ตั้งแต่แม่พ่อเสีย น้องแยกบ้าน มี ญ ไม่ว่ามีหรือไม่มีลูก คอยหาช่องทางจะเข้ามาอยู่ มาเช่า ทำไมคนพวกนี้มาเรื่อย -*-

ถ้าคนในพื้นที่ มักรู้สถานะตัวตนเรา ไม่ค่อยกล้า เพราะกลัวข้อหาบุกรุก เราติดกล้อง แจ้งความเลย
แต่คนที่ "รู้จัก3ปีล่าสุด หลังรู้ว่าแม่พ่อเสีย มักฉวยโอกาส จะมาค้างบ้าง ขอเช่าบ้าง หอบลูกหอบเต้ามาให้เราสยอง
หรือผู้ชายยุโรปที่ไม่ใช่แฟน มาขอเช่าบ้านอยู่ร่วมกะเรา ชั่วคราว เราสยอง! - -"

เราปฏิเสธไปทั้ง soft และ hard แรงล่าสุด " เราไม่ต้องการมาซักผ้าปูที่นอน เก็บผมในห้องน้ำ ไม่มีที่นอน หรือแอร์ให้แขก
มีแค่ออฟฟิศลูกค้า เราไม่มีคนใช้  ต้องการความเป็นส่วนตัว เราไม่ต้องการมาดูลูกให้ใคร  มาตามเก็บล้าง อะไรๆที่ไม่เรียบร้อย
และไม่ต้องการให้ใครมาเข้านอก ออกในบ้านเรา เป็นอพาร์ทเม้นท์ชั่วคราว แล้วเราจะเดินทางไปไหนที ต้องมาระแวงว่าจะทำ
บ้านเราเละตุ้มเปะอีก สยอง!  "

นอกจากพวกจะค้าง มาอยู่แล้ว ยังมีพวก
" มาใช้เราทำงานฟรี ... พวกนี้ได้คืบจะเอา ของฟรี! พอบอกว่า คิดตัง หายหัวไปเลย ผู้หญิง
" มาเอาชื่อเข้าทะเบียนบ้าน  ทำตาดุ เสียงแข็งกลับ " ไม่ได้ " แล้วก็ไม่ซื้อของ ไม่เป็นลูกค้าอีก ทำตัวห่างๆ ช่างกล้า!
" มาขอเอาชื่อเข้ากิจการไปทำธุรกรรมการเงินของเค้า (ดีที่เราไม่ได้จด) "
   รอดตัวไป หลังปรึกษาออดิทเรา อยู่งี้ดีแล้ว จดแล้วโน่น นี่ภัยวิ่งมาเยอะ
  
ญาตินี่ไม่กล้า ไม่มาแซงชั่นงี้ เพราะเราตัดตั้งแต่ตอนแม่ป่วย งานศพพ่อ แจ้งความอาญาไว้ ตั้งแต่ตอนข่มขู่ มือปืน)

ถ้าผู้เช่า เรา invite เฉพาะที่ใช่จริงๆ และไม่ต้องเข้ามารบกวนความเป็นส่วนตัวให้เราหวาดระแวง เวลานอนเรา
ที่ไม่ใช่เมืองไทย 9 ปีที่ผ่านมา . . .ความเกรงใจเป็นสมบัติของผู้ดี  ไม่ว่าลูกค้า คู่ค้า หรือผู้เช่าที่ดี กว่า 5 ปีที่ผ่านมา
มักไม่เคยแสดงการละเมิด เอาเปรียบ หรือจ้องฉวยโอกาสในความสูญเสียบุพการี หรือ คนในครอบครัวเดิมที่แยกจากไป . . .

ใครเคยประสบสถานการณ์ชีวิตเช่นข้างต้น แล้วมีวิธี จัดการกับคนข้างต้นนี้ เพิ่มเติมอย่างไรบ้าง ...
ครั้งนี้ เราใช้วิธีจัดการทางธุรกิจสมัยเริ่มแรกๆ จัดการกับคนเหล่านี้
แต่ใน ระยะยาว เราต้องมี หลักใหม่ คู่ชีวิต ที่เป็น ไม้ทองคำกันหมาของจริง
แต่เราก็รออยู่ เร่งไม่ได้ ก่อนนี้ แม่พ่อ ก็เป็นฉัตรกั้นเกศ ไม้ทองคำให้เรา ให้จนพวกเค้าตายตามกันไปล่าสุด ...

วานแชร์ประสบการณ์ชีวิต ...