แต่งงานแล้วออกจากอิสลาม = ตัดพ่อ ตัดแม่ ตัดญาติ ????

สงสัยในขนบอันนี้ของชาวอิสลามว่า ความเชื่อมันมีผลมากกว่าความสัมพันธ์ของสายเลือดเลยหรือ ???

เท่าที่ลองไล่อ่านมา ผมสรุปเอาได้ว่า
คนอิสลาม แค่เกิดมาในตระกูลอิสลามก็เป็นคำสั่งจากพระเจ้าแล้ว พ่อแม่มีหน้าที่แค่เลี้ยงดูตามบัญชาของพระเจ้าเท่านั้น ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องเลือดเนื้อเชื้อไขต่อกัน ทุกอย่างคือหน้าที่ที่ได้รับมา ถ้าคนๆนั้นไม่รับอิสลามก็เป็นบาปหนัก ต้องขับไล่ไปให้พ้นตัวเพื่อป้องกันการต่อว่าหรือถูกประณามจากสายตาคนรอบข้าง

มันเป็นเช่นนั้นหรือไม่???
แล้วจะมีทางทำลายขนบอันไม่ชอบธรรมและไร้เหตุผลทางตรรกะอย่างนี้ในสังคมไทยได้อย่างไร
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 100
คือคุณต้องเข้าใจก่อนว่า อิสลามไม่ใช่แค่ศาสนา แบบตำราคำสอน แต่มันฝักรากลึกลงไปในธรรมเนียมพิธีปฏิบัติ การใช้ชีวิตประจำวันซึ่ง
ข้อกำหนดต่าง ๆ ออกแบบมาเพื่อให้ความเป็นอิสลามเป็นอิสลามแบบดั้งเดิมมากที่สุด
ซึ่งแนวทางปฏิบัติก็จะเข้มข้นกว่าศาสนาอื่น เนื่องจากปัจจัยหลายอย่างทางด้านสังคม และพัฒนาการของศาสนา

ถามว่ามันขัดกับสิทธิพื้นฐาน ในโลกยุคสมัยใหม่มั้ย ในความรู้สึกผมก็คือขัดมาก
ทั้งเสรีภาพในการแต่งตัว การเลือกศาสนาที่เป็นประเด็นในกระทู้นี้เป็นต้น
คือจะบอกว่าจริง ๆ คุณเสรี คุณเลือกที่จะแต่งนอกศาสนาได้ คุณก็แค่เปลี่ยนศาสนาแค่นั้น
แต่จริง ๆ มันยังถูกกรอบของสังคมบีบบังคับ กดดัน เช่นการเผชิญหน้ากันระหว่างครอบครัว การตัดพ่อตัดแม่ เป็นต้น
ซึ่งจริง ๆ สังคมควรจะยอมรับการตัดสินใจและเสรีของแต่ละบุคคลที่ว่านี้

จริง ๆ ศาสนาอื่นก็มีประเด็นพวกนี้เหมือนกันแหละ อย่างที่หนัก ๆ เลยก็ฮินดูในอินเดีย

ผมว่าจขกท.อย่า เบี่ยงประเด็นไปเรื่องความเชื่อ อย่างเรื่องพระเจ้าเลย เถียงไปร้อยวันพันปีก็ไม่จบ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 17
ถ้าศาสนาพุทธ,คริสต์ใช้หลักคิดเดียวกับอิสลาม เเบบที่ทำกับใน อรับ อย่าว่าเเต่เเต่งงานเลย สุเหร่า ก็คงไม่มีสิทธิ์สร้าง คนในศาสนานั้นๆ จะไม่มีใครเปลื่ยนไปนับถือศาสนาอื่น อิสลามจะมีเเค่เเถวอรับเท่านั้น ดีที่ศาสนาอื่นๆสูงส่งและใจกว้างกว่านั้น
ความคิดเห็นที่ 21
นี่คือความน่ารังเกียจ ของมสุลิม เอาเเต่ได้ ใจคับเเคบ อะไรที่เป็นประโยชน์ของตนเอง เรียกร้องหาความเท่าเทียม อะไรที่ตนได้ประโยชน์เงียบ เช่นทุกประเทศในโลก ให้เสรีภาพกับศาสนาอิสลามในการเผยเเพร่ศาสนา เเต่ตรงกันข้าม ประเทศอิสลามไม่เคยให้เสรีภาพกับศาสนาอื่นเลย เรื่องเเบบนี้มุสลิมเงียบกันหมด
ความคิดเห็นที่ 110
คุยกับคนประสาทไปมันก็ไม่เข้าใจหรอกคุณแครอท เห็นแล้วเหนื่อยแทนจริงๆว่ะค่ะ ถ้ามันไม่มีสมองพอที่จะแยกว่าอันไหนคือการกระทำส่วนตัว อันไหนคือวัฒนธรรมท้องถิ่น อันไหนคือที่ศาสนาสอนมาหรือสั่งใช้ ก็ไม่ต้องไปคุยกับมันละ เหนื่อยเปล่าๆ สมองเล็กเท่าจิ๋มอะมีบาแบบนี้คุยไปก็ป่วยการ ไม่รู้เรื่องหรอก เชื่อดิ

เราก็ไม่เข้าใจว่าทำไมคนบางพวกถึงได้กลัวอิสลามกันนัก ถึงได้หาเรื่องมาโจมตีอยู่บ่อยๆ หรือว่ามีความเข้าใจผิดๆอะไรกันอยู่ก็ไม่รู้ ที่เวลามุสลิมออกมาชี้แจง ออกมาพยายามอธิบายเพื่อความเข้าใจ ก็ปิดหูปิดตาไม่ฟังกัน เหมือนมีอคติอยู่ครึ่งค่อนใจแล้ว พอเรื่องอะไรแย่ๆที่สื่อหรือพวกที่เป็น islamphobia ยัดเยียดมานี่รับไว้โดยง่ายเลยนะ เหอะๆ หลายคนเก่งแต่โจมตีศาสนาอื่น พอถึงศาสนาตัวเองมีจุดด่างพร้อยนี่เงียบกันเป็นเป่าสากเลย บางคนปากดีหน่อยก็อ้างอยู่แต่ว่าศาสนาไม่เสื่อม ธรรมไม่เสื่อม มีแต่คนที่เสื่อม แบบนี้ก็เข้าข่ายบอกปัด ไม่ยอมรับความจริงเหมือนกันนั่นแหละ เอาแต่มาว่าศาสนาอื่นเขา ดูตัวเองกันหรือยัง จุดบอดของศาสนาตัวเองนี่คนศาสนาอื่นๆเขาก็ไม่ก้าวก่ายไม่ยุ่งหรอก ไม่ใช่ธุระของเขา ปล่อยให้ไปจัดการกันเอง แต่เวลาที่ศาสนาอื่นมีเรื่องขึ้นมาทีนี่ดาหน้ากันมาเลยนะ มาชี้เอาๆ วิจารณ์ยังงั้น ด่ายังงี้ เหมือนที่ทำในกระทู้นี้ น่าขันอะ

ความจริงเราเองที่ออกมาช่วยปกป้องนี่ก็ไม่ได้อะไรเลยนะ ไม่มีทั้งส่วนได้หรือส่วนเสีย เราไม่มีศาสนาด้วยซ้ำ เข้าตำราว่าเนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ได้รองนั่ง เอากระดูกมาแขวนคอ บางทีถึงกับโดนพวกปากด๊อกมาพูดจาลามปามด้วยซ้ำ ตามตัวอย่างด้านล่างนี่ เราแคปเชอร์เก็บไว้หมดแหละ แต่ขี้เกียจเอาเรื่อง เพราะไม่อยากเอาทองไปลู่กระเบื้อง พวกนี้สิวๆเหมือนเห็บหมาเห็บแมว เจอแล้วก็เขี่ยๆทิ้งเอาตรีนบี้ทิ้งก็จบกันไป ฮ่าๆ

เจอแบบนี้แล้วก็อยากจะเลิกยุ่งเหมือนกันนะ บางทีก็คิดว่า เฮ้ย เรื่องกรูรึก็เปล่า อยู่ดีๆทำไมมาทำตัวให้คนชั่วหมั่นไส้ด้วยวะ เดี๋ยวก็จะโดนแบบที่เคยๆมา แต่พอเห็นอย่างที่เห็นในกระทู้นี้ทีไรมันก็อดไม่ได้ทุกที เราเลยเลือกที่จะอยู่ข้างความถูกต้อง ทำในสิ่งที่เราเชื่อว่ามันถูกต้องดีกว่า อย่างน้อยๆมันก็สบายใจเราเอง แล้วก็ได้เพื่อนดีๆเพิ่มขึ้นด้วย
ความคิดเห็นที่ 19
ความสูงส่งของศาสนา
คริสต์พร้อม -- แบ่งพื้นที่ให้ อิสลาม ร้องหาพระเจ้า
พุทธพร้อม -- เเบ่งพื้นที่ให้ อิสลาม จัดกิจกรรมทางศาสนา

อิสลาม?
ความคิดเห็นที่ 14
นี่เเหล่ะต้นเหตุเเห่งปัญหา การถือตนเองเป็นใหญ่เอาตัวเองเป็นที่ตั้งทุกคนต้องปรับตัวเข้าหาตนเอง ตนเองไม่เคยปรับตัวเข้าหา คนอื่นเเละสังคมส่วนใหญ่ ดีที่ทุกคนบนโลกไม่ได้คิดเเบบนี้ ถ้าคิดกันเเบบนี้โลกพินาศ เเน่ๆ จะไม่มีการเเต่งงานข้ามสังคมต่างความเชื่อเพราะ เเต่ละคนก็ถือตนเป็นที่ตั้งให้อีกฝ่ายเปลื่ยนมาเป็นพวกตน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่