-- รัฐบาล ควรเอาข้อเท็จจริง มาชี้แจง" เรื่องราคายาง" --

เอานักวิชาการที่วิจัยอยู่กับยาง ว่าจริง ๆ แล้วต้นทุนของยาง จากปลูก ไปจนถึงวันที่กรีดน้ำยางได้  มันตกกี่บาทต่อ กก.
จุดคุ้มทุนกี่ปี ( กี่ปีถึงจะมีกำไร ) กำไรกี่ปี  และจะต้องตัดต้นยางทิ้งกี่ปี  แจงให้ละเอียด  นี่เป็นการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ ว่า..???
จริง ๆ แล้วชาวสวนยางขาดทุนจริงหรือไม่ ???  ถ้าขาดทุนรัฐก็ต้องช่วย  บรรเทาเยียวยา เพื่อให้เขาอยู่ได้  จะให้มีกำไรในสัดส่วนเท่าไหร่ก็ว่าไป  สังคมจะได้รุ้เสียทีว่าเป็นม๊อปการเมือง  หรือมีอปของคนที่เดือดร้อนกันแน่..แต่หากเดือดร้อนจริง (ขาดทุน)  แม้จะมีการเมืองเข้ามาแทรก  ก็ถือว่า พวกการเมืองเหล่านั้นรับอานิสงค์ไปด้วย...แล่วกัน
ซึ่งไม่ใช่เฉพาะยาง  รวมทั้งพืชเกษตรชนิดอื่นด้วย  ข้าว ข้าวโพด อ้อย มันสัมปะหลัง ฯลฯ

หลายคนไม่เข้าใจ   คิดว่า เกษตรกร ชาวบ้านนอกคอกนา  ชาวไร่ชาวนา  ไม่ได้เสียเสียภาษี  เอาเงินของพวกตนเองมนุษย์เงินเดือนไปชดเชยให้คนพวกนี้ทำไม    ข้อเท็จจริงคือ ชาวไร่ชาวนาก็เสียภาษีครับ  เสียภาษีทางอ้อมจากการอุปโภค บริโภค  สินค้าต่าง ๆ ในรูปแบบ VAT  7 %  ที่รัฐบวกรวมกับ ค่าสินค่าทุกชนิด  คนบริโภคคนสุดท้ายคือผู้รับผิดชอบภาษีส่วนนี้ไป    ดังนั้นรัฐจะเพิกเฉยหรือนิ่งดูดายก็ไม่ได้ เพราะรัฐเก็บดอกออกผล จาก ปชช ผู้อยู่ใต้ปกครองรัฐ

ผมไม่คัดค้าน  การช่วยเหลือ ปชช ผู้อยู่ใต้ปกครอง  ของรัฐทุกสาขาอาชีพ  เมื่อเดือดร้อน  ต้องได้รับการช่วยเหลือเยียวยา อย่าเห็นแก่ตัว  คิดตื้น ๆ เพียงบอกว่า "เอาเงินภาษีพวกตูไปช่วยมันทำไมฟ๊ระ"  เพราะทุกคนล้วนต่างเสียภาษีด้วยกันทั้งสิ้นที่อาศัยอยู่แผ่นดินผืนนี้  ยกเว้นคุณจะไม่ซื้อ  ไม่ใช้เงินเลย  นั่นแหละคือผู้ไม่เสียภาษี
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่