คุณแม่ใช้บริการ 1-2-call ของ AIS มานานแล้วค่ะ หลายปีมาก ตัวดิฉันเองก็ไม่เคยใช้ค่ายอื่นเลย เป็นลูกค้า serenade มาตลอดจนกระทั่งไปศึกษาต่อต่างประเทศ
ระยะหลังไม่กี่เดือนมานี้ คุณแม่เพิ่งจะสังเกตว่า เวลาเติมเงินไป (ครั้งละหลายร้อยบาท) แต่เงินอยู่ได้แค่ประมาณสัปดาห์กว่าๆ ทั้งๆ ที่ไม่ได้โทรออกมากเท่าไหร่นัก โทรศัพท์ที่คุณแม่ใช้เป็นแบบเบสิคสุดๆ ค่ะ ทำได้แค่โทรเข้าโทรออกและรับ-ส่งข้อความเท่านั้น ตอนที่คุณแม่บ่นเรื่องนี้ให้ฟังก็คิดเอาเองว่า คุณแม่คงจะคุยเพลินแล้วไม่รู้ตัว นึกถึงแต่เรื่องที่อาจจะเป็นไปได้คือการอัพเดทข้อมูลอัตโนมัติของโทรศัพท์แบบสมาร์ทโฟน ซึ่งเป็นไปไม่ได้เลยในกรณีของมือถือแบบที่คุณแม่ใช้อยู่
จนกระทั่งคุณแม่พูดถึงข้อความที่เข้ามาในมือถือโดยไม่ได้สมัครอะไรทั้งนั้น ส่งมาเกี่ยวกับดวงว่าจะเจอเนื้อคู่ยังงั้นยังงี้ คุณพ่อเป็นคนอ่านให้ฟังแล้วหงุดหงิด ว่าอายุป่านนี้แล้วยังจะรับข้อความแบบนี้อีก เป็นเรื่องเถียงกันในครอบครัวแบบไม่เป็นเรื่องไปอีก แต่หลังจากนั้นก็เลยมานึกถึงว่าข้อความเหล่านี้หรือเปล่าที่ทำให้เงินที่คุณแม่เติมไปหายไปอย่างรวดเร็ว ถามเจ้าตัวก็บอกว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะไม่เคยสมัครอะไรพวกนี้เลย คุณแม่คิดว่ายังไงก็ฟรี แค่อาจจะพยายามโฆษณาให้รับบริการเท่านั้น ก็แค่ทนรำคาญกันไป
จนกระทั่งดิฉันนึกเอะใจ หาข้อมูลในอินเตอร์เนท แล้วจึงได้ทราบว่าแต่ละข้อความที่คุณแม่ได้รับโดยไม่เต็มใจนั้นจะต้องเสียเงินค่าบริการ แต่ละวันต้องรับหลายข้อความมาก บางวันเกือบสิบ เป็นสาเหตุให้เงินหลายร้อยบาทหายไปภายในเวลาไม่นาน เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นต่อเนื่องมาเป็นเวลาหลายเดือนแล้ว คุณแม่ต้องเสียเงินไปเป็นพันบาท (และอาจจะหลายพัน ดิฉันไม่แน่ใจในส่วนนี้ เพราะไม่สามารถเช็คได้)
ดิฉันเองทราบว่า เราสามารถพยายามยกเลิกบริการนี้เองได้ทางอินเตอร์เนท หรือโทรไปหมายเลขที่ทาง AIS ให้มา แต่นั่นเป็นการแก้ไขปัญหาที่ปลายเหตุ
ดิฉันเองอดคิดไม่ได้ว่าทาง AIS ได้ผลประโยชน์จากบริการในลักษณะนี้ด้วยหรือเปล่า ทำให้ไม่ได้มีการดูแลอย่างจริงจัง เพราะปัญหานี้คงไม่ได้เกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ และก็ยังคงจะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นต่อไปเรื่อยๆ อีกนาน
ในต่างประเทศที่ดิฉันศึกษาอยู่ไม่เคยมีมิจฉาชีพในลักษณะนี้เกิดขึ้นเลย ถ้าจะมีเรื่องให้เสียเงินโดยไม่เต็มใจก็อาจจะเป็นเรื่องของการอัพเดทข้อมูลสมาร์ทโฟนอัตโนมัติโดยไม่ได้สมัครบริการอินเตอร์เนทรายเดือนไว้ ซึ่งพอจะเข้าใจได้ ดิฉันไม่ทราบว่าทำไมในต่างประเทศจึงสามารถจัดการกับมิจฉาชีพในลักษณะนี้มิให้เกิดขึ้นได้ เพราะทางราช่การเขาเอาจริงอย่างนั้นหรือ หรือเพราะผู้ให้บริการเลือกที่จะแข่งขันกันในด้านการบริการและดูแลลูกค้าอย่างดี เพื่อให้เป็นผู้นำตลาด แทนการที่อาจจะได้รับผลประโยชน์บางส่วนจากการปล่อยให้มีการกระทำแบบนี้ขึ้น (ตรงนี้ดิฉันขอสงวนไว้ว่าดิฉันเพียงแค่สงสัย โดยไม่มีหลักฐานใดๆ มายืนยันนะคะ)
ดิฉันจึงอยากจะขอเรียกร้องทาง AIS ให้แสดงความรับผิดชอบ มากกว่าเพียงแค่ขอให้ลูกค้ายกเลิกบริการนี้ด้วยตนเอง ซึ่งกว่าจะส่งผลคืออีก 2 วัน นั่นหมายความว่าใน 2 วันจากนี้ก็ยังต้องเสียค่าบริการเหล่านี้ต่อไปเรื่อยๆ และยังไม่มีใครออกมารับผิดชอบเงินในส่วนที่เสียไปแล้วด้วย และมันก็จะต้องเป็นอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆ อย่างนั้นหรือคะ และในแต่ละครั้งที่มีเหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้น ก็จะต้องมีคนเสียเงินไปหลายสิบบาท เพราะยังไงก็จะต้องทนไป 2 วัน ถึงแม้ว่าจะรู้ตัวและยกเลิกบริการในทันทีที่ได้รับข้อความแรกก็ตาม
สำหรับหมายเลขโทรศัพท์ของคุณแม่ ดิฉันขออนุญาตส่งไปทางข้อความส่วนตัว หลังจากได้รับการติดต่อกลับจาก AIS ทางนี้นะคะ
ดิฉันเชื่อว่า คุณแม่เป็นเพียงหนึ่งในลูกค้าสูงอายุที่ไม่ได้ระมัดระวังในเรื่องเหล่านี้มากนัก และไม่ได้จินตนาการเกี่ยวกับมิจฉาชีพในลักษณะนี้ ดิฉันรู้สึกแย่ๆ มากๆ เมื่อเห็นว่าสามารถเกิดกรณีแบบนี้ได้กับคนอายุ 70 ที่แทบจะป้องกันตัว หรือตามเทคโนโลยีเหล่านี้ไม่ได้เลย
ขอให้ทาง AIS มาดูแลเรื่องนี้โดยเร็วด้วยนะคะ
คุณแม่อายุเกือบ 70 ได้รับข้อความในมือถือโดยไม่ได้สมัคร AIS จะช่วยดูแลรับผิดชอบยังไงบ้างคะ
ระยะหลังไม่กี่เดือนมานี้ คุณแม่เพิ่งจะสังเกตว่า เวลาเติมเงินไป (ครั้งละหลายร้อยบาท) แต่เงินอยู่ได้แค่ประมาณสัปดาห์กว่าๆ ทั้งๆ ที่ไม่ได้โทรออกมากเท่าไหร่นัก โทรศัพท์ที่คุณแม่ใช้เป็นแบบเบสิคสุดๆ ค่ะ ทำได้แค่โทรเข้าโทรออกและรับ-ส่งข้อความเท่านั้น ตอนที่คุณแม่บ่นเรื่องนี้ให้ฟังก็คิดเอาเองว่า คุณแม่คงจะคุยเพลินแล้วไม่รู้ตัว นึกถึงแต่เรื่องที่อาจจะเป็นไปได้คือการอัพเดทข้อมูลอัตโนมัติของโทรศัพท์แบบสมาร์ทโฟน ซึ่งเป็นไปไม่ได้เลยในกรณีของมือถือแบบที่คุณแม่ใช้อยู่
จนกระทั่งคุณแม่พูดถึงข้อความที่เข้ามาในมือถือโดยไม่ได้สมัครอะไรทั้งนั้น ส่งมาเกี่ยวกับดวงว่าจะเจอเนื้อคู่ยังงั้นยังงี้ คุณพ่อเป็นคนอ่านให้ฟังแล้วหงุดหงิด ว่าอายุป่านนี้แล้วยังจะรับข้อความแบบนี้อีก เป็นเรื่องเถียงกันในครอบครัวแบบไม่เป็นเรื่องไปอีก แต่หลังจากนั้นก็เลยมานึกถึงว่าข้อความเหล่านี้หรือเปล่าที่ทำให้เงินที่คุณแม่เติมไปหายไปอย่างรวดเร็ว ถามเจ้าตัวก็บอกว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะไม่เคยสมัครอะไรพวกนี้เลย คุณแม่คิดว่ายังไงก็ฟรี แค่อาจจะพยายามโฆษณาให้รับบริการเท่านั้น ก็แค่ทนรำคาญกันไป
จนกระทั่งดิฉันนึกเอะใจ หาข้อมูลในอินเตอร์เนท แล้วจึงได้ทราบว่าแต่ละข้อความที่คุณแม่ได้รับโดยไม่เต็มใจนั้นจะต้องเสียเงินค่าบริการ แต่ละวันต้องรับหลายข้อความมาก บางวันเกือบสิบ เป็นสาเหตุให้เงินหลายร้อยบาทหายไปภายในเวลาไม่นาน เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นต่อเนื่องมาเป็นเวลาหลายเดือนแล้ว คุณแม่ต้องเสียเงินไปเป็นพันบาท (และอาจจะหลายพัน ดิฉันไม่แน่ใจในส่วนนี้ เพราะไม่สามารถเช็คได้)
ดิฉันเองทราบว่า เราสามารถพยายามยกเลิกบริการนี้เองได้ทางอินเตอร์เนท หรือโทรไปหมายเลขที่ทาง AIS ให้มา แต่นั่นเป็นการแก้ไขปัญหาที่ปลายเหตุ ดิฉันเองอดคิดไม่ได้ว่าทาง AIS ได้ผลประโยชน์จากบริการในลักษณะนี้ด้วยหรือเปล่า ทำให้ไม่ได้มีการดูแลอย่างจริงจัง เพราะปัญหานี้คงไม่ได้เกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ และก็ยังคงจะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นต่อไปเรื่อยๆ อีกนาน
ในต่างประเทศที่ดิฉันศึกษาอยู่ไม่เคยมีมิจฉาชีพในลักษณะนี้เกิดขึ้นเลย ถ้าจะมีเรื่องให้เสียเงินโดยไม่เต็มใจก็อาจจะเป็นเรื่องของการอัพเดทข้อมูลสมาร์ทโฟนอัตโนมัติโดยไม่ได้สมัครบริการอินเตอร์เนทรายเดือนไว้ ซึ่งพอจะเข้าใจได้ ดิฉันไม่ทราบว่าทำไมในต่างประเทศจึงสามารถจัดการกับมิจฉาชีพในลักษณะนี้มิให้เกิดขึ้นได้ เพราะทางราช่การเขาเอาจริงอย่างนั้นหรือ หรือเพราะผู้ให้บริการเลือกที่จะแข่งขันกันในด้านการบริการและดูแลลูกค้าอย่างดี เพื่อให้เป็นผู้นำตลาด แทนการที่อาจจะได้รับผลประโยชน์บางส่วนจากการปล่อยให้มีการกระทำแบบนี้ขึ้น (ตรงนี้ดิฉันขอสงวนไว้ว่าดิฉันเพียงแค่สงสัย โดยไม่มีหลักฐานใดๆ มายืนยันนะคะ)
ดิฉันจึงอยากจะขอเรียกร้องทาง AIS ให้แสดงความรับผิดชอบ มากกว่าเพียงแค่ขอให้ลูกค้ายกเลิกบริการนี้ด้วยตนเอง ซึ่งกว่าจะส่งผลคืออีก 2 วัน นั่นหมายความว่าใน 2 วันจากนี้ก็ยังต้องเสียค่าบริการเหล่านี้ต่อไปเรื่อยๆ และยังไม่มีใครออกมารับผิดชอบเงินในส่วนที่เสียไปแล้วด้วย และมันก็จะต้องเป็นอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆ อย่างนั้นหรือคะ และในแต่ละครั้งที่มีเหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้น ก็จะต้องมีคนเสียเงินไปหลายสิบบาท เพราะยังไงก็จะต้องทนไป 2 วัน ถึงแม้ว่าจะรู้ตัวและยกเลิกบริการในทันทีที่ได้รับข้อความแรกก็ตาม
สำหรับหมายเลขโทรศัพท์ของคุณแม่ ดิฉันขออนุญาตส่งไปทางข้อความส่วนตัว หลังจากได้รับการติดต่อกลับจาก AIS ทางนี้นะคะ
ดิฉันเชื่อว่า คุณแม่เป็นเพียงหนึ่งในลูกค้าสูงอายุที่ไม่ได้ระมัดระวังในเรื่องเหล่านี้มากนัก และไม่ได้จินตนาการเกี่ยวกับมิจฉาชีพในลักษณะนี้ ดิฉันรู้สึกแย่ๆ มากๆ เมื่อเห็นว่าสามารถเกิดกรณีแบบนี้ได้กับคนอายุ 70 ที่แทบจะป้องกันตัว หรือตามเทคโนโลยีเหล่านี้ไม่ได้เลย
ขอให้ทาง AIS มาดูแลเรื่องนี้โดยเร็วด้วยนะคะ