เส้นขนานสองหัวใจ บทที่ ๑๔

กระทู้สนทนา
บทนำ - ตอนล่าสุด http://my.dek-d.com/thezircon/writer/view.php?id=893020

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

14

    บันไดหินอ่อนเป็นมันวาวทอดตัวโค้งมาจากชั้นบน ชายหนุ่มกึ่งเดินกึ่งวิ่งลงมาก่อนหยุดชะงักยังที่พักบันได เขาสอดส่ายสายตาหามารดา ก็เห็นท่านนั่งหันหลังให้บันไดกำลังอ่านเอกสารบางอย่างกับพี่ชาย จิรายุต้องรีบยกนิ้วแตะปากเมื่อผู้พี่เงยหน้ามาทางเขาพอดี

    ทว่า...

    “อ้าวคุณแบงค์ ตื่นแล้วเหรอจ๊ะ เดี๋ยวพี่บอกเด็กอุ่นข้าวต้มปลาให้ค่ะ” พี่สะใภ้ซึ่งเพิ่งออกมาจากครัวเอ่ยทักอย่างหวังดี

    จิรายุแทบยกมือกุมขมับ รู้สึกถึงสายตาพิฆาตของมารดากำลังจับจ้องจนท้ายทอยเขาร้อนวูบ คนทำตัวหลบๆ ซ่อนๆ จำต้องเดินลงไปหาผู้เป็นแม่โดยดุษณี

    “ทำอะไรกันอยู่ฮะนี่” เขาถามแก้เก้อ รับแก้วน้ำขิงอุ่นๆ จากพี่สะใภ้ส่งให้มารดาเสียเอง

    “กำลังเช็ครายชื่อลูกค้าที่จะเชิญไปงานเลี้ยงขอบคุณน่ะ” พี่ชายซึ่งแก่กว่าเขาแปดปีตอบแทน

    ชายหนุ่มพยักหน้ารับรู้ ก่อนหันไปบอกพี่สะใภ้ที่เตรียมจะลุกกลับเข้าครัวอย่างนึกขึ้นได้

    “ของผมไม่ต้องก็ได้ครับ ขอใส่ถุงแทนดีกว่า จะเอาไปเยี่ยมคนป่วยน่ะครับ”

    ดรุณีหันขวับมองบุตรชาย อดโวยไม่ได้เมื่อทราบว่าลูกกำลังจะออกไปข้างนอก ประสาคนที่เชื่อคำทำนายของหมอดู

    “อะไร กลับบ้านดึกดื่น นี่จะออกไปไหนแต่เช้าอีกแล้ว”

    ถ้าเป็นไปได้เธออยากให้ลูกหัวดื้ออยู่แต่บ้านเสียด้วยซ้ำ หยุดทำงานสักปีสองปีให้พ้นช่วงเคราะห์ร้ายนี้ไปก่อน แต่ครั้นปรึกษากับสามีและลูกคนโต ทุกคนก็เพียงแต่รับฟังผ่านหูไป

    “เช้าที่ไหนล่ะม้า เก้าโมงกว่าแล้ว”

    “ทีอย่างนี้เก้าโมงว่าสาย ทีตอนฉันปลุกให้ไปไหนเป็นเพื่อน สิบเอ็ดโมงบอกว่าเช้า” ดวงตาเรียวเล็กตวัดค้อน

    จิรายุหัวเราะอย่างไม่สำนึก “อย่างอนสิม้า แบงค์กำลังหาสะใภ้ตามคำทำนายของซินแสให้อยู่นี่ไง ต้องรีบทำคะแนนหน่อย”

    เขาอ้างเพื่อให้หมดเรื่องหมดราว ใจคอเขายังไม่คิดจะแต่งงานในเวลาอันใกล้นี่แน่ ซ้ำยังไม่เคยคิดกับใครในแง่นี้มาก่อน แม้แต่รุ่นน้องสาวซึ่งตนเพียรไปมาหาสู่ ก็เป็นแค่ความรู้สึกดีๆ ที่รอวันพัฒนาต่อไป

    หากผู้เป็นแม่กลับเชื่อคำพูดนั้นจริงจัง...

    “ใครวะ ชื่ออะไร ลูกเต้าเหล่าใคร อย่าบอกนะว่าเป็นพวกผู้หญิงหยำฉ่าอย่างที่แกเคยคบ”

    “เขาเรียกเด็กเชียร์เบียร์ต่างหากม้า พวกนั้นแบงค์แค่คุยเล่นๆ คนนี้ไม่ใช่หรอก ชื่อเกด...เกตน์สิรี เป็นรุ่นน้องที่โรงเรียนเก่า น้องไอ้ปอที่อาม่าเคยพูดถึงไง”

    ดรุณีพยายามนึกทบทวน คลับคล้ายคลับคลาว่าเคยได้ยินแม่สามีเอ่ยถึงอยู่เหมือนกัน แต่ก็นานเต็มที

    จิรายุฉวยโอกาสที่โทรศัพท์มีสายเข้าลุกไปจากโซฟาข้างมารดา เขาค้อมศีรษะขอบคุณพี่สะใภ้ที่ส่งถุงข้าวต้มให้ขณะสวนกันกลางโถง ทำหูทวนลมกับเสียงแหลมซึ่งเรียกไล่หลังตามมา

    “โห แกโทรมาได้จังหวะดีมาก ข้ากำลังถูกม้าสอบสวนพอดี” ชายหนุ่มกรอกเสียงรับสายพลางไขกุญแจรถ

    ปีแสงหัวเราะหึ รู้อย่างนี้เขาน่าจะรออีกสักครึ่งชั่วโมงค่อยโทร กระนั้นเขาก็เอ่ยถึงเรื่องที่คุยกันไว้เมื่อคืน

    “ตกลงจะเข้ามาเอาดอกไม้หรือเปล่า แยกกระถางให้แล้วนะเว้ย”

    “เฮ้ย ลืมเลยว่ะ ฝากแกไว้ก่อนนะ ข้ากำลังจะไปหาน้องเกด เมื่อคืนแม่น้องเข้าโรงพยาบาลอีกแล้ว” หางเสียงผู้พูดติดรำคาญอย่างที่เจ้าตัวก็ไม่รู้สึกตัว

    คนฟังใจหาย “แล้วอาน้ำเป็นไรมากหรือเปล่า”

    “ไม่หรอก” จิรายุตอบสั้นด้วยไม่แน่ใจว่าตนควรเอ่ยถึงสาเหตุการเข้าโรงพยาบาลของสตรีวัยกลางคนครั้งนี้มากน้อยแค่ไหน

    ทว่าปีแสงกลับเข้าใจว่าคำตอบสั้นๆ ของเพื่อนเป็นเพราะต้องการกันเขาออกห่างจากชีวิตเกตน์สิรี ความคิดนั้นเหมือนเหล็กร้อนๆ แนบลงไปบนหัวใจเขา มันแสบร้อนเสียจนต้องยุติความคิดนั้นฉับพลัน แม้แต่ตนเองยังแปลกใจ ตกใจกับความรู้สึกอันรุนแรงเกินกว่า ‘พี่หวงน้อง’ ของตน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่