อยากจีบคุณหมอ แนะนำด้วยครับ

เรื่องมีอยู่ว่า ผมไปใช้บริการคลีนิคเสริมความงามแห่งหนึ่ง

1 คอสส์ก็ 6 สัปดาห์ ปีนึงก็ 1-2 คอสก็ว่าไป
มาปีนี้เจอคุณหมอคนใหม่ เจอครั้งแรกก็น่ารักดีครับ
คุณหมอก็แนะนำว่า ควรจะทาครีมกันแดดบ่อยๆ ถึงจะอยู่ในห้องก็ตาม

เราก็แกล้งแหย่ไปว่า "แล้วอยู่หน้าเตาทำกับข้าว ต้องทามั้ยครับ"
คุณหมอก็บอกว่า "ทาก็ดีนะคะ ว่าแต่ทำกับข้าวเป็นหรอคะ เก่งจัง หมอยังทำไม่เป็นเลย"

เนียนเลยครับ แหย่ครั้งแรก ถ้าคิดแบบเข้าข้างตัวเอง ถือว่าได้ผล ฮาาาาา
เราก็เงียบไปครับ อย่ากระโตกกระตาก สัปดาห์หน้าว่ากันใหม่

สัปดาห์ 2 ก็มาตามปกติ
คุณหมอก็ดูๆหน้าให้ และถามว่า "คุณใช่คนที่บอกหมอว่าทำกับข้าวหรือเปล่าคะ เป็นยังไงบ้าง ทำถึงไหนแล้ว"
มุกคราวที่แล้วได้ผลเกินคาด ฮาาาาาอีก

ผมก็บอกว่า "ทำเรื่อยๆครับ แล้วคุณหมอละครับ"
คุณหมอก็บอกว่า "หมอทำกับข้าวไม่เป็นคะ ตอนนี้กำลังหัดทำขนม"
และเปิดรูปให้ดู
ละคุณหมอก็บอกว่า "คุณแม่ของหมอบอกว่า หัดทำกับข้าวดีกว่า อุปกรณ์ไม่ต้องซื้อเพิ่ม กินได้หมดทุกคน"
ผมก็ถามว่า "แม่คุณหมอไม่กินหรอครับ"
หมอก็ตอบว่า "ไม่รู้เหมือนกัน แต่หมอว่ามันก็กินได้นะ"

ในใจผมคิดเลยครับ ประสบการณ์จากพี่สาวผมในการทำขนม เมื่อมีคำว่า "ฉันว่ามันกินได้นะ" แท้จริง ความหมายคือ มันกินไม่ได้

ผมก็เลยบอกว่า "เอางี้มั้ยครับ อาทิตย์หน้าผมทำผัดกระเพราหมูสับมาฝากคุณหมอ และคุณหมอทำขนมมาให้ผม แล้วลองแลกกันชิมดู ดีมั้ยครับ"
คุณหมอก็ อมยิ้มนิดๆละบอกว่า "ได้คะ เอาสิ"


ไอ้เราก็คิดในใจ หาเรื่องให้ลำไส้ใหญ่แล้วไงละครู๊นนนนนนนน
แต่มุกทำกับข้าวนี่ถือว่าไปได้ไกลเกินคาด ฮาาาาา

สัปดาห์ที่3
ก่อนนอนผมก็คิดในใจ ทำดีไม่ทำดี ผมว่าหมอเค้าคงไม่ได้ทำมาหรอกและเราจะทำดีปะวะ
สุดท้ายทำก็ทำ ตื่นก็ตื่น ตื่นตั้งแต่ตี5 ออกไปซื้อหมูซื้อผัก

ตอนซื้อหมูก็คิดดอยู่ว่าจะซื้อหมูชิ้นหรือหมูบด
เอาวะ หมูชิ้นละกัน เอาไปสับเอง เราจะได้รู้ว่าของที่ซื้อดีจริง แมนปะละ
แต่พอสับปุ้บ ปวดไหล่แล้วปวดไหล่อีก จะแมนให้ใครดูคร๊าาาาาาาาา

พอมาถึงผัก หยิบกระเพราขึ้นมา ด้วยความที่ยังเช้า ยังไม่ตื่นดี
เริ่มไม่แน่ใจ ไอ้ที่ซื้อมามันกระเพราหรือโหระพากันแน่
เราจะผัดกระเพรานี่นา แล้วนี่มันโหระพาป่าววะ หรือสะระแหน่กันแน่
คิดมากไปละ เด็ดๆใส่ไปเหอะ

พอมาถึงเครื่องพริกแกง หอมก็ต้องซอย ข่าก็ต้องซอย พริกก็ต้องซอย แถมต้องมานั่งตำๆๆๆๆอีก ปวดไหล่สุดๆ

พูดได้เต็มปาก ทุกอย่างซื้อเองทำเอง ยกเว้นข้าวนี่แหละ จิ๊กของที่บ้าน แต่ไม่ต้องไปบอกใคร

เอาทุกอย่างใส่กล่องข้าว ปิด จบ
ตื่น 5.00 น. ทำเสร็จ 7.00 น. นอนต่อ T T

พอถึงเวลาไปหาหมอ ก็เอาข้าวกล่องไปฝาก
คุณหมอบอกว่า "ขอบคุณมากนะคั ลำบากมั้ยเนี่ย"
ไอ้เราก็บอกว่า "ไม่หรอกครับ ค่อยๆทำ แปปเดียวก็เสร็จ" แต่ความเป็นจริง ตื่นมาต้องมานวดบ่าให้ตัวเองอีก ฮาาาาา

และก็เป็นไปตามคาดครับ คุณหมอไม่ได้เอาขนมมาแลก 555+

คุณหมอก็บอกว่า "ว่าจะมาหัดทำกับข้าว ไม่รู้ว่าจะไปรอกมั้ย"
ผมก็บอกว่า "คุณหมอลองชิมของผมก่อนแล้วกันครับ ถ้ารสชาติมันไปรอด เดี๋ยวจะเอาสูตรมาฝาก"
แหมะ เนียนจริงๆ
คุณหมอก็บอกว่า "ได้คะ เดี๋ยวจะมาบอกนะคะว่ารสชาติเป็นยังไง"

สัปดาห์นี้ถือว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า แม้จะแลกกับอาการปวดไหล่ก็ตาม 555+
ผมก็นับในใจ สัปดาห์นี้สัปดาห์ 3 สัปดาห์ที่ 4 เนียนๆไปก่อน ไม่ต้องรีบ ฟังเสียงตอบรับ
เผื่อสัปดาห์ที่ 5 ได้ทำกับข้าวอีกซักอย่าง กับ 6 ค่อยขอไลน์หรือเฟสไว้ติดต่อก็ได้
ลงล็อคฝุดๆ 555+

พอถึงสัปดาห์ที่ 4 ผิดคาดครับ
พนักงานมายืนในห้องด้วย
คุณหมอก็ตรวจตามปกติ แต่เหมือนความซี้มันหายไปเยอะ
และหมอก็แนะนำ ให้เปลี่ยนคอส คอสนี้รักษาฝ้าไม่หาย อันใหม่ดีกว่า

ก็เข้าใจได้ว่า มีคนมาคุมเรื่องการโฆษณา ให้ช่วยทำมาหากิน ก็เข้าใจครับ ผมก็ไม่ได้อะไร
พอออกมาข้างนอก พนักงานก็แนะนำ พร้อมมีส่วนลด เป็นโควต้าหมอ ที่หมอแนะนำ
ผมก็ขอผ่านไปก่อน

สัปดาห์ที่ 5 เหมือนเดิมครับ
พนักงานมายืนเฝ้าอีก
คุณหมอก็ตรวจตามปกติ และพนักงานหายไปแวบนึง
เหมือนความซี้จะกลับมา และบอกว่า "พี่ๆ หนูหัดทำกับข้าวแล้ว น้ำมันกระเด็น น่ากลัวมาก"
ผมก็ฮา และบอกว่า "ก็ค่อยๆทำครับ แรกๆก็แบบนี้แหละ"
พลางคิดในใจ เรียกเราว่าพี่ แทนตัวว่าหนู ถ้าคิดแบบเข้าข้างตัวเอง ถือว่าโอเลยนะเนี่ย

พนักงานก็เข้ามาอีก ความซี้ก็หายไปอีก ผมก็นิ่งไป ก็ต้องให้เกียรติหมอเค้าแหละ จะไปแสดงออกต่อหน้าคนอื่นมากไม่ได้

และคุณหมอก็บอกว่า "หมอขอแนะนำคอสนี้ดีกว่า คอสเดิมคุณไม่หายแน่นอน ลองติดต่อกับพนักงานข้างนอกได้"
สรุปอารมณ์ตอนนั้นก็คือ ยังไงก็ต้องคอสตัวนี้
และแทนตัวเป็น หมอ และ คุณเหมือนเดิม สวิตย์ได้ไวมาก 555+

ไปคุยกับพนักผมก็บอกผ่านไปอีก

สาเหตุที่ไม่ต่อเพราะเหตุผลส่วนตัวด้านสุขภาพที่คนรอบข้างไม่แนะนำโดยเฉพาะกับผม

สัปดาห์ที่ 6 สัปดาห์สุดท้าย
ทุกอย่างเหมือนเดิมครับ
มีพนักงานอยู่ด้วย หมอตรวจ แนะนำคอส ผมยิ้ม ออกไปคุย รับยา กลับบ้าน จบ

ไม่ได้ต่อคอส เพราะหมอบอกว่า ต่อคอสเดิมไม่หาย
และเหมือนพนักงานอยากขายคอสตัวใหม่มากกว่า และผมก็ไม่ได้ไปบำรุงผิวละ

จากวันที่ตรวจวันสุดท้ายจนถึงวันนี้ก็เดือนนึงพอดี
ผมรู้สึกตลอดเลยว่า ผมอยากคุยกับผู้หญิงคนนี้ต่อนะ ผมชอบผู้หญิงคนนี้นะ
ไม่รู้เหมือนกันว่ามันจะไปได้ไกลแค่ไหน แต่ผมรู้สึกว่าผมอยากรู้จักมากกว่านี้

เท่าที่ผมทราบ คุณหมอจะมาที่นี่สัปดาห์ละครั้ง
มายังไงผมก็ไม่ทราบ อาจจะขับรถมาเองหรือมาแท็กซี่

ผมคิดได้แค่ว่า ต้องดักรอตอน 2 ทุ่ม และแอบตามไปก่อนว่ากลับบ้านยังไง
ถ้าขับรถ ขับรถไปทางไหน เข้าห้างหรือเปล่า แล้วไปเนียนดีมั้ย
หรือ แค่รู้ที่จอดรถก่อน คราวหน้าเรามาจอดดักก่อนเข้างาน แล้วไปทักดีมั้ย

อยากจะขอคำแนะนำด้วยครับ เพราะไม่อยากให้หลุดจริงๆ
ขอบคุณครับ