ข้อเสนอ เอนก เหล่าธรรมทัต คณะอนุกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ในการนิรโทษกรรมทางการเมือง
มีทั้งเสียงสนับสนุนและคัดค้าน ซึ่งว่าด้วยเหตุผลนานาจิตตัง หากมองภาพของระบบมากกว่าตัวบุคคล
การนิรโทษกรรมทางการเมือง คือทางออกที่สำคัญของประเทศที่ประสบกับปัญหาวิกฤติการเมือง
โดยเฉพาะความขัดแย้ง ในระบอบการปกครองประเทศ ที่นำไปสู่ความแตกแยกของประชาชนในประเทศ
บางประเทศ หลังเกิดสงครามกลางเมือง จะมีการ ร่างหลักกฎหมายนิรโทษกรรมก่อนที่จะนำไปสู่กฎหมาย
หลักในการปกครองประเทศด้วยซ้ำ เพราะถ้าไม่มีการนิรโทษกรรม ก็จะขยับไปสู่การปรองดองสมานฉันท์
ไม่ได้ ไม่สามารถที่จะยุติปัญหาที่เกิดจากวิกฤติการเมืองที่ผ่านมาในอดีตได้ การจะพูดคุยเจรจากันอย่างสันติ
ก็ไม่สามารถเดินหน้าได้เช่นกัน
มองวิกฤติการเมืองที่เกิดขึ้นในประเทศไทย ระยะเวลาตั้งแต่ก่อนปี 2549 กระทั่งทำให้เกิดการยึดอำนาจ
ถึง 2 ครั้ง ในช่วงระยะเวลาที่ห่างกันไม่ถึง 10 ปี ด้วยสาเหตุเดิมๆคือ ความคิดที่แตกต่างระหว่างสองขั้ว
อำนาจทางการเมือง ทำให้เกิดความเสียหายต่อระบอบการปกครองการบริหารประเทศ และเสียโอกาส
ทั้งทางด้านการเมือง เศรษฐกิจ และสังคมมากมาย
ถ้าจะพูดกันตรงๆ หลักใหญ่ใจความคือ ฝ่ายที่เอาทักษิณ กับฝ่ายที่ไม่เอาทักษิณ จนปัญหาบานปลายกลาย
เป็นความขัดแย้งของคนในชาติจนได้ ซึ่งไม่ได้เจ็บตัวเฉพาะฝ่ายทักษิณเท่านั้น ฝ่ายที่ไม่เอาทักษิณก็เจ็บตัว
ไม่แพ้กัน คนที่ออกมาชนกับระบอบทักษิณ ก็เต็มไปด้วยบาดแผลทั้งทางสังคมและทางอาญา
มีคดีที่ต้องขึ้นโรงขึ้นศาล ฟ้องร้องกันเป็นร้อยๆคดี ล้วนแต่เป็นคดีสำคัญที่ กระทำผิดกฎหมายความมั่นคง
สูงสุดของประเทศ ล้มล้างการปกครอง เป็นกบฏต่อแผ่นดิน และมีการสูญเสียเลือดเนื้อประชาชนไปอย่างที่
ไม่เกิดประโยชน์ใดๆต่อการปกครองประเทศหรือการเปลี่ยนแปลงประเทศไปสู่สิ่งที่ดีขึ้น
นับวัน วิกฤติก็จะยิ่งซับซ้อน ถ้าจะให้ กระบวนการยุติธรรมโดยทั่วๆไปตัดสิน ก็จะไปกระทบกับระบบยุติธรรม
ของประเทศแน่นอน เนื่องจาก บางการกระทำกฎหมายก็เอื้อมเข้าไปไม่ถึง บางการกระทำก็มีอำนาจของ
กฎหมายรองรับ แต่เกิดความสูญเสียขึ้นในหมู่ประชาชนที่ไม่ยอมรับกับการใช้อำนาจรัฐ
การที่จะนิรโทษกรรมทางการเมือง จึงเป็นทางออกที่ดีที่สุดของทุกๆฝ่าย และยังจะไม่ให้ปัญหาการเมือง
การปกครองของประเทศบานปลายไปสู่ระดับชาติ ซึ่งประเทศไทยถูกมองจากสายตาชาวโลกในแง่ลบอยู่แล้ว
อีกทั้งกระบวนการยุติธรรมไม่สามารถที่จะตัดสินได้ทันตามกระบวนการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ยกตัวอย่าง
กระบวนการสร้างความปรองดองและสมานฉันท์ ในขณะนี้ไม่สามารถไปกดดัน กระบวนการยุติธรรม ให้ดำเนิน
การสอดคล้องเป็นคู่ขนานได้ และถ้าไม่มีการนิรโทษกรรม ความเป็นธรรมไม่มี สามัคคีย่อมไม่เกิด
ประเทศไทยก็จะติดหล่มจมปลักกับวิบากกรรมทางการเมืองต่อไปไม่มีที่สิ้นสุด.
หมัดเหล็ก
http://www.thairath.co.th/content/466368
ทางเลือกนิรโทษกรรม โดย หมัดเหล็ก ไทยรัฐออนไลน์ ..... /sao..เหลือ..noi
มีทั้งเสียงสนับสนุนและคัดค้าน ซึ่งว่าด้วยเหตุผลนานาจิตตัง หากมองภาพของระบบมากกว่าตัวบุคคล
การนิรโทษกรรมทางการเมือง คือทางออกที่สำคัญของประเทศที่ประสบกับปัญหาวิกฤติการเมือง
โดยเฉพาะความขัดแย้ง ในระบอบการปกครองประเทศ ที่นำไปสู่ความแตกแยกของประชาชนในประเทศ
บางประเทศ หลังเกิดสงครามกลางเมือง จะมีการ ร่างหลักกฎหมายนิรโทษกรรมก่อนที่จะนำไปสู่กฎหมาย
หลักในการปกครองประเทศด้วยซ้ำ เพราะถ้าไม่มีการนิรโทษกรรม ก็จะขยับไปสู่การปรองดองสมานฉันท์
ไม่ได้ ไม่สามารถที่จะยุติปัญหาที่เกิดจากวิกฤติการเมืองที่ผ่านมาในอดีตได้ การจะพูดคุยเจรจากันอย่างสันติ
ก็ไม่สามารถเดินหน้าได้เช่นกัน
มองวิกฤติการเมืองที่เกิดขึ้นในประเทศไทย ระยะเวลาตั้งแต่ก่อนปี 2549 กระทั่งทำให้เกิดการยึดอำนาจ
ถึง 2 ครั้ง ในช่วงระยะเวลาที่ห่างกันไม่ถึง 10 ปี ด้วยสาเหตุเดิมๆคือ ความคิดที่แตกต่างระหว่างสองขั้ว
อำนาจทางการเมือง ทำให้เกิดความเสียหายต่อระบอบการปกครองการบริหารประเทศ และเสียโอกาส
ทั้งทางด้านการเมือง เศรษฐกิจ และสังคมมากมาย
ถ้าจะพูดกันตรงๆ หลักใหญ่ใจความคือ ฝ่ายที่เอาทักษิณ กับฝ่ายที่ไม่เอาทักษิณ จนปัญหาบานปลายกลาย
เป็นความขัดแย้งของคนในชาติจนได้ ซึ่งไม่ได้เจ็บตัวเฉพาะฝ่ายทักษิณเท่านั้น ฝ่ายที่ไม่เอาทักษิณก็เจ็บตัว
ไม่แพ้กัน คนที่ออกมาชนกับระบอบทักษิณ ก็เต็มไปด้วยบาดแผลทั้งทางสังคมและทางอาญา
มีคดีที่ต้องขึ้นโรงขึ้นศาล ฟ้องร้องกันเป็นร้อยๆคดี ล้วนแต่เป็นคดีสำคัญที่ กระทำผิดกฎหมายความมั่นคง
สูงสุดของประเทศ ล้มล้างการปกครอง เป็นกบฏต่อแผ่นดิน และมีการสูญเสียเลือดเนื้อประชาชนไปอย่างที่
ไม่เกิดประโยชน์ใดๆต่อการปกครองประเทศหรือการเปลี่ยนแปลงประเทศไปสู่สิ่งที่ดีขึ้น
นับวัน วิกฤติก็จะยิ่งซับซ้อน ถ้าจะให้ กระบวนการยุติธรรมโดยทั่วๆไปตัดสิน ก็จะไปกระทบกับระบบยุติธรรม
ของประเทศแน่นอน เนื่องจาก บางการกระทำกฎหมายก็เอื้อมเข้าไปไม่ถึง บางการกระทำก็มีอำนาจของ
กฎหมายรองรับ แต่เกิดความสูญเสียขึ้นในหมู่ประชาชนที่ไม่ยอมรับกับการใช้อำนาจรัฐ
การที่จะนิรโทษกรรมทางการเมือง จึงเป็นทางออกที่ดีที่สุดของทุกๆฝ่าย และยังจะไม่ให้ปัญหาการเมือง
การปกครองของประเทศบานปลายไปสู่ระดับชาติ ซึ่งประเทศไทยถูกมองจากสายตาชาวโลกในแง่ลบอยู่แล้ว
อีกทั้งกระบวนการยุติธรรมไม่สามารถที่จะตัดสินได้ทันตามกระบวนการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ยกตัวอย่าง
กระบวนการสร้างความปรองดองและสมานฉันท์ ในขณะนี้ไม่สามารถไปกดดัน กระบวนการยุติธรรม ให้ดำเนิน
การสอดคล้องเป็นคู่ขนานได้ และถ้าไม่มีการนิรโทษกรรม ความเป็นธรรมไม่มี สามัคคีย่อมไม่เกิด
ประเทศไทยก็จะติดหล่มจมปลักกับวิบากกรรมทางการเมืองต่อไปไม่มีที่สิ้นสุด.
หมัดเหล็ก
http://www.thairath.co.th/content/466368