เส้นขนานสองหัวใจ บทที่ ๑๘

กระทู้สนทนา
บทนำ - ตอนล่าสุด http://my.dek-d.com/thezircon/writer/view.php?id=893020

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

18

    ความสุขสงบหวนกลับคืนมาหลังเลิกงานเย็นนั้น เมื่อในรถสปอร์ตหรูมีเพียงเขากับหญิงคนรัก กระนั้นจิรายุกลับรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้องอย่างเคย เมื่อตระหนักถึงความสัมพันธ์ที่กำลังจะพัฒนา เติบโตไปอีกขั้นหนึ่ง ไม่ใช่เพราะเขาและเธอช่วยกันรดน้ำพรวนดิน แต่เป็นเพราะเจ้าของสวนอย่างมารดาใส่สารเร่งการเจริญเติบโต

    เขารู้ว่าผลของมันจะสุกและหอมหวาน จึงยอมฝืนใจให้ท่านเข้ามาก้าวก่าย ปลอบใจตนเองว่าถึงอย่างไรผลของต้นไม้นั้นก็เป็นของเขาอยู่ดี

    “แวะดูหนังกันก่อนนะน้องเกด พี่รอเรื่องนี้มาเป็นปีแล้ว เกดดูเป็นเพื่อนพี่หน่อยนะ” จิรายุชวนกะทันหันก่อนเลี้ยวรถไปอีกทาง

    เกตน์สิรียิ้มบาง เขามีคำตอบให้เธออยู่แล้ว ประโยคคำถามนั้นจึงเหมือนประโยคบอกเล่าเสียมากกว่า ดังนั้น อีกกว่าสามชั่วโมงต่อมาเธอจึงเดินออกจากโรงภาพยนตร์พร้อมคนที่คอยจูงมือ

    “ไม่ค่อยสนุกแฮะ สู้ภาคแรกไม่ได้” คอหนังวิจารณ์

    “เกดไม่เคยดูภาคแรก แต่ว่าสนุกออกค่ะ”

    “งั้นไว้เกดไปดูที่ห้องพี่สิ แล้วจะรู้ว่าสนุกกว่ากันเยอะ” ความกดดันเมื่อคิดว่าอย่างไรเขากับเจ้าหล่อนก็ต้องใช้ชีวิตร่วมกันในอนาคต ทำให้เอ่ยออกมาอย่างคะนองปาก

    หัวใจหญิงสาวกระตุกวูบไปวูบหนึ่ง ถ้อยความนั้นแปร่งหู หากเธออยากคิดว่าจิรายุเพียงแค่ล้อเล่น ความเป็นคนสนุกสนานของเขาทำให้เชื่อได้ว่าเขาเจตนาเย้าแหย่เท่านั้น

    กว่าจะกลับถึงบ้านเย็นวันนั้นก็เกือบยี่สิบสองนาฬิกา สมกับเป็นวันศุกร์สิ้นเดือนเมื่อผู้คนมากมายทำให้การจราจรในห้างดังติดขัด บ้านหลายหลังปิดไฟมืดแล้ว จิรายุชะลอความเร็วเทียบกำแพงบ้านข้างเคียง ก่อนหรี่ไฟหน้ารถลง

    “เข้าบ้านก่อนไหมคะ” เกตน์สิรีชวนขณะกำลังจะเปิดประตูลง

    ทว่ามือหนารั้งต้นแขนเรียวไว้เสียก่อน หญิงสาวเลิกคิ้วมองรุ่นพี่หนุ่มที่ดูจะเขยิบเข้ามาใกล้ ใกล้เสียจนเธอรู้สึกตัวเล็กลงไปอีก ร่างบางถอยหนีจนหลังพิงประตู

    “น้องเกดไม่อยากรู้เหรอว่าพี่กับม้าคุยอะไรกัน” เสียงถามเบาเท่ากระซิบ แต่ก็ดังพอได้ยินท่ามกลางความเงียบในห้องโดยสาร

    เกตน์สิรีฝืนยิ้ม พยายามสงบใจซึ่งเต้นรัวตอบออกไป “พี่แบงค์อยากเล่าไหมล่ะคะ”

    จิรายุไม่ได้สนใจคำตอบ เขาหยิบผมที่ปรกลงมาข้างแก้มของคนรักทัดหู ฉวยโอกาสลากนิ้วผ่านแก้มเนียนนุ่มที่ตนอยากสัมผัสมานาน ก่อนเชยคางของหญิงสาวซึ่งก้มหน้างุดขึ้นพิศให้เต็มตา

    แก้มนวลที่ตนเพิ่งสัมผัสบัดนี้แดงก่ำ แพขนตางอนไหวระริกหากก็ไม่ยอมสบตา เขารู้ว่าเธอพยายามเก็บซ่อนความตื่นกลัว หากท่าทางไม่ประสาอย่างนั้นกลับทำให้เขารุ่มร้อนใจยิ่งกว่า

    ชายหนุ่มขยับเข้ามาใกล้เข้า...ใกล้เข้า... จนลมหายใจของคนสองคนผสานรวมกัน ในอกในใจสาวหวิวโหวงประหลาดแล้วกลับคับแน่นจนหายใจไม่ออก เมื่อรู้สึกได้ว่าแสงตาอีกฝ่ายกำลังจับจ้องเธอ

    “พี่รักเกดนะ”

    ราวกับประโยคนั้นคือใบเบิกทาง ก่อนจิรายุจะประทับริมฝีปากลงบนกลีบดอกไม้หอมหวานโดยเจ้าของไม่ทันขัดขืน เกตน์สิรีแทบลืมหายใจ สองมือกำกระโปรงแน่น จนเมื่อเขาถอนริมฝีปากออกไปพร้อมกับสูบเอาพลังใจของเธอไปเช่นกัน

    “ดะ...ดึกแล้ว เกดขอตัวนะคะ”

    ชายหนุ่มมองตามคนที่ก้าวลงรถอย่างไม่มั่นคงนัก รอกระทั่งเธอเปิดรั้วเข้าบ้านแล้วเรียบร้อยตนจึงใส่เกียร์ขับออกมา

    เขาเท้าแขนขวากับประตูรถพลางยกมือแตะริมฝีปากขณะทบทวนความทรงจำ กลิ่นหอมหวานอย่างผลไม้ยังคงอ้อยอิ่งติดตาม ชวนให้ความคิดต่างๆ เลยเถิดไปไกล โธ่เอ๊ย แล้วคืนนี้เขาจะข่มตานอนบนเตียงใหญ่ลำพังได้อย่างไร

.....................................

    เสียงสุนัขกว่าสิบตัวเห่าดังขรมเร่งฝีเท้าเจ้าบ้านให้ก้าวเร็วสลับวิ่งไปเปิดประตูรั้ว ก่อนพวกมันจะหลบหลีกไปคนละทางเมื่อรถสปอร์ตสีบรอนซ์เงินเคลื่อนเข้ามา หากยังคงจดๆ จ้องๆ เฝ้าระวังแขกยามวิกาลอยู่ไม่ไกล

    ปีแสงรับถุงซึ่งเต็มสองมือเพื่อนมาจำนวนหนึ่ง ข้างในถุงทั้งสองมีเบียร์เย็นเฉียบถุงละสองขวดซึ่งจิรายุบอกว่าจะแวะซื้อเข้ามา เขาพาเพื่อนเดินลัดสนามไปยังซุ้มไม้ยกพื้น มีหลังคาทรงไทยบังแดดฝน พื้นไม้นั้นปูทับด้วยเสื่อจันทบูร และมีโต๊ะไม้เตี้ยๆ เคลือบแลกเกอร์จนขึ้นเงาตั้งอยู่ตรงกลาง เหมาะเป็นที่นั่งเล่นนอนเล่นพักผ่อนกลางสนามหน้าบ้าน

    จานและแก้วถูกเตรียมพร้อมไว้แล้วบนโต๊ะตั้งแต่เขาได้รับโทรศัพท์จากเพื่อนสนิท ดังนั้นเมื่อทั้งสองหย่นตัวลงนั่งขัดสมาธิ ต่างก็ช่วยกันแกะถั่วออกจากถุง รินเบียร์ใส่แก้วสองใบ

    “แม่แกหลับยังวะ ถ้ายังจะได้ขึ้นไปสวัสดี” แขกยามวิกาลเอ่ยถาม

    “เข้าห้องไปตั้งแต่สี่ทุ่มแล้ว ไม่เป็นไรหรอก” ปีแสงตอบพลางยกเบียร์เย็นๆ ขึ้นจิบ หากเพื่อนเขาสิกลับดื่มอั้กๆ จนหมดแก้ว ก่อนรินเติมให้ตนเอง

    “ถ้าม้าโทรตาม คราวนี้แกคงเป็นพยานให้ได้นะ” จิรายุเอ่ยเรื่องที่เคยผิดใจกันมาก่อน ตามด้วยเสียงหัวเราะ

    เจ้าบ้านพยักพเยิดรับ แล้วถามเรื่องที่ตนค้างคาใจ “คิดไงขับรถมาไกลถึงนี่ โทรนัดออกไปข้างนอกก็ได้นี่นา”

    “ไม่ว่ะ วันนี้อยากอยู่เงียบๆ”

    ปีแสงมองเพื่อนอย่างค้นคว้า หากจิรายุดูจะยุ่งกับการรินเบียร์เพิ่มและเปิดขวดใหม่ ไม่ปากมากเหมือนก่อน

    ความสงสัยนั้นตามติดมาด้วยความห่วงใยต่อเกตน์สิรี มันเกิดขึ้นอัตโนมัติทุกครั้งไม่ว่าเพื่อนตนจะสุข ทุกข์ หรือทำเรื่องเหลวไหล ย่อมเกิดผลผูกพันไปถึงหญิงสาวด้วยนั่นเอง

    “มีปัญหาอะไรเปล่าวะ ทะเลาะกับม้า...หรือเกด” ชื่อคนหลังแทบจะแผ่วหายไปในลำคอ พร้อมกับใจซึ่งภาวนาว่าอย่าได้เป็นเช่นคำพูดเขาเลย

    จิรายุลดแก้วในมือลง เขารู้...แต่แกล้งไม่รู้มาตลอดว่าเพื่อนตนคิดอย่างไรกับน้องสาวข้างบ้าน เขานี่แหละที่รู้ดีกว่าตัวมันเสียอีก หากความอยากเอาชนะนั้นปิดปากเขา กระทั่งได้เจอเกตน์สิรีโดยบังเอิญ ได้มาใกล้ชิดกับผู้หญิงประเภทที่ตนไม่คุ้นเคย เขาจึงนึกอยากเป็นเจ้าของหล่อนแต่เพียงผู้เดียว

    เออนะ แล้วทำไมเขาต้องกลัวการแต่งงานด้วย ในเมื่อนั่นเป็นวิธีเดียวที่เขาจะได้ครอบครอง ยึดเธอเป็นกรรมสิทธิ์ของเขา

    “ทะเลาะอะไรเล่า คนเขาออกจะรักกันดี” ชายหนุ่มเอ่ยกลั้วหัวเราะ หากมันแปร่งปร่ากว่าทุกที “ข้าตัดสินใจจะแต่งงานตามม้าว่าแล้วนะ”

    ปีแสงนิ่งงัน พยายามตีความประโยคบอกเล่าง่ายๆ นั้นเหมือนคนโง่งมเต็มประดา

    “แต่ง...กับใคร”

    คำถามโง่ๆ นี้อีก เขาพยายามเกาะเกี่ยวความหวังสุดท้ายไม่ให้หลุดลอยไป ทว่าจิรายุไม่เพียงทำให้มันหลุดลอย เพื่อนสนิทจิ้มลูกโป่งแห่งความหวังของเขาแตกในพริบตา

    “กับเกดสิวะ จะมีใคร”

    ไม่จริง... เสียงในใจเขาร่ำร้องปฏิเสธ เหมือนเมื่อวานนี้เองที่เขาเพิ่งพบเกตน์สิรี ได้น้องน้อยที่น่ารักของตนกลับคืนมา แล้วตอนนี้จิรายุก็กำลังบอกว่าจะพรากเธอไป

    “ยินดีกับกูเปล่า”

    เสียงถามนั้นคลายมือซึ่งกำลังบีบแก้วบรรจุน้ำสีทองแน่น แน่อยู่แล้ว เขาต้องยินดี แต่ไม่ใช่ตอนนี้ มันเร็วไปสำหรับน้องของเขา อนาคตยังอีกไกลเหลือเกิน ยังมีเวลาเรียนรู้กันอีกมาก เขาบอกเธอชัดเจนแล้วไม่ใช่หรือ หรือคำของพี่คนนี้ไม่สำคัญ

    ปีแสงยกเบียร์ขึ้นจิบอึกใหญ่ หวังให้คอซึ่งแห้งผากชุ่มชื่นขึ้นบ้าง แต่ใจที่แห้งผากนี่สิเจ็บปวดยิ่งกว่า

    “ก็ดี ถ้าแกสองคนคิดดีแล้ว”

    จิรายุหัวเราะแกนๆ เยาะทั้งตนและเพื่อนที่ต่างกำลังทำในสิ่งฝืนใจ

    คืนนั้น เครื่องดื่มชนิดเดียวดูจะขายดีที่สุด เมื่อชายหนุ่มทั้งสองดื่มราวแข่งขัน กระทั่งหลับพับคาศาลาไปทั้งคู่
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่