เมื่อก่อนพอเรามีปัญหาอะไร เมื่อสองฝ่ายเราตกลงกันไม่ได้ เราก็จะไปพึ่งบารมีศาลท่านแล้วนำการตัดสินของท่านไปปฎฺิบัติ ยอมรับ
เพราะศาลสถิตย์ยุติธรรมถือว่าเป็นที่พึ่งสุดท้ายของคนที่มีความขัดแย้ง และได้รับการยอมรับ ความเคารพ จากทุกฝ่าย
ซึ่งคดีความโดยทั่วไปที่ไม่เกี่ยวกับเรื่องการปกครอง รัฐธรรมนูญ เช่นคดีความอาญา คดีแพ่งก็ไม่เคยเกิดวิกฤติศรัธธากับศาล
สถิตย์ยุติธรรมมาก่อน
แต่บ้านเมืองตอนนี้มีปัญหากับเรื่องการเมือง เรื่องรัฐธรรมนูญ ซึ่งถือว่าเป็นกฎหมายสูงสุด ที่ใช้ในการปกครองประเทศ
นักการเมืองที่อยากได้อำนาจ ผู้หลุดพ้นจากตำแหน่งไปแล้วแต่ยังอยากครอบครองอำนาจอยู่ เริ่มแสดงสิ่งต่างๆที่ไปในความ
ได้เปรียบของทางฝ่ายตัวเอง จนเกิดความขัดแย้งขึ้น จากเริ่มต้นด้วยการกล่าวหาใส่ร้ายได้เพิ่มความรุนแรงทีละน้อย
จนปัจจุบันถึงขั้นใช้กำลังปฎิบัติรุนแรง ถึงขนาดต้องไล่เข่นฆ่ากันซึ่งไม่เคยปรากฎขึ้นมาก่อน
บ้านเมืองแตกแยกอย่างไม่เคยมีมาก่อน ประชาชนแบ่งเป็นฝักฝ่ายพร้อมจะด่า ทะเลาะกัน ได้อย่างง่ายดายแม้ว่าจะไม่เคย
เห็นหน้ากัน ไม่สนใจว่าผู้นั้นจะเป็นคนดี มีศีลธรรมขนาดไหน เมื่อถือข้างอยู่ฝ่ายตรงข้ามกันก็พร้อมจะด่า ประณาม หรือฆ่ากัน
มันจะไม่เป็นอย่างนี้เลย ถ้าเรามีศาลรัฐธรรมนูญ มีตุลาการที่ตัดสินความที่ทุกฝ่ายต่างยอมรับ
เราไม่สามารถบังคับให้นักการเมือง พรรคการเมือง เป็นคนดี ถูกต้องทุกอย่างได้ แต่เมื่อขัดแย้งก็ควรไปจบลงที่ศาลรัฐธรรมนูญได้
แต่เมื่อการตัดสินออกมาของตุลาการรัฐธรรมนูญหลายๆเรื่อง ไม่ได้รับการยอมรับจากประชาชนเป็นจำนวนมาก
พวกที่ได้ผลประโยชน์ก็บอกว่าดีแล้ว พวกเสียหายก็บอกว่าสองมาตรฐาน ซึ่งเรื่องทั้งหมด ความขัดแย้งทั้งหมดจะไม่เกิดขึ้นเลย
ถ้าประชาชนทั่วไปมีความไว้วางใจ มีความแน่ใจกับตุลาการรัฐธรรมนูญทั้ง 9 นี้ว่าเป็นผู้วางตัวเป็นกลาง ตัดสินตามตัวบทกฎหมายจริงๆ
ไม่จงใจเอื้อเฟื้อให้กับฝ่ายใด ฝ่ายหนึ่ง อย่างที่บอกครับ ถ้าคำตัดสินได้รับการเคารพ ยอมรับ จากประชาชน
ให้ผิดเป็นผิด ถูกเป็นถูก บ้านเมืองนี้ไม่มีความหายนะอย่างนี้
เมื่อตุลาการหลายคนมีที่มาน่าเคลือบแคลงแล้ว ความขัดแย้งกันในหมู่นักการเมืองประชาชนไม่มีทางสิ้นสุด
ตอนนี้มีประชากรไทยหลายสิบล้านขัดแย้งกันครับ ถีงเวลาที่เราจะเปลี่ยนแปลงหรือยังครับ
ปัญหาทางการเมืองจะยุติเรื่องโดยให้ศาลรัฐธรรมนูญตัดสิน ปัญหามันอยู่ตรงนี้ละครับ
เพราะศาลสถิตย์ยุติธรรมถือว่าเป็นที่พึ่งสุดท้ายของคนที่มีความขัดแย้ง และได้รับการยอมรับ ความเคารพ จากทุกฝ่าย
ซึ่งคดีความโดยทั่วไปที่ไม่เกี่ยวกับเรื่องการปกครอง รัฐธรรมนูญ เช่นคดีความอาญา คดีแพ่งก็ไม่เคยเกิดวิกฤติศรัธธากับศาล
สถิตย์ยุติธรรมมาก่อน
แต่บ้านเมืองตอนนี้มีปัญหากับเรื่องการเมือง เรื่องรัฐธรรมนูญ ซึ่งถือว่าเป็นกฎหมายสูงสุด ที่ใช้ในการปกครองประเทศ
นักการเมืองที่อยากได้อำนาจ ผู้หลุดพ้นจากตำแหน่งไปแล้วแต่ยังอยากครอบครองอำนาจอยู่ เริ่มแสดงสิ่งต่างๆที่ไปในความ
ได้เปรียบของทางฝ่ายตัวเอง จนเกิดความขัดแย้งขึ้น จากเริ่มต้นด้วยการกล่าวหาใส่ร้ายได้เพิ่มความรุนแรงทีละน้อย
จนปัจจุบันถึงขั้นใช้กำลังปฎิบัติรุนแรง ถึงขนาดต้องไล่เข่นฆ่ากันซึ่งไม่เคยปรากฎขึ้นมาก่อน
บ้านเมืองแตกแยกอย่างไม่เคยมีมาก่อน ประชาชนแบ่งเป็นฝักฝ่ายพร้อมจะด่า ทะเลาะกัน ได้อย่างง่ายดายแม้ว่าจะไม่เคย
เห็นหน้ากัน ไม่สนใจว่าผู้นั้นจะเป็นคนดี มีศีลธรรมขนาดไหน เมื่อถือข้างอยู่ฝ่ายตรงข้ามกันก็พร้อมจะด่า ประณาม หรือฆ่ากัน
มันจะไม่เป็นอย่างนี้เลย ถ้าเรามีศาลรัฐธรรมนูญ มีตุลาการที่ตัดสินความที่ทุกฝ่ายต่างยอมรับ
เราไม่สามารถบังคับให้นักการเมือง พรรคการเมือง เป็นคนดี ถูกต้องทุกอย่างได้ แต่เมื่อขัดแย้งก็ควรไปจบลงที่ศาลรัฐธรรมนูญได้
แต่เมื่อการตัดสินออกมาของตุลาการรัฐธรรมนูญหลายๆเรื่อง ไม่ได้รับการยอมรับจากประชาชนเป็นจำนวนมาก
พวกที่ได้ผลประโยชน์ก็บอกว่าดีแล้ว พวกเสียหายก็บอกว่าสองมาตรฐาน ซึ่งเรื่องทั้งหมด ความขัดแย้งทั้งหมดจะไม่เกิดขึ้นเลย
ถ้าประชาชนทั่วไปมีความไว้วางใจ มีความแน่ใจกับตุลาการรัฐธรรมนูญทั้ง 9 นี้ว่าเป็นผู้วางตัวเป็นกลาง ตัดสินตามตัวบทกฎหมายจริงๆ
ไม่จงใจเอื้อเฟื้อให้กับฝ่ายใด ฝ่ายหนึ่ง อย่างที่บอกครับ ถ้าคำตัดสินได้รับการเคารพ ยอมรับ จากประชาชน
ให้ผิดเป็นผิด ถูกเป็นถูก บ้านเมืองนี้ไม่มีความหายนะอย่างนี้
เมื่อตุลาการหลายคนมีที่มาน่าเคลือบแคลงแล้ว ความขัดแย้งกันในหมู่นักการเมืองประชาชนไม่มีทางสิ้นสุด
ตอนนี้มีประชากรไทยหลายสิบล้านขัดแย้งกันครับ ถีงเวลาที่เราจะเปลี่ยนแปลงหรือยังครับ