สาวดวงซวย! รถถูกชนแล้วหนี เข้าแจ้งความ จากผู้เสียหายกลายเป็นผู้ต้องหา
สาวขับแท็กซี่ดวงซวย รถจอดไว้ถูกชนแล้วหนี ขึ้นโรงพักแจ้งความ จากผู้เสียหายกลายเป็นผู้ต้องหา เจอหมายจับบัญชีม้าไม่รอด
เมื่อวันที่ 18 ธ.ค. ที่สภ.เมืองนนทบุรี พ.ต.ท.เฉลิมฤทธิ์ ถาวร รอง ผกก.สส.สภ.เมืองนนทบุรี พ.ต.ต.ธราธิป เพ็งขำ สว.สส.สภ.เมืองนนทบุรี ได้ร่วมกันจับกุมตัว นางสาวจิรายุ อายุ 31 ปี ตามหมายจับของศาลจังหวัดน่าน ที่ จ228/2568 ลงวันที่ 8 ส.ค.68 ความผิดฐาน ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะทำให้เกิดความเสียหายต่อประชาชน
สืบเนื่องจากนางสาวจิรายุ ได้เข้ามาแจ้งความที่สภ.เมืองนนทบุรี ว่าถูกรถยนต์ไม่ทราบยี่ห้อขับมาชนรถแท๊กซี่ของตนเองที่จอดอยู่ที่กระทรวงสาธารณสุขจนได้รับความเสียหายแล้วหนีไป แต่ขณะที่มาแจ้งความที่สภ.เมืองนนทบุรี ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบชื่อปรากฏว่ามีหมายจับที่จ.น่าน ความผิดฐาน ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ จึงได้จับกุมตัวนำส่งสภ.นาหมื่น จ.น่าน ซึ่งนางสาวจิรายุ ได้รับสารภาพว่าเคยเอาบัญชีส่วนตัวของตนเองให้กับแฟนเก่าที่เป็นคนลาวใช้ และไม่ทราบว่าเขาเอาไปทำอะไรต่อ
จากการสอบถาม นางสาวจิรายุ เล่าว่า วันนี้ตนมาแจ้งความเรื่องถูกรถชนแล้วหนี ตนเคยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับเรื่องหมายจับบัญชีม้าเมื่อเดือนที่แล้ว แต่ชุดที่จับบอกว่าเคลียร์ไปเรียบร้อยแล้ว และมีหมายมาอีกฉบับแต่ตนไม่ทราบเพราะหมายส่งไปที่บ้านเก่าแต่ตนมาอยู่ที่จ.นนทบุรี ตอนนี้ต้องทำใจปล่อยให้เป็นไปตามกฎหมาย ซึ่งตนรู้สึกว่าดวงซวยเพราะก่อนจะถูกรถยนต์ชนแล้วหนีไม่กี่วันก็ถูกรถจยย.ชนแล้วหนีเหมือนกัน แล้วก็ถูกหมายจับต่ออีก
ด้าน พ.ต.ต.ธราธิป กล่าวว่า วันนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งความจากทางผู้เสียหาย แต่กลายมาเป็นผู้ต้องหา ว่ามีรถยนต์ขับมาชนรถแท็กซี่ของเขาแล้วหนีไป ซึ่งผู้ต้องหารายนี้ทำงานขายเครปอยู่ที่กระทรวงสาธารณสุข มาแจ้งความแต่ดันเจอหมายจับ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงต้องทำการจับกุมตัวตามหน้าที่ เคสนี้ก็ถือว่าน่าสงสารเพราะเจ้าของบัญชีไม่รู้แต่มาโดนคดีแทน จึงอยากฝากประชาชนว่าอย่าไว้ใจใครให้บัญชีเอาไปใช้ เพราะช่วงนี้มิจฉาชีพระบาด เอาไปให้คนอื่นใช้แต่สุดท้ายมาโดนคดีเสียเอง...
สามารถติดตามต่อได้ที่ :
https://www.dailynews.co.th/news/5419504/
สาวดวงซวย! รถถูกชนแล้วหนี เข้าแจ้งความ จากผู้เสียหายกลายเป็นผู้ต้องหา
สาวขับแท็กซี่ดวงซวย รถจอดไว้ถูกชนแล้วหนี ขึ้นโรงพักแจ้งความ จากผู้เสียหายกลายเป็นผู้ต้องหา เจอหมายจับบัญชีม้าไม่รอด
เมื่อวันที่ 18 ธ.ค. ที่สภ.เมืองนนทบุรี พ.ต.ท.เฉลิมฤทธิ์ ถาวร รอง ผกก.สส.สภ.เมืองนนทบุรี พ.ต.ต.ธราธิป เพ็งขำ สว.สส.สภ.เมืองนนทบุรี ได้ร่วมกันจับกุมตัว นางสาวจิรายุ อายุ 31 ปี ตามหมายจับของศาลจังหวัดน่าน ที่ จ228/2568 ลงวันที่ 8 ส.ค.68 ความผิดฐาน ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะทำให้เกิดความเสียหายต่อประชาชน
สืบเนื่องจากนางสาวจิรายุ ได้เข้ามาแจ้งความที่สภ.เมืองนนทบุรี ว่าถูกรถยนต์ไม่ทราบยี่ห้อขับมาชนรถแท๊กซี่ของตนเองที่จอดอยู่ที่กระทรวงสาธารณสุขจนได้รับความเสียหายแล้วหนีไป แต่ขณะที่มาแจ้งความที่สภ.เมืองนนทบุรี ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบชื่อปรากฏว่ามีหมายจับที่จ.น่าน ความผิดฐาน ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ จึงได้จับกุมตัวนำส่งสภ.นาหมื่น จ.น่าน ซึ่งนางสาวจิรายุ ได้รับสารภาพว่าเคยเอาบัญชีส่วนตัวของตนเองให้กับแฟนเก่าที่เป็นคนลาวใช้ และไม่ทราบว่าเขาเอาไปทำอะไรต่อ
จากการสอบถาม นางสาวจิรายุ เล่าว่า วันนี้ตนมาแจ้งความเรื่องถูกรถชนแล้วหนี ตนเคยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับเรื่องหมายจับบัญชีม้าเมื่อเดือนที่แล้ว แต่ชุดที่จับบอกว่าเคลียร์ไปเรียบร้อยแล้ว และมีหมายมาอีกฉบับแต่ตนไม่ทราบเพราะหมายส่งไปที่บ้านเก่าแต่ตนมาอยู่ที่จ.นนทบุรี ตอนนี้ต้องทำใจปล่อยให้เป็นไปตามกฎหมาย ซึ่งตนรู้สึกว่าดวงซวยเพราะก่อนจะถูกรถยนต์ชนแล้วหนีไม่กี่วันก็ถูกรถจยย.ชนแล้วหนีเหมือนกัน แล้วก็ถูกหมายจับต่ออีก
ด้าน พ.ต.ต.ธราธิป กล่าวว่า วันนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งความจากทางผู้เสียหาย แต่กลายมาเป็นผู้ต้องหา ว่ามีรถยนต์ขับมาชนรถแท็กซี่ของเขาแล้วหนีไป ซึ่งผู้ต้องหารายนี้ทำงานขายเครปอยู่ที่กระทรวงสาธารณสุข มาแจ้งความแต่ดันเจอหมายจับ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงต้องทำการจับกุมตัวตามหน้าที่ เคสนี้ก็ถือว่าน่าสงสารเพราะเจ้าของบัญชีไม่รู้แต่มาโดนคดีแทน จึงอยากฝากประชาชนว่าอย่าไว้ใจใครให้บัญชีเอาไปใช้ เพราะช่วงนี้มิจฉาชีพระบาด เอาไปให้คนอื่นใช้แต่สุดท้ายมาโดนคดีเสียเอง...
สามารถติดตามต่อได้ที่ : https://www.dailynews.co.th/news/5419504/