ประโยคง่าย ๆ แบบนี้ ยังต้องเรียนรู้วิธีแปลอีกเหรอ? ภาษาอังกฤษพูดแบบตรงตัวเลยว่า 📌 “It’s a long story." แต่สิ่งที่ผมสนใจคือนัยที่ประโยคนี้ (หรือตัวผู้พูด) สื่อออกมามากกว่าครับ
เรื่องมันยาว... อาจเป็นการบอกว่า
👉🏻 มันเป็นเรื่องส่วนตัว ไม่อยากเล่า (It’s personal.)
👉🏻 เรื่องมันซับซ้อน พูดไปคุณก็ไม่เข้าใจ (It’s complicated.)
👉🏻 ตอนนี้ยังไม่อยากพูดถึง (I don’t wanna get into it right now.)
แต่บางทีก็หมายถึงทั้งสามอย่างพร้อมกันเลย คือมันเป็นเรื่องส่วนตัว และมันซับซ้อน และก็ไม่อยากเล่าด้วย 😂
โอเค มาดูวิธีการพูดว่า “เรื่องมันยาว” เป็นภาษาอังกฤษเพิ่มเติมสักหน่อยครับ
✅ “Don’t get me started.”
(ให้ความหมายประมาณ “อย่าให้ต้องเริ่ม(เล่า)เลย” เพราะเดี๋ยวมันจะยาว แล้วของมันจะขึ้น = ส่วนมากผู้พูดจะสื่อว่าพูดแล้วเดี๋ยวจะโมโห)
✅ “There’s a lot to unpack.”
(เป็นคำพูดของจิตแพทย์ หมายความว่าเรื่องนี้(ที่คนไข้เล่าให้ฟัง)มีประเด็นหลายอย่างที่ต้องหยิบมาวิเคราะห์ แต่ถ้าพูดในบริบททั่วไปก็แปลว่ามันมีหลายปม พูดแล้วยาวแน่นอน)
✅ “That’s a conversation for another time.”
(“นั่นคือบทสนทนาสำหรับวันหลัง” เป็นประโยคที่ไพเราะดีครับ แต่ความหมายก็คือผู้พูดเขายังไม่อยากคุยในตอนนี้นั่นแหละ แต่สัญญาว่าสักวันจะหยิบเรื่องนี้มาพูดถึง ดังนั้นถ้าได้ยินประโยคก็ไม่ต้องตื้อให้เขาเล่านะ)
✅ “I’d have to start from the beginning.”
(เป็นประโยคที่หลายคนเข้าใจผิด คิดว่าเขากำลังจะเล่าตั้งแต่ต้น ไม่ใช่นะครับ สังเกตว่าในประโยคมันใช้ “I’d...” หรือ “I would...” ที่แปลว่า ผม ‘คงจะ’ ต้องเล่าตั้งแต่ต้น... (ถ้าผมจะเล่า) มันหมายความว่าเขาไม่ได้จะเล่าให้ฟังนั่นเอง ถ้าผู้พูดจะเล่าให้ฟังเขาจะใช้ “I’ll...” หรือ “I will...“ ครับ)
✅ “Where do I even begin?"
(ไม่รู้จะเริ่มเล่าตรงไหนเลย... = เป็นการบอกว่าเรื่องมันซับซ้อน ไม่ค่อยอยากพูดถึงเพราะเดี๋ยวต้องอธิบายยาว)
อะไรประมาณนี้ครับ หวังว่าเราคงจะเห็นภาพว่า “เรื่องมันยาว” มันพูดได้หลายแบบจริง ๆ ในภาษาอังกฤษ (มันยาวจริง ๆ! 😅)
แต่ยังไม่หมดนะ ประโยคหนึ่งที่ผมชอบคือ 📌 “You don’t wanna know.” (คุณไม่อยากรู้หรอก) ก็สื่อความหมายนี้ได้ แต่ถ้าอีกฝ่ายตื้อว่า “But I do!” โอเคถ้าแบบนั้นจะเล่าให้ฟังก็ได้ครับ แต่จะเกริ่นประโยคด้วย 👉🏻 “Long story short..." ที่หมายความประมาณ “เอาแบบสรุปเลยนะ...” เป็นการบอกเขาว่าเราจะไม่ลงดีเทลอะไรทั้งสิ้น เล่าแบบตัดจบเลย
หรือใช้เป็นสำนวนหน่อยก็คือ 📌 “It’s a rabbit hole.” (มันคือหลุมกระต่าย = เรื่องมันลึกลับซับซ้อน) ส่วนประโยคที่ได้ยินวัยรุ่นสมัยนี้เริ่มพูดกันบ่อยขึ้นเวลาจะบอกว่า “เรื่องมันยาว” ก็คือ 🔥 “It’s a whole thing.' (หรือ “It’s a whole mess.”) เป็นคำสแลงของ Gen-Z เขาครับ
_______________
ลองมาดูบริบทการพูดว่า “เรื่องมันยาว” เป็นภาษาอังกฤษสักหน่อย
บริบทที่ 1: แฟนเก่ากับญาติเรา...
A: “Wait — was that your ex flirting with your cousin?” 😲
(เดี๋ยวนะ นั่นแฟนเก่าเธอปะที่กระหนุงกระหนิงกับลูกพี่ลุกน้องเธออยู่)
B: “Unfortunately, yes.” 😏
(เออ นั่นแหละมัน)
A: “That’s… a situation.” 🧐
(มันยังไงกันละเนี่ย...)
B: “It’s a long story.” 😒
(เรื่องมันยาว)
A: “Oh?” 😲
(หาา)
B: “Don’t get me started. Let’s just say that whole dynamic is messier than it looks.” 🤨
(อย่าให้ต้องเล่าเลย เอาเป็นว่าเรื่องนี้มันวายป่วงกว่าที่เห็นเยอะ)
บริบทที่ 2: ไม่คุยกันมานานแล้ว
A: “I thought you were close with your sister?” 🤔
(ฉันนึกว่าเธอสนิทกับพี่สาวเสียอีก)
B: “Used to be. We haven’t really talked in months.” 😅
(เคยสนิทกัน แต่เราไม่ได้คุยกันมาหลายเดือนละ)
A: “What happened?” 🧐
(เกิดอะไรขึ้น)
B: “Where do I even begin? Let’s just say some stuff came up over the holidays.” 😕
(จะเริ่มเล่าตรงไหนดีล่ะ เอาเป็นว่ามันเกิดปัญหานิดหน่อยช่วงที่เราไปเที่ยววันหยุด)
A: “Really? Hope you don’t think I’m prying but…” 😬
(จริงดิ อย่าหาว่าฉันสอดรู้เลยนะแต่...)
B: “That’s a conversation for another time. Right now I just wanna enjoy this drink.” 🤫
(เดี๋ยวไว้เล่าให้ฟังวันหลังละกันนะ ตอนนี้ขอดื่มแบบสบายใจก่อน)
บริบทที่ 3: เรื่องระหว่างเจ้านาย
A: “You said you used to live with your boss? How did that even happen?” 😲
(คุณเคยบอกว่าคุณเคยอยู่บ้านเดียวกับบอสเหรอ มันไปยังไงมายังไงเนี่ย)
B: “Oh man. You don’t wanna know.” 😅
(เพื่อนเอ๋ย แกไม่อยากรู้หรอก)
A: “Come on, now I’m curious.” 🤨
(อยากดิ อยากรู้แล้วเนี่ย)
B: “Trust me — it’s a whole thing. Weird timing, bad decisions, and a broken lease involved.” 😄
(เชื่อฉัน เรื่องมันยาว เป็นความบังเอิญบ้า ๆ บอ และการตัดสินใจแย่ ๆ พร้อมกับสัญญาที่มีการละเมิด)
A: “Say no more.” 😨
(พอจะเข้าใจละ)
“รู้ให้มากกว่าเมื่อวาน”
JGC. ✌🏻🇬🇧
“เรื่องมันยาว” ภาษาอังกฤษพูดว่า...
เรื่องมันยาว... อาจเป็นการบอกว่า
👉🏻 มันเป็นเรื่องส่วนตัว ไม่อยากเล่า (It’s personal.)
👉🏻 เรื่องมันซับซ้อน พูดไปคุณก็ไม่เข้าใจ (It’s complicated.)
👉🏻 ตอนนี้ยังไม่อยากพูดถึง (I don’t wanna get into it right now.)
แต่บางทีก็หมายถึงทั้งสามอย่างพร้อมกันเลย คือมันเป็นเรื่องส่วนตัว และมันซับซ้อน และก็ไม่อยากเล่าด้วย 😂
โอเค มาดูวิธีการพูดว่า “เรื่องมันยาว” เป็นภาษาอังกฤษเพิ่มเติมสักหน่อยครับ
✅ “Don’t get me started.”
(ให้ความหมายประมาณ “อย่าให้ต้องเริ่ม(เล่า)เลย” เพราะเดี๋ยวมันจะยาว แล้วของมันจะขึ้น = ส่วนมากผู้พูดจะสื่อว่าพูดแล้วเดี๋ยวจะโมโห)
✅ “There’s a lot to unpack.”
(เป็นคำพูดของจิตแพทย์ หมายความว่าเรื่องนี้(ที่คนไข้เล่าให้ฟัง)มีประเด็นหลายอย่างที่ต้องหยิบมาวิเคราะห์ แต่ถ้าพูดในบริบททั่วไปก็แปลว่ามันมีหลายปม พูดแล้วยาวแน่นอน)
✅ “That’s a conversation for another time.”
(“นั่นคือบทสนทนาสำหรับวันหลัง” เป็นประโยคที่ไพเราะดีครับ แต่ความหมายก็คือผู้พูดเขายังไม่อยากคุยในตอนนี้นั่นแหละ แต่สัญญาว่าสักวันจะหยิบเรื่องนี้มาพูดถึง ดังนั้นถ้าได้ยินประโยคก็ไม่ต้องตื้อให้เขาเล่านะ)
✅ “I’d have to start from the beginning.”
(เป็นประโยคที่หลายคนเข้าใจผิด คิดว่าเขากำลังจะเล่าตั้งแต่ต้น ไม่ใช่นะครับ สังเกตว่าในประโยคมันใช้ “I’d...” หรือ “I would...” ที่แปลว่า ผม ‘คงจะ’ ต้องเล่าตั้งแต่ต้น... (ถ้าผมจะเล่า) มันหมายความว่าเขาไม่ได้จะเล่าให้ฟังนั่นเอง ถ้าผู้พูดจะเล่าให้ฟังเขาจะใช้ “I’ll...” หรือ “I will...“ ครับ)
✅ “Where do I even begin?"
(ไม่รู้จะเริ่มเล่าตรงไหนเลย... = เป็นการบอกว่าเรื่องมันซับซ้อน ไม่ค่อยอยากพูดถึงเพราะเดี๋ยวต้องอธิบายยาว)
อะไรประมาณนี้ครับ หวังว่าเราคงจะเห็นภาพว่า “เรื่องมันยาว” มันพูดได้หลายแบบจริง ๆ ในภาษาอังกฤษ (มันยาวจริง ๆ! 😅)
แต่ยังไม่หมดนะ ประโยคหนึ่งที่ผมชอบคือ 📌 “You don’t wanna know.” (คุณไม่อยากรู้หรอก) ก็สื่อความหมายนี้ได้ แต่ถ้าอีกฝ่ายตื้อว่า “But I do!” โอเคถ้าแบบนั้นจะเล่าให้ฟังก็ได้ครับ แต่จะเกริ่นประโยคด้วย 👉🏻 “Long story short..." ที่หมายความประมาณ “เอาแบบสรุปเลยนะ...” เป็นการบอกเขาว่าเราจะไม่ลงดีเทลอะไรทั้งสิ้น เล่าแบบตัดจบเลย
หรือใช้เป็นสำนวนหน่อยก็คือ 📌 “It’s a rabbit hole.” (มันคือหลุมกระต่าย = เรื่องมันลึกลับซับซ้อน) ส่วนประโยคที่ได้ยินวัยรุ่นสมัยนี้เริ่มพูดกันบ่อยขึ้นเวลาจะบอกว่า “เรื่องมันยาว” ก็คือ 🔥 “It’s a whole thing.' (หรือ “It’s a whole mess.”) เป็นคำสแลงของ Gen-Z เขาครับ
_______________
ลองมาดูบริบทการพูดว่า “เรื่องมันยาว” เป็นภาษาอังกฤษสักหน่อย
บริบทที่ 1: แฟนเก่ากับญาติเรา...
A: “Wait — was that your ex flirting with your cousin?” 😲
(เดี๋ยวนะ นั่นแฟนเก่าเธอปะที่กระหนุงกระหนิงกับลูกพี่ลุกน้องเธออยู่)
B: “Unfortunately, yes.” 😏
(เออ นั่นแหละมัน)
A: “That’s… a situation.” 🧐
(มันยังไงกันละเนี่ย...)
B: “It’s a long story.” 😒
(เรื่องมันยาว)
A: “Oh?” 😲
(หาา)
B: “Don’t get me started. Let’s just say that whole dynamic is messier than it looks.” 🤨
(อย่าให้ต้องเล่าเลย เอาเป็นว่าเรื่องนี้มันวายป่วงกว่าที่เห็นเยอะ)
บริบทที่ 2: ไม่คุยกันมานานแล้ว
A: “I thought you were close with your sister?” 🤔
(ฉันนึกว่าเธอสนิทกับพี่สาวเสียอีก)
B: “Used to be. We haven’t really talked in months.” 😅
(เคยสนิทกัน แต่เราไม่ได้คุยกันมาหลายเดือนละ)
A: “What happened?” 🧐
(เกิดอะไรขึ้น)
B: “Where do I even begin? Let’s just say some stuff came up over the holidays.” 😕
(จะเริ่มเล่าตรงไหนดีล่ะ เอาเป็นว่ามันเกิดปัญหานิดหน่อยช่วงที่เราไปเที่ยววันหยุด)
A: “Really? Hope you don’t think I’m prying but…” 😬
(จริงดิ อย่าหาว่าฉันสอดรู้เลยนะแต่...)
B: “That’s a conversation for another time. Right now I just wanna enjoy this drink.” 🤫
(เดี๋ยวไว้เล่าให้ฟังวันหลังละกันนะ ตอนนี้ขอดื่มแบบสบายใจก่อน)
บริบทที่ 3: เรื่องระหว่างเจ้านาย
A: “You said you used to live with your boss? How did that even happen?” 😲
(คุณเคยบอกว่าคุณเคยอยู่บ้านเดียวกับบอสเหรอ มันไปยังไงมายังไงเนี่ย)
B: “Oh man. You don’t wanna know.” 😅
(เพื่อนเอ๋ย แกไม่อยากรู้หรอก)
A: “Come on, now I’m curious.” 🤨
(อยากดิ อยากรู้แล้วเนี่ย)
B: “Trust me — it’s a whole thing. Weird timing, bad decisions, and a broken lease involved.” 😄
(เชื่อฉัน เรื่องมันยาว เป็นความบังเอิญบ้า ๆ บอ และการตัดสินใจแย่ ๆ พร้อมกับสัญญาที่มีการละเมิด)
A: “Say no more.” 😨
(พอจะเข้าใจละ)
“รู้ให้มากกว่าเมื่อวาน”
JGC. ✌🏻🇬🇧