เรื่องมีอยู่ว่าวันนี้เดินผ่านห้างแห่งหนึ่ง พบว่าตรงชั้นหนึ่ง จัดบู้ทขายหนังสือลดราคาอยู่พอดี ก็เลยแวะเข้าไปดูครับ
พบว่ามีหนังสือประเภท หัดเรียนภาษาญี่ปุ่นด้วยตัวเอง คู่มือพูดภาษาญี่ปุ่นเป็นเร็วภายใน xx ชั่วโมง (หรือ กี่วัน ๆ ก็ว่ากันไป) ออกมาเยอะมาก
ในใจก็นึก... อืม หนังสือพวกนี้ก็ออกมาเยอะ ตามหลักอุปสงค์อุปทานแหละนะ
มีคนอยากเรียนภาษาญี่ปุ่นมากขึ้น หนังสือพวกนี้ก็ออกมามากขึ้น เพื่อตอบสนองกลุ่มคนเหล่านี้นั่นเอง
ว่าแล้วก็ลองหยิบมาดูสักเล่ม....
แล้วก็.... แจ๊กพ็อต
เล่มแรกที่หยิบ (ไม่ได้จำชื่อหนังสือครับ แต่ประมาณว่า เรียนภาษาญี่ปุ่นด้วยตัวเอง)
ข้างใน ก็ตามสไตล์ของหนังสือประเภทนี้ คือ มีตัวอย่างประโยคในสถานการณ์ต่าง ๆ ไว้เยอะแยะ ให้คนเรียน อ่านและท่องจำ แล้วก็เชิญลองเอาไปใช้กันเอง
เท่าที่อ่าน หนังสือ ขึ้นหน้าปกว่า อ.ฮ. เขียน (หรือแต่งหว่า จำไม่ได้-- อ.ฮ. เป็นตัวย่อสมมติครับ ผมกลัวโดนฟ้องหมิ่นประมาท แหะ ๆ) แต่ไม่ได้บอกว่า เป็นการแปล
แต่ดู ๆ เหมือนแปลมาจากหนังสือประเภทนี้ที่เขียนเป็นภาษาอังกฤษ สำหรับสอนฝรั่งพูดญี่ปุ่นนะแหละ (ตรงนี้ ผมเดาเอานะ บอกไว้ก่อน)
ตัวอย่างประโยคที่ให้ไว้ จะมาเป็นชุด ชุดละ 4 บรรทัด คือ ภาษาญี่ปุ่น โรมันจิ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย
ลองมาดูสักประโยคนะครับ
おつりは いりません。
otsuriwa irimasen.
keep the changes.
เก็บไว้เปลี่ยนแปลง
เงิบสิครับ.... ตรงภาษาอังกฤษแปลไว้ถูกต้องแล้ว (ผมถึงได้เดาว่า นี่เป็นหนังสือที่แปลจากฉบับอังกฤษ-ญี่ปุ่นไงครับ)
แต่ตรงภาษาไทย แกแปลไว้ว่า เก็บไว้เปลี่ยนแปลง....
ประโยคนี้ แปลว่า ไม่ต้องทอน (ไม่เอาเงินทอน) ไม่ว่าจะแปลจากญี่ปุ่นหรืออังกฤษ จะได้ความตรงกัน
แต่ประโยคไทยแปลอย่างงี้แปลว่าอะไร?
--(ก็แปลว่า คนแต่ง-หรือจริงๆ แค่แปลมา-- ไม่รู้ภาษาญี่ปุ่นนะสิ แต่แปลจากอังกฤษ แถมแปลผิด???)--
อีกประโยค
いくら以上買えばいいですか。
ikura ijo kaeba iidesuka.
How much should I buy?
ที่ฉันซื้อราคาเท่าไร?
อันนี้แปลว่า ต้องซื้อเท่าไรถึงจะได้ (ได้ส่วนลด) ต่างหาก
หรือหากแปลจากประโยคอังกฤษ ก็ควรเป็น ฉันควรซื้อสักเท่าไร? แต่ไม่ใช่ การถามราคาแน่ ๆ
ยืนยันความเห็นข้างต้นครับ คนที่อ้างตัวว่าเป็นคนเขียน แปลมาจากภาษาอังกฤษโดยที่ตัวเองไม่รู้ภาษาญี่ปุ่น!!
(เพราะถ้ารู้ญี่ปุ่น ควรจะเอะใจ ว่าตัวเองแปลผิด)
และทั้งเล่ม ก็จะมีการแปลผิด ๆ เพี้ยน ๆ ทั้งเล่ม จนผมอดคิดไม่ได้ว่า น่าจะซื้อเล่มนี้มาเป็นตัวอย่างประกอบ วิชาว่าด้วย
การแปลภาษาอังกฤษ เป็นอย่างมาก (แต่ไม่ได้ซื้อ เพราะผมไม่ได้สอนวิชานี้นี่นา)
ย้ำว่าอังกฤษนะ ไม่ใช่ญี่ปุ่น เพราะผมฟันธงไปแล้วว่า ประโยคไทยในเล่มนี้แปลมาจากประโยคอังกฤษแบบผิด ๆ ถ้าจะแปลจากญี่ปุ่นแล้วแปลผิดในลักษณะที่พบในหนังสือเล่มนี้ ผมยังมองไม่ออกว่าจะแปลแบบนี้ได้อย่างไร แต่ถ้าคิดว่าเขาแปลภาษาอังกฤษมาผิด ทุกอย่างก็เข้าล็อก
สรุปว่า ผิดทั้งเล่ม -"-
วางลง ลองหยิบอีกเล่มมา
เป็นพจนานุกรม อังกฤษ-ญี่ปุ่น-ไทย
อืม.... แปลถูกหมด ... เท่าที่พลิก ๆ อ่าน ไปเกือบสิบหน้าแบบเร็ว ๆ นะครับ
คนเขียน (ใช้คำว่าเขียนอีกแล้ว) คนเดียวกับเล่มที่แล้วครับ
เล่มนี้ อาจจะเพราะเป็น การแปลศัพท์เป็นคำ ๆ มั้ง เลยไม่มีโอกาสให้ผิด
หยิบอีกเล่ม... เป็นแนวสอนภาษาญี่ปุ่นด้วยตัวอย่างประโยคต่าง ๆ อีกแล้ว
ของคนเขียนคนเดียวกัน
แล้วก็เจออีกล่ะ
atsu kokowa kinendo desu.
ใครที่รู้ภาษาญี่ปุ่น ลองเดาดูนะครับ ประโยคข้างต้นแปลว่าอะไร?
ติ๊กต็อก ๆ ๆ ๆ ๆ
เฉลย
あっ、ここは禁煙席です。
ผมหมดอารมณ์อ่านคำแปลอังกฤษ กับ คำแปลไทย ต่อครับ เลยไม่สามารถเขียนเล่าได้ในที่นี้ ว่าคำแปลทั้งสองภาษาเป็นยังไง (ตอนนั้น คือ วางหนังสือลง แล้วเดินออกมาทันที หมดอารมณ์ดูเล่มอื่น ๆ ล่ะ)
เพราะมันสาหัสมาก ชัดเจนว่าคนเขียนไม่รู้ภาษาญี่ปุ่น หรือ รู้แค่งู ๆ ปลา ๆ แต่ที่แน่ ๆ ทำหนังสือออกมาชุ่ยมาก
あっ ตัว tsu เป็นตัวเล็ก แปลว่า เป็นการแทนพยางค์เงียบ
คำนี้ออกเสียงประมาณ อะ! ไม่ใช่ atsu ที่เขาเขียนมา ต้องเป็น A! (ออกเสียง อะ แล้วจบพยางค์แบบห้วน ๆ กว่าปกติ)
禁煙席 คินเอ็นเซกิ ที่นั่งสำหรับผู้ไม่สูบบุหรี่
แกตาลายมอง 席 (เซกิ) เป็น 度 (โดะ) เฉยเลย? (หรือผิดตั้งแต่ต้นฉบับภาษาอังกฤษหว่า?)
ไม่ทราบว่าความผิดพลาดระดับนี้มาได้ยังไง? เพราะหนังสือเล่มนี้ คือ หนังสือที่ผู้เขียนอ้างว่า สำหรับผู้เรียนภาษาญี่ปุ่นด้วยตัวเอง เอาไปหัดท่อง ก็ต้องท่องที่ตัวคำอ่านใช่ไหม? แต่คุณให้คำอ่านมาผิด!
---
ก็ขอจบเรื่องที่จะเล่าแค่นี้ละกันครับ น้อง ๆ และเพื่อน ๆ ที่สนใจภาษาญี่ปุ่นอยากซื้อหนังสือมาหัดเอง ก็ต้องเลือก ๆ ดูละกัน หากมีผู้ที่รู้ภาษาญี่ปุ่น ไปช่วยเลือกเล่มให้ จะดีมาก มิฉะนั้น ผมก็คงต้องขอบอกว่า เราคงไว้ใจได้แต่สำนักพิมพ์ใหญ่ ๆ ที่มีชื่อเสียงด้านการผลิตตำราภาษาญี่ปุ่นอยู่แล้ว เท่านั้น
รวมทั้ง ลองพลิกดูชื่อผู้แต่งหรือผู้แปล ว่าในปกของหนังสือเล่มนั้น แนะนำประวัติการศึกษาไว้อย่างไร ดูแล้วน่าเชื่อถือหรือไม่ ว่า น่าจะเชื่อได้ว่าเป็นผู้รู้จริงในภาษาดังกล่าว
และถ้าเป็นสนพ.ใหญ่ ๆ จะมีชื่อ บรรณาธิการของหนังสือด้วย เป็นการประกันการทำงานอีกชั้นหนึ่งว่า หลุดจากผู้แต่ง/ผู้แปล ยังมีกองบรรณาธิการคอยกรองผลงานอีกที
เพื่อจะได้มั่นใจว่า เราได้อ่านหนังสือที่มีเนื้อหาถูกต้องครับ!
(ประเด็นทั้งหมดนี้ ไม่เป็นจริงสำหรับหนังสือสองเล่มที่ผมบ่นถึงข้างต้น
คือ พิมพ์ด้วยสำนักพิมพ์ที่ไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อน ไม่มีประวัติผู้แต่ง ไม่มีกอง บ.ก.)
(แต่ถึงกระนั้นก็เหอะ ผมก็ยังเคยเจอ ประโยคที่แปลผิด ในหนังสือเตรียมสอบวัดระดับ--ไม่ระดับ N1 ก็ N2 จำไม่ได้-- ที่พิมพ์โดยสนพ. ใหญ่ ๆ ในวงการ มาแล้ว
แต่เอาเหอะ ตรงนั้น พอจะหลับตา หยวน ๆ ผ่านไปได้ เพราะทั้งเล่ม ผิดอยู่ประโยคเดียวเอง--เท่าที่ผมอ่านเจอนะ-- แถมเป็นประโยคที่เป็นปัญหาจากภาษาไทยเองด้วย เพราะมันกำกวมที่สำนวนหรือคำไทยเอง ไม่เกี่ยวกับความรู้ภาษาญี่ปุ่นของผู้แปล)
[CR] เตือนภัย หนังสือเรียนภาษาญี่ปุ่นด้วยตัวเองแบบเร่งรัด...มันคือหนังสือผลิตแบบเร่งรัดสินะ
พบว่ามีหนังสือประเภท หัดเรียนภาษาญี่ปุ่นด้วยตัวเอง คู่มือพูดภาษาญี่ปุ่นเป็นเร็วภายใน xx ชั่วโมง (หรือ กี่วัน ๆ ก็ว่ากันไป) ออกมาเยอะมาก
ในใจก็นึก... อืม หนังสือพวกนี้ก็ออกมาเยอะ ตามหลักอุปสงค์อุปทานแหละนะ
มีคนอยากเรียนภาษาญี่ปุ่นมากขึ้น หนังสือพวกนี้ก็ออกมามากขึ้น เพื่อตอบสนองกลุ่มคนเหล่านี้นั่นเอง
ว่าแล้วก็ลองหยิบมาดูสักเล่ม....
แล้วก็.... แจ๊กพ็อต
เล่มแรกที่หยิบ (ไม่ได้จำชื่อหนังสือครับ แต่ประมาณว่า เรียนภาษาญี่ปุ่นด้วยตัวเอง)
ข้างใน ก็ตามสไตล์ของหนังสือประเภทนี้ คือ มีตัวอย่างประโยคในสถานการณ์ต่าง ๆ ไว้เยอะแยะ ให้คนเรียน อ่านและท่องจำ แล้วก็เชิญลองเอาไปใช้กันเอง
เท่าที่อ่าน หนังสือ ขึ้นหน้าปกว่า อ.ฮ. เขียน (หรือแต่งหว่า จำไม่ได้-- อ.ฮ. เป็นตัวย่อสมมติครับ ผมกลัวโดนฟ้องหมิ่นประมาท แหะ ๆ) แต่ไม่ได้บอกว่า เป็นการแปล
แต่ดู ๆ เหมือนแปลมาจากหนังสือประเภทนี้ที่เขียนเป็นภาษาอังกฤษ สำหรับสอนฝรั่งพูดญี่ปุ่นนะแหละ (ตรงนี้ ผมเดาเอานะ บอกไว้ก่อน)
ตัวอย่างประโยคที่ให้ไว้ จะมาเป็นชุด ชุดละ 4 บรรทัด คือ ภาษาญี่ปุ่น โรมันจิ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย
ลองมาดูสักประโยคนะครับ
おつりは いりません。
otsuriwa irimasen.
keep the changes.
เก็บไว้เปลี่ยนแปลง
เงิบสิครับ.... ตรงภาษาอังกฤษแปลไว้ถูกต้องแล้ว (ผมถึงได้เดาว่า นี่เป็นหนังสือที่แปลจากฉบับอังกฤษ-ญี่ปุ่นไงครับ)
แต่ตรงภาษาไทย แกแปลไว้ว่า เก็บไว้เปลี่ยนแปลง....
ประโยคนี้ แปลว่า ไม่ต้องทอน (ไม่เอาเงินทอน) ไม่ว่าจะแปลจากญี่ปุ่นหรืออังกฤษ จะได้ความตรงกัน
แต่ประโยคไทยแปลอย่างงี้แปลว่าอะไร?
--(ก็แปลว่า คนแต่ง-หรือจริงๆ แค่แปลมา-- ไม่รู้ภาษาญี่ปุ่นนะสิ แต่แปลจากอังกฤษ แถมแปลผิด???)--
อีกประโยค
いくら以上買えばいいですか。
ikura ijo kaeba iidesuka.
How much should I buy?
ที่ฉันซื้อราคาเท่าไร?
อันนี้แปลว่า ต้องซื้อเท่าไรถึงจะได้ (ได้ส่วนลด) ต่างหาก
หรือหากแปลจากประโยคอังกฤษ ก็ควรเป็น ฉันควรซื้อสักเท่าไร? แต่ไม่ใช่ การถามราคาแน่ ๆ
ยืนยันความเห็นข้างต้นครับ คนที่อ้างตัวว่าเป็นคนเขียน แปลมาจากภาษาอังกฤษโดยที่ตัวเองไม่รู้ภาษาญี่ปุ่น!!
(เพราะถ้ารู้ญี่ปุ่น ควรจะเอะใจ ว่าตัวเองแปลผิด)
และทั้งเล่ม ก็จะมีการแปลผิด ๆ เพี้ยน ๆ ทั้งเล่ม จนผมอดคิดไม่ได้ว่า น่าจะซื้อเล่มนี้มาเป็นตัวอย่างประกอบ วิชาว่าด้วย การแปลภาษาอังกฤษ เป็นอย่างมาก (แต่ไม่ได้ซื้อ เพราะผมไม่ได้สอนวิชานี้นี่นา)
ย้ำว่าอังกฤษนะ ไม่ใช่ญี่ปุ่น เพราะผมฟันธงไปแล้วว่า ประโยคไทยในเล่มนี้แปลมาจากประโยคอังกฤษแบบผิด ๆ ถ้าจะแปลจากญี่ปุ่นแล้วแปลผิดในลักษณะที่พบในหนังสือเล่มนี้ ผมยังมองไม่ออกว่าจะแปลแบบนี้ได้อย่างไร แต่ถ้าคิดว่าเขาแปลภาษาอังกฤษมาผิด ทุกอย่างก็เข้าล็อก
สรุปว่า ผิดทั้งเล่ม -"-
วางลง ลองหยิบอีกเล่มมา
เป็นพจนานุกรม อังกฤษ-ญี่ปุ่น-ไทย
อืม.... แปลถูกหมด ... เท่าที่พลิก ๆ อ่าน ไปเกือบสิบหน้าแบบเร็ว ๆ นะครับ
คนเขียน (ใช้คำว่าเขียนอีกแล้ว) คนเดียวกับเล่มที่แล้วครับ
เล่มนี้ อาจจะเพราะเป็น การแปลศัพท์เป็นคำ ๆ มั้ง เลยไม่มีโอกาสให้ผิด
หยิบอีกเล่ม... เป็นแนวสอนภาษาญี่ปุ่นด้วยตัวอย่างประโยคต่าง ๆ อีกแล้ว
ของคนเขียนคนเดียวกัน
แล้วก็เจออีกล่ะ
atsu kokowa kinendo desu.
ใครที่รู้ภาษาญี่ปุ่น ลองเดาดูนะครับ ประโยคข้างต้นแปลว่าอะไร?
ติ๊กต็อก ๆ ๆ ๆ ๆ
เฉลย
あっ、ここは禁煙席です。
ผมหมดอารมณ์อ่านคำแปลอังกฤษ กับ คำแปลไทย ต่อครับ เลยไม่สามารถเขียนเล่าได้ในที่นี้ ว่าคำแปลทั้งสองภาษาเป็นยังไง (ตอนนั้น คือ วางหนังสือลง แล้วเดินออกมาทันที หมดอารมณ์ดูเล่มอื่น ๆ ล่ะ)
เพราะมันสาหัสมาก ชัดเจนว่าคนเขียนไม่รู้ภาษาญี่ปุ่น หรือ รู้แค่งู ๆ ปลา ๆ แต่ที่แน่ ๆ ทำหนังสือออกมาชุ่ยมาก
あっ ตัว tsu เป็นตัวเล็ก แปลว่า เป็นการแทนพยางค์เงียบ
คำนี้ออกเสียงประมาณ อะ! ไม่ใช่ atsu ที่เขาเขียนมา ต้องเป็น A! (ออกเสียง อะ แล้วจบพยางค์แบบห้วน ๆ กว่าปกติ)
禁煙席 คินเอ็นเซกิ ที่นั่งสำหรับผู้ไม่สูบบุหรี่
แกตาลายมอง 席 (เซกิ) เป็น 度 (โดะ) เฉยเลย? (หรือผิดตั้งแต่ต้นฉบับภาษาอังกฤษหว่า?)
ไม่ทราบว่าความผิดพลาดระดับนี้มาได้ยังไง? เพราะหนังสือเล่มนี้ คือ หนังสือที่ผู้เขียนอ้างว่า สำหรับผู้เรียนภาษาญี่ปุ่นด้วยตัวเอง เอาไปหัดท่อง ก็ต้องท่องที่ตัวคำอ่านใช่ไหม? แต่คุณให้คำอ่านมาผิด!
---
ก็ขอจบเรื่องที่จะเล่าแค่นี้ละกันครับ น้อง ๆ และเพื่อน ๆ ที่สนใจภาษาญี่ปุ่นอยากซื้อหนังสือมาหัดเอง ก็ต้องเลือก ๆ ดูละกัน หากมีผู้ที่รู้ภาษาญี่ปุ่น ไปช่วยเลือกเล่มให้ จะดีมาก มิฉะนั้น ผมก็คงต้องขอบอกว่า เราคงไว้ใจได้แต่สำนักพิมพ์ใหญ่ ๆ ที่มีชื่อเสียงด้านการผลิตตำราภาษาญี่ปุ่นอยู่แล้ว เท่านั้น
รวมทั้ง ลองพลิกดูชื่อผู้แต่งหรือผู้แปล ว่าในปกของหนังสือเล่มนั้น แนะนำประวัติการศึกษาไว้อย่างไร ดูแล้วน่าเชื่อถือหรือไม่ ว่า น่าจะเชื่อได้ว่าเป็นผู้รู้จริงในภาษาดังกล่าว
และถ้าเป็นสนพ.ใหญ่ ๆ จะมีชื่อ บรรณาธิการของหนังสือด้วย เป็นการประกันการทำงานอีกชั้นหนึ่งว่า หลุดจากผู้แต่ง/ผู้แปล ยังมีกองบรรณาธิการคอยกรองผลงานอีกที
เพื่อจะได้มั่นใจว่า เราได้อ่านหนังสือที่มีเนื้อหาถูกต้องครับ!
(ประเด็นทั้งหมดนี้ ไม่เป็นจริงสำหรับหนังสือสองเล่มที่ผมบ่นถึงข้างต้น
คือ พิมพ์ด้วยสำนักพิมพ์ที่ไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อน ไม่มีประวัติผู้แต่ง ไม่มีกอง บ.ก.)
(แต่ถึงกระนั้นก็เหอะ ผมก็ยังเคยเจอ ประโยคที่แปลผิด ในหนังสือเตรียมสอบวัดระดับ--ไม่ระดับ N1 ก็ N2 จำไม่ได้-- ที่พิมพ์โดยสนพ. ใหญ่ ๆ ในวงการ มาแล้ว
แต่เอาเหอะ ตรงนั้น พอจะหลับตา หยวน ๆ ผ่านไปได้ เพราะทั้งเล่ม ผิดอยู่ประโยคเดียวเอง--เท่าที่ผมอ่านเจอนะ-- แถมเป็นประโยคที่เป็นปัญหาจากภาษาไทยเองด้วย เพราะมันกำกวมที่สำนวนหรือคำไทยเอง ไม่เกี่ยวกับความรู้ภาษาญี่ปุ่นของผู้แปล)