ฉันอดไม่ได้ที่จะตั้งคำถามสำคัญเกี่ยวกับทีมหญิงไทย ที่อาจเป็นปัญหาลึก ๆ ที่หลายคนเคยพูดไป/พวกแบกมองข้าม
1. ความแตกต่างทางกายภาพ: เมื่อ "ความแข็งแกร่ง" ไม่ใช่แค่คำกล่าวอ้าง
จากการสังเกตนักวอลเลย์บอลหญิงทีมท็อปของโลกอย่างอิตาลี, บราซิล, สหรัฐอเมริกา, ญี่ปุ่น, ..
นกฬ.แข็งแรง กล้ามเนื้อชัดเจน เคลื่อนไหวคล่องแคล่ว ไม่บาดเจ็บง่าย เป็นปัจจัยสำคัญมาก
🇹🇭แต่นักกีฬาไทยกลับแตกต่าง รูปร่างและสมรรถภาพทางกายดูไม่ต่างจากกีฬาทั่วไป เทียบไม่ได้กับมาตรฐานทีมชั้นนำ (ตั้งเป้าหมายสู่ระดับโลก เหตุใดข้อบกพร่องพื้นฐานนี้จึงยังไม่ได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง?คร๊าาาา)
2. การบริหารจัดการผู้เล่นที่ไร้ทิศทาง: เมื่อ "ทุกรายการ" คือรายการสำคัญ
อีกประเด็นคือ การจัดสรรผู้เล่นที่ขาดความหลากหลาย เรามักเห็นผู้เล่นตัวหลักลงสนามในแทบทุกรายการ ซึ่งสวนทางกับแนวทางของทีมระดับโลกที่กล้าทดลองใช้ผู้เล่นชุด B หรือ C เพื่อพัฒนาฝีมือและสร้างความลึกของทีม อย่างมองว่าซีเกมส์เป็นเพียง "รายการทำเงิน"ของนกฬ. อาจสะท้อนถึงปัญหาวิสัยทัศน์ในการจัดลำดับความสำคัญ เป็นการ "เอื้อประโยชน์" กันในทีมหรือเปล่า? แทนที่จะสร้างทีมที่แข็งแกร่งเพื่ออนาคต การไม่กล้าส่งผู้เล่นหน้าใหม่ลงสนามเพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ ทำให้เราขาดนักกีฬาที่มีศักยภาพเพียงพอที่จะก้าวขึ้นมาทดแทน
3. "ครอบครัว" (เมื่อความผูกพันกลายเป็นอุปสรรค)
🇹🇭 วัฒนธรรม "ครอบครัว" ที่ดูเหมือนจะครอบงำทีมชาติไทยจนเกินงาม ในโลกกีฬาอาชีพ สิ่งสำคัญคือความเป็นมืออาชีพ ความมุ่งมั่น และสมาธิในการแข่งขัน
ลองสังเกตฟอร์มการเล่นของทีมอย่างบราซิล, ญี่ปุ่น, อิตาลี หรือตุรกี ทุกครั้งที่ลงเล่นจะมุ่งมั่นและมีสมาธิที่แน่วแน่มากกกก จดจ่ออยู่กับเกม เมื่อผิดพลาดก็รีบแก้ไข ไม่มีโอ๋หรือปลอบโยนที่มากเกินไป เพราะนี่คือสนามแข่งขัน
🇹🇭ส่วนทีมไทยนั้นน ความสัมพันธ์แบบ "ครอบครัว" ที่แน่นแฟ้นเกินไปอาจทำให้เกิดความเกรงใจ ไม่กล้าตำหนิ หรือลงโทษอย่างจริงจัง ราวกับ "รักลูกมากจนลูกมาก่อน" สิ่งนี้ส่งผลโดยตรงต่อสภาพจิตใจนักกีฬา ทำให้ขาดความเข้มแข็งและยังติดอยู่ในวังวนของความเป็น "เด็ก" ไม่สามารถก้าวสู่ความเป็นมืออาชีพได้เต็มที่ แม้จะฝึกสมาธิ แต่ดูเหมือนระดับสมาธิของนักกีฬาไทยยังห่างไกลจากชาติอื่น
นี่คือความผิดพลาดที่สะสมมาจากการยึดติดกับความเป็น "ครอบครัว" การเอื้อประโยชน์ให้กัน และการไม่เปิดรับคนนอกที่มีความรู้ความสามารถเข้ามาช่วยพัฒนาทีม แม้กระทั่งการบริหารจัดการ เรายังเห็นการดึงคนใกล้ชิดเข้ามาทำงาน แทนที่จะเฟ้นหาผู้เชี่ยวชาญจากภายนอก ซึ่งฉันเชื่อว่าประเทศไทยยังมีบุคลากรเก่ง ๆ อีกมาก แต่กลับไม่ได้รับการคัดสรรเข้ามาพัฒนาวงการวอลเลย์บอล
วอลเลย์บอลหญิงไทย: นักกีฬาอาชีพ หรือแค่ "ครอบครัว" ที่ขาดความเข้มข้น?
1. ความแตกต่างทางกายภาพ: เมื่อ "ความแข็งแกร่ง" ไม่ใช่แค่คำกล่าวอ้าง
จากการสังเกตนักวอลเลย์บอลหญิงทีมท็อปของโลกอย่างอิตาลี, บราซิล, สหรัฐอเมริกา, ญี่ปุ่น, ..
นกฬ.แข็งแรง กล้ามเนื้อชัดเจน เคลื่อนไหวคล่องแคล่ว ไม่บาดเจ็บง่าย เป็นปัจจัยสำคัญมาก
🇹🇭แต่นักกีฬาไทยกลับแตกต่าง รูปร่างและสมรรถภาพทางกายดูไม่ต่างจากกีฬาทั่วไป เทียบไม่ได้กับมาตรฐานทีมชั้นนำ (ตั้งเป้าหมายสู่ระดับโลก เหตุใดข้อบกพร่องพื้นฐานนี้จึงยังไม่ได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง?คร๊าาาา)
2. การบริหารจัดการผู้เล่นที่ไร้ทิศทาง: เมื่อ "ทุกรายการ" คือรายการสำคัญ
อีกประเด็นคือ การจัดสรรผู้เล่นที่ขาดความหลากหลาย เรามักเห็นผู้เล่นตัวหลักลงสนามในแทบทุกรายการ ซึ่งสวนทางกับแนวทางของทีมระดับโลกที่กล้าทดลองใช้ผู้เล่นชุด B หรือ C เพื่อพัฒนาฝีมือและสร้างความลึกของทีม อย่างมองว่าซีเกมส์เป็นเพียง "รายการทำเงิน"ของนกฬ. อาจสะท้อนถึงปัญหาวิสัยทัศน์ในการจัดลำดับความสำคัญ เป็นการ "เอื้อประโยชน์" กันในทีมหรือเปล่า? แทนที่จะสร้างทีมที่แข็งแกร่งเพื่ออนาคต การไม่กล้าส่งผู้เล่นหน้าใหม่ลงสนามเพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ ทำให้เราขาดนักกีฬาที่มีศักยภาพเพียงพอที่จะก้าวขึ้นมาทดแทน
3. "ครอบครัว" (เมื่อความผูกพันกลายเป็นอุปสรรค)
🇹🇭 วัฒนธรรม "ครอบครัว" ที่ดูเหมือนจะครอบงำทีมชาติไทยจนเกินงาม ในโลกกีฬาอาชีพ สิ่งสำคัญคือความเป็นมืออาชีพ ความมุ่งมั่น และสมาธิในการแข่งขัน
ลองสังเกตฟอร์มการเล่นของทีมอย่างบราซิล, ญี่ปุ่น, อิตาลี หรือตุรกี ทุกครั้งที่ลงเล่นจะมุ่งมั่นและมีสมาธิที่แน่วแน่มากกกก จดจ่ออยู่กับเกม เมื่อผิดพลาดก็รีบแก้ไข ไม่มีโอ๋หรือปลอบโยนที่มากเกินไป เพราะนี่คือสนามแข่งขัน
🇹🇭ส่วนทีมไทยนั้นน ความสัมพันธ์แบบ "ครอบครัว" ที่แน่นแฟ้นเกินไปอาจทำให้เกิดความเกรงใจ ไม่กล้าตำหนิ หรือลงโทษอย่างจริงจัง ราวกับ "รักลูกมากจนลูกมาก่อน" สิ่งนี้ส่งผลโดยตรงต่อสภาพจิตใจนักกีฬา ทำให้ขาดความเข้มแข็งและยังติดอยู่ในวังวนของความเป็น "เด็ก" ไม่สามารถก้าวสู่ความเป็นมืออาชีพได้เต็มที่ แม้จะฝึกสมาธิ แต่ดูเหมือนระดับสมาธิของนักกีฬาไทยยังห่างไกลจากชาติอื่น
นี่คือความผิดพลาดที่สะสมมาจากการยึดติดกับความเป็น "ครอบครัว" การเอื้อประโยชน์ให้กัน และการไม่เปิดรับคนนอกที่มีความรู้ความสามารถเข้ามาช่วยพัฒนาทีม แม้กระทั่งการบริหารจัดการ เรายังเห็นการดึงคนใกล้ชิดเข้ามาทำงาน แทนที่จะเฟ้นหาผู้เชี่ยวชาญจากภายนอก ซึ่งฉันเชื่อว่าประเทศไทยยังมีบุคลากรเก่ง ๆ อีกมาก แต่กลับไม่ได้รับการคัดสรรเข้ามาพัฒนาวงการวอลเลย์บอล