สัตว์ที่เกิดกลับมาสู่หมู่มนุษย์มีน้อย เพราะไม่รู้อริยสัจ






คำถาม : สัตว์ที่กลับมาเกิด หรือสัตว์ที่ลงสู่ครรภ์ นี้ มาจากไหน?



ดูกรภิกษุทั้งหลาย เพราะถือมั่นธาตุ ๖ สัตว์จึงลงสู่ครรภ์
เมื่อมีการลงสู่ครรภ์ จึงมีนามรูป เพราะนามรูปเป็นปัจจัย จึงมีสฬายตนะ ...



เหตุแห่งการเกิดในครรภ์ ต้องมีปัจจัย ๓ อย่างพร้อมกันคือ
มารดาบิดาอยู่ร่วมกันด้วย มารดามีระดูด้วย ทารกที่จะมาเกิด ก็ปรากฏด้วย

พระอรรถกถาจารย์ (รวมทั้งท่านพระพรหมคุณาภรณ์) ต่างก็เห็นตรงกันว่า
คันธัพพะคือ ทารก/สัตว์ที่จะมาเกิด

และก็จะไม่ขัดแย้งกับพระพุทธพจน์ใดๆ เลย



แต่หากคันธัพพะ แปลว่า อสุจิ (Sperm) ก็แสดงว่า พระพุทธพจน์ที่ว่า
สังสารวัฏนี้ยาวนาน หาเบื้องต้นเบื้องปลายไม่ได้  ก็ย่อมผิด


หากคันธัพพะ แปลว่า อสุจิ สังสารวัฏย่อมหาเบื้องต้นได้ คืออยู่ๆ สัตว์เกิดมาเฉยๆ ไม่ได้สืบต่อมาจากที่ไหน

แปลว่า ไม่มีสังสารวัฏ หรือว่ามีเพียงชั่วอายุคน 1 คน  สัตว์ 1 วงจร

หรือถ้ามีก็เรียกว่า มีเพียง ภพชาตินี้ เท่านั้น  

นั่นแปลว่า ย่อมกำหนดเบื้องต้นได้ กำหนดเบื้องปลายได้ คือเกิดมาตายแล้วสูญ

ดังนั้น คำว่า สัตว์ที่มาเกิด (คันธัพพะ) ไม่ใช่อสุจิ

นอกจากนี้ อสุจิ ไม่ใช่สัตว์ แต่เป็นเซลล์



หากคันธัพพะ แปลว่า อสุจิ ย่อมขัดกับพระพุทธพจน์อื่นๆ ทั้งหมด และมีคำถามตามมาต่างๆ มากมาย เช่น

คำว่า อสุจิ บาลีคือ สุกกะ
ทำไม พระพุทธองค์จึงไม่ใช้คำว่า สุกกะ แทนคำว่า คันธัพพะ?

"สัตว์กลับมาเกิดเป็นมนุษย์มีน้อย"   << แล้วเดิม สุกกะ เป็นมนุษย์ หรือ?

"สัตว์กลับมาเกิดเป็นอย่างอื่นจากหมู่มนุษย์มีมากกว่า" << ถ้าคันธัพพะ คือ อสุจิ เชื้อจากฝ่ายบิดา นั้น
แปลว่า อสุจิ หรือสุกกะ นั้น กลับมาเกิดเป็นอย่างอื่นได้อย่างนั้นหรือ สิ่งนั้นคืออะไร?

เชื้อฝ่ายบิดา คือ สุกกะ เวียนว่ายตายเกิดในสังสารวัฏตามพระสูตรข้างบนนี้ได้อย่างไร?

คันธัพพะ คือ เชื้อฝ่ายบิดา นั้น มีตรัสไว้ตรงไหน พระสูตรใด?
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  พระไตรปิฎก มหาสติปัฏฐาน 4
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่