เป็นไทรอยด์เป็นพิษไหม?

สวัสดีค่ะ พอดีมีเรื่องอยากมาเล่าแล้วก็เป็นความสงสัยของเราเอง หากใครที่พอจะมีความรู้ สามารถแบ่งปันมาได้เลยค่ะ เรื่องมีอยู่ว่าเราอายุ 18 ปี พึ่งจะเคย
- แอดมิทเข้ารพ.ครั้งแรก(31 พ.ค.68) ด้วยอาการชาตามมือตามขาแล้วก็รอบๆปาก จนนิ้วมือจีบเกร็งจนมันจีบเอง โดยที่เราควบคุมให้มันกางออกไม่ได้ มีอาการแน่นหน้าอกเหมือนมีอะไรหนักๆมาทับ หัวใจเต้นเร็วและแรง ก่อนที่อาการจะออก เราพึ่งกินมาม่า+ไข่ต้มยางมะตูม+ผัดกระเฉด สักพักรู้สึกแน่นท้อง จึงไปเข้าน้ำ แล้วก็ถ่ายท้อง หลังจากนั้นอาการก็เริ่มออก จึงรีบไปรพ.เอกชน ก็เจาะเลือด+เอกซเรย์ช่วงอก+ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ แล้วก็นอนแอดมิท 1 คืน ก่อนจะนอน ผลเลือดออก หมอบอกว่าพวกค่าเกลือแร่ต่ำ(ฟอสฟอรัส แมกนีเซียม ฯลฯ) หมอเลยสั่งให้ดื่มโพแทสเซียม(ถ้าจำไม่ผิด) แล้วมันเป็นครั้งแรก เค็มบาดคอจัดๆ พอเช้ามีหมอเข้ามาเช็คฟิลๆว่ามีแรงต้านหมอมั้ย หมอน่าจะเช็คว่ามีอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรงมั้ยอะไรประมาณนี้ จากนั้นก็กลับบ้าน หมอก็มีนัดให้ไปฟังผลไทรอยด์เพราะส่งไปตรวจที่แลปในกทม. แต่ไม่ได้ไปฟังเดราะต้องเสียค่าหมออีก ซึ่งค่าห้องค่าอะไรที่ไปแอดมิทมันก็แตะหมื่นแล้ว บ้านเราก็ไม่ได้มีตังมาก เลยคิดว่าไม่เป็นอะไร เลยแค่ไปเอาใบผล

- หลังจากนั้นประมาณ 5 วัน เราไปสอบใบขับขี่ในช่วงเช้าถึงบ่ายๆ พอตกเย็นกำลังกินข้าวอยู่ ซึ่งกินกับข้าวแบบปกติมาก แล้วอาการก็เริ่มออกด้วยอาการค่อยๆชาที่มือแล้วก็ปลายเท้า พ่อคิดว่าเกลือแร่คงตกเหมือนเดิม เลยไปซื้อเกลือแร่จากเซเว่นกิน(แต่ไม่ใช่แบบที่กินสำหรับเสียเหงื่อ) วันนั้นน่าจะกินน้ำน้อยด้วย อากาศร้อนด้วยแล้วก็เดินทางค่อนข้างไกล บวกกับเครียดเพราะกลัวสอบไม่ผ่านแล้วต้องไปทำใหม่อีก กลับมาที่อาการต่อ ตอนแรกรู้สึกว่าดีขึ้นหน่อยแล้วก็เลยไปปั่นจักรยาน จนรู้สึกแน่นๆ จุกๆที่คอ เหมือนหายใจไม่เต็มอิ่ม สรุปอีกซักพัก อาการออกเหมือนครั้งแรกเลย ก็เลยตัดสินใจไปรพ.อีก(4 มิ.ย.68) แต่รอบนี้ไปรพ.รัฐใกล้บ้าน ตอนนั้นก็ประมาณ 1 ทุ่มกว่าๆได้ เลยเข้าห้องฉุกเฉิน ก็บอกอาการพี่พยาบาล แต่ก็สเต็ปเดิมเลย เจาะเลือด+เอกซเรย์ช่วงอก+ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ และใช่ค่ะ ผลออกคล้ายๆกันเลย คือเราค่าเกลือแร่ต่ำ ซึ่งหมอบอกว่า อายุแค่นี้ไม่น่าจะเกลือแร่พวกนี้ต่ำได้

- แต่ก็ด้วยพฤติกรรมของเรา ทั้งการกินของเรา เราค่อนข้างเลือกกินมาก คือจะไม่ค่อยชอบกินผลไม้ ผักก็กินบ้างเพราะพ่อทำกับข้าวให้ก็จะมีเมนูผักอยู่แล้ว ไม่ชอบทานกับข้าวที่เป็นหมู(ถ้าไม่ได้ทำกินเอง) เพราะเราไม่ชอบพวกเอ็นหมูหรือมันหมู ไก่ก็ชอบกินเนื้ออกกับสันในเพราะมันน้อย ชอบกินพวกเมนูไข่ แล้วก็กินมาม่าบ่อย (2-3ครั้งต่อสัปดาห์) ชอบกินของทอดเป็นชีวิตจิตใจ ประมาณนี้ บวกกับเป็นคนที่ขี้เกียจ ชอบนั่งเล่นมือถือเฉย ไม่ค่อยออกกำลังกาย แบบ เดือนนึงออกซัก 2-3 หน แค่นั้น ต่อเดือน แล้วก็การนอน ก็ถือว่านอนค่อนข้างดึกประมาณนึงเลย

- ต่อจากรพ.รัฐ หมอก็เรียกพ่อแม่ไปคุยด้วยแล้วก็ คาดว่า ขอใช้คำว่า คาดว่านะคะ หมอคาดว่าเราจะเป็นไทรอยด์เป็นพิษ เพราะดูจากอาการที่ไป สรุปก็ได้นอนแอดมิท 1 คืนดูอาการ มีการใส่เครื่องจับชีพจร+อัตราการเต้นหัวใจ เพราะพยาบาลบอกว่าหัวใจเราเต้นเร็วแบบนี้ กลัวว่าจู่ๆหัวใจจะหยุดเต้นไประหว่างหลับ ซึ่งเราก็ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ แต่ก็ทำตามพี่พยาบาล ด้วยความที่เป็นรพ.รัฐ เลยได้นอนห้องรวม หลับๆตื่นๆเพราะเตียงอื่นก็มีเครื่องแบบเดียวกับเราซึ่ง ทำงานทั้งคืนดังทั้งคืนเลย พอเช้าพยาบาลก็มาเจะเลือดซำ้อีก ก็รอหมอมาตรวจที่เตียงอีกรอบ ระหว่างนั้นก็ทำเรื่องขอออกจากรพ.เพราะอาการเริ่มดีขึ้นแล้ว กว่าหมอจะเข้ามาตรวจคือเหมือนจะเย็นๆเลย หมอที่มาตรวจไม่ใช่หมอที่ดูเคสเรา แต่เขาใช้คำว่า อาจารย์หมอบอกว่า ผลเลือดเราบ่งชี้ว่าเป็นไทรอยด์เป็นพิษนะ เลยได้ยากลับมาบ้านค่ะ เป็นยาต้านไทรอยด์กับยาลดความดัน แก้ใจสั่น แล้วก็นัดตรวจอีกที 2 สัปดาห์หลังจากที่ออกรพ. ด้วยความสงสัยเลยเอาผลแลปที่ตรวจจากรพ.เอกชนนั้น ไปให้แลปแถวบ้านอ่าน+เราลองดูเอง ก็คือไม่ได้ชี้ว่าเราเป็นไทรอยด์เป็นพิษ เพราะค่าอยู่ในเกณฑ์ปกติ แต่ก็สงสัยอยู่ว่า หลังจากออกจากรพ. เรามีอาการอ่อนเพลีย มากสุดๆ เหนื่อยง่ายมาก แค่จะลุกเดินในบ้านไม่กี่เมตรยังเหนื่อยเลยค่ะ

- (17 มิ.ย.68) หลังจากนั้นก็กินยาตามหมอสั่งจนครบกำหนดตามที่หมอนัด ก็ไปตามนัด เจาะเลือดตรวจค่าไทรอยด์อีก พอเจอหมอ หมอไม่ใช่คนเดิม แต่ก็เข้าใจได้ หมอรพ.นั้นเค้าเวียนๆกันตรวจ แต่หมอคนนี้ก็ลองจับดูว่าที่คอมีก้อนมั้ย แต่ก็คือไม่มี หมอเองก็เหมือนไม่แน่ใจว่าเป็นไทรอยด์เป็นพิษมั้ย แต่สรุปก็สั่งยาตัวเดิมขนาดเดิมให้ แล้วก็นัดตรวจอีกที 1 เดือนหลังจากนั้น

- (16 ก.ค.68) เหมือนเดิม กินยาตามหมอสั่ง พอครบ 1 เดือนก็ไปเจาะเลือดอีก หมอก็ไม่ใช่หอคนเดิม(again) วันนั้นคนไข้น่าจะเยอะ แล้วห้องหมอมีตรวจห้องเดียว เยอะจนจะต้องเกือบไปเจอหมอรอบบ่าย พอดีหมออีกคนพึ่งตรวจจากแผนกอื่นเสร็จ เลยลงมาช่วยตรวจให้ ซึ่งเราได้เจอกับหมอคนที่พึ่งลงมาช่วยตรวจ เป็นหมอที่พ่อรู้จักเพราะเปิดคลินิกแถวบ้านพอดี หมอก็เหมือนรีบๆอ่านเพราะใกล้เวลาพักเที่ยงแล้วด้วย เลยไม่ทันได้คุยอะไรมาก ก็สรุปแบบ จะบอกว่าลวกๆก็ว่าได้แหล่ะ บอกว่าเป็นไทรอยด์เป็นพิษ ชัวร์ 100% แล้วก็สั่งยาต้านไทรอยด์ให้ขนาดเดิม แต่ยาลดความดันหมอบอกว่าให้กินเฉพาะเวลามีอาการพอ เพราะไปวัดความดันรอบนั้นคือค่อนข้างต่ำเลยหล่ะ แล้วก็นัดตรวจอีก 2 เดือนหลังจากนั้น

- (17 ก.ย.68)ครบ 2 เดือนกลับไปสเต็ปเดิมๆ เจาะเลือด รอผลออก พอผลออกเข้าไปเจอหมอ เราอึ้งกับคำที่หมอทักว่า สรุปเป็นไทรอยด์เป็นพิษมั้ย ตอนนั้นถ้าแพ้เสียงในหัวอาจจะบอกตอบไปว่า หนูไม่ใช่หมอค่ะ แต่ก็แค่อึ้งไปแปปนึงแล้วพ่อก็ช่วยอธิบายว่าความเป็นมาเป็นยังไง หมอคนนี้ก็ยังคงไม่ใช่หมอคนเดิม แต่ดีว่าหมอคนนี้ค่อนข้างพูดตรงๆ เขาพูดว่า ดูจากผลครั้งนี้ บวกกับครั้งแรกๆเลย จุดพีคมาละ หมอบอก คือไม่มีค่าไหนที่ชี้ว่าเป็นไทรอยด์เป็นพิษ เลยแบบเลย จับดูก้อนที่คอก็ไม่มี ดูช่วงตาก็ปกติ ดูเล็บดูอะไรด้วย แล้วหมอก็เลยถามว่า ใครเป็นคนสั่งยาต้านไทรอยด์ให้ ซึ่งก็บอกไปตามตรงเลยว่า ตั้งแต่ที่ออกจากรพ.ครั้งแรกเลย หมอก็เลยอ่ะ สั่งหยุดยา หมอบอกอีกว่า ยาขนาดแค่นี้ กินก็เหมือนไม่ได้กิน แล้วกินแบบนี้ต่อไปจะไปกระตุ้นให้เป็นได้จริงๆด้วย จากนั้นก็ลงนัดตรวจอีกที ตอนแรกจะนัดแค่ 1 เดือน แต่พอดีช่วงเดือนนั้น(ต.ค.68)เรายุ่งๆเพราะช่วงสอบปลายภาคมหาลัย เลยขอหมอนัดไปอีกเดือนเลย(พ.ย.68) หมอก็โอเค

-*เคยอ่านในเน็ตเกี่ยวกับอาการที่เป็น ครั้งแรกเลย เจอโรคนึง คือโรคหายใจเกิน ซึ่งอาการค่อนข้างตรงกับเรา 90%+ เลย แต่ก็ไม่แน่ใจว่าจะใช่รึป่าว เพราะเราเองก็ไม่ใช่หมอ แค่คิดว่า อาการมันตรงมากๆ เผื่อใครพอจะเคยได้ยินบ้าง*-

- ช่วง 1 เดือน ก่อนจะแอดมิทครั้งแรกถ้าจำไม่ผิดคือจู่ๆก็รู้สึกเหมือนเป็นคนขี้ร้อนขึ้นมาก นิดๆหน่อยๆเหงื่อออก รู้สึกร้อนมาก ใครจับตัๅวก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ตัวร้อน ทั้งๆที่เรารู้สึกปกติเลย มีอาการเหนื่อยง่าย อ่อนเพลียตลอดวัน ทั้งวันที่นอนไม่พอกับวันที่นอนพอ ก็คือรู้สึกง่วงๆเพลียๆทั้งวันเลย

- ปัจจุบัน วันนี้ 23 ก.ย.68 หลังจากหยุดยามา ก็ไม่ได้มีอะไรผิดปกติ แต่ก็จะมีบางครั้งที่รู้สึกแน่นๆ หายใจไม่เต็มอิ่มบ้างเล็กน้อย แล้วก็ ยังคงมีอาการหัวใจเต้นเร็วทั้งๆที่อยู่ในสภาวะปกติ ประมาณ 100 นิดๆที่เคยลองนับเองต่อนาที

สุดท้ายนี้ ขอขอบคุณที่อ่านมาจนจบตรงนี้นะคะ อาจจะมีพิมพ์งงๆบ้าง(รึป่าว) เพราะก็จำไม่ได้ละเอียดมากแล้ว อาจจะเล่าวกไปวนมาเล็กน้อยต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ แล้วก็ หากพอจะมีความรู้ให้ได้ก็อยากให้ช่วยแชร์ความรู้ แชร์ประสบการณ์ให้กันได้นะคะ พร้อมรับฟังมากค่ะ เพราะก็อยากรู้ตัวเองเหมือนกันว่าสรุปเราเป็นอะไรมั้ย หรือมีคำแนะนำให้ไปตรวจอะไรยังไงก็ลองบอกได้ค่ะ ขอบคุณจริงๆนะคะที่อ่านมาจนจบ(เราพิมพ์เองยังว่ายาวมากๆ)🙏🏻🫶🏻
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่