ถึงพรรคฝ่ายค้านคือพรรคประชาธิปัตย์จะอภิปรายดุเดือดเข้มข้นขนาดไหน หรือสังคมจะวิพากษ์วิจารณ์คัดค้านการชำเรารัฐธรรมนูญขึงพืดประเทศโดยขบวนการเครือข่ายระบอบทักษิณหนักหน่วงเพียงใดก็ตาม แต่ในที่สุดแล้วก็ต้องพ่ายแพ้ระบบตะแบงพวกมากลากไปโดยไม่คำนึงถึงความถูกต้องชอบธรรมใดๆ ทั้งสิ้น
ล่าสุด นายอำนวย คลังผา ประธานคณะกรรมการประสานงาน(วิป)พรรคร่วมรัฐบาล ออกมาส่งสัญญาณชัดว่า ถึงอย่างไรร่างชำเรารัฐธรรมนูญที่เสนอโดยพรรคร่วมรัฐบาลกับกลุ่มสมาชิกวุฒิสภา(สว.)เครือข่ายระบอบทักษิณจะผ่านความเห็นชอบในวาระแรกแน่นอนไม่เกิน 22.00 น. ของวันที่ 3 เม.ย.นี้ นั่นหมายความว่าเป้าหมาย หรือแม้แต่กรอบเวลาในการรวบรัดหักดิบผ่านร่างชำเรารัฐธรรมนูญได้ถูกล็อกไว้ล่วงหน้าแล้วตั้งแต่ต้น โดยการบงการสั่งการของนายใหญ่จากแดนไกล
ศึกครั้งนี้นายใหญ่จากแดนไกลสั่งระดมทัพครั้งใหญ่ดับเครื่องชนเพื่อตะแบงชำเรารัฐธรรมนูญให้สำเร็จตามเป้าหมายให้จงได้ โดยจะต้องไม่มีการโอ้เอ้ซื้อเวลาหรือถอยเหมือนที่ผ่านมา โดยเป้าหมายแอบแฝงอยู่ที่ 3 ประเด็นหลัก ประกอบด้วย มาตรา 68 ที่มีเป้าหมายแก้ไขเพื่อให้อัยการสูงสุดผูกขาดอำนาจในการพิจารณาชี้ขาดกรณีที่มีการร้องเรียนในกรณีเกี่ยวกับการล้มล้างระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข โดยตัดอำนาจการร้องเรียนโดยประชาชนและอำนาจการรับเรื่องร้องเรียนของศาลรัฐธรรมนูญออกไป ซึ่งถือเป็นเรื่องเลวร้ายมากและส่อเจตนาไม่ชอบมาพากล
ทั้งนี้สาเหตุที่ต้องแก้มาตรา 68ก็เพื่อปูทางไปสู่การผ่านร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 291 ที่ค้างอยู่ในวาระ 3 ขณะนี้ ซึ่งหากทำสำเร็จก็จะนำไปสู่การมีสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ(ส.ส.ร.)ร่างทรงมาชำเราหรือไม่ต่างอะไรจากการรัฐประหารล้มล้างรัฐธรรมนูญปัจจุบันใหม่ทั้งฉบับ โดยมีเป้าหมายสำคัญคือฟอกโทษความผิดทั้งหมดและทำให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้ทรัพย์สิน 46,000 ล้านบาท ที่ถูกยึดตกเป็นของแผ่นดินคืน และที่สำคัญคือแผนการยุบเลิกหรือลดอำนาจของสถาบันหลักต่างๆ ของชาติรวมทั้งบรรดาองค์กรอิสระที่เป็นอุปสรรคก้างขวางคอในการแผ่ขยายอิทธิพลและแสวงหาผลประโยชน์เพื่อปูทางให้ระบอบทักษิณยึดครองประเทศได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด
อีกประเด็นหนึ่งคือการแก้ไขที่มาของวุฒิสภาให้มาจากการเลือกตั้งทั้งหมดจำนวน 200 คน เพื่อให้ระบอบทักษิณเข้ายึดครองวุฒิสภาอันเป็นการขยายอำนาจอิทธิพลและทำลายระบบตรวจสอบถ่วงดุลของเหล่าสว.สรรหา
นอกจากนี้ยังแก้ไขมาตรา 190 เพื่อเปิดช่องให้ระบอบทักษิณมุบมิบหมกเม็ดทำสนธิสัญญาข้อตกลงใดๆ ในการหาประโยชน์ต่างตอบแทนผ่านรัฐบาลหุ่นเชิดได้สะดวกขึ้นโดยไม่ถูกตรวจสอบ
จากการอภิปรายของบรรดา สส.พรรคเพื่อไทย พยายามกลบเกลื่อนอำพรางเป้าหมายที่แท้จริงในการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ โดยอ้างเหตุผลแบบน้ำขุ่นๆว่าเพราะรัฐธรรมนูญปัจจุบันเป็นผลพวงจากการรัฐประหารเมื่อปี 2549 จึงไม่เป็นประชาธิปไตย
ข้ออ้างของบรรดาสมุนระบอบทักษิณทั้งหลาย ถูกตั้งคำถามกลับว่า แล้วรัฐบาลหุ่นเชิดพรรคเพื่อไทยภายใต้การนำของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ถือเป็นผลพวงจากการรัฐประหารเมื่อปี 2549 ด้วยหรือไม่ อีกทั้งรัฐธรรมนูญปัจจุบัน ก็ผ่านการทำประชามติเห็นชอบจากประชาชนเสียงข้างมากของประเทศเกือบ 20 ล้านคนมาแล้ว
เพราะฉะนั้นแผนการคิดล้มล้างชำเรารัฐธรรมนูญปัจจุบันโดยมีเป้าหมายมัดมือชกกินรวบประเทศจึงไม่ต่างอะไรจากการทำตัวเป็นเผด็จการเสียงข้างมากในคราบประชาธิปไตยซึ่งตรงกันข้ามกับพฤติกรรมที่เล่นปาหี่สร้างภาพ หลอกคนทั้งประเทศอย่างสิ้นเชิง
ที่มา:
http://www.naewna.com/creative/47124
ปล. ณ.ตอนนี้ ยังไม่มีใครตอบได้เลยว่า แก้รธม. ประชาชน และ ประเทศชาติจะได้อะไร...เอิ๊ก ๆ ๆ
เผด็จการในคราบประชาธิไตย ตะแบงล้มล้างชำเรารธม.?
ล่าสุด นายอำนวย คลังผา ประธานคณะกรรมการประสานงาน(วิป)พรรคร่วมรัฐบาล ออกมาส่งสัญญาณชัดว่า ถึงอย่างไรร่างชำเรารัฐธรรมนูญที่เสนอโดยพรรคร่วมรัฐบาลกับกลุ่มสมาชิกวุฒิสภา(สว.)เครือข่ายระบอบทักษิณจะผ่านความเห็นชอบในวาระแรกแน่นอนไม่เกิน 22.00 น. ของวันที่ 3 เม.ย.นี้ นั่นหมายความว่าเป้าหมาย หรือแม้แต่กรอบเวลาในการรวบรัดหักดิบผ่านร่างชำเรารัฐธรรมนูญได้ถูกล็อกไว้ล่วงหน้าแล้วตั้งแต่ต้น โดยการบงการสั่งการของนายใหญ่จากแดนไกล
ศึกครั้งนี้นายใหญ่จากแดนไกลสั่งระดมทัพครั้งใหญ่ดับเครื่องชนเพื่อตะแบงชำเรารัฐธรรมนูญให้สำเร็จตามเป้าหมายให้จงได้ โดยจะต้องไม่มีการโอ้เอ้ซื้อเวลาหรือถอยเหมือนที่ผ่านมา โดยเป้าหมายแอบแฝงอยู่ที่ 3 ประเด็นหลัก ประกอบด้วย มาตรา 68 ที่มีเป้าหมายแก้ไขเพื่อให้อัยการสูงสุดผูกขาดอำนาจในการพิจารณาชี้ขาดกรณีที่มีการร้องเรียนในกรณีเกี่ยวกับการล้มล้างระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข โดยตัดอำนาจการร้องเรียนโดยประชาชนและอำนาจการรับเรื่องร้องเรียนของศาลรัฐธรรมนูญออกไป ซึ่งถือเป็นเรื่องเลวร้ายมากและส่อเจตนาไม่ชอบมาพากล
ทั้งนี้สาเหตุที่ต้องแก้มาตรา 68ก็เพื่อปูทางไปสู่การผ่านร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 291 ที่ค้างอยู่ในวาระ 3 ขณะนี้ ซึ่งหากทำสำเร็จก็จะนำไปสู่การมีสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ(ส.ส.ร.)ร่างทรงมาชำเราหรือไม่ต่างอะไรจากการรัฐประหารล้มล้างรัฐธรรมนูญปัจจุบันใหม่ทั้งฉบับ โดยมีเป้าหมายสำคัญคือฟอกโทษความผิดทั้งหมดและทำให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้ทรัพย์สิน 46,000 ล้านบาท ที่ถูกยึดตกเป็นของแผ่นดินคืน และที่สำคัญคือแผนการยุบเลิกหรือลดอำนาจของสถาบันหลักต่างๆ ของชาติรวมทั้งบรรดาองค์กรอิสระที่เป็นอุปสรรคก้างขวางคอในการแผ่ขยายอิทธิพลและแสวงหาผลประโยชน์เพื่อปูทางให้ระบอบทักษิณยึดครองประเทศได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด
อีกประเด็นหนึ่งคือการแก้ไขที่มาของวุฒิสภาให้มาจากการเลือกตั้งทั้งหมดจำนวน 200 คน เพื่อให้ระบอบทักษิณเข้ายึดครองวุฒิสภาอันเป็นการขยายอำนาจอิทธิพลและทำลายระบบตรวจสอบถ่วงดุลของเหล่าสว.สรรหา
นอกจากนี้ยังแก้ไขมาตรา 190 เพื่อเปิดช่องให้ระบอบทักษิณมุบมิบหมกเม็ดทำสนธิสัญญาข้อตกลงใดๆ ในการหาประโยชน์ต่างตอบแทนผ่านรัฐบาลหุ่นเชิดได้สะดวกขึ้นโดยไม่ถูกตรวจสอบ
จากการอภิปรายของบรรดา สส.พรรคเพื่อไทย พยายามกลบเกลื่อนอำพรางเป้าหมายที่แท้จริงในการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ โดยอ้างเหตุผลแบบน้ำขุ่นๆว่าเพราะรัฐธรรมนูญปัจจุบันเป็นผลพวงจากการรัฐประหารเมื่อปี 2549 จึงไม่เป็นประชาธิปไตย
ข้ออ้างของบรรดาสมุนระบอบทักษิณทั้งหลาย ถูกตั้งคำถามกลับว่า แล้วรัฐบาลหุ่นเชิดพรรคเพื่อไทยภายใต้การนำของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ถือเป็นผลพวงจากการรัฐประหารเมื่อปี 2549 ด้วยหรือไม่ อีกทั้งรัฐธรรมนูญปัจจุบัน ก็ผ่านการทำประชามติเห็นชอบจากประชาชนเสียงข้างมากของประเทศเกือบ 20 ล้านคนมาแล้ว
เพราะฉะนั้นแผนการคิดล้มล้างชำเรารัฐธรรมนูญปัจจุบันโดยมีเป้าหมายมัดมือชกกินรวบประเทศจึงไม่ต่างอะไรจากการทำตัวเป็นเผด็จการเสียงข้างมากในคราบประชาธิปไตยซึ่งตรงกันข้ามกับพฤติกรรมที่เล่นปาหี่สร้างภาพ หลอกคนทั้งประเทศอย่างสิ้นเชิง
ที่มา:http://www.naewna.com/creative/47124
ปล. ณ.ตอนนี้ ยังไม่มีใครตอบได้เลยว่า แก้รธม. ประชาชน และ ประเทศชาติจะได้อะไร...เอิ๊ก ๆ ๆ