จากสถานการณ์วิกฤติความขัดแย้งทางการเมืองในประเทศไทย ซึ่งมีการชุมนุมของประชาชนเป็นจำนวนมาก ทั้งฝ่ายต่อต้านและฝ่ายสนับสนุนรัฐบาล ครอบคลุมพื้นที่ในเขตกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด สุ่มเสี่ยงที่จะเกิดการเผชิญหน้าและปะทะกันของผู้ชุมนุมทั้งสองฝ่าย อันจะก่อให้เกิดความเสียหายและส่งผลกระทบต่อประเทศชาติและประชาชนทั่วประเทศอย่างใหญ่หลวงและกว้างขวาง ทั้งในทางเศรษฐกิจ สังคม การศึกษา การเมืองและความมั่นคงของชาติ
ข้าพเจ้าในนามของอธิการบดีมหาวิทยาลัยฟาฏอนี (มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา) คณะผู้บริหาร คณาจารย์ บุคลากรและนักศึกษา ใคร่ขอแถลงและเสนอแนวทางแก้ปัญหาวิกฤติความขัดแย้งทางการเมืองในครั้งนี้ ดังนี้
(1) สถานการณ์ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ในทัศนะของศาสนาอิสลาม ถือว่า เป็นฟิตนะฮฺ(ความโกลาหลและวุ่นวาย) ซึ่งเป็นหน้าที่ของพี่น้องประชาชนชาวไทยทุกหมู่เหล่าและศาสนิกชนทุกศาสนา โดยเฉพาะพี่น้องมุสลิมทั้งหลาย ต้องร่วมกันยุติปัญหาความขัดแย้ง ร่วมกันหาทางออก ถ้าทุกฝ่ายเพิกเฉยไม่รีบหาทางยุติปัญหา ความขัดแย้งเกิดที่เกิดขึ้นจะขยายตัว ลุกลามและบานปลาย สร้างความเสียหายแก่ประเทศชาติและประชาชนอย่างใหญ่หลวง
(2) ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนชาวไทยทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นนักวิชาการ ผู้บริหารสถาบันการศึกษานักการเมืองทุกระดับ ข้าราชการฝ่ายพลเรือน ทหารและตำรวจ ผู้นำและผู้รู้ทางศาสนา ผู้นำองค์กรเอกชน นักธุรกิจ ผู้นำสตรี นิสิต นักศึกษา มาช่วยกันให้สติ แนะนำ ตักเตือน ระดมความคิด สานเสวนา เพื่อระงับยับยั้งฝ่ายต่างๆที่กำลังขัดแย้งกัน ให้ใช้ความอดทน อดกลั้น หลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรง การเผชิญหน้าและปะทะกัน การละเมิดกฎหมาย ตลอดจนร่วมกันผลักดันให้ทุกฝ่ายหันมาใช้กระบวนการสันติวิธีและการสานเสวนา พูดคุยเจรจาเพื่อหาทางออกร่วมกัน
(3 ) ตามหลักการอิสลาม ความขัดแย้งและแตกแยกกันของประชาชน ถือเป็นสิ่งมุนกัร(สิ่งที่มิชอบ) สร้างความเสียหายต่อประเทศชาติเป็นอย่างมาก จึงเป็นหน้าที่ของประชาชน ทั้งที่เป็นมุสลิมและศาสนิกอื่นจะต้องช่วยกันหาทางยุติความขัดแย้งและนำความสันติสุขสมานฉันท์ของประชาชนให้กลับคืนมา ทั้งด้วยอำนาจ(มือ) คำพูดและใจของเขา
ดังนั้น ข้าพเจ้าจึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนชาวไทย ทั้งที่เป็นมุสลิมและศาสนิกอื่นทั้งหลาย ช่วยกันเป็นตัวกลางในการไกล่เกลี่ย เสนอแนะทางออก เพื่อให้เกิดความปรองดอง ความรักสามัคคีและความสันติสุขสมานฉันท์ของคนในประเทศ หลีกเลี่ยงการยั่วยุและเติมเชื้อไฟแห่งความขัดแย้งให้เกิดความแตกแยก การปะทะและเผชิญหน้ากันของประชาชน
นอกจากนั้น ในการเข้าไปมีบทบาทในการนาซีฮัต(ตักเตือน)และระงับยับยั้งในสิ่งมุนกัร(สิ่งที่มิชอบ)นั้น ขอวิงวอนให้ทุกฝ่ายใช้วิธีการที่ดี มีมารยาท สุภาพอ่อนโยน ละมุนละม่อม อดทน อดกลั้น บนพื้นฐานของหลักการศาสนาและกฎหมาย
ศาสนาอิสลามห้ามมิให้ใช้วิธีการที่ไม่ถูกต้อง เช่น การด่าทอ นินทาว่าร้าย พูดจากหยาบคาย ไม่สุภาพ พูดเท็จ ลามกอนาจาร การละเมิด โจมตีใส่ร้าย ตลอดจนการละเมิดกฎหมาย เป็นต้น
(4) ขอเรียกร้องให้บรรดาสื่อมวลชนทุกแขนง ใช้สื่อในสังกัดนำเสนอทางออก ยุติความแตกแยก และความขัดแย้งของประชาชน โปรดหลีกเลี่ยงการนำเสนอข่าวในลักษณะที่เป็นการยั่วยุและเติมเชื้อไฟความขัดแย้งให้ลุกลาม บานปลาย เพราะ ผู้ที่บอบช้ำและเสียหายมากที่สุดจากวิกฤติครั้งนี้ คือ ประเทศชาติและประชาชน
สุดท้ายนี้ ข้าพเจ้าขอวิงวอนต่อพระผู้เป็นเจ้า ขอพระองค์ทรงโปรดคุ้มครองให้ปลอดภัยจากไฟแห่งฟิตนะห์(ความวุ่นวายและแตกแยกกันของประชาชน) ซึ่งมันไม่ใช่เพียงแค่การสร้างความเสียหายและส่งผลกระทบเฉพาะคู่ขัดแย้งเท่านั้น แต่มันจะส่งผลและสร้างความเสียหายต่อพี่น้องประชาชนส่วนอื่นๆที่บริสุทธิ์และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยเช่นกัน
ขอเชิญชวนชนชาวไทยทุกภาคส่วน ผนึกกำลังกัน ร่วมฝ่าวิกฤติ ยุติความขัดแย้ง นำสันติสุขและความรู้รักสามัคคีของประชาชนกลับคืนมาโดยเร็วที่สุด
ด้วยรักและห่วงใย
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อิสมาอีลลุตฟีย์ จะปะกียา
อธิการบดีมหาวิทยาลัยฟาฏอนี
(มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา)
https://www.facebook.com/DrIsmailLutfi
แถลงการณ์ 'กรณีวิกฤติความขัดแย้งทางการเมืองในประเทศไทย' อธิการบดีมหาลัยฟาฏอนี มุสลิมที่ร่วมประท้วงควรฟัง
ข้าพเจ้าในนามของอธิการบดีมหาวิทยาลัยฟาฏอนี (มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา) คณะผู้บริหาร คณาจารย์ บุคลากรและนักศึกษา ใคร่ขอแถลงและเสนอแนวทางแก้ปัญหาวิกฤติความขัดแย้งทางการเมืองในครั้งนี้ ดังนี้
(1) สถานการณ์ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ในทัศนะของศาสนาอิสลาม ถือว่า เป็นฟิตนะฮฺ(ความโกลาหลและวุ่นวาย) ซึ่งเป็นหน้าที่ของพี่น้องประชาชนชาวไทยทุกหมู่เหล่าและศาสนิกชนทุกศาสนา โดยเฉพาะพี่น้องมุสลิมทั้งหลาย ต้องร่วมกันยุติปัญหาความขัดแย้ง ร่วมกันหาทางออก ถ้าทุกฝ่ายเพิกเฉยไม่รีบหาทางยุติปัญหา ความขัดแย้งเกิดที่เกิดขึ้นจะขยายตัว ลุกลามและบานปลาย สร้างความเสียหายแก่ประเทศชาติและประชาชนอย่างใหญ่หลวง
(2) ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนชาวไทยทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นนักวิชาการ ผู้บริหารสถาบันการศึกษานักการเมืองทุกระดับ ข้าราชการฝ่ายพลเรือน ทหารและตำรวจ ผู้นำและผู้รู้ทางศาสนา ผู้นำองค์กรเอกชน นักธุรกิจ ผู้นำสตรี นิสิต นักศึกษา มาช่วยกันให้สติ แนะนำ ตักเตือน ระดมความคิด สานเสวนา เพื่อระงับยับยั้งฝ่ายต่างๆที่กำลังขัดแย้งกัน ให้ใช้ความอดทน อดกลั้น หลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรง การเผชิญหน้าและปะทะกัน การละเมิดกฎหมาย ตลอดจนร่วมกันผลักดันให้ทุกฝ่ายหันมาใช้กระบวนการสันติวิธีและการสานเสวนา พูดคุยเจรจาเพื่อหาทางออกร่วมกัน
(3 ) ตามหลักการอิสลาม ความขัดแย้งและแตกแยกกันของประชาชน ถือเป็นสิ่งมุนกัร(สิ่งที่มิชอบ) สร้างความเสียหายต่อประเทศชาติเป็นอย่างมาก จึงเป็นหน้าที่ของประชาชน ทั้งที่เป็นมุสลิมและศาสนิกอื่นจะต้องช่วยกันหาทางยุติความขัดแย้งและนำความสันติสุขสมานฉันท์ของประชาชนให้กลับคืนมา ทั้งด้วยอำนาจ(มือ) คำพูดและใจของเขา
ดังนั้น ข้าพเจ้าจึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนชาวไทย ทั้งที่เป็นมุสลิมและศาสนิกอื่นทั้งหลาย ช่วยกันเป็นตัวกลางในการไกล่เกลี่ย เสนอแนะทางออก เพื่อให้เกิดความปรองดอง ความรักสามัคคีและความสันติสุขสมานฉันท์ของคนในประเทศ หลีกเลี่ยงการยั่วยุและเติมเชื้อไฟแห่งความขัดแย้งให้เกิดความแตกแยก การปะทะและเผชิญหน้ากันของประชาชน
นอกจากนั้น ในการเข้าไปมีบทบาทในการนาซีฮัต(ตักเตือน)และระงับยับยั้งในสิ่งมุนกัร(สิ่งที่มิชอบ)นั้น ขอวิงวอนให้ทุกฝ่ายใช้วิธีการที่ดี มีมารยาท สุภาพอ่อนโยน ละมุนละม่อม อดทน อดกลั้น บนพื้นฐานของหลักการศาสนาและกฎหมาย
ศาสนาอิสลามห้ามมิให้ใช้วิธีการที่ไม่ถูกต้อง เช่น การด่าทอ นินทาว่าร้าย พูดจากหยาบคาย ไม่สุภาพ พูดเท็จ ลามกอนาจาร การละเมิด โจมตีใส่ร้าย ตลอดจนการละเมิดกฎหมาย เป็นต้น
(4) ขอเรียกร้องให้บรรดาสื่อมวลชนทุกแขนง ใช้สื่อในสังกัดนำเสนอทางออก ยุติความแตกแยก และความขัดแย้งของประชาชน โปรดหลีกเลี่ยงการนำเสนอข่าวในลักษณะที่เป็นการยั่วยุและเติมเชื้อไฟความขัดแย้งให้ลุกลาม บานปลาย เพราะ ผู้ที่บอบช้ำและเสียหายมากที่สุดจากวิกฤติครั้งนี้ คือ ประเทศชาติและประชาชน
สุดท้ายนี้ ข้าพเจ้าขอวิงวอนต่อพระผู้เป็นเจ้า ขอพระองค์ทรงโปรดคุ้มครองให้ปลอดภัยจากไฟแห่งฟิตนะห์(ความวุ่นวายและแตกแยกกันของประชาชน) ซึ่งมันไม่ใช่เพียงแค่การสร้างความเสียหายและส่งผลกระทบเฉพาะคู่ขัดแย้งเท่านั้น แต่มันจะส่งผลและสร้างความเสียหายต่อพี่น้องประชาชนส่วนอื่นๆที่บริสุทธิ์และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยเช่นกัน
ขอเชิญชวนชนชาวไทยทุกภาคส่วน ผนึกกำลังกัน ร่วมฝ่าวิกฤติ ยุติความขัดแย้ง นำสันติสุขและความรู้รักสามัคคีของประชาชนกลับคืนมาโดยเร็วที่สุด
ด้วยรักและห่วงใย
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อิสมาอีลลุตฟีย์ จะปะกียา
อธิการบดีมหาวิทยาลัยฟาฏอนี
(มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา)
https://www.facebook.com/DrIsmailLutfi