เส้นขนานสองหัวใจ บทที่ ๒๙

กระทู้สนทนา
บทนำ - ตอนล่าสุด http://my.dek-d.com/thezircon/writer/view.php?id=893020

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

29

แสงจ้ายามบ่ายมอบความอบอุ่นปกคลุมแทนที่ลมเย็นในฤดูหนาว ท้องฟ้าเป็นสีฟ้า กระจ่างสดใสไร้เมฆขาวบดบัง สมกับเป็นวันดีต้อนรับคนป่วยกลับบ้าน เกตน์สิรียังหวังให้เป็นวันสิ้นสุดและเริ่มต้นใหม่ของตนเช่นกัน

จิรายุใช้ไม้ค้ำยันยันตัวออกจากเบาะหลังรถ คนรักซึ่งนั่งอยู่บนเบาะหน้าข้างคนขับยืนรอประคอง ขณะที่ดรุณีอ้อมมาจากที่นั่งด้านหลังอีกฝั่งมาขนาบข้างบุตรชาย

บนระเบียงหน้าบ้านปรากฏร่างของสมาชิกครอบครัวอีกสามคนรอต้อนรับ มีรอยยิ้มจากพี่ชายและพี่สะใภ้เมื่อเห็นผู้เป็นน้องก้าวขึ้นบันไดระเบียงมา ทว่าชายชราผมสีดอกเลาที่ยืนคอยอยู่เหล่มองลูกชายคนเล็กแวบหนึ่ง ก่อนจะเดินกลับเข้าบ้านไป

"ไป นั่งพักก่อนอาแบงค์ เดี๋ยวจะขึ้นห้องไม่ไหว" มารดาชี้ชวน

จิรายุปฏิเสธเมื่อเห็นบิดานั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่บนโซฟาโค้งในห้องรับแขก ท่านยังไม่คลายความโกรธที่เขาทำตัวนอกลู่นอกทาง และไม่เคยไปเยี่ยมลูกคนนี้ที่โรงพยาบาลสักครา

"ไหวน่าม้า" เขาบอกอย่างหงุดหงิด

ชายหนุ่มก้าวขึ้นบันไดหินอ่อนอย่างทุลักทุเล มีพี่ชายช่วยประคองข้างหนึ่ง เกตน์สิรีคงยืนส่งแค่ปลายบันไดถ้าคนป่วยไม่หันมาเรียกเสียก่อน เธอสบตาหญิงชราอย่างขอความเห็น หากท่านก็ผงกศีรษะให้ตามไป

หลังประตูไม้สักบานใหญ่ สุดระเบียงทางเดินบนชั้นสองคือห้องนอนของบุตรชายคนเล็กของบ้าน เตียงใหญ่หนานุ่มตั้งอยู่กลางห้องซึ่งปูด้วยพื้นไม้ปาร์เกต์ จิรายุหย่อนตัวลงเก้าอี้ปลายเตียง รวบไม้ค้ำยันวางพาดไว้ข้างหนึ่งพลางหอบน้อยๆ

"อย่าคิดมากเลยน่า นายก็รู้ว่าป๊าเข้มงวดอย่างนี้มาแต่ไหนแต่ไร" พี่ชายปลอบพร้อมกับบีบไหล่หนาของน้อง

ชายหนุ่มถอนฉุน ตั้งแต่เล็กแล้วที่เขาถูกบิดาเพ่งเล็ง กระทั่งสามารถช่วยกิจการครอบครัวให้เป็นที่พอใจได้ ความเหลวไหลของเขาจึงถูกละเลย

เกตน์สิรีเห็นพี่น้องพูดจากันจึงถอยออกมาเงียบๆ เธอพบหญิงชราที่ปลายบันได ท่าทางแปลกใจที่เห็นเธอกลับลงมาในเวลารวดเร็ว

"อาเกด ลงมาเอาอะไรหรือ อาม้าว่าจะขึ้นไปดูความเรียบร้อยพอดี"

ผู้เยาว์สั่นศีรษะก่อนปฏิเสธ "เปล่าค่ะ พี่แบงค์คุยกับพี่อยู่ เกดเลยลงมา"

เธอนิ่งไปอย่างลังเลใจ โอกาสมาถึงแล้วแต่เรื่องที่ต้องการพูดกลับติดอยู่ริมฝีปาก

"มีอะไรหรือ..." ดรุณีถามอ่อนโยน

ว่าที่สะใภ้คนนี้ทำให้เธอมั่นใจว่าตนตัดสินใจไม่ผิดทุกครั้งที่เห็นเจ้าหล่อนดูแลบุตรชาย ไม่ทอดทิ้งไปไหนทั้งที่คนของตนเสียอีกสร้างความเจ็บช้ำน้ำใจให้ หมดข้อกังขาถึงจิตใจอันดีงามของผู้ที่จะมาเป็นสะใภ้ เป็นคู่ชีวิตลูกตน และเป็นแม่ของหลานสืบไป

"มีอะไรก็พูดมาเถอะ" เธอถามอีกเมื่อเห็นท่าทางอึกอักนั้น เอื้อมมือลูบเรียวแขนราวลำเทียนซึ่งเล็กกลมกลึงพ้นเสื้อแขนตุ๊กตาออกมา

เกตน์สิรีไม่อยากทำให้สตรีสูงวัยผู้นี้ต้องผิดหวังเลย ความตั้งใจแน่วแน่เริ่มสั่นคลอน พร้อมกับที่เสียงพูดคุยอย่างสนิทสนมยินดีระหว่างจิรายุกับผู้หญิงคนนั้นแว่วดังในหู แล้วยังสีหน้า แววตาของสตรีรุ่นราวคราวแม่ที่มีต่อคนรักตน มันลึกซึ้ง มีความหมายเกินกว่าคำว่า 'เพื่อน' ที่ทุกคนพยายามบอกเธอ

แค่คิด...ก็เจ็บปวดแทบไม่เป็นผู้เป็นคน นี่กระมัง ความผิดหวัง เสียใจของแม่ยามได้รับรู้ข่าวร้ายถึงสองข่าวโดยไม่ทันตั้งตัว สามีที่ใครๆ ต่างชื่นชม อิจฉา ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต หลังกลับจากรีสอร์ตต่างจังหวัดซึ่งหนุ่มใหญ่เลือกหลีกหนีสายตาคนในเมืองไปกับชายวัยกระทง

บัดนี้เธอเข้าใจแล้วว่าแม่เคยเจ็บปวด เสียใจเพียงไร  โลกใบสวยดุจลูกโป่งสีหวานแตกกระจุย ทว่าน้ำตาสักหยดกลับไม่ไหลลงมา มันย้อนกลับไปท่วมใจ

"หรือกังวลเรื่องงาน ไม่ต้องห่วงนะ ช่างค่ามัดจำเถอะ อาม้าไม่เสียดาย นี่วันก่อนโรงแรมก็โทรมา..."

เธอไม่อาจวาดฝันไปกับท่านได้อีก เธอตัดสินใจแล้ว เกตน์สิรีออกแรงบีบมือเหี่ยวย่นขณะรวบรวมกำลังใจ

"อาม้าคะ" หญิงสาวเว้นวรรคสูดหายใจนิดหนึ่ง ก่อนจะก้มมองมือที่กุมไว้ขณะเอ่ย "เกดคงไม่เหมาะกับพี่แบงค์หรอกค่ะ ต้องมีใครสักคนที่คู่ควรกับพี่แบงค์มากกว่าเกด และใจกว้างยอมรับสิ่งที่เคยเกิดขึ้นได้

"แต่เกดใจแคบ แล้วก็คงใจดำที่ล้มเลิกทุกสิ่งกลางคันแบบนี้ เกดเคยเห็นความทุกข์ของแม่มามาก เกดไม่อยากพาตัวเองไปสู่จุดนั้น อาม้าเข้าใจเกดด้วยเถอะนะคะ"

ผู้สูงวัยเบิกตาโตด้วยความตกใจ เธอไม่เชื่อว่าผู้หญิงตัวเล็กๆ ท่าทางอ่อนต่อโลกคนหนึ่งจะเลือกเผชิญหน้ากับคำติฉินนินทาของคนในสังคม แทนการปิดหูปิดตา ยืนอยู่บนยอดสูงให้ใครต่อใครแหงนมองด้วยความอิจฉา เช่นที่เธอเคยยืนฝ่าลมพายุแรงจนแทบพัดตนตกลงมา กว่าจะถึงวันฟ้าเปิด ตะวันทอแสงมาถึง ก็เปียกปอนไปทั้งกายใจ

ดวงตาเล็กเรียวฉายแววร้าวรานอยู่ลึกๆ แต่เธอจำเป็นต้องกล่อมให้ว่าที่สะใภ้เปลี่ยนใจ เพื่อลูกชาย...เพื่อครอบครัวสงบสุขที่ตนต้องปกครองต่อไป

"อาเกดกำลังโกรธ น้อยใจลูกอาม้าก็ใจร้อนอย่างนี้ เดี๋ยวมันก็ผ่านไป เชื่ออาม้าสิ อาม้าไม่ยอมให้ใครมารังแกพวกลูกได้อีก"

เกตน์สิรีสั่นศีรษะ จะเป็นไปได้อย่างไรที่ท่านจะคอยสอดส่องจิรายุทุกฝีก้าว เธอเองก็ทำไม่ได้เช่นกัน

"ได้โปรดเถอะนะคะ เกดรู้ว่ามันเร็วไปที่มาพูดเรื่องนี้ตอนนี้ แต่ตั้งแต่วันที่เกิดอุบัติเหตุครั้งนั้น ที่เกดยังยืนอยู่ข้างเตียงพี่แบงค์ได้ ก็เพราะระลึกถึงน้ำใจที่พี่แบงค์มีให้เกดเสมอมา" หญิงสาวเอ่ยเสียงเครือ

เมื่อมองสบดวงตาตัดพ้อ ผิดหวังของผู้ใหญ่ที่ตนเคารพนับถือ ก็ไม่อยากให้ท่านเข้าใจตนผิดไปจากเดิม

"เกดผิดเองที่ไม่เข้มแข็ง มั่นคงพอที่จะยืนหยัดเพื่อความรักได้ เกดยินดีคืนของหมั้นทั้งหมดที่อาม้าเมตตา"

เธอจำต้องยอมปล่อยบ้านของพ่อหลุดมืออีกครั้ง หนทางที่จะได้สมบัติรักกลับคืนมาห่างออกไป สมความตั้งใจเก่าก่อนแล้วกระมัง ที่เคยตั้งใจจะทวงบ้านตนกลับมาพร้อมความยุติธรรม

ดรุณีขยับปากจะเกลี้ยกล่อม ทว่าเสียงซึ่งกังวานมาเป็นเสียงแหบแห้ง ทรงอำนาจแทน

"เราควรเคารพการตัดสินใจของหนูนี่ อย่าว่าแต่คนอื่นจะทนมันไม่ได้เลย ฉันเป็นพ่อมันยังอายที่เห็นเธอลดตัวไปเถียงกับนังผู้หญิงคนนั้นให้ลั่นโรงพยาบาล ลูกเธอทำผิด เลิกให้ท้ายมันเสียที" ว่าแล้วบุรุษสูงวัยก็เดินอาดขึ้นชั้นบน

เกตน์สิรีมองผู้เป็นแม่ของชายหนุ่มรุ่นพี่ปิดหน้าสะอื้นด้วยความเห็นใจ ดวงตาผู้เยาว์มีน้ำรื้นคลอเช่นกัน

"ถ้าอาม้าไม่สงสารเกด ก็คิดว่าสงสารผู้หญิงคนหนึ่งเถอะนะคะ" เธอเอ่ยเสียงพร่า

ดรุณีปาดน้ำตา คอสั้นนั้นยืดขั้นกว่าเดิมเล็กน้อย ก่อนท่านจะเดินจากไปอีกทางโดยไม่เอื้อนเอ่ยสิ่งใด

หญิงสาวยืนคว้างอยู่ตรงนั้น มือกำสายกระเป๋าสะพายแน่นด้วยความไม่มั่นใจ แล้วน้ำตาหยดหนึ่งก็กลั่นตัวไหลลงมา

เธอไม่อยากจากไปด้วยความรู้สึกเช่นนี้ เธอยังรักและอยากเป็นที่รักของอาม้า หรือแม้กระทั่งบุตรชายของท่าน แต่จะทำอย่างไรได้เมื่อตนเลือกทางนี้ ก็จำต้องยอมรับ ก้มหน้าเดินบนทางที่ตนเลือกให้มั่นคง

เกตน์สิรีเดินฝ่าเปลวแดดยามบ่ายผ่านพื้นกระเบื้องลวดลายสวยงามของลานหน้าบ้านหลังใหญ่ ไอร้อนนั้นหาได้แผดเผาหยดน้ำตาด้วยเลย กลับหยาดลงมาตามร่องแก้มจนต้องหยุดใต้เงาไม้ระหว่างทางเท้าของหมู่บ้านจัดสรร ควานหาผ้าผืนบางในกระเป๋ามาซับไม่ให้น่าสมเพชเกินไป

สายลมอุ่นพัดมาดั่งสัญญาณให้รวบรวมแรงใจก้าวเดินต่อ ทางที่จะออกจากหมู่บ้านลึกกว่าสามร้อยเมตร หากหญิงสาวตัวเล็กๆ ก็ก้าวสม่ำเสมอ เร็วขึ้นทุกเหยาะย่าง

เธอก้มหน้าหลบไอแดด ผ่านป้อมยามที่สร้างเป็นโดมสไตล์ยุโรปเช่นเดียวกับบ้านในโครงการ ที่ซึ่งยามในเครื่องแบบสีฟ้ากำลังรับโทรศัพท์ รับอารมณ์โทสะของเจ้าของบ้านหลังใดหลังหนึ่งซึ่งเร่งให้ตามหาคนที่เพิ่งหนีกลับไป
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่