove Food
แล้วก็อย่างว่านะคะ เวลาคนเชิญไปกิน บริการหรือบรรยากาศด้านอื่นๆก็จะเขียนไม่ได้ เพราะมันจะไม่ปกติ
ก็ขอเป็นภาพอาหารและบรรยายอาหารอย่างพอสังเขปแบบคนชอบกินที่ไม่ได้มีความเชี่ยวชาญพิเศษด้านอาหารจีนก็แล้วกันค่ะ
เบนก็เพิ่งรู้ว่า แชงกรีล่า อยู่ใกล้รถไฟฟ้ามากตอนขับรถผ่านนี่แหละค่ะ เพราะว่าไม่ได้ไปมานานมากแล้ว ตัวห้องอาหารชื่อ Shang Palace ซึ่งเป็นห้องอาหารจีน เพิ่งตกแต่งใหม่เสร็จเมือสามเดือนที่แล้ว แต่เค้าว่าเชฟยังเป็นคนเดิมอยู่ คือ เชฟศักรินทร์ คันสร
แถมวันนี้ได้มาเจอ Blogger อีกท่าน คือ http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=eatleklek ช่างน่ารักเป็นกันเองสะนี่กะไร
แอบดีใจว่ารู้จักเบนอีกต่างหาก
ร้านเค้าเปิดตั้งแต่ 11:30 วันที่เบนไปมีแต่คนอยู่ในห้อง VIP ปิดม่านปิดม่านกันใหญ่ ข้างนอกก็มีคนนั่งกินอีกนิดหน่อย แต่บรรยากาศดีไม่แออัดดีค่ะ
ที่เค้าเชิญให้มาลองวันนี้เป็นเมนูเฉพาะของเดือนมีนาคม
มาว่ากันที่ตัวแรก เป็น เสี่ยวหลงเปาตับห่าน ราคา 120 บาท บางลูกมีน้ำบางลูกไม่มีน้ำ ส่วนตัวตับห่านนั้นได้กลิ่นชัดเจน แต่รสชาตินั้นค่อยข้างน้อย ด้วยราคาที่พอรับได้ก็ถือว่าโอเคสำหรับเมนูนี้
เมนูนี้แปลกมากไม่เคยเห็นในร้านจีนที่อื่น คือ ขนมจีบผักโขม (ราคา 100 บาท) แล้วแถมรสชาติดีด้วยสิ นุ่มและได้รับรสชาติผักโขมเต็มๆ ที่แปลกคือยังคงความเป็นจีนได้อย่างประหลาด
พายไส้ไก่ ราคา 80 แป้งบาง กรอบนิดๆและนุ่มหน่อย แต่ไส้นั้นรสชาติแบบอ่อนๆ สำหรับเบนไม่ได้ตื่นเต้นเท่าไหร แต่ถ้าได้กินคนละชิ้นก็สนุกดี ได้ลองอะไรใหม่ๆ ตอนแรกถ้าไม่อ่านเมนูก็จะคิด นี่ทูน่าหรือไก่
ก๋วยเตี๋ยวหลอดหัวไชเท้าทอดกรอบ ราคา 80 บาท มื้อนี้ได้กินของทอดค่อนข้างเยอะ เบนเป็นแฟนของนึ่งมากกว่าสำหรับติ่มซำ แต่ก็ต้องบอกว่าของทอดที่นี้ไม่ค่อยเลี่ยนเท่าไหร ทำได้ดี ไม่ค่อยอมน้ำมัน ใครที่ชอบกินของทอดก็คงเป็นเมนูที่น่าลองเลยทีเดียว มาพร้อมกับน้ำจิ้มหวาน จิ้มเอง เพื่อหัวไชเท้าจะได้กรอบอยู่นานๆ
ปอเปี๊ยะกุ้งกล้วยหอมทอด ราคา 120 บาท ฟังชื่อแล้วมันแปลกมาก เหมือนไม่น่าจะเข้ากันได้ แต่กินแล้วมันไม่แปลกเลย ถึงจะไม่ถึงกับชูรสชาติซึ่งกันและกัน แต่ว่ามันก็พอเข้ากันได้ แถมมาคู่กับซอสมานองเนสวาซาบิ กลิ่นวาซาบิมีแต่แปลกที่ไม่ฉุนขึ้นจมูก จิ้มแก้เลี่ยนได้ดี แต่ถ้าจิ้มกลิ่นกล้วยก็หายหมดเลย ได้แต่กลิ่นวาซาบิ กินแบบไม่จิ่มก็ใช้ได้เหมือนกัน
พายหมูแดง อันนี้เป็นเมนูประจำที่เค้าว่าเด็ดของที่นี้ค่ะ เบนว่าแป้งของที่นี้ดี เหมือนตัวที่เป็นไส้ไก่ แต่เบนว่าไส้หมูแดงหวานไปนิด แล้วเบนว่าเค้าทาน้ำเชื่อมที่แป้งด้วย เลยยิ่งหวานเข้าไปใหญ่
มื้ออาหารจะไม่จบถ้าไม่ได้กินขนม มื้อนี้ก่อนที่เบนจะวิ่งออกมาเพราะมีประชุมกับทาง SCB ต่อเกี่ยวกับทริปที่จะพาลูกค้าไปสิ้นเดือนมีนาคมนี้ ก็ได้กินวุ้นตะไคร้ ราคา 80 บาท ไปสามคำ ถือว่าใช้ได้ refreshing ปากได้ดีค่ะ กลิ่นตะไคร้อ่อนๆ แต่ไม่แน่ใจว่าโรยผักมาทำไมเพราะเหม็นเขียวมาก
ด้วยราคาและบรรยากศแบบนี้ คงต้องกลับไปลองเองอีกรอบจะได้สั่งได้ตามใจ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น