+:+งานแต่งงานต้องยกเลิก...แต่ดิฉันกลับขอบคุณแฟนด้วยหัวใจ (ภาคจบ) +:+

กระทู้คำถาม
เจ้าของกระทู้กลับมาแล้วค่ะ..
เค้าก็ขอทำการทำงานสิตัวเอง..
ตอนแรกกะจะเล่าไป...ระบายไป
ไม่คิดว่าคนจะมาคอมเมนท์เยอะขนาดนี้

ขอตั้งกระทู้ใหม่นะคะ...กระทู้ัเก่าไม่ไหวจริงๆ

จะพยามรวบรัดตัดความให้เยอะที่สุดนะคะ..
แต่ก็กลัวจะขาดรายละเอียดที่เกี่ยวกับเนื้อเรื่องไป
จนหลายคนอาจจะคิดว่าเป็นเป็นเรื่องแต่งอีก...
อีกอย่างเราอยากจะให้แง่มุม..กับคุณพ่อคุณแม่ที่มีลูกสาวหรือลูกชาย
รวมไปถึงค่านิยมของสังคมบางสังคมที่ตัดสินคนเพียงแค่เพราะ “สถานภาพ”

เอาเป็นว่า..เราโดนคนอื่นกระทำมา...เราจะไม่กระทำแบบนี้กับคนอื่น
เชื่อใจเรานะ...ถ้าเชื่อใจเราก็ติดตามเรื่องของเรากันต่อไปได้เลยค่ะ ^^
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 202
บางคนก็มารยาททรามเกิน เผือกเรื่องชาวบ้านแล้วยังจะมีหน้ามาเร่ง
ความคิดเห็นที่ 290
สุดท้ายเราให้แง่คิดกับคุณผู้อ่านนะคะ
อย่าคบเพราะผู้ใหญ่เห็นว่าดี...เหมาะสม..เพราะคำว่าเหมาะสมไม่ใช่คำตอบเสมอไป

อย่าทนเพราะ...คำถาม..ที่หลายๆ คนชอบถาม...เมื่อไหร่จะแต่งงงาน  น่าจะแต่งงานได้แล้วนะ

และอย่าทน..เพียงเพราะแค่คำว่า “เหงา” เพราะเหงา...อย่างเก่ง ก็แค่ อารมณ์เศร้าแต่ไม่ทุกข์

อย่าลืมว่า..การแต่งงานเป็นแค่บทเริ่มต้น...เราจะได้ไม่ต้องมาโพสเรื่องแบบนี้ซ้ำซากในห้องชานเรือน
เมื่อเรากับเค้า...แต่งงานกันไปแล้ว...

ขอให้คนอ่าน..พบเจอรักแท้...เจอคนดี..อย่าได้เป็นเหมือนดิฉันนะคะ


ต่อนี้ไปดิฉัน...ต้องเตรียมตอบคำถามคนรอบข้าง..ที่เค้าจะถามว่า
“เมื่อไหร่จะแต่งงงาน..”  เลือกเยอะ...ไม่มีใครเอาหรือเปล่า
ขอรับรองว่าจะตอบอย่างมีสติค่ะ..มีสติ...

ขอบคุณที่ติดตามอ่านเรื่องของเรานะคะ...ขอบคุณจากหัวใจ.

ปล. มีเพื่อนที่เคยรู้จักแอบมาทักหลังไมค์ด้วย...จุ๊ๆ เหยียบไว้นะ...เค้าเขินนะ 555
ความคิดเห็นที่ 265
ติดตามอ่านมาตั้งแต่ต้น แอบอ่านอยู่คนเดียวเงียบๆ จขกท.จะว่างเขียนตอนไหน ก็ตามสะดวก
ทุกโพสต์ที่จขกท.เขียน เราก็จินตนาการตาม เชื่อว่า จขกท. กลั่นทุกความรู้สึกออกมาเป็นตัวหนังสือ... ด้วยหัวใจ
...
...
แต่แล้วก็มีพวก... มาร ชอบเผือกแล้วมาเร่ง  ยังไม่พอ.. พูดจากระแนะกระแหน ประชดประชัน
บางโพสต์บอกไม่ตามละเพราะเลือดกรุ๊ปจุดๆๆๆ (เอ๊า !! เอ่อ ใครอยากรู้เรื่องคุณคะ)
สรุป จขกท.ตัดบท เร่งมาถึงตอนจบ ตัดบางเรื่องออกไป ..
....
อืม...กรูเซ็งมากค่ะ บอกตรงๆ ขอสวดภาวนาแผ่เมตตาให้พวกชอบเผือกแล้วมาเร่งมาโวยนะ ... รำคาญฉิ_หาย
..ทำคนอื่นที่เขารออ่านอย่างตั้งใจ ต้องมาเสียโอกาสในการฟังเรื่องเต็ม
ความคิดเห็นที่ 324
ขอบคุณสำหรับทุกความเห็นที่เค้ามาให้กำลังใจนะคะ..

มาเข้าโหมดเรื่องการบอกยกเลิกงานแต่ง..ครอบครัวเรา..เราจัดการเอง
บอกก่อนนะคะ...ที่บ้านรู้เรื่องเดียวคือ..เค้าไปจีบคุณหมอ..แค่นั้นจริงๆ
เพราะเรา..ถ้าไม่ถึงที่สุด..เราจะไม่..บอกพ่อแม่ค่ะ...พ่อป่่วย..กลัวเค้าไม่สบายใจ

เราชิงบอกครอบครัวเราไปก่อนที่เค้าจะโวยวายแล้วค่ะ...
อย่างที่บอกวันที่เราร้องไห้...น้ำตาแทบเป็นสายเลือด..

เรากลับบ้านไม่ไหว..จำเป็นต้องไปอาศัยนอนคอนโดเพื่อน..
ตอนที่โทรไปบอกที่บ้าน

เรา: แม่ฝนตก..หนัก...ขับรถลำบาก..นอนบ้านน้อง...นะ

แม่: จับน้ำเสียงได้...เป็นอะไรอ่ะร้องไห้เหรอ

เรา: พรุ่งนี้จะรีบกลับนะ..บอกพ่อด้วย..


หลัง..จากวันนั้นสองสามวัน..
น้ำตาเริ่มแห้ง..เริ่มเข้มแข็ง..รู้ใจต้วเองแล้วว่า..
ยังไงก็รับเรื่องแบบนี้ไม่ได้....

พอดีญาติโทรมาเรื่องรับปริญญาค่ะ
เค้าจะเลี้ยงฉลองให้หลาน...ให้พาแฟนมาด้วย

เราเลยดึงมือแม่มานั่งบนเตียง...
กอดเอวแม่..มองหน้าแม่แล้วพูดว่า

เรา: แม่จะไม่มีงานแต่งอะไรใดๆ แล้วนะ
แม่: หน้าถอดสี..อะไรมีไร...พี่เค้าทำไรให้
เรา: แม่...พี่เค้าไปเที่ยวโสเภณี
แม่: ทำหน้าตกใจ...แล้วหนูไปรู้ได้ไง..

แม่ดึงเราเข้ามากอด..ลูบหัวแล้วบอกว่า
"หมดเคราะห์หมดโศกแล้วนะลูกนะ..ไม่ต้องตามใจแม่..
แค่เป็นแบบที่ผ่านมาแม่ก็ภูมิใจมากพอแล้ว...


" แม่ดีใจ...ที่ได้เป็นแม่ของหนูนะ"



เฮ้ย...หนูสิต้องดีใจ..ที่ได้เกิดมาเป็นลูกของพ่อกับแม่...

บอกแล้วไง..ว่ามีครอบครัวดี...มีกัลยาณมิตรดี ^^



สู้ สู้ ^^
ความคิดเห็นที่ 103
จขกท. มานั่งพิมพ์ นั่งเรียบเรียงให้อ่านง่ายๆ
คนอ่าน อ่านอย่างเดียว ยังจะบ่น
ใครที่มันรีบนักรีบหนาไปซื้อนิยายเล่มสิบบาทมาอ่านไป๊

อดทนรอแค่นี้ก็ไม่ได้ เพลีย
อมยิ้ม14
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่