ขออนุญาตฝากเนื้อฝากตัวที่ห้องก้นครัวด้วยนะคะ จขกท.เล่นพันทิปมาหลายปีแล้ว สิงอยู่ห้องแป้งตั้งแต่ยังรวมอยู่กับสวนลุม รีวิวที่เคยเขียนก็เป็นเปิดถุงชอปกับเครื่องสำอาง ^^ ชีวิตที่ผ่านมาทานข้าวนอกบ้านเกือบทุกมื้อเลยค่ะ ถ้าทานที่บ้านก็คือซื้ออาหารสำเร็จมาทาน ยกเว้นไปทานกับครอบครัวที่คุณแม่ทำให้ทาน เหตุผลคือทำงานเลิกสองทุ่มทุกวัน มันสุดแสนจะเหนื่อย+หิว+ขี้เกียจทำอาหาร ล้างจาน สารพัดเหตุผลจะอ้าง อาหารที่เคยทำให้แฟนทานนี่นึกไม่ออกเลยค่ะว่าทำอะไรเป็นบ้าง น่าจะเป็นแกงจืด -*- พื้นฐานทำอาหารนี่แย่มาก แทบไม่มีเลย แต่งงานมาสองปี ข้าวถุงนึงกับน้ำมันขวดนึงยังใช้ไม่หมดเลยอ่ะค่ะ
แล้ววันหนึ่งชีวิตเดินมาถึงจุดเปลี่ยน...ไม่ใช่มีลูกนะคะ อันนั้นคงต้องไปตั้งกระทู้ที่ห้องชานเรือน 555 แต่เป็นการไปเรียนต่อต่างประเทศ จขกท.ไปเรียนต่อที่อเมริกาพร้อมกับแฟน ต้องบอกเลยว่าขนาดคนเมกันเขายังต้องทำอาหารทานเองเพราะทานนอกบ้านแพงมาก บวกทิปไปด้วยนี่คนนึง 500-700 บาทต่อคนต่อมื้อเลยนะคะ แค่ไปซื้อสลัดที่ทำสำเร็จใส่กล่องหรือพวกแซนวิชโรลก็ 10 เหรียญ คือ 300 บาทแล้ว บอกตรงๆว่ามันดูไม่คุ้มค่าเลย มันดูง่ายมาก ไม่มีอะไรเลย ผักนิดเดียวโรยชีสขูดๆแค่เนี้ย... นั่นคือความจำเป็นบังคับให้ทำอาหารทานเองได้แล้ว ไม่งั้นได้ทานแต่ Mcdonald dollar menu ทุกวันแน่ๆ นี่เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำอาหารทานเองนะคะ แต่ต้องบอกว่าเริ่มต้นอย่างทุลักทุเลมาก ขนาดเปิดเตาไม่เป็น ต้องส่งรูปเตาไปให้เพื่อนดูว่ามันเป็นเตาไฟฟ้าหรือเตาแก๊สเพราะตัวเองดูไม่ออก เพื่อนบอกว่าอย่าลืมเปิดพัดลมดูดควันด้วยเพราะเดี๋ยวสัญญาณไฟไหม้ดัง จขกท.ยังไม่รู้เลยว่าเป็นปุ่่มไหน ต้องถ่ายรูปไปให้ช่วยดู ตอนเขียนรีวิวนี่ขำนะคะ แต่วันนั้นนี่จนปัญญาสุดๆแล้ว ซื้อกระทะยังต้องถามเพื่อนเลยว่าต้องใช้แบบไหนมันถึงจะร้อน เพื่อนก็บอกว่าเอาแบบก้นแบนๆก็ใช้ได้แล้วล่ะอันไหนมันก็ร้อนทั้งนั้นแหละตัวเองงงงง
แต่แรงบันดาลใจที่จขกท.อยากทำขนม เป็นเพราะอ่านกระทู้ห้องแป้งตอนวาเลนไทน์ ที่ถามสาวๆว่าจะทำอะไรเป็นพิเศษให้คนรักกันบ้าง มีความเห็นนึงตอบว่าทำเค้กส้มให้แฟน แต่ไม่มีเตาอบจึงทำในหม้อหุงข้าว ก็ออกมาทานได้แฟนก็ชอบ ความเห็นนั้นแหละค่ะที่กระแทกใจจขกท.เข้าอย่างจัง เฮ้ย นี่เรามีทั้งเตาไฟฟ้าพร้อมเตาอบ ไมโครเวฟ เครื่องล้างจาน ครบชุดพร้อมเคาเตอร์หินแกรนิตอย่างดี แล้วทำไมเราไม่ทำบ้างล่ะ ไม่หัดทำตอนนี้แล้วจะเริ่มตอนไหน
จขกท.ก็เริ่มต้นจากเบสิคที่สุดของที่สุด นั่นคือคัพเค้กที่ทำจากแป้งสำเร็จรูป ซื้อมากล่องละ 1 เหรียญ กะว่าลองดูหน่อยละกัน ใส่แป้งสำเร็จ ไข่สองฟอง น้ำมันพืช ผสมให้เข้ากันก็ใช้ได้แล้ว ข้างกล่องบอกว่าใส่ได้ 12 คัพ ทำไมเราใส่ได้แค่ 4 คัพ แถมอบออกมาคัพใหญ่มากกกกกก อุปกรณ์มีตะกร้อมือกับเซ็ทถ้วยตวง แบบพิมพ์มัฟฟิน ถ้วยกระดาษแค่นั้นแหละ ออกมาเนื้อเค้กพอทานได้ ตอนนี้จขกท.รู้แล้วว่าใส่พิมพ์คัพขนาดกลางจะออกมาน่ารักกว่า ที่ใส่นี่เป็นพิมพ์ใหญ่ และไม่ต้องใส่เยอะ มันจะล้นนนนน ออกมาอย่างนี้แล น่าเกลียดน่าชังจังเลย คัพเค้กของช้าน...
จากสาวห้องแป้งสู่ก้นครัว เอาขนมโฮมเมดมาฝากค่ะ
แล้ววันหนึ่งชีวิตเดินมาถึงจุดเปลี่ยน...ไม่ใช่มีลูกนะคะ อันนั้นคงต้องไปตั้งกระทู้ที่ห้องชานเรือน 555 แต่เป็นการไปเรียนต่อต่างประเทศ จขกท.ไปเรียนต่อที่อเมริกาพร้อมกับแฟน ต้องบอกเลยว่าขนาดคนเมกันเขายังต้องทำอาหารทานเองเพราะทานนอกบ้านแพงมาก บวกทิปไปด้วยนี่คนนึง 500-700 บาทต่อคนต่อมื้อเลยนะคะ แค่ไปซื้อสลัดที่ทำสำเร็จใส่กล่องหรือพวกแซนวิชโรลก็ 10 เหรียญ คือ 300 บาทแล้ว บอกตรงๆว่ามันดูไม่คุ้มค่าเลย มันดูง่ายมาก ไม่มีอะไรเลย ผักนิดเดียวโรยชีสขูดๆแค่เนี้ย... นั่นคือความจำเป็นบังคับให้ทำอาหารทานเองได้แล้ว ไม่งั้นได้ทานแต่ Mcdonald dollar menu ทุกวันแน่ๆ นี่เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำอาหารทานเองนะคะ แต่ต้องบอกว่าเริ่มต้นอย่างทุลักทุเลมาก ขนาดเปิดเตาไม่เป็น ต้องส่งรูปเตาไปให้เพื่อนดูว่ามันเป็นเตาไฟฟ้าหรือเตาแก๊สเพราะตัวเองดูไม่ออก เพื่อนบอกว่าอย่าลืมเปิดพัดลมดูดควันด้วยเพราะเดี๋ยวสัญญาณไฟไหม้ดัง จขกท.ยังไม่รู้เลยว่าเป็นปุ่่มไหน ต้องถ่ายรูปไปให้ช่วยดู ตอนเขียนรีวิวนี่ขำนะคะ แต่วันนั้นนี่จนปัญญาสุดๆแล้ว ซื้อกระทะยังต้องถามเพื่อนเลยว่าต้องใช้แบบไหนมันถึงจะร้อน เพื่อนก็บอกว่าเอาแบบก้นแบนๆก็ใช้ได้แล้วล่ะอันไหนมันก็ร้อนทั้งนั้นแหละตัวเองงงงง
แต่แรงบันดาลใจที่จขกท.อยากทำขนม เป็นเพราะอ่านกระทู้ห้องแป้งตอนวาเลนไทน์ ที่ถามสาวๆว่าจะทำอะไรเป็นพิเศษให้คนรักกันบ้าง มีความเห็นนึงตอบว่าทำเค้กส้มให้แฟน แต่ไม่มีเตาอบจึงทำในหม้อหุงข้าว ก็ออกมาทานได้แฟนก็ชอบ ความเห็นนั้นแหละค่ะที่กระแทกใจจขกท.เข้าอย่างจัง เฮ้ย นี่เรามีทั้งเตาไฟฟ้าพร้อมเตาอบ ไมโครเวฟ เครื่องล้างจาน ครบชุดพร้อมเคาเตอร์หินแกรนิตอย่างดี แล้วทำไมเราไม่ทำบ้างล่ะ ไม่หัดทำตอนนี้แล้วจะเริ่มตอนไหน
จขกท.ก็เริ่มต้นจากเบสิคที่สุดของที่สุด นั่นคือคัพเค้กที่ทำจากแป้งสำเร็จรูป ซื้อมากล่องละ 1 เหรียญ กะว่าลองดูหน่อยละกัน ใส่แป้งสำเร็จ ไข่สองฟอง น้ำมันพืช ผสมให้เข้ากันก็ใช้ได้แล้ว ข้างกล่องบอกว่าใส่ได้ 12 คัพ ทำไมเราใส่ได้แค่ 4 คัพ แถมอบออกมาคัพใหญ่มากกกกกก อุปกรณ์มีตะกร้อมือกับเซ็ทถ้วยตวง แบบพิมพ์มัฟฟิน ถ้วยกระดาษแค่นั้นแหละ ออกมาเนื้อเค้กพอทานได้ ตอนนี้จขกท.รู้แล้วว่าใส่พิมพ์คัพขนาดกลางจะออกมาน่ารักกว่า ที่ใส่นี่เป็นพิมพ์ใหญ่ และไม่ต้องใส่เยอะ มันจะล้นนนนน ออกมาอย่างนี้แล น่าเกลียดน่าชังจังเลย คัพเค้กของช้าน...