อยู่ในช่วงของการตัดสินใจ จริงๆ ปัญหานี้กินเวลามา 2-3 ปีแล้วครับ ผมไม่กล้าตัดสินใจเอง
ตอนนี้จขทก. อยู่ กทม. แต่ทีบ้านแพลนไว้ว่า จะย้ายไปตั้งรกรากอยู่ ตจว. คือ
ถ้าไปเราก็ทำงานที่บ้านนั่นแหละ แต่ที่ไม่อยากทำคือ
- ทรรศนคติในการทำงานไม่ตรงกับพ่อ
-ถ้าเราไปทำงาน อำนาจการตัดสินใจสูงสุดก็ไม่ใช่ของเรา เราเป็นแค่ลูกจ้างของที่บ้านเท่านั้น รู้สึกถึงไม่มีการพัฒนาทางการทำงาน
-ยังเป็นธุรกิจครอบครัวแบบเดิม ที่ยังเห็นปัญหาหลายๆด้าน แต่รู้สึกว่าไปเปลียนแปลงหรือแก้ไขด้วยการเจรจาไม่ได้เลย ( คนจีนรุ่นแรกๆนะครับ คงเห็นภาพกันดี 555+)
-ถ้าไปงานคงไม่หนักมาก พ่อค่อนข้างโอ๋ แต่ในความคิดผม มันคล้ายกับเลี้ยงนกในกรงที่เอาแต่กินกะนอน (งานไม่หนักมาก) ไมรู้สึกตื่นตัว ไม่ออกไปบินเอง ในโลกกว้างที่เราจะเข้มแข็งได้กว่าเดิม
- จขกท. มาจากระบบการเรียนที่แข็งขันกัน รู้สึกสนุกกับการได้พัฒนาตัวเองมากกว่า ยังเห็นโลกเห็นอะไรอยากทำอีกเยอะ
-รุ่นพ่อรุ่นแม่ เค้าอยากรีไทร์แล้ว อันนี้เข้าใจว่าควรอยู่ ตจว. มากกว่า อยูในเมืองใหญ่ๆ ที่รีบเร่ง
ถ้าเราออกไปทำตามความฝันเอง
- เริ่มจากเล็กๆ ไปใหญ่ ทำให้รู้ที่มาของเงินทั้งหมด สิ่งไหนเราสร้างเอง เราจะแข็งแกร่งเอง
-เงินที่ได้อาจไม่เยอะเท่าสิ่งที่พ่อทำ แต่ก็มีความภูมิใจ ในตัวเอง
-ฝึกสัญชาตญานในการหาเงิน ได้พัฒนาความคิดในด้านต่างๆ
-ใช้ชีวิตในแบบที่อยากใช้ เลือกอนาคตที่อยากเป็นเอง (จะต่างจังหวัดหรือในกรุงก็ได้หมด)
-อยากหลุดพ้นจากร่มเงาของรุ่นพ่อรุ่นแม่
-ผมชอบการเลี้ยงลูกแบบ american มากกว่าคนจีน ในแง่ของการปล่อยให้โตเอง แต่พื้นเพพ่อเป็นคนจีนดั้งเดิมที่มีทัศนคติว่า ลูกชายต้องมารับช่วงกิจการที่บ้าน
ปัญหาคือ
-ทรรศนคติ ของ family business ที่แตกต่าง (ไม่มีผิดถูก)
บางบ้าน ลูกต้องมารับช่วงบริษัทที่สร้างไว้แล้ว
บางบ้าน ให้เงินลูกไปทำธุรกิจเอง
บางบ้าน แยกการจัดการชัดเจน พ่อทำของตัวเอง ลูกทำของตัวเอง
....
-ในเคสของบ้านผมเป็นแบบแรกคือ ต้องมารับทั้งหมด ( ไม่กระจายอำนาจหรือหน้าที่รับผิดชอบให้ชัดเจน )
-จขกท. อยู่กับแม่มาถึง 18ปี (ไมได้อยูกับพ่อ แตพ่อส่งเสีย) จนอยู่มหาลัยคนเดียวถึง 23ปี หลังจากนั้นจึงได้กลับมาอยู่กับพ่อ(ตอนนี้ 29ปี)
ความฝันของตัวเอง - ธุรกิจครอบครัวที่บ้าน
ตอนนี้จขทก. อยู่ กทม. แต่ทีบ้านแพลนไว้ว่า จะย้ายไปตั้งรกรากอยู่ ตจว. คือ
ถ้าไปเราก็ทำงานที่บ้านนั่นแหละ แต่ที่ไม่อยากทำคือ
- ทรรศนคติในการทำงานไม่ตรงกับพ่อ
-ถ้าเราไปทำงาน อำนาจการตัดสินใจสูงสุดก็ไม่ใช่ของเรา เราเป็นแค่ลูกจ้างของที่บ้านเท่านั้น รู้สึกถึงไม่มีการพัฒนาทางการทำงาน
-ยังเป็นธุรกิจครอบครัวแบบเดิม ที่ยังเห็นปัญหาหลายๆด้าน แต่รู้สึกว่าไปเปลียนแปลงหรือแก้ไขด้วยการเจรจาไม่ได้เลย ( คนจีนรุ่นแรกๆนะครับ คงเห็นภาพกันดี 555+)
-ถ้าไปงานคงไม่หนักมาก พ่อค่อนข้างโอ๋ แต่ในความคิดผม มันคล้ายกับเลี้ยงนกในกรงที่เอาแต่กินกะนอน (งานไม่หนักมาก) ไมรู้สึกตื่นตัว ไม่ออกไปบินเอง ในโลกกว้างที่เราจะเข้มแข็งได้กว่าเดิม
- จขกท. มาจากระบบการเรียนที่แข็งขันกัน รู้สึกสนุกกับการได้พัฒนาตัวเองมากกว่า ยังเห็นโลกเห็นอะไรอยากทำอีกเยอะ
-รุ่นพ่อรุ่นแม่ เค้าอยากรีไทร์แล้ว อันนี้เข้าใจว่าควรอยู่ ตจว. มากกว่า อยูในเมืองใหญ่ๆ ที่รีบเร่ง
ถ้าเราออกไปทำตามความฝันเอง
- เริ่มจากเล็กๆ ไปใหญ่ ทำให้รู้ที่มาของเงินทั้งหมด สิ่งไหนเราสร้างเอง เราจะแข็งแกร่งเอง
-เงินที่ได้อาจไม่เยอะเท่าสิ่งที่พ่อทำ แต่ก็มีความภูมิใจ ในตัวเอง
-ฝึกสัญชาตญานในการหาเงิน ได้พัฒนาความคิดในด้านต่างๆ
-ใช้ชีวิตในแบบที่อยากใช้ เลือกอนาคตที่อยากเป็นเอง (จะต่างจังหวัดหรือในกรุงก็ได้หมด)
-อยากหลุดพ้นจากร่มเงาของรุ่นพ่อรุ่นแม่
-ผมชอบการเลี้ยงลูกแบบ american มากกว่าคนจีน ในแง่ของการปล่อยให้โตเอง แต่พื้นเพพ่อเป็นคนจีนดั้งเดิมที่มีทัศนคติว่า ลูกชายต้องมารับช่วงกิจการที่บ้าน
ปัญหาคือ
-ทรรศนคติ ของ family business ที่แตกต่าง (ไม่มีผิดถูก)
บางบ้าน ลูกต้องมารับช่วงบริษัทที่สร้างไว้แล้ว
บางบ้าน ให้เงินลูกไปทำธุรกิจเอง
บางบ้าน แยกการจัดการชัดเจน พ่อทำของตัวเอง ลูกทำของตัวเอง
....
-ในเคสของบ้านผมเป็นแบบแรกคือ ต้องมารับทั้งหมด ( ไม่กระจายอำนาจหรือหน้าที่รับผิดชอบให้ชัดเจน )
-จขกท. อยู่กับแม่มาถึง 18ปี (ไมได้อยูกับพ่อ แตพ่อส่งเสีย) จนอยู่มหาลัยคนเดียวถึง 23ปี หลังจากนั้นจึงได้กลับมาอยู่กับพ่อ(ตอนนี้ 29ปี)