สวัสดีค่ะ เห็นช่วงนี้มีกระทู้ลดน้ำหนักอยู่บ้าง ขอเข้ามาแจมละกันนะคะ เผื่อจะเป็นประโยชน์ เราเองเป็นคนที่เคยหนัก 56 , สูงแค่ 153 ค่ะ ตอนแรกเฉยๆนะ ไม่ได้ซีเรียส ตั้งใจเรียนอย่างเดียว(?) ไม่ค่อยดูแลตัวเอง อีกอย่าง ขี้เกียจ ค่ะ นับไม่ถ้วนกับคำว่า พรุ่งนี้ฉันจะลดน้ำหนัก เคยเป็นกันใช่มั้ยคะสาวๆ เวลาผ่านมาเรื่อยๆ จนได้ดูคลิปของคุณจอห์น วิญญูค่ะ เรื่องที่พี่เค้าลดน้ำหนัก แต่ของคุณจอห์นเค้าจะลดแบบฮาร์ดคอร์ ซึ่งเค้าก็บอกตลอดในคลิปนั้นๆ ดูแล้วเรารู้สึกว่า เห้ย! ถึงเวลาแล้วสินะ ลดดีกว่า อย่างที่บอกไปวิธีของคุณจอห์นจะหนักไปสำหรับเรา เราเลยเลือกวิธีเบาๆที่เรา "คิดว่า" เราทำได้ค่ะ นั่นก็คือ " ลดน้ำตาล " น้ำตาลเป็นตัวปัญหาสำหรับเรามาก เพราะ "รัก"ในการเติมน้ำตาลตอนทานก๋วยเตี๋ยว "หลงใหล" ในการดื่มชาเชียวขวดทุกรสชาติ และอื่นๆอีกมากมายที่เราไม่คิดว่ามันจะมีน้ำตาล "บ้า" กาแฟคาปูชิโน่ นม น้ำตาล มาเต็มค่ะ สิ่งที่เราทำคือ ทานทุกอย่างให้ดูเป็นปกติที่สุด เช่น ทานครบ 3 มื้อ แต่จะลดปริมาณลง ไม่ได้ลดแบบหักดิบนะคะ! ทำแบบนี้จะทำให้เราชินกับการทานในปริมาณที่น้อยลง และที่สำคัญและเป็นจุดยืนของเราคือ ลดน้ำตาล จากทุกอย่างที่เข้ามาลงท้องได้ เช่น ก๋วยเตี๋ยว ไม่ใส่น้ำตาลเลยค่ะ ตอนแรกยากมาก ทานอะไรไม่อร่อยเลย แต่ตอนนี้ชินค่ะ สบายมาก จากที่ดื่มชาเขียวแบบมีน้ำตาลก็หันมาดื่มแบบ ไม่มีน้ำตาล ไม่มีแคลอรี่แทนค่ะ เรียกว่าเราดื่มแทนน้ำเลยก็ได้ (ตรงนี้ไม่รู้ว่ามีผลเสียมั้ยนะคะ เป็นความชอบส่วนตัวค่ะ) กาแฟ ตัดขาดค่ะ ช่วงที่ลดจริงจังนี่ ไม่แตะเลย นอกจากนี้ การดูจำนวนแคลอรี่ก็สำคัญค่ะ แต่เป็นการทำแบบเห่อๆช่วงแรกของเราเท่านั้น สองอาทิตย์แรกจะบ้ากับการดูและคำนวน จำนวนแคลอรี่มากๆๆๆ แต่ตอนหลังจากนั้น จนถึงตอนนี้ ไม่ค่ะ เพราะอะไร? เพราะเหมือนกับว่าเราทำทุกอย่างจน "ชิน" ค่ะ มันจะเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของเราได้ง่ายๆเลย สิ่งที่เราควรตั้งใจคือ รักษาระเบียบนั้นให้เป็นเรื่อยๆ ต้องมั่นคงค่ะ เราทำอย่างนี้อยู่เรื่อยๆ คือดีตรงที่เราไม่ได้กำหนดชัดเจนว่า 1เดือนต้องลดได้เท่าไหร่ ตรงนี้จะทำให้เราไม่กดดันและไม่เครียด ที่สำคัญมันง่ายต่อการปรับตัวค่ะ บางคนจะหักดิบ ต้องการเห็นผลเร็วๆ แล้วพอได้ตามต้องการ ก็กลับมาเป็นแบบเดิมอีก เพราะมันเป็นแค่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมชั่วครู่เท่านั้น จนปัจจุบัน น้ำหนักเราอยู่ประมาณ 48-49 ค่ะ จาก 56 ภายในเวลา 5 เดือน ค่ะ ดูเหมือนนานใช่มั้ยคะ แต่มันทำให้เราทำตัวคงที่นะ ทำทุกอย่างเรื่อยๆ จนชินอย่างที่บอกไปน่ะค่ะ เราเคยลองท้าตัวเองเรื่องลองกลับมาเพิ่มน้ำตาล ทานกาแฟนมเยอะ ปรากฎว่า น้ำหนักยังเท่าเดิม ไม่เพิ่มขึ้น เราชอบตรงนี้ค่ะ เหมือนกับ การลดน้ำตาลเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตได้ง่ายๆ สรุปนะคะ การลดน้ำตาลเป็นสิ่งที่ทำได้ง่าย ไม่ใช่แค่ประโยชน์เรื่องน้ำหนัก แต่มีประโยชน์ต่อสุขภารด้านอื่นๆด้วยนะคะ เป็นผลดีในระยะยาวได้เลยค่ะ อีกอย่างการที่เราจะเปลี่ยนตัวเอง ที่ขาดไม่ได้คือความ ตั้งใจค่ะ แต่ไม่ใช่ตั้งใจในสิ่งที่ทำร้ายเรานะคะ ตั้งใจอย่างพอดี ยอมที่ค่อยเป็นค่อยไป ดีกว่าเร่งรัดแล้วผลเสียจะเร่งรีบตามมานะคะ ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่กำลังจะลดน้ำหนัก หรือลดอยู่ตอนนี้นะคะ สู้ๆค่ะ ปล.เขียนยาวไปหน่อย เขียนผิด เขียนไม่รู้เรื่อง ต้องขอโทษด้วยนะคะ ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ
[diet] ลดน้ำหนักง่ายๆด้วยการ "ลดน้ำตาล" :)
สวัสดีค่ะ
เห็นช่วงนี้มีกระทู้ลดน้ำหนักอยู่บ้าง ขอเข้ามาแจมละกันนะคะ เผื่อจะเป็นประโยชน์
เราเองเป็นคนที่เคยหนัก 56 , สูงแค่ 153 ค่ะ ตอนแรกเฉยๆนะ ไม่ได้ซีเรียส ตั้งใจเรียนอย่างเดียว(?) ไม่ค่อยดูแลตัวเอง
อีกอย่าง ขี้เกียจ ค่ะ นับไม่ถ้วนกับคำว่า พรุ่งนี้ฉันจะลดน้ำหนัก เคยเป็นกันใช่มั้ยคะสาวๆ
เวลาผ่านมาเรื่อยๆ จนได้ดูคลิปของคุณจอห์น วิญญูค่ะ เรื่องที่พี่เค้าลดน้ำหนัก แต่ของคุณจอห์นเค้าจะลดแบบฮาร์ดคอร์
ซึ่งเค้าก็บอกตลอดในคลิปนั้นๆ ดูแล้วเรารู้สึกว่า เห้ย! ถึงเวลาแล้วสินะ ลดดีกว่า
อย่างที่บอกไปวิธีของคุณจอห์นจะหนักไปสำหรับเรา เราเลยเลือกวิธีเบาๆที่เรา "คิดว่า" เราทำได้ค่ะ นั่นก็คือ
" ลดน้ำตาล "
น้ำตาลเป็นตัวปัญหาสำหรับเรามาก เพราะ "รัก"ในการเติมน้ำตาลตอนทานก๋วยเตี๋ยว "หลงใหล" ในการดื่มชาเชียวขวดทุกรสชาติ
และอื่นๆอีกมากมายที่เราไม่คิดว่ามันจะมีน้ำตาล "บ้า" กาแฟคาปูชิโน่ นม น้ำตาล มาเต็มค่ะ
สิ่งที่เราทำคือ ทานทุกอย่างให้ดูเป็นปกติที่สุด เช่น ทานครบ 3 มื้อ แต่จะลดปริมาณลง ไม่ได้ลดแบบหักดิบนะคะ!
ทำแบบนี้จะทำให้เราชินกับการทานในปริมาณที่น้อยลง
และที่สำคัญและเป็นจุดยืนของเราคือ ลดน้ำตาล จากทุกอย่างที่เข้ามาลงท้องได้ เช่น ก๋วยเตี๋ยว ไม่ใส่น้ำตาลเลยค่ะ
ตอนแรกยากมาก ทานอะไรไม่อร่อยเลย แต่ตอนนี้ชินค่ะ สบายมาก
จากที่ดื่มชาเขียวแบบมีน้ำตาลก็หันมาดื่มแบบ ไม่มีน้ำตาล ไม่มีแคลอรี่แทนค่ะ เรียกว่าเราดื่มแทนน้ำเลยก็ได้
(ตรงนี้ไม่รู้ว่ามีผลเสียมั้ยนะคะ เป็นความชอบส่วนตัวค่ะ)
กาแฟ ตัดขาดค่ะ ช่วงที่ลดจริงจังนี่ ไม่แตะเลย
นอกจากนี้ การดูจำนวนแคลอรี่ก็สำคัญค่ะ แต่เป็นการทำแบบเห่อๆช่วงแรกของเราเท่านั้น สองอาทิตย์แรกจะบ้ากับการดูและคำนวน
จำนวนแคลอรี่มากๆๆๆ แต่ตอนหลังจากนั้น จนถึงตอนนี้ ไม่ค่ะ
เพราะอะไร? เพราะเหมือนกับว่าเราทำทุกอย่างจน "ชิน" ค่ะ มันจะเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของเราได้ง่ายๆเลย
สิ่งที่เราควรตั้งใจคือ รักษาระเบียบนั้นให้เป็นเรื่อยๆ ต้องมั่นคงค่ะ
เราทำอย่างนี้อยู่เรื่อยๆ คือดีตรงที่เราไม่ได้กำหนดชัดเจนว่า 1เดือนต้องลดได้เท่าไหร่ ตรงนี้จะทำให้เราไม่กดดันและไม่เครียด
ที่สำคัญมันง่ายต่อการปรับตัวค่ะ บางคนจะหักดิบ ต้องการเห็นผลเร็วๆ แล้วพอได้ตามต้องการ ก็กลับมาเป็นแบบเดิมอีก
เพราะมันเป็นแค่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมชั่วครู่เท่านั้น
จนปัจจุบัน น้ำหนักเราอยู่ประมาณ 48-49 ค่ะ จาก 56 ภายในเวลา 5 เดือน ค่ะ ดูเหมือนนานใช่มั้ยคะ แต่มันทำให้เราทำตัวคงที่นะ
ทำทุกอย่างเรื่อยๆ จนชินอย่างที่บอกไปน่ะค่ะ เราเคยลองท้าตัวเองเรื่องลองกลับมาเพิ่มน้ำตาล ทานกาแฟนมเยอะ ปรากฎว่า
น้ำหนักยังเท่าเดิม ไม่เพิ่มขึ้น เราชอบตรงนี้ค่ะ เหมือนกับ การลดน้ำตาลเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตได้ง่ายๆ
สรุปนะคะ การลดน้ำตาลเป็นสิ่งที่ทำได้ง่าย ไม่ใช่แค่ประโยชน์เรื่องน้ำหนัก แต่มีประโยชน์ต่อสุขภารด้านอื่นๆด้วยนะคะ
เป็นผลดีในระยะยาวได้เลยค่ะ อีกอย่างการที่เราจะเปลี่ยนตัวเอง ที่ขาดไม่ได้คือความ ตั้งใจค่ะ แต่ไม่ใช่ตั้งใจในสิ่งที่ทำร้ายเรานะคะ
ตั้งใจอย่างพอดี ยอมที่ค่อยเป็นค่อยไป ดีกว่าเร่งรัดแล้วผลเสียจะเร่งรีบตามมานะคะ
ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่กำลังจะลดน้ำหนัก หรือลดอยู่ตอนนี้นะคะ สู้ๆค่ะ
ปล.เขียนยาวไปหน่อย เขียนผิด เขียนไม่รู้เรื่อง ต้องขอโทษด้วยนะคะ
ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ