สิ่งหนึ่งที่ชวยให้การลดความอ้วนได้ผลที่สุด หนีไม่พ้นเรื่องของการออกกำลังกาย แต่การออกกำลังกายสำหรับสาวออฟฟิศอย่างเราๆ มองดูเป็นเรื่องใหญ่เสียจริง ประหนึ่งว่าเป็นกิจกรรมสำคัญในชีวิต เสื้อผ้าต้องเป๊ะ สถานที่ต้องพร้อม และต้องมีเวลา เจ้าปัจจัยสุดท้ายนี่ล่ะตัวการใหญ่เลยทีเดียว เพราะกว่าจะเลิกงานก็เหนื่อยมากเลย การที่จะมาวิ่งอีก ปั่นจักรยาน หรือเต้นแอโรบิกอีกนี่ดูเป็นเรื่องที่แค่คิดก็เหนื่อยขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผลเสียแล้ว
คิดว่าหลายๆ คนคงอยู่ในภาวะนี้ค่ะ ซึ่งถ้าปล่อยทิ้งไว้นานๆ รับรองว่าความขี้เกียจเข้าเกาะกุมทั้งร่างกายและจิตใจคุณแน่ๆ ถึงเวลานั้นเรื่องที่จะลุกขึ้นขยับขยายร่างกายอีกก็เป็นเรื่องยากซะแล้ว ที่สำคัญคือการออกกำลังกายไม่ใช่จะดีต่อการลดความอ้วนเท่านั้นนะจ๊ะ แต่ยังดีต่อสุขภาพโดยรวมอีกด้วย อย่ากระนั้นเลย เรามาหาหนทางในการสร้างกำลังใจเพื่อออกกำลังกายกันดีกว่า
“เวลา”มีอยู่เสมอ
หลายคนมักบอกว่าเลิกงานแล้วก็ “ไม่มีเวลา” เลยไม่ออกกำลังกาย แต่มีเวลาไปกิน ไป Hang out กับเพื่อนเสมอ ทั้งๆ ที่เป็นเวลาเดียวกัน น่างงไหมจ๊ะ นั่นไม่ใช่เพราะคุณไม่มีเวลาค่ะ แต่เป็นเพราะคุณบริหารเวลาไม่เป็นมากกว่า เวลาที่จะออกกำลังกายนั้นไม่ต้องใช้เวลานานมากมายเลยค่ะ เพียงแค่ 1 ชั่วโมง 30 นาทีต่อวันก็เพียงพอแล้ว ที่ร่างกายจะได้ขยับขยายเคลื่อนย้ายบ้าง โดย 30 นาทีแรกเป็นการ Warm up ร่างกาย ต่อด้วยการออกกำลังกายที่เสริมสร้างกล้ามเนื้อและลดนั้นไขมันอย่างแท้จริงและ 30 นาทีสุดท้ายจะเป็นการ Cool down เพื่อปรับสภาพร่างกายให้เข้าสู่ภาวะปกติอีกครั้ง ไม่ได้ใช้เวลามากมายเลยจริงไหมคะ
หาแรงบันดาลใจ
ถ้าใครมีดาราเป็นแรงบันดาลใจก็แปะรูปหล่อนให้ทั่วบ้านเลยค่ะ เอาให้หลอนตัวเองกันไป จะได้มีแรงใจที่จะอยากเหมือนเค้าบ้าง แต่ถ้าบางคนเห็นว่าดาราไอดอลช่างไกลตัว ชีวิตนี้ไม่รู้จะได้เจอตัวจริงไหม แรงบันดาลใจไม่เกิด ให้มองหาสาวๆ หุ่นดีๆ ที่มีมากมายในฟิตเนสเป็นแรงบันดาลใจเลยคะ อย่ามัวแต่ไปคิดว่ายัยนี่ผอมจนจะเป็นไม้เสียบผีอยู่แล้ว จะมาออกกำลังกายทำไมยะ? สาวๆ พวกนี้หุ่นดีจนน่าอิจฉาจริงไหมคะ มาเปลี่ยนความอิจฉาให้เป็นพลังใจดีกว่า คิดซะว่าอีกไม่นา เราจะเป็นเหมือนเค้ากันค่ะ!
ทำอะไรที่ใจชอบ
ใครๆ ก็อยากทำในสิ่งที่ตัวเองชอบอยู่แล้ว การออกกำลังกายก็เช่นกัน เลือกออกในอย่างที่ชอบย่อมทำให้เราอยากทำและทำได้นานกว่า ถ้าชอบทำอะไรคนเดียวการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอก็เหมาะกับคุณ ค่ะพวกเครื่องเล่นทั้งหลายทั้งแหล่นั่นแหละ แต่ถ้าเป็นสาวสังคม Social จ๋า ลองเข้า Group ต่างๆ ดูไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกายแบบเต้น ชอบแบบหนักหน่วงๆ ให้แบบผสมผสานมวยสากล แบบผสมผสานศาสตร์การต่อสู้อื่นๆ ชอบเบาๆ ก็ลองโยคะ ไทชิ หรือ Body Balance น่าจะเหมาะ ใครงบฯ ไม่ถึงก็ไม่ต้องขวนขวายไปเป็นสมัครสมาชิกฟิตเนสให้สิ้นเปลือง แค่หาสวนสาธารณะใหญ่ๆ แล้วเค้าไปแจมเลยค่ะ อาจจะต้องตื่นเช้าหน่อย เพื่อนร่วมคลาสสูงอายุไปนิด แต่ประหยัดได้เยอะค่ะ
หาเพื่อนร่วมอุดมการณ์
มนุษย์โซเชี่ยลอย่างเราจะออกกำลังกาย (นิ้ว) แต่ในโซเชียลมีเดียคงไม่ผอมเป็นแน่แท้ ควรหาเพื่อนร่วมอุดมการณ์ให้เจอค่ะ เพราะอย่างน้อยการมีเพื่อนสักคนไปออกกำลังกายด้วย ก็จะไม่ทำให้คุณเบื่อเหงา หรือกดดันมากเกินไป บางครั้งเพื่อนก็ทำให้เกิดกำลังใจได้อีกด้วย (เพราะเราลดได้มากกว่า 555+) แต่บางครั้งก็สร้างความกดดันกันดื้อๆ (ปวดใจเพราะเพื่อนแซงหน้าผอมไปแล้ว) แต่ก็นั่นล่ะค่ะ อย่างน้อยเราก็สามารถให้กำลังใจและแลกเปลี่ยนเรื่องราวต่างๆ กันได้ง่ายขึ้น ยังไงๆ สองหัวย่อมดีกว่าหัวเดียวล่ะค่ะ
เอาความคิดที่ว่าการออกกำลังกายเป็นเรื่องใหญ่ออกไปเลยค่ะ บางคนคิดว่าต้องมีรองเท้าดีๆ ชั้นถึงจะวิ่งได้ ต้องเป็นเมมเบอร์ฟิตเนสดังๆ ถึงจะอยากออกกำลังกาย ต้องมีชุดออกกำลังกายเก๋ๆ ชั้นถึงอยากจะไปเข้าคลาส จริงๆ แล้วการออกกำลังกายทำที่ไหนก็ได้ค่ะ คิดอยู่เสมอเลยการออกกำลังกายไม่ใช่เรื่องยากค่ะ อย่างที่มีคำกล่าวว่า “แค่ขยับ เท่ากับออกกำลังกายแล้ว เริ่มที่ความอยาก แล้วสนุกกับมัน แค่นี้คุณก็จะได้ไปออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ได้สุขภาพกายและใจที่ดี แถมมากับน้ำหนักที่ลดลงด้วยค่ะ
ที่มา..lovefitt.com
วิธีการสร้างกำลังใจให้ไปออกกำลังกาย
สิ่งหนึ่งที่ชวยให้การลดความอ้วนได้ผลที่สุด หนีไม่พ้นเรื่องของการออกกำลังกาย แต่การออกกำลังกายสำหรับสาวออฟฟิศอย่างเราๆ มองดูเป็นเรื่องใหญ่เสียจริง ประหนึ่งว่าเป็นกิจกรรมสำคัญในชีวิต เสื้อผ้าต้องเป๊ะ สถานที่ต้องพร้อม และต้องมีเวลา เจ้าปัจจัยสุดท้ายนี่ล่ะตัวการใหญ่เลยทีเดียว เพราะกว่าจะเลิกงานก็เหนื่อยมากเลย การที่จะมาวิ่งอีก ปั่นจักรยาน หรือเต้นแอโรบิกอีกนี่ดูเป็นเรื่องที่แค่คิดก็เหนื่อยขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผลเสียแล้ว
คิดว่าหลายๆ คนคงอยู่ในภาวะนี้ค่ะ ซึ่งถ้าปล่อยทิ้งไว้นานๆ รับรองว่าความขี้เกียจเข้าเกาะกุมทั้งร่างกายและจิตใจคุณแน่ๆ ถึงเวลานั้นเรื่องที่จะลุกขึ้นขยับขยายร่างกายอีกก็เป็นเรื่องยากซะแล้ว ที่สำคัญคือการออกกำลังกายไม่ใช่จะดีต่อการลดความอ้วนเท่านั้นนะจ๊ะ แต่ยังดีต่อสุขภาพโดยรวมอีกด้วย อย่ากระนั้นเลย เรามาหาหนทางในการสร้างกำลังใจเพื่อออกกำลังกายกันดีกว่า
“เวลา”มีอยู่เสมอ
หลายคนมักบอกว่าเลิกงานแล้วก็ “ไม่มีเวลา” เลยไม่ออกกำลังกาย แต่มีเวลาไปกิน ไป Hang out กับเพื่อนเสมอ ทั้งๆ ที่เป็นเวลาเดียวกัน น่างงไหมจ๊ะ นั่นไม่ใช่เพราะคุณไม่มีเวลาค่ะ แต่เป็นเพราะคุณบริหารเวลาไม่เป็นมากกว่า เวลาที่จะออกกำลังกายนั้นไม่ต้องใช้เวลานานมากมายเลยค่ะ เพียงแค่ 1 ชั่วโมง 30 นาทีต่อวันก็เพียงพอแล้ว ที่ร่างกายจะได้ขยับขยายเคลื่อนย้ายบ้าง โดย 30 นาทีแรกเป็นการ Warm up ร่างกาย ต่อด้วยการออกกำลังกายที่เสริมสร้างกล้ามเนื้อและลดนั้นไขมันอย่างแท้จริงและ 30 นาทีสุดท้ายจะเป็นการ Cool down เพื่อปรับสภาพร่างกายให้เข้าสู่ภาวะปกติอีกครั้ง ไม่ได้ใช้เวลามากมายเลยจริงไหมคะ
หาแรงบันดาลใจ
ถ้าใครมีดาราเป็นแรงบันดาลใจก็แปะรูปหล่อนให้ทั่วบ้านเลยค่ะ เอาให้หลอนตัวเองกันไป จะได้มีแรงใจที่จะอยากเหมือนเค้าบ้าง แต่ถ้าบางคนเห็นว่าดาราไอดอลช่างไกลตัว ชีวิตนี้ไม่รู้จะได้เจอตัวจริงไหม แรงบันดาลใจไม่เกิด ให้มองหาสาวๆ หุ่นดีๆ ที่มีมากมายในฟิตเนสเป็นแรงบันดาลใจเลยคะ อย่ามัวแต่ไปคิดว่ายัยนี่ผอมจนจะเป็นไม้เสียบผีอยู่แล้ว จะมาออกกำลังกายทำไมยะ? สาวๆ พวกนี้หุ่นดีจนน่าอิจฉาจริงไหมคะ มาเปลี่ยนความอิจฉาให้เป็นพลังใจดีกว่า คิดซะว่าอีกไม่นา เราจะเป็นเหมือนเค้ากันค่ะ!
ทำอะไรที่ใจชอบ
ใครๆ ก็อยากทำในสิ่งที่ตัวเองชอบอยู่แล้ว การออกกำลังกายก็เช่นกัน เลือกออกในอย่างที่ชอบย่อมทำให้เราอยากทำและทำได้นานกว่า ถ้าชอบทำอะไรคนเดียวการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอก็เหมาะกับคุณ ค่ะพวกเครื่องเล่นทั้งหลายทั้งแหล่นั่นแหละ แต่ถ้าเป็นสาวสังคม Social จ๋า ลองเข้า Group ต่างๆ ดูไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกายแบบเต้น ชอบแบบหนักหน่วงๆ ให้แบบผสมผสานมวยสากล แบบผสมผสานศาสตร์การต่อสู้อื่นๆ ชอบเบาๆ ก็ลองโยคะ ไทชิ หรือ Body Balance น่าจะเหมาะ ใครงบฯ ไม่ถึงก็ไม่ต้องขวนขวายไปเป็นสมัครสมาชิกฟิตเนสให้สิ้นเปลือง แค่หาสวนสาธารณะใหญ่ๆ แล้วเค้าไปแจมเลยค่ะ อาจจะต้องตื่นเช้าหน่อย เพื่อนร่วมคลาสสูงอายุไปนิด แต่ประหยัดได้เยอะค่ะ
หาเพื่อนร่วมอุดมการณ์
มนุษย์โซเชี่ยลอย่างเราจะออกกำลังกาย (นิ้ว) แต่ในโซเชียลมีเดียคงไม่ผอมเป็นแน่แท้ ควรหาเพื่อนร่วมอุดมการณ์ให้เจอค่ะ เพราะอย่างน้อยการมีเพื่อนสักคนไปออกกำลังกายด้วย ก็จะไม่ทำให้คุณเบื่อเหงา หรือกดดันมากเกินไป บางครั้งเพื่อนก็ทำให้เกิดกำลังใจได้อีกด้วย (เพราะเราลดได้มากกว่า 555+) แต่บางครั้งก็สร้างความกดดันกันดื้อๆ (ปวดใจเพราะเพื่อนแซงหน้าผอมไปแล้ว) แต่ก็นั่นล่ะค่ะ อย่างน้อยเราก็สามารถให้กำลังใจและแลกเปลี่ยนเรื่องราวต่างๆ กันได้ง่ายขึ้น ยังไงๆ สองหัวย่อมดีกว่าหัวเดียวล่ะค่ะ
เอาความคิดที่ว่าการออกกำลังกายเป็นเรื่องใหญ่ออกไปเลยค่ะ บางคนคิดว่าต้องมีรองเท้าดีๆ ชั้นถึงจะวิ่งได้ ต้องเป็นเมมเบอร์ฟิตเนสดังๆ ถึงจะอยากออกกำลังกาย ต้องมีชุดออกกำลังกายเก๋ๆ ชั้นถึงอยากจะไปเข้าคลาส จริงๆ แล้วการออกกำลังกายทำที่ไหนก็ได้ค่ะ คิดอยู่เสมอเลยการออกกำลังกายไม่ใช่เรื่องยากค่ะ อย่างที่มีคำกล่าวว่า “แค่ขยับ เท่ากับออกกำลังกายแล้ว เริ่มที่ความอยาก แล้วสนุกกับมัน แค่นี้คุณก็จะได้ไปออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ได้สุขภาพกายและใจที่ดี แถมมากับน้ำหนักที่ลดลงด้วยค่ะ
ที่มา..lovefitt.com