รถถัง Type 99 ของจีนสุดยอดรถถังหรือมังกรกระดาษ?
ประวัติการพัฒนา
จีนเริ่มต้นการพัฒนาจากรถถัง Type 59 ซึ่งเป็นรถถังที่ลอกเลียนแบบ T-54 ของโซเวียตที่ล้าสมัยอย่างมาก จุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้นในปี 1969 เมื่อจีนสามารถยึดรถถัง T-62 ของโซเวียตได้ ทำให้ได้ศึกษาเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยมากขึ้น หลังจากนั้นจีนได้นำเข้าและลอกเลียนแบบเทคโนโลยีจากตะวันตกและโซเวียตอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งถึงโครงการ Type 90 ที่เป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างสรรค์นวัตกรรมของตนเองโดยเฉพาะ Type 99 เป็นรถถังที่ออกแบบขึ้นมาใหม่ทั้งหมดและเข้าประจำการในปี 2001 ซึ่งถือเป็นรถถังหลัก รุ่นที่ 3 รุ่นแรกของจีน จากนั้นจึงมีการเปิดตัวรุ่นปรับปรุง Type 99A ในปี 2015 และมีการผลิตต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน
คุณสมบัติทางเทคนิค
อำนาจการยิง: Type 99A ติดตั้งปืนใหญ่ลำกล้องเรียบขนาด 125 มม. ที่มีระบบบรรจุกระสุนอัตโนมัติ ยิงได้ 10 นัดต่อนาที กระสุนเจาะเกราะ DTC10 125 มีความสามารถในการเจาะเกราะได้ 680-700 มม. ในระยะ 2 กม. นอกจากนี้ยังสามารถยิงขีปนาวุธนำวิถีด้วยเลเซอร์ได้ไกลถึง 5 กม.
ระบบป้องกัน: รถถังมีเกราะปฏิกิริยาแบบระเบิด (ERA) หุ้มที่ด้านหน้าตัวถังและป้อมปืนเพื่อป้องกันการโจมตี แต่ส่วนด้านข้างและด้านหลังยังคงเป็นจุดอ่อน นอกจากนี้ยังมีระบบป้องกันพิเศษ เช่น ระบบรับสัญญาณเตือนเลเซอร์ และ laser dazzler ที่สามารถทำให้กล้องเล็งของศัตรูตาบอดได้ แต่ยังขาดระบบป้องกันเชิงรุก (APS) ซึ่งคาดว่าจะถูกติดตั้งในรุ่น Type 99B
ความคล่องตัว: ด้วยเครื่องยนต์ดีเซล V12 กำลัง 1,500 แรงม้าและน้ำหนัก 55 ตัน ทำให้ Type 99A มีความเร็วสูงสุดบนถนนถึง 80 กม./ชม.
หลักนิยมและการใช้งาน
กองทัพจีนใช้ Type 99 เป็นหัวหอกของหน่วยรบผสมขนาดหนัก ซึ่งมีการทำงานร่วมกับทหารราบยานเกราะ, โดรน, และปืนใหญ่ในลักษณะที่เรียกว่า "Informationized Warfare" หรือ "สงครามข้อมูล" ซึ่งเน้นการสื่อสารและประสานงานแบบเรียลไทม์ การฝึกซ้อมแสดงให้เห็นว่ารถถังถูกใช้เป็น "มีดผ่าตัด" ที่จะเข้าโจมตีในจังหวะที่เหมาะสม เพื่อเจาะแนวป้องกันของศัตรู
บทสรุปและความเห็นของผู้เชี่ยวชาญ
จากมุมมองของจีน: Type 99A ถูกยกย่องว่าเป็น "ราชินีแห่งกองทัพยานเกราะจีน" และเป็นสัญลักษณ์ของการพัฒนาทางเทคโนโลยีทางการทหารของประเทศ
จากมุมมองของตะวันตก: นักวิเคราะห์มองว่ารถถังนี้เป็นความสำเร็จทางเทคนิค แต่ก็ยังไม่เคยผ่านการทดสอบในสนามรบจริง และมีข้อกังวลเกี่ยวกับความอยู่รอดของลูกเรือเนื่องจากระบบบรรจุกระสุนอัตโนมัติที่อยู่ใต้ป้อมปืน ซึ่งเป็นจุดอ่อนที่อาจทำให้รถถังถูกทำลายได้ง่ายหากถูกโจมตี
บทสรุปโดยรวม: Type 99A มีอำนาจการยิงและความคล่องตัวที่ยอดเยี่ยม แต่ประสิทธิภาพในการป้องกันยังคงมีข้อจำกัด และที่สำคัญที่สุดคือความสามารถในการรบยังไม่ได้รับการพิสูจน์ในสงครามจริง ประสิทธิภาพสูงสุดจึงขึ้นอยู่กับทักษะของลูกเรือ, หลักการรบ และการฝึกฝน ซึ่งเป็นปัญหาที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วในการฝึกซ้อมที่รถถังรุ่นใหม่พ่ายแพ้ให้กับรถถังรุ่นเก่ากว่าเนื่องจากลูกเรือไม่คุ้นเคยกับระบบที่ซับซ้อนของมัน
รถถัง Type 99 ของจีนสุดยอดรถถังหรือมังกรกระดาษ?
จีนเริ่มต้นการพัฒนาจากรถถัง Type 59 ซึ่งเป็นรถถังที่ลอกเลียนแบบ T-54 ของโซเวียตที่ล้าสมัยอย่างมาก จุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้นในปี 1969 เมื่อจีนสามารถยึดรถถัง T-62 ของโซเวียตได้ ทำให้ได้ศึกษาเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยมากขึ้น หลังจากนั้นจีนได้นำเข้าและลอกเลียนแบบเทคโนโลยีจากตะวันตกและโซเวียตอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งถึงโครงการ Type 90 ที่เป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างสรรค์นวัตกรรมของตนเองโดยเฉพาะ Type 99 เป็นรถถังที่ออกแบบขึ้นมาใหม่ทั้งหมดและเข้าประจำการในปี 2001 ซึ่งถือเป็นรถถังหลัก รุ่นที่ 3 รุ่นแรกของจีน จากนั้นจึงมีการเปิดตัวรุ่นปรับปรุง Type 99A ในปี 2015 และมีการผลิตต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน
คุณสมบัติทางเทคนิค
อำนาจการยิง: Type 99A ติดตั้งปืนใหญ่ลำกล้องเรียบขนาด 125 มม. ที่มีระบบบรรจุกระสุนอัตโนมัติ ยิงได้ 10 นัดต่อนาที กระสุนเจาะเกราะ DTC10 125 มีความสามารถในการเจาะเกราะได้ 680-700 มม. ในระยะ 2 กม. นอกจากนี้ยังสามารถยิงขีปนาวุธนำวิถีด้วยเลเซอร์ได้ไกลถึง 5 กม.
ระบบป้องกัน: รถถังมีเกราะปฏิกิริยาแบบระเบิด (ERA) หุ้มที่ด้านหน้าตัวถังและป้อมปืนเพื่อป้องกันการโจมตี แต่ส่วนด้านข้างและด้านหลังยังคงเป็นจุดอ่อน นอกจากนี้ยังมีระบบป้องกันพิเศษ เช่น ระบบรับสัญญาณเตือนเลเซอร์ และ laser dazzler ที่สามารถทำให้กล้องเล็งของศัตรูตาบอดได้ แต่ยังขาดระบบป้องกันเชิงรุก (APS) ซึ่งคาดว่าจะถูกติดตั้งในรุ่น Type 99B
ความคล่องตัว: ด้วยเครื่องยนต์ดีเซล V12 กำลัง 1,500 แรงม้าและน้ำหนัก 55 ตัน ทำให้ Type 99A มีความเร็วสูงสุดบนถนนถึง 80 กม./ชม.
หลักนิยมและการใช้งาน
กองทัพจีนใช้ Type 99 เป็นหัวหอกของหน่วยรบผสมขนาดหนัก ซึ่งมีการทำงานร่วมกับทหารราบยานเกราะ, โดรน, และปืนใหญ่ในลักษณะที่เรียกว่า "Informationized Warfare" หรือ "สงครามข้อมูล" ซึ่งเน้นการสื่อสารและประสานงานแบบเรียลไทม์ การฝึกซ้อมแสดงให้เห็นว่ารถถังถูกใช้เป็น "มีดผ่าตัด" ที่จะเข้าโจมตีในจังหวะที่เหมาะสม เพื่อเจาะแนวป้องกันของศัตรู
บทสรุปและความเห็นของผู้เชี่ยวชาญ
จากมุมมองของจีน: Type 99A ถูกยกย่องว่าเป็น "ราชินีแห่งกองทัพยานเกราะจีน" และเป็นสัญลักษณ์ของการพัฒนาทางเทคโนโลยีทางการทหารของประเทศ
บทสรุปโดยรวม: Type 99A มีอำนาจการยิงและความคล่องตัวที่ยอดเยี่ยม แต่ประสิทธิภาพในการป้องกันยังคงมีข้อจำกัด และที่สำคัญที่สุดคือความสามารถในการรบยังไม่ได้รับการพิสูจน์ในสงครามจริง ประสิทธิภาพสูงสุดจึงขึ้นอยู่กับทักษะของลูกเรือ, หลักการรบ และการฝึกฝน ซึ่งเป็นปัญหาที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วในการฝึกซ้อมที่รถถังรุ่นใหม่พ่ายแพ้ให้กับรถถังรุ่นเก่ากว่าเนื่องจากลูกเรือไม่คุ้นเคยกับระบบที่ซับซ้อนของมัน